Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ใหญ่ที่มีความผิดปกติในระบบประสาท - Coggle Diagram
การพยาบาลผู้ใหญ่ที่มีความผิดปกติในระบบประสาท
การประเมินสภาพผู้ใหญ่ในระบบประสาท
การซักประวัติ
อาการสําคัญและประวัติเจ็บป่วยในปัจจุบัน
ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต
ประวัติครอบครัว
ประวัติจิตสังคม
การตรวจร่างกาย
สัญญาณชีพ
สภาวะทางจิตใจ
การตรวจศีรษะ คอและหลัง
การรับความรู้สึก
การเคลื่อนไหว
ปฏิกิริยาตอบสนองหรือรีเฟล็กซ์
ความผิดปกติของเยื่อหุ้มสมองและรากประสาท
การทํางานของเส้นประสาทสมอง
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การตรวจพิเศษ
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของระบบประสาท
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีโรคหรือความผิดปกติเกี่ยวกับความรู้สึกนึกคิด
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีการเปลี่ยนแปลงการรู้สติ
การรักษา
รักษาสาเหตุ
เพิ่มการไหลเวียนของโลหิตในสมอง
ลดอาการสมองบวม
ลดการทํางานของสมอง ลดการใช้ออกซิเจนของสมองใช้พวกบาร์บิทูเรต
การผ่าตัดเอาลิ่มเลือดออกในบริเวณที่เอาออกได้
การรักษาตามอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อน
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล/กิจกรรมทางการพยาบาล
มีโอกาสเกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจเนื่องจากระดับความรู้สึกตัวลดลง/ มีโอกาสเกิดภาวะปอดอักเสบจากการสําลัก
ตรวจวัดสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง
ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง จัดท่านอนตะแคงข้าง
On NG-tube feeding
ดูแลให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง 45องศา ขณะ feed อาหาร และหลังอาหาร
สังเกตอาการสําลัก
สาเหตุ/พยาธิสภาพ
ภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงของระดับความรู้สึกตัว ซึ่งมีความรุนแรงน้อยไปจนถึงมากดังนี้ คือ drowsy , stupor , semicoma จนถึง coma ตามลําดับ ภาวะนี้เป็นภาวะฉุกเฉินทางประสาทซึ่งแพทย์จะต้องตรวจวินิจฉัยสาเหตุดังนี้1) มีรอยโรคในสมอง พยาธิสภาพเกิดขึ้นกับ ARAS ซึ่งเป็นกลุ่มของเซลล์ประสาทที่อยู่ตรงกลางก้านสมองและมักจะทําลายเซลล์สมองบริเวณใกล้เคียง ทําให้เกิดแรงกดที่แกนสมองหรือส่วนอื่นๆ ของสมองภายในกะโหลกศีรษะ 2) มีความผิดปกติของการเผาผลาญในร่างกายเช่น พร่องออกซิเจน กลูโคสในเลือดลดลง มีการคั่งของของเสียในสมองจนทําให้สมองทํางานผิดปกติได้
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอาการชักและโรคลมชัก
สาเหตุ/พยาธิสภาพ
ปัจจัยกระตุ้นอาการชัก (precipitating or triggerfactors) ได้แก่ อดนอน การดื่มหรือหยุดแอลกอฮอล์ แสงกระพริบ เสียงดัง ความเครียดทางร่างกายหรือจิตใจที่รุนแรง การมีประจําเดือน
อาการและอาการแสดง
ก่อนเกิดชักอาการนํา
ความรู้สึกไม่ค่อยสบาย
กระสับกระส่าย
ปวดศีรษะ
อาการชัก
ไม่รู้สึกตัว
ริมฝีปากเขียว
