Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของทางเดินหายใจ - Coggle Diagram
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของทางเดินหายใจ
ต่อมทอนซิลอักเสบ(Tonsilitis)
การประเมินสภาพ
เจ็บคอมาก กลืนลำาบาก
ไข้สูง > 38.3 องศาเซลเซียส
ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว
ปวดร้าวไปที่หู
การรักษา
การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ หลังจากประเมิน CENTOR และยารักษาตามอาการ
การผ่าตัดต่อมทอนซิล (Tonsillectomy)
การผ่าตัดต่อมทอนซิลและต่อมอะดีนอยด์ (Tonsillectomy with adenoidectomy)
การพยาบาล
แนะนําการรับประทานยา ยาแก้ปวด ยาแก้ไอ
วางกระเป๋าน้ำแข็ง
กลั้วคอบ่อยๆ
การพยาบาลหลังผ่าตัด
ให้อมน้ำแข็งและเริ่มดื่มน้ำเย็น ถ้าไม่มี NV/ไม่มีเลือดออก
อาหารมื้อแรก ควรเป็นอาหารเหลวเย็นจัด
ใน 24 ชั่วโมงแรกให้อาหารเหลว เช่น น้ำหวาน ไอศกรีมที่ไม่มีส่วนผสมของนม
โพรงอากาศข้างจมูกอักเสบ (Sinusitis, Rhinosinusitis)
อาการ
คัดจมูก หมุน ลมหายใจมีกลิ่น เหม็น น้ำมูกไหลลงคอ
การได้กลิ่น-รับรสเสียไป
หูอื้อ / ติดเชื้อในสมอง/
การรักษา
การให้ยา ANTIHISTAMINE และ DECONGESTANT
NASAL IRRIGATION
Antral puncture and sinus irrigation
Antrastorey
ETHMOIDECTOMY
FUNCTIONAL ENDOSCOPIC SINUS SURGERY (FESS)
Caldwell-Luc operation
การพยาบาลหลังผ่าตัด
ทําความสะอาดปากและฟัน และ กลั้วคอด้วย NSS ปราศจากเชื้อ
แปรงฟันเบา ๆ ด้วยแปรงเล็กขนอ่อน
ห้ามสั่งน้ำมูกแรง ๆ 2 สัปดาห์
ห้ามว่ายน้ำ
เลือดกำเดา (Epistaxis)
การประเมิน :
เลือดออก ส่อง speculum, ใช้มักดลิ้นดูเหนือลิ้นไก่ ด้านหลังลิ้นไก่
การรักษาเลือดกำเดา
บีบจมูก ก้มหน้า ประคบเย็น ห้ามสั่งน้ำมูก/ ห้ามรับประทานยา ASPIRIN/ BRUFEN
การใช้สารเคมีหรือไฟฟ้าจี้ สกัดจุดที่มีเลือดออก
การใช้ Anterior nasal packing: ใส่ก๊อซที่มียาปฏิชีวนะและสาร gel foam หรือชุบ Adrenalin 1:1000
การพยาบาล
ให้อ้าปากเวลาไอ จาม ป้องกันการเกิดแรงดัน
ห้ามผู้ป่วยสั่งน้ำมูก หรือแกะสะเก็ดแผลในจมูกอย่างน้อย 1 สัปดาห์
แนะนำให้กลั้วคอด้วยน้ำเกลือปราศจากเชื้อ บ่อย ๆ
ประคบเย็น จัดท่านอนศีรษะสูง 45-60 องศา
ริดสีดวงจมูก (Nasal Polyps)
อาการและอาการแสดง
คัน จาม คัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง
คัดจมูก ไอ ระคายคอ
ตรวจพบก้อนสีเทา ขาวหรือเหลือง ผิวเรียบเป็นมัน มีขั้วออกจากผนัง
การรักษา
การรักษาด้วยยา: สเตียรอยด์พ่นจมูก
การผ่าตัด: Functional endoscopic sinus surgery (FESS)
รักษาโรคที่เกิดร่วม และ ป้องกันการเกิดซ้ำของริดสีดวงจมูก
