ลูกหนี้ผิดนัด
7. ลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ จะผิดนัดได้ 2 กรณีหลัก
a. ถึงเวลาต้องชำระแล้วไม่ชำระ
b. ชำระตามเวลา แต่ชำระไม่ตรงตามมูลหนี้a. ถึงเวลาต้องชำระแล้วไม่ชำระ > ลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ (มาตรา 204) แบ่งเป็น 3 กรณี
มาตรา 204 "ถ้าหนี้ถึงกำหนดชำระแล้ว และภายหลังแต่นั้นเจ้าหนี้ได้ให้คำเตือนลูกหนี้แล้ว ลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้ไซร้ ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดเพราะเขาเตือนแล้ว"
วรรคสอง "ถ้าได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ตามวันแห่งปฏิทิน และลูกหนี้มิได้ชำระหนี้ตามกำหนดไซร้ ท่านว่าลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดโดยมิพักต้องเตือนเลย วิธีเดียวกันนี้ท่านให้ใช้บังคับแก่กรณีที่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนการชำระหนี้ ซึ่งได้กำหนดเวลาลงไว้อาจคำนวณนับได้โดยปฏิทินนับแต่วันที่ได้บอกกล่าว" 7.1. หนี้ไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้
- ลูกหนี้จะผิดนัด เมื่อเจ้าหนี้ทวงถามแล้ว ลูกหนี้ไม่ชำระ (A กู้ยืมเงิน B 1 ล้าน ไม่กำหนดระยะเวลา เมื่อ B เจ้าหนี้ทวงถามเงิน ให้ใช้เงินคืน วันที่ 1/1/66 แต่ A ไม่คืนในวันนั้น A ผิดนัดชำระหนี้ทันที)
7.2. หนี้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ โดยพิจารณาจากพฤติการณ์
- ลูกหนี้จะผิดนัด เมื่อเจ้าหนี้ทวงถามแล้ว ลูกหนี้ไม่ชำระ (A กู้ยืมเงิน B 1 ล้าน กำหนดคืนเมื่อลูก A กลับจากต่างประเทศ เมื่อลูก A กลับมาแล้ว B เจ้าหนี้ทวงถามเงิน ให้ใช้เงินคืน วันที่ 1/1/66 แต่ A ไม่คืนในวันนั้น A ผิดนัดชำระหนี้ทันที)
7.3. หนี้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ ตามวันแห่งปฏิทิน/คำนวณนับได้โดยปฏิทิน
- ลูกหนี้จะผิดนัด เมื่อถึงกำหนดเวลาแล้วไม่ชำระ (เจ้าหนี้ไม่ต้องทวงเลย)
7.3.1 หนี้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ ตามวันแห่งปฏิทิน เช่น กำหนดชำระเงินกู้ 31 มกราคม 66 ถึงเวลา ไม่ชำระ ผิดนัดทันที (เจ้าหนี้ไม่ต้องทวงถาม)
7.3.2 หนี้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ โดยคำนวณนับได้โดยปฏิทิน เช่น กำหนดชำระค่าสินค้า 1 เดือนหลังวางบิล ถ้าวางบิล 1 มกราคม 66 เมื่อถึง 1 กุมภาพันธ์ 66 ไม่ชำระ ผิดนัดทันที (เจ้าหนี้ไม่ต้องทวงถาม)
b. ชำระตามเวลา แต่ชำระไม่ตรงตามมูลหนี้
มาตรา 208 "การชำระหนี้จะให้สำเร็จผลเป็นอย่างใด ลูกหนี้จะต้องขอปฏิบัติการชำระหนี้ต่อเจ้าหนี้เป็นอย่างนั้นโดยตรง" (โดยตรงคือต้องชำระตรงตามมูลหนี้)
- หลัก : ลูกหนี้ต้องชำระหนี้ให้ตรงตามมูลหนี้ + ต่อเจ้าหนี้
- ถ้าชำระไม่ตรงตามมูลหนี้ = ปฏิบัติการชำระหนี้ไม่ชอบ = ผิดนัด