กัดลิ้น
ปัสสาวะอุจจาระราด
อาการหลังชัก
ปวดศีรษะ
ซึม
หลับ
สับสน
อาการทางจิต
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล/กิจกรรมทางการพยาบาล
มีโอกาสเกิดอาการชักเกร็งเนื่องจากเซลล์ประสาทสมองถูกรบกวน
ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง จัดท่านอนตะแคงข้าง
ให้ออกซิเจน
เตรียมอุปกรณ์ suction, oral airway, O2 therapy
ให้ยากันชักตามแผนการรักษา
บันทึกระยะเวลา อาการชัก และอาการหลังชัก
เสี่ยงต่อการบาดเจ็บเนื่องจากการชัก-เสี่ยงต่อการบาดเจ็บเยื่อบุในช่องปาก
ใส่ไม้กั้นเตียง ปรับระดับเตียงให้ต่ำ
หากชักจัดท่าตะแคงหน้า ป้องกันสําลัก
ปลดเสื้อผ้าให้หลวม
มีโอกาสเกิดภาวะชักซ้ำเนื่องจากพร่องความรู้
เน้นย้ำเรื่องจากรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง
แนะนําหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นและมาตรวจตามนัด
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีการเปลี่ยนแปลงของการไหลเวียนเลือดในสมอง
การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ
สาเหตุ/พยาธิสภาพ
กิดจากศีรษะที่เคลื่อนไหวไปกระแทกของแข็ง เช่น อุบัติเหตุจราจร หกล้มหรือตกจากที่สูงหรือ ศีรษะอยู่นิ่งแต่มีของแข็งเคลื่อนที่มากระแทก เช่น ถูกทําร้ายทุบศีรษะ (Insult) ของตกลงมาทับศีรษะหรือทั้งศีรษะและของแข็งเคลื่อนไหวแล้วกระแทกกันในขณะเล่นกีฬา
อาการและอาการแสดง
รุนแรงน้อย
GCS 13-15
ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี หรือรู้สึกตัวลดลง
ลืมตาเองได้เมื่อถูกเรียก ทําตามคําสั่ง ตอบคําถามถูกต้อง
สับสนบ้าง มักหมดสติไปเพียงชั่วครู่
รุนแรงปานกลาง
GCS 9-12
มักหลับตลอดเวลา ตื่นเมื่อปลุก
ทําตามคําสั่งง่ายๆ ได้ เคลื่อนไหวหนีความเจ็บปวด
ส่งเสียงไม่เป็นคําพูด
รุนแรงมาก
GCS 3-8
รู้สึกตัวน้อยมากหรือไม่รู้สึกตัว ไม่สามารถทําตามคําสั่งได้
อาจส่งเสียงไม่เป็นคําพูดเมื่อถูกกระตุ้นด้วยความเจ็บปวด
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล/กิจกรรมทางการพยาบาล
มีความบกพร่องในการเคลื่อนไหว เนื่องระดับความรู้สึกตัวลดลงและการจํากัดกิจกรรม
ณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเนื่องจากมีเมตาโบลิซึมสูงจากการติดเชื้อ และสูญเสียการทํางานของสมองส่วนไฮโปธาลามัสซึ่งมีหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
ปวดศีรษะเฉียบพลัน เนื่องจากการบาดเจ็บของสมอง
เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน: ความดันในกระโหลกสูง เนื่องจากสมองบวมและเลือดออกในสมอง
การกําซาบของเนื้อเยื่อสมองไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจาก การไหลเวียนของเลือดในสมองลดลง
มีเลือดออกในเนื้อสมอง
วิตกกังวล เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงภาวะสุขภาพ สิ่งแวดล้อมและความรู้สึกไม่แน่นอน
ชักเกร็งเนื่องจากเซลล์ประสาทสมองถูกรบกวน
ภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง
สาเหตุ/พยาธิสภาพ
