บทที่1 องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
ประเภทของคอมพิวเตอร์
ความหมายของคอมพิวเตอร์
1.2 องค์ประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์
1.3 โครงสร้างของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ (Computer) เป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่าน แก้ไข บันทึกข้อมูลและรับคำสั่ง เพื่อแก้ไขปัญหา หรือทำการคำนวณเปรียบเทียบความซับซ้อน แสดงผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ คอมพิวเตอร์สามารถนำ มาประยุกต์ใช้งานด้านต่างๆ ในทุกสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นงานเกี่ยวกับธุรกิจ งานภายในสำนักงาน งานทางวิทยาศาสตร์ งานติดต่อสื่อสาร งานด้านการทหาร งานด้านการศึกษา รวมไปถึงงานที่่เกี่ยวข้องกับความบันเทิง
1) ซูเปอร์ไมโครคอมพิวเตอร์ (Supercomputer)
เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพและความสามารถในการประมวลผลข้อมูลสูงมากเป็นพิเศษ โดยทั่วไปสร้างขึ้นเพื่องานด้านวิทยาศาสตร์ที่ต้องการประมวลผลซับซ้อน และต้องการความเร็วสูง เช่น งานวิจัยขีปนาวุธ งานโครงการอวกาศขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (NASA) งานสื่อสารดาวเทียม หรืองานพยากรณ์อากาศเป็นต้น มักใช้ในองค์์กรขนาดใหญ่ ตัวอย่างองค์กรที่ใช้ซูเปอร์ไมโครคอมพิวเตอร์ในประเทศไทย เช่น ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC)
2) เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer)
เป็นคอมพิวเตอร์สำหรับประมวลผลข้อมูลปริมาณมาก ๆ พร้อมกัน เช่น ธนาคาร สายการบิน ปัจจุบันถูกทดแทนด้วยระบบเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากหรือ Server Farm และระบบ Cloud computing รองรับผู้ใช้ได้จำนวนมาก
4) ไมโครคอมพิวเตอร์(Microcomputer)
3) มินิคอมพิวเตอร์ (Minicomputer)
เป็นคอมพิวเตอร์รองลงมาจากเมนเฟรมคอมพิวเตอร์นิยมใช้ในโรงพยาบาล สถานศึกษา เป็นต้น
เป็นคอมพิวเตอร์สำหรับบุคคล ปัจจุบันมี 2 กลุ่ม คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและเครื่องคอมพิวเตอร์์แบบโน้ตบุ๊ก
ซอฟต์แวร์ที่ใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์เหล่านี้ คือ ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows) ของบริษัทไมโครซอฟต์และระบบปฏิบัติการแมค (Mac Os) ของบริษัทแอปเปิ้ล (Apple)
1.2.1 ฮาร์ดแวร์ (Hardware)แบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ…
อุปกรณ์นำเข้าข้อมูล (Input Devices)
อุปกรณ์ประมวลผล (Process Devices)
อุปกรณ์แสดงผล (Output Devices)
อุปกรณ์เก็บข้อมููล (Storage Devices)
1.2.2 ซอร์ฟแวร์ (Software)
ซอฟต์แวร์ประยุกต์
(Application Software)
1.ซอฟต์แวร์ระบบ
(System Software)
ทำหน้าที่ควบคุมชุดคำสั่งที่เขียนไว้เป็นคำสั่งสำเร็จรูป มีไว้สำหรับจัดการกับระบบพื้นฐานที่จำเป็นของเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และติดต่อกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่อยู่บนคอมพิวเตอร์ เช่น ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ เป็นต้น
เป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกสร้างหรือเขียนขึ้นโดยบริษัทผู้ผลิตและวางจำหน่ายทั่วไป พร้อมที่จะนำมาใช้ได้ทันที ซอฟต์แวร์ประเภทนี้ได้มุ่งเน้นสำหรับงานใดงานหนึ่งให้้ตรงกับผู้ใช้งาน หรือผู้ใช้อาจต้องมีการสร้างหรือพัฒนาชิ้นงานภายในซอฟต์แวร์ต่อไปอีก ราคาของซอฟต์แวร์ใช้งานทั่วไปนี้จะไม่สูง ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปในปัจจุบัน ได้แก่ Microsoft Office Word, Microsoft Office Excel, Microsoft Office PowerPoint,Adobe Photoshop เป็นต้น
1.2.3 บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ (People หรือ People ware)
บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ คือ ผู้ที่ปฏิบัติงานตามกระบวนวิธีการในกิจกรรมต่างๆ ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์สามารถใช้งาน สั่งงานการทำงานของคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น การสร้างหรือเก็บรวบรวมข้อมูล การพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาใหม่ตามความต้องการของผู้ใช้ หรืออาจเปลี่ยนแปลงโปรแกรมที่มีอยู่แล้วให้สอดคล้องตามความต้องการ บุคลากรทางคอมพิวเตอร์บางคนทำหน้าที่สร้างกระบวนการ วิธีการให้แก่บุคลากรทางคอมพิวเตอร์กลุ่มอื่น ๆ เพื่อให้การใช้งานคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
1) นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst)
2) โปรแกรมเมอร์ (Programmer)
3) วิศวกรระบบ (System Engineer)
4) ผู้บริหารระบบงาน (Administrator)
5) พนักงานปฏิบัติการ (Operator)
6) ผู้ใช้(User)
ส่วนประกอบสำคัญต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกัน โครงสร้างภายในของคอมพิวเตอร์จะ
ประกอบด้วย โครงสร้างหลัก 3 หน่วย คือ
2.หน่วยความจำหลัก
1.หน่วยประมวลผลกลาง
3.อินพุต/เอาต์พุต
บทที่2หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
และอุปกรณ์ต่อพ่วง
2.2 หลักการทำงานของช่องเชื่อมต่อและอุปกรณ์ต่อพ่วง
2.1 หลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์
การทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยหน่วยสำคัญ 4 หน่วย คือ
2) หน่วยประมวลผล
4) หน่วยแสดงผล
1) หน่วยรับข้อมูล
3) หน่วยความจำ
2.2.1ช่องเชื่อมต่อ
หมายถึง ช่องทางในการติดต่อสื่อสาร หรือเป็นช่องทางในการส่งผ่าน ข้อมูลระหว่างตัวคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์ภายนอกที่ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ โดยปกติพอร์ตติดอยู่ด้านหลัง เครื่องคอมพิวเตอร์
4) พอร์ตยูเอสบี (USB Port) พอร์ตนี้ถูกออกแบบมา
ให้สามารถส่งข้อมูลได้รวดเร็ว สามารถต่ออุปกรณ์ได้มากถึง 127 ชิ้น
7) พอร์ต RJ-11 (Registered Jack) เป็นพอร์ตที่ใช้เชื่อมต่อสายโทรศัพท์เพื่อใช้ติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดย RJ-11 ตัวพอร์ตมี 4 ขา เอาไว้ใช้เชื่อมต่อโมเด็มผ่านทางสายโทรศัพท์
1) วีจีเอพอร์ต (VGA Port) พอร์ตนี้สำหรับต่อคอมพิวเตอร์ เข้ากับมอนิเตอร์ เป็นพอร์ตขนาด 15 พิน
2) พอร์ตอนุุกรม (Serial Port) เป็นพอร์ตสำหรับต่อกับอุปกรณ์อินพุตและเอาต์พุต
3) พอร์ตขนาน (Parallel Port) เป็นพอร์ตของคอมพิวเตอร์ หน้าที่หลักคือใช้สำหรับต่อกับเครื่องพิมพ์
5) พอร์ตมัลติมีเดีย (Multimedia Port) ปัจจุบัน
บนเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์จะมีช่องสำหรับต่อกับลำโพง ไมโครโฟนและพอร์ตสำหรับต่อกับจอยสติกอยู่ในตัว
6) พอร์ตพีเอสทู (PS/2) เป็นพอร์ต ที่มีลักษณะกลม ขนาดเล็ก มี 6 รู ใช้สำหรับเชื่อมต่อกับเมาส์และแป้นพิมพ์ (Keyboard) รุ่นเก่าจะมีช่องเสียบสีเขียวใช้เชื่อมต่อกับเมาส์ ช่องเสียบสีม่วงใช้เชื่อมต่อกับแป้นพิมพ์ ถ้าเชื่อมต่อสลับสี จะทำให้อุปกรณ์ไม่สามารถทำงานได้ ปัจจุบันพอร์ตพีเอสทูไม่ค่อยได้รับความนิยม เนื่องจากผู้ผลิตอุปกรณ์นิยมใช้พอร์ตยูเอสบีในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
8) พอร์ต RJ-45 (Registered Jack) เป็นพอร์ตที่ใช้เชื่อมต่อสายแลน (LAN) เพื่อใช้ติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ RJ-45 ตัวพอร์ตมี 8 ขา
2.2.2 อุปกรณ์ต่อ
หมายถึง อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ที่นำมาเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อทำให้เกิดประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง ส่วนใหญ่จะอยู่ภายนอกเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถมองเห็น จับต้องได้ ดังนี้