มะเร็งศีรษะและลำคอ Head neck cancer
มะเร็งโพรงจมูก (Nasopharyngeal cancer)
อาการ
คัดแน่นจมูก ปวด หรือ น้ำมูกไหลข้างเดียว
ก้อนที่คอโต
การรักษา
รักษาด้วยรังสี (Radiation Therapy) รังสีเป็นการรักษาหลัก ของมะเร็งหลังโพรงจมูก
การใช้เคมีบำบัด (Chemotherapy)หรือ Target therapy cisplatin, carboplatin, 5- Fluouracil (5-FU)
มะเร็งสายเสียง (Laryngeal cancer)
อาการ
เสียงแหบ (Hoarseness) > 2 สัปดาห์
ปวดหู ไอ
กลืนลำบาก (Dysphagia ) หรือเจ็บคอเมื่อพูด
กลิ่นปากเหม็น (halitosis)
การรักษา
การผ่าตัด ในระยะแรกจะผ่าตัดแบบรักษา กล่องเสียงบางส่วน (conservative laryngeal surgery)
การรักษาด้วยรังสี (Radiation Therapy)
การใช้เคมีบำบัด (Chemotherapy) หรือ Target therapy เช่น Cetuximab
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea)
การประเมิน
การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) หรือ Polysomnography (PSG)
การรักษา
การรักษาด้วยเครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (Continuous positive airway pressure, CPAP)
หลอดลมอักเสบ (Bronchitis)
อาการ
ไอบ่อย
ไข้
มีเสมหะมาก
เสมหะสีขาว
การตรวจทรวงอก: Coarse crepitation, หรือ Rhonchi, อาจมี Wheezing
การรักษา
พักผ่อนให้มากขึ้น
ดื่มน้ำอุ่นมากๆ (วันละ 10-15 แก้ว) เพื่อช่วยให้เสมหะออกได้ง่ายขึ้น
หลีกเลี่ยงสิ่งระคายเคืองหรือกระตุ้นให้ไอ งดสูบบุหรี่
ยาระงับการไอ/ยาขับเสมหะ/ยาลดไข้
ดูแลให้ทางเดินหายใจชุ่มชื้น
ยาปฏิชีวนะ ในรายที่มีติดเชื้อแบคทีเรีย ซ้ำซ้อน
ปอดอักเสบPneumonia
อาการ
ไข้สูง หนาวสั่น อ่อนเพลีย
ไอแห้งๆ-เสมหะขุ่น
หายใจหอบ
เจ็บแปลบเวลาหายใจเข้า ไอ แรงๆ ปวดร้าวหัวไหล่ สีข้าง
ภาวะแทรกซ้อน
การหายใจล้มเหลว
มีน้ำหรือหนองในเยื่อหุ้มปอด
ฝีในปอด
ติดเชื้อในกระแสเลือด
การรักษา
ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง โดยการดูดเสมหะ/ กระตุ้นไอขับเสมหะ
การให้ออกซิเจน แก้ไขภาวะ HYPOXIA
ยาขับเสมหะ
ยาแก้ไอ (CODEINS)
ยาแก้ปวด: แอสไพริน, PARACETAMOL
ยาคอร์ติโคสตีรอยด์ จะใช้เฉพาะในรายที่มี SEPTIC SHOCK
การให้ยาปฏิชีวนะ ในรายที่ติดเชื้อแบคทีเรีย
การพยาบาล
วัดสัญญาณชีพ / ประเมินภาวะพร่องออกซิเจน
ฟังเสียงปอดเป็นระยะๆ เมื่อมีอาการเหนื่อยหอบ
จัดให้นอนศีรษะสูง ดูแลทาง เคาะปอด จัดท่าระบายเสมหะ
สอนการไออย่างมีประสิทธิภาพ
ดูแลให้ยาขยายหลอดลม
ดูแลให้ได้รับออกซิเจน/ ดูแลระดับน้ำในกระบอก ทําความชื้น (HUMIDIFIER)
สังเกตลักษณะ สี กลิ่นของเสมหะ ถ้าผิดปกติให้ รายงานแพทย์ทราบ