เนื้อสมองเพิ่มขึ้น เนื่องจากสมองบวม
เลือดคั่งและมีก้อนเลือด
น้ำไขสันหลังคั่ง โพรงสมองโตขึ้น
สิ่งครอบครองพื้นที่ในกะโหลกศีรษะ
อาการและอาการแสดง
ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนไปปวดศีรษะและอาเจียน
การมองเห็นผิดปกติ
สัญญาณชีพเปลี่ยนแปลง
กล้ามเนื้ออ่อนแรงด้านตรงข้ามกับรอยโรค การเคลื่อนไหวผิดปกติ
รีเฟลกซ์ก้านสมองเสียไป
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล/กิจกรรมทางการพยาบาล
การกําซาบของเนื้อเยื่อสมองลดลง เนื่องจากความดันในกะโหลกศีรษะสูง หรือจากการบาดเจ็บของสมอง
NPO
ประเมิน V/S, N/S, ICP
จัดนอนศีรษะสูง 15-30 องศา
ให้นอนหนุนหมอนบางๆ ไม่ให้ศีรษะก้มมาชิดอก ประคองไม่ให้เอียง
ไม่ผูกมัด ไม่ใช้ไม้ยันปลายเท้า
ดูแลทางเดินหายใจให้
ติดตามค่าPaO2 > 70, PaCO2 25-35 mmHg, pH 7.35-7.45
เลี่ยงการไอ จาม เบ่ง การลุกนั่ง พลิกตะแคง
ป้องกันภาวะท้องผูกและการเบ่งถ่ายปัสสาวะ
ดูแลให้ได้รับสารน้ํา IV เลี่ยงสารละลาย hypotonic,บันทึก I/O
เช็ดตัวลดไข้ ถ้าอุณหภูมิสูงเกิน 37.8 C
จัดสภาพแวดล้อมให้สงบ
ดูแลให้ได้รับยาแก้ปวด หรือประคบเย็น
ดูแลให้ได้รับยาลดความดันในกะโหลกศีรษะ
ดูแลให้ได้รับยากันชัก
แบบแผนการหายใจผิดปกติ/ การขับเสมหะไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากระดับความรู้สึกตัวลดลง/ สมองเคลื่อน
ขาดประสิทธิภาพในการทําทางเดินหายใจให้โล่งเนื่องจากระดับการรู้สติลดลง
ประเมินอาการทางสมอง GCS, pupil hemodynamic , O2 Sat
ดูแลทางเดินหายใจให้โล่งมีการระบายอากาศที่
ดูดเสมหะตามความจําเป็น ติดตามค่า ABG
ขาดสารน้ำเนื่องจากงดอาหารทางปาก
ภาวะโภชนาการขาดความสมดุล: ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
ดูแลให้ได้รับสารน้ำตามแผนการรักษา
ประเมินภาวะขาดน้ำ บันทึกสารน้ำเข้าออก
ประเมินการทํางานของระบบย่อยอาหาร ฟังเสียงลําไส้ สังเกตอาการท้องอืด
การดูแลตนเองบกพร่องเนื่องจากระดับความรู้สึกตัวลดลง
การสื่อสารบกพร่องจากการบาดเจ็บของสมอง/ การใส่ท่อช่วยหายใจ
ดูแลให้รับอาหารทางสายยางตามแผนการรักษา
ดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคล
อธิบายให้ทราบทุกครั้งก่อนให้การพยาบาล
แสดงการยอมรับเมื่อเข้าใจสิ่งที่พูด
การพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
การพยาบาลผู้ป่วย Stroke ในระยะแรก
ดูแลทางเดินหายใจให้ได้รับออกซิเจนหรือเครื่องช่วยหายใจ
ดูแลให้ได้รับสารน้ำ
รักษาภาวะสมองบวม
ป้องกันการเกิด
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล/กิจกรรมทางการพยาบาล
ความสามารถในการปรับตัวของช่องในกะโหลกศีรษะลดลง
การกําซาบของเนื้อเยื่อสมองลดลง เนื่องจากภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูงขึ้น
ไม่สามารถขับเสมหะออกเองได้ ทางเดินหายใจไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจาก เสมหะเหนียว
เสี่ยงต่อเนื้อเยื่อได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอเนื่องจากสมองