Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Obesity With SeverePreeclampsia With HIV Positive - Coggle Diagram
Obesity With SeverePreeclampsia With HIV Positive
ภาวะอ้วนในหญิงตั้งครรภ์ (Obesity inpregnancy)
พยาธิสภาพ
สตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะอ้วนมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใน 3 ระบบ คือระบบหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งระบบทางเดินอาหาร ภาวะอ้วนทำให้ปริมาตรของอากาศ ไหลเข้าหรือออกจากปอดต่อหนึ่งครั้งของการหายใจ (tidalvolume) ปกติลดลงเสี่ยงต่อการหยุดหายใจขณะหลับจาก การอุดกั้น(obstructive sleep apnea)
สาเหตุ
ภาวะอ้วนในสตรีตั้งครรภ์มีสาเหตุจากความไม่สมดุลของพลังงานที่ร่างกายได้รับจากการรับประทานอาหาร และการใช้พลังงานของร่างกายซึ่งอาจเกิดจากการรับประทาน อาหารที่ให้พลังงานมากกว่าการใช้พลังงานของร่างกาย
SeverePreeclampsia
ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ (hypertensive disorders of pregnancy)โดยเฉพาะภาวะครรภ์เป็นพิษ และภาวะครรภ์เป็นพิษซ้อนทับกับภาวะความดันโลหิตสูงเรื้อรัง เป็นกาวะแทรกซ้อนทางสูติศาสตร์ที่รุนแรง
พยาธิสภาพ
ของภาวะครรภ์เป็นพิษ คือเกิดจากความบกพร่องในพัฒนาการของรก ซึ่งมีผลทำให้มีภาวะhypoperfusion และขาดเลือด ภาวะขาดเลือดของรกอันเนื่องมาจากความผิดปกติของการเชื่อมต่อระหว่าง trophoblasts และ spiral arteries ตั้งแต่ช่วงแรกของการตั้งครรภ์ (uteroplacentalischemia)
สาเหตุ
สาเหตุของครรภ์เป็นพิษ มีสาเหตุหลักคือเป็นโรคของเนื้อรก เป็นโรคที่มีความผิดปกติของอวัยวะ หลายระบบซึ่งเกี่ยวเนื่องกัน เกิดขึ้นในหญิงตั้งครรภ์เท่านั้น โดยอาจเกิดในระยะตั้งครรภ์ ระหว่างเจ็บ ครรภ์คลอดหรือระยะหลังคลอดก็ได้ โรคนี้เกิดขึ้นได้แม้การตั้งครรภ์นั้นจะไม่มีทารกก็ตาม เช่นการ ตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก
อาการของครรภ์เป็นพิษ
มีน้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างกายมีอาการบวม
ไตทำงานผิดปกติ ทำให้ปัสสาวะน้อยผิดปกติ
ตาพร่ามัว ปวดศีรษะอย่างรุนแรงโดยเฉพาะบริเวณ ท้ายทอยและหน้าผาก
ตับทำงานผิดปกติ
น้ำที่ใบหน้า มือและเท้า
การรักษาการพยาบาล
3.ให้ยาลดความดันโลหิต
4.อายุน้อยกว่า34 สัปดาห์ อาจพิจารณาให้Corticosteroids เร่งความพร้อมของปอดทารกและให้ทารกคลอดภายใน48 ชั่วโมง การคลอด
2.ทำให้ครรภ์สิ้นสุดลงโดยเร็วภายหลังให้MgS04 เป็นเวลา 4-6 ชั่วโมงโดยพิจารณาให้คลอด
1.มีโอกาสชักได้สูงควรให้ยาป้องกันการชักMgS04
HIV positive ขณะตั้งครรภ์
พยาธิสภาพกลไกการเกิดโรคของเชื้อเอซไอวี ทำให้เกิดภูมิต้านทานบกพร่อง ดังนี้
เชื้อเอซไอวีเข้าสู่ร่างกายไปทางกระแสเลือด จะไปเกาะเม็ดเลือดขาวชนิด CD4 - T ymphocyteหรือ helper cell ทำหน้าที่สร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย
เมื่อเชื้อเอชไอวีผ่านเข้าสู่กระแสเลือด ร่างกายจะตอบสนองโดยการสร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อเอชไอวี (Antibody HIV ซึ่งสามารถยับยั้งการทำงานของเชื้อได้บางส่วน
โรคเอดส์ (Acquired immunodeficiencysyndrome : AIDS) คือ กลุ่มอาการที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันหรือกลไกต่อต้านเชื้อโรคของร่างกายถูกทำลายโดยไวรัสที่ชื่อเอซไอวีโดยเชื้อไวรัสเอชไอรีสามารถเข้าไปทำลายเซลล์สร้างภูมิคุ้มกัน (CD4) ทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันของร่างกายเสื่อมหรือเสียไป เกิดการติดเชื้อฉวยโอกาสหรือเป็นมะเร็งบางชนิด รวมทั้งเกิดอาการทางจิตและประสาทได้
การติดต่อของเชื้อเอซไอวีสามารถติดต่อได้ 3 ทาง ดังนี้
การติดต่อทางเลือด หรือเนื้อเยื่อที่มีเชื้อเอซไอวี หรือการสัมผัสเลือดหรือเนื้อเยื่อของคนที่มีเชื้อเอชไอวี
การติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทางเยื่อเมือก เช่นปลายอวัยมะเพศชาย ปาก ทวารหนักพบมากในกลุ่มวัยรุ่น คนทำงาน แม่บ้านได้รับเชื้อจากสามีที่มีเชื้อเอซไอวีอยู่
ทารกติดเชื้อจากมารดาที่ติดเชื้อเอชไอวีทางเลือด เนื้อเยื่อและน้ำนม
ปัจจัยเสี่ยงของการแพร่เชื้อเอซไอวีจากมารดาสู่ทารก
ปัจจัยเสี่ยงด้านมารดา
ประวัติเคยติดเชื้อเอซไอวี
ตรวจเลือดพบ CD4 ต่ำ viral load สูง มีอาการแสดงของโรคเอดส์
มีการติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์
ปัจจัยเสี่ยงด้านการคลอด
วิธีการคลอด ถ้ามีอาการเจ็บครรภ์และปากมดลูกเปิด มีความก้าวหน้าของการคลอดแล้วให้คลอดทางช่องคลอด จะพิจารณาผ่าตัดเด็กออกทางหน้าท้องเฉพาะกรณีมีข้อบ่งชี้เท่านั้น
ยาที่ใช้รักษาโรคเอดส์ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ดังนี้
Non-nucleoside reverse transcriptaseinhibitors (NNRTIs) ได้แก่ ยา NevirapineDelavirdine, Efavirenze
Protease inhibitors (PIs) ได้แก่ยาNelfinavir, Saquinavir, Ritonavirสำหรับสูตรยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อเอซไอวี เรียกว่า Highly Active AntiretroviralTherapy: HAART
Nucleoside reverse transcriptaseinhibitors (NRTIs) ได้แก่ยา ZDV, d4T,DDC,DDI, 3TC, Abacavir