Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยที่ 2 กฎหมายลักษณะนิติกรรม, 5 ประการ คือ, โมฆะกรรม คือ…
หน่วยที่ 2 กฎหมายลักษณะนิติกรรม
กฎหมายลักษณะนิติกรรม
การแสดงเจตนา
เพราะถูกกลฉ้อฉล
กลฉ้อฉล เป็นการแสดงข้อความอย่างใดให้ผิดต่อความจริงโดยจงใจ เพื่อลวงให้
บุคคลอื่หลงเชื่อแสดงเจตนา แยกพิจารณาได้ดังนี้
3.การบอกล้างโมฆียกรรมเพราะถูกกลฉ้อฉล
4.กลฉ้อฉลเพื่อเหตุ
5.กลฉ้อฉลอันเกิดจากการนิ่ง
2.กลฉ้อฉลโดยบุคคลภายนอก
1.กลฉ้อฉลต้องถึงขนาด
6.กลฉ้อฉลทั้งสองฝ่าย
กฎหมายลักษณะนิติกรรม
แบบของนิติกรรม แบ่งออกเป็น 4 ประเภท
แบบที่ต้องจดทะเบียนต่อ
พนักงานเจ้าหน้าที่
แบบที่ต้องทําเป็นหนังสือต่อ
พนักงานเจ้าหน้าที
แบบที่ต้องทําเป็นหนังสือ
และจดทะเบียนต่อพนักงาน
เจ้าหน้าที่
แบบที่ต้องทําเป็นหนังสือลง
ลายมือชื่อคู่กรณีทั้งสอง
ฝ่าย
การแสดงเจตนาเพราะถูกข่มขู่
การข่มขู่โดยบุคคลภายนอก
การขู่ว่าจะใช้สิทธิตามปกตินิยม
การข่มขู่ที่จะทําให้นิติกรรมเป็นโมฆียะ
โมฆะกรรม
1 more item...
5 ประการ คือ
ต้องเป็นการกระทํา
ด้วยใจสมัครถ้า
ผู้กระทําไม่สมัครใจ
กระทํา
ต้องเป็นการกระทําที่
มุ่งโดยตรงต่อการผูก
นิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่าง
บุคคล
นิติกรรมเกิดขึ้นด้วย
การแสดงเจตนา
กระทําการของบุคคล
ต้องเป็นการกระทํา
เพื่อให้เกิดการ
เคลื่อนไหวในสิทธิ
ต้องเป็นการกระทําที่
ชอบด้วยกฎหมาย
โมฆะกรรม คือ นิติกรรมที่เสียเปล่า
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 149
บัญญัติว่า “นิติกรรม หมายความว่าการใด ๆ อันทํา
ลงโดยชอบด้วยกฎหมายและด้วยใจสมัคร มุ่ง
โดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคลเพื่อ
จะก่อเปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับซึ่งสิทธิ”
จากมาตรานี้พอแยกองค์ประกอบของนิติกรรมได้
มาตรา 150 บัญญัติว่า “การใดมีวัตถุประสงค์ เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย เป็นการพ้น
• มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย
• มีวัตถุประสงค์เป็นการอันพ้นวิสัย
• มีวัตถุประสงค์เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
วิสัย หรือเป็น การขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน การนั้นเป็นโมฆะ”
มาตรา 164 บัญญัติว่า “การแสดงเจตนาเพราะถูก
ข่มขู่เป็นโมฆียะ การข่มขู่ที่จะทําให้การใดตกเป็น
โมฆียะนั้น จะต้องเป็นการข่มขู่ที่จะให้เกิดภัยอัน
ใกล้จะถึงและร้ายแรงถึงขนาดที่ จะจูงใจให้ผู้ถูก
ข่มขู่มีมูลต้องกลัว ซึ่งถ้ามิได้มีการข่มขู่เช่นนั้น การ
นั้นก็คงจะมิได้กระทําขึ้น” แยกพิจารณาได้ดังนี้
สูญเปล่า ไม่มีผลในกฎหมายแต่อย่าง
ใด สาเหตุที่ทําให้นิติกรรมเป็นโมฆะ มี
ดังนี้
ตัวอย่าง กรณีสัญญาตกเป็นโมฆะ โจทก์ไม่อยู่ในฐานะที่จะประกอบ
ธุรกรรมการซื้อขายเงินตราต่างประเทศกับธนาคารจําเลยได้ จําเลยก็
ทราบเรื่องดังกล่าวดี จึงไม่ได้รายงานการทําธุรกรรมซื้อขายเงินตรา
ต่างประเทศให้ธนาคารแห่งประเทศไทยทราบ ดังนั้น นิติกรรม การ
ซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าระหว่างโจทก์จําเลย จึงเป็น
สัญญาที่ฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พ.ศ.
2485 อันทําให้สัญญาดังกล่าวเป็นโมฆะ โจทก์จําเลยไม่อาจนําสัญญา
ดังกล่าวมาฟ้องร้องบังคับกันได้ (ฎีกาที่ 5661/255)