2) เมาส์ (Mouse) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเลื่อนเคอร์เซอร์ หรือตัวชี้ตำแหน่ง (Mouse Pointer) ใช้ในการควบคุมและเคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งบนจอภาพ รวมทั้งการเลือกด้วยการคลิกเมาส์ปกติมีปุ่มเพื่อให้คลิก 2 ปุ่ม คือ คลิกซ้ายและคลิกขวา ส่วนพอร์ตในการเชื่อมต่อเมาส์มีแบบพีเอสทู ซึ่งเป็นพอร์ตแบบเก่า ปัจจุบันนิยมใช้แบบ ยูเอสบี
1) แป้นพิมพ์หรือคีย์บอร์ด (Keyboard) เป็นอุปกรณ์หลักในการป้อนข้อมูล ตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์ต่าง ๆ คีย์บอร์ดที่ใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ (Desktop Computer) ในปัจจุบันมีปุ่มเพิ่มขึ้นมาก เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน
2.2.3 สแกนเนอร์
เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แบบกราฟิก กลุ่มของเครื่องสแกนเนอร์ แบ่งได้หลายชนิด ดังนี้
1) เครื่องสแกนเนอร์หรือเครื่องสแกนภาพ คือ อุปกรณ์ซึ่งจับภาพและเปลี่ยนแปลงภาพจากรูปแบบของแอนะล็อกเป็นดิจิทัล ซึ่งคอมพิวเตอร์สามารถแสดง เรียบเรียง เก็บรักษาและผลิตออกมาได้ ภาพนั้นอาจจะเป็นรูปถ่าย ข้อความ ภาพวาด หรือแม้แต่วัตถุสามมิติสามารถใช้สแกนเนอร์ทำงานเกี่ยวกับงานศิลปะหรือภาพถ่ายในเอกสาร บันทึกข้อมูลลงในเวิร์ดโพรเซสเซอร์ แฟ็กซ์เอกสาร ภายใต้ดาตาเบสและเวิร์ดโพรเซสเซอร์
2) เครื่องอ่านบาร์โค้ด (Bar Code) หมายถึง หมายเลขประจำสินค้า ใช้แทนด้วยแท่งบาร์ ขาว-ดำ เรียงเข้าด้วยกันและประกอบด้วยตัวเลข 8-13 หลัก โดยอาศัยหลักของการสะท้อนแสง นิยมใช้กับสินค้าอุปโภคบริโภคแทบทุกชนิด และสินค้าสำเร็จรูปต่าง ๆ
2.2.4 เครื่องพิมพ์
2.2.5 จอภาพ (Monitor)
เป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์เพื่อพิมพ์ข้อมูลออกทางกระดาษพิมพ์โดยรับข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ผ่านสายเคเบิล หรือระบบเครือข่าย เช่น แลน (LAN) หรือไวร์เลสส์แลน (Wireless LAN) ไปยังเครื่องพิมพ์
เป็นอุปกรณ์แสดงผลที่นิยมใช้เพื่อแสดงผลลัพธ์ของข้อมูลสารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของข้อความ รูปภาพ กราฟิก หรือวิดีโอ จอภาพเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการใช้คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ
2.3 ข้อควรควรระวังเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์
2.การใช้โปรแกรมรักษาหน้าจอและตั้งค่า การประหยัดพลังงาน ไม่ควรเปิด/ปิดคอมพิวเตอร์บ่อย ๆ
3.เมื่อเลิกใช้งานคอมพิวเตอร์ ควรใช้คำสั่งปิด (Shut Down ที่ตัวโปรแกรม)
1.เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ควรอยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนเพราะจะทำให้อุปกรณ์เสื่อมเร็ว ควรอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
4.การกดปุ่มรีสตาร์ต (Restart) ที่เคสคอมพิวเตอร์ (Computer Case) ควรใช้ในกรณีที่จำเป็น เช่น เครื่องมีอาการค้างไม่สามารถใช้คำสั่งแบบปกติได้ หรือใช้คำสั่ง Shut down ไม่ได้
5.การเปิด/ปิดเครื่อง ไม่ควรเปิดและปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ทันที ควรห่างกันอย่างน้อย 20-30
วินาที
6.ไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์ในขณะที่มีฝนตก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า หรือมีระบบไฟไม่ปกติ และเมื่อปิดเครื่องแล้วควรถอดปลั๊กไฟและสายโทรศัพท์ที่ต่อเข้าโมเด็มออกด้วย หากมีความจำเป็นต้องใช้งาน ควรใช้ไฟฟ้าผ่านเครื่องสำรองไฟ (UPS)
7.ไม่ควรสัมผัสเคสคอมพิวเตอร์ (Computer Case) เพราะอาจมีไฟฟ้าสถิต
8.ควรทำความสะอาดภายนอกตัวเครื่องทุก ๆ 1 เดือน ทำความสะอาดภายในตัวเครื่อง ทุก ๆ 3 เดือน ไม่ควรใช้ผ้าชุบน้ำทำความสะอาดอุุปกรณ์คอมพิวเตอร์
9.หลังจากเลิกใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ ควรหาผ้ามาคลุมเครื่องให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันฝุ่นละออง
10.ไม่ควรเคลื่อนย้ายตัวเครื่อง ในขณะที่เครื่องกำลังทำงาน
11.ทุกครั้งที่มีการถอดแรม หรือเปลี่ยนแรม ให้ปิดเครื่องและดึงปลั๊กออกก่อนทุกครั้ง