Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
อาเซียน, เอกลักษณ์: มีความเก่าแก่มากที่สุด เพราะมันมีจุดเริ่มต้นเมื่อประมา…
อาเซียน
เกาหลี
-
วิวัฒนาการ: วิวัฒนาการของนาฏศิลป์เกาหลีมักจะเริ่มและดัดแปลงให้เป็นระบำปลุกใจในสงคราม เพื่อให้กำลังใจแก่นักรบ หรือไม่ก็เป็นพิธีทางพุทธศาสนา หรือเป็นการร้องรำทำเพลงในหมู่ชนชั้นกรรมาชีพ หรือแสดงเป็นหมู่ นาฏศิลป์ในราชสำนักก็มีมาแต่โบราณกาลเช่นเดียวกันและยังมีการร่ายรำทางไสยศาสตร์อีกด้วย
ตัวอย่างการแสดง
- ทัลชุม หรือที่เรียกกันว่า ระบำหน้ากากเกาหลี
- พูแชชุม คือระบำพัดของเกาหลี
ญี่ปุ่น
-
วิวัฒนาการ : ละครญี่ปุ่นเริ่มต้นประมาณศตวรรษที่7แบบแผนการแสดงต่างๆที่ปรากฏอยู่ในครั้งยังมีเหลืออยู่ และปรากฏชัดเจนแสดงสมัยปัจจุบันนี้ ได้แก่ ละครโนะ ละครคาบูกิ ปูงักกุ ละครหุ่นบุนระกุ การกำเนิดของละครญี่ปุ่น กล่าวกันว่ามีกำเนิดมาจากพื้นเมืองเป็นปฐม กล่าวคือวิวัฒนาการมาจากการแสดง ระบำบูชาเทพเจ้าแห่งภูเขาไฟและต่อมาญี่ปุ่นได้รับแบบแผนการแสดงมาจากประเทศจีนโดยได้รับผ่านประเทศ เกาหลีช่วงหนึ่ง
ตัวอย่างการแสดง :
1)คาบูกิ เรื่องที่แสดงเป็นเรื่องประวัติศาสตร์ ศาสนาและเทพนิยาย ใช้ผู้ชายแสดงล้วนแต่งกายด้วยสีสันฉูดฉาด มีการเขียนหน้าคล้ายงิ้ว
2)ละครโนะ แสดงเรื่องเกี่ยวกับเทพเจ้า การแต่งกายงดงาม ผู้แสดงจะสวมหน้ากาก ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
-
-
-
-
อิทธิพลที่มีผลต่อการแสดง
เป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมที่ใหญ่โต มีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ดี และยังคงเป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นแนวหน้า แต่ก็มีความเครียดและมีการแข่งกันที่สูงมากเช่นกัน ผู้คนส่วนมากยังเน้นความเป็นชาตินิยม ไม่ค่อยยอมรับชาวต่างชาติสักเท่าไหร่ ทำให้ลักษณะนาฎศิลป์ในเกาหลีมีความเป็น
เอกลักษณ์เเละทันสมัย
เป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมทางศาสนาเข้มข้นและหลากหลาย มีทุนทางสติปัญญาและทักษะด้านเทคโนโลยี แต่เนื่องจากมีประชากรที่มากทำให้ประสบปัญหาความยากจน ทำให้ลักษณะนาฎศิลป์ในอินเดีย เป็นเเบบเรียบง่ายชุดที่ใส่ก็ไม่ได้มีราคาสูงมาก เป็นการรำเพื่อบูชาเทพเจ้า
เป็นประเทศที่มีความเจริญในหลายๆด้านทั้งเทคโนโลยี แม้ค่าครองชีพที่ประเทศญี่ปุ่นจะค่อนข้างแพง แต่ระบบเศรษฐกิจก็ดีมากเช่นกัน ทำให้ลักษณะนาฎศิลป์ในญี่ปุ่น จะเป็นการรำเพื่อความสนุก ความสวยงามเเละสืมทอดต่อๆมาตั้งเเต่อดีต
เป็นประเทศที่มีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ทั้งด้านเศรษฐกิจ การปกครอง หรือคุณภาพของประชาชน ทำให้ประเทศจีนเป็นประเทศที่ชาตินิยมสูง ลักษณะนาฎศิลป์ในประเทศจีนจะเป็นการรำเพื่อเชิดชูกษัตริย์ เเละการรำเพื่อความสวยงาม
อินเดีย
เอกลักษณ์ : การรำพื้นบ้านส่วนใหญ่ของอินเดียจะเป็นการรำที่เเสดงถึงการเคารพบูชาเทพเจ้า เเละมีท่าเต้นบางท่าทางที่เรียนเเบบสัตว์ต่างๆ
วิวัฒนาการ : ยุคที่อินเดียตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ อินเดียได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงทางด้านนาฏศิลป์ การละคร วัฒนธรรม ตะวันตกได้เข้ามาผสมผสานทำให้นาฏศิลป์ที่เป็นแบบฉบับในราชสำนักกลายเป็นสิ่งไร้ค่า ขาดการดูแลรักษา จนเกือบจะสูญ ต่อมาเมื่ออินเดียเป็นเอกราช จึงฟื้นฟูนาฏศิลป์ประจำชาติขึ้นมาใหม่ อันได้แก่ ภารตะนาฏยัม กถักกฬิ และมณีปุรี
ตัวอย่างการเเสเง
1.ภารตะนาฏยัม เป็นการเเสดงที่เก่าเเก่ที่สุดของอินเดีย เป็นการรำในพิธีสำคัญในสมัยก่อน
2.กถักกฬิ ผู้แสดงจะต้องสวมหน้ากาก นับว่ากถักกฬิของอินเดียเป็นต้นเค้าของนาฏศิลป์ตะวันออก
-
-
เอกลักษณ์: มีความเก่าแก่มากที่สุด เพราะมันมีจุดเริ่มต้นเมื่อประมาณ 2 พันปีก่อน มันมีลักษณะคล้ายกับนาฏศิลป์ของประเทศอื่นๆ คือการที่มันพัฒนามาจากการฟ้อนรำในแบบโบราณ ซึ่งสมัยก่อนถูกใช้ประกอบพิธีทางไสยศาสตร์ ก่อนที่จะมีการคิดภาษาพูดขึ้นมาใช้ นับจากนั้นก็ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนกลายมาเป็นละครรูปแบบต่างๆ
-
วิวัฒนาการ: เกิดจากระบำทรงเจ้าในพิธีทางศาสนาหรือเรียกว่า "รามาอู๋อู" นับเป็นศิลปะที่เก่าแก่มากที่สุด จุดประสงค์ในการแสดง เพื่อบำบัดภัยอันตรายจากธรรมชาติ บำบัดความเจ็บไข้ และความทุกข์ทั้งปวง ในสมัยราชวงศ์โจวศิลปะทางนาฏศิลป์ของจีนมีหลากหลาย เช่น ละครใบ้ ละครตลก การขับกล่อม การเล่านิทานประกอบดนตรี เพลงพื้นบ้าน นาฏศิลป์มีทั้งที่เป็นของชาวบ้าน และในราชสำนัก แต่เจริญสูงสุดในราชวงศ์ถัง โดยจักรพรรณ "มิ่งฮวง" ทรงเชี่ยวชาญนาฏศิลป์ และการดนตรีเป็นอย่างยิ่ง ทรงจัดตั้งวิทยาลัยการละครในพระราชอุทยานสวนสน นครเชียงอาน ทรงอุปถัมภ์ค้ำจุนนาฏศิลป์ทุกแขนง ชาวนาฏศิลป์จีนยกย่องท่าเป็นบิดาแห่งการละคร และบูชาพระพุทธรูปก่อนการแสดงทุกครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล การแสดงนาฏศิลป์จีนโบราณจะไม่มีฉากใช้วิธีสมมุติ ผู้แสดงต้องรับการฝึกเป็นระยะเวลานาน เพราะต้องฝึกร้องเพลง เต้นระบำ ฝึกกายกรรม ผู้แสดงต้องมีพรสวรรค์ มีความสามารถรอบด้าน ความจำดีเป็นเยี่ยม ต้องจำบทเจรจาได้ เพราะการแสดงนาฏศิลป์จีนจะไม่มีการบอกบท ศิลปะการแต่งหน้านาฏศิลป์จีนถือเป็นศิลปะขั้นสูงมาก เพราะเป็นการบอกลักษณะนิสัยตัวละคร สำหรับตัวละครที่เป็นผู้หญิง ใช้ผู้ชายแสดงแทน โดยมีคตินิยมว่า ผู้ชายถ้าแสดงได้สมบทบาทแล้ว จะดูดีกว่าให้ผู้หญิงจริงๆ ต่อมาจนถึงสมัยจักรพรรดิเฉียนหลง ได้ทรงปรับปรุงลีลาท่ารำของการแสดงให้นุ่มนวล ผสมกลมกลืนกับศิลปะหลายแขนง ได้แก่ ดนตรี ขับร้อง นาฏลีลา การแสดงอารมณ์ ความรู้สึก ซึ่งปัจจุบันจะหาชมได้จากอุปรากรจีน (งิ้ว)
-
ตัวอย่างการแสดง:
1.อุปรากรจีน (งิ้ว)
การแสดงงิ้วเป็นการแสดงที่เน้นดนตรี ขับร้อง ศิลปะการต่อสู้ การแสดงอารมณ์ นักแสดงจะต้องมีทักษะรอบได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียงที่ไพเราะ มีความอดทนอดกลั้น มีความจำที่ดีเลิศ
- ระบำพัด
พัดไม่ได้มีความโดดเด่นในประเทศจีนเลย แต่พวกเขามีบทบาทสำคัญในการเต้นรำจีนมาก การแสดงแบบนี้มีประวัติมายาวนาน แต่มีการบันทึกไว้เมื่อสมัยราชวงศ์ฮั่น
- ระบำกระบี่
การรำกระบี่นั้น อยู่ในรากเหง้าของวัฒนธรรมชาวจีนมาตั้งแต่สมัยอดีต ถูกพัฒนามาเพื่อให้ทหารออกกำลังกาย หากจะให้เปรียบเทียบก็เหมือนการเต้นแอโรบิกในปัจจุบัน
- ระบำนกยูง
ระบำประเภทนี้มีถิ่นกำเนิดในมณฑลยูนนาน เป็นจังหวัดในประเทศจีนที่มีพรมแดนติดกับเวียดนาม ลาว และพม่า ระบำนกยูงนี้เป็นที่โด่งดังอย่างมากในแถบเอเชีย มันมีความหมายสื่อถึง สวรรค์ ความสงบ ความสง่างาม และความโชคดี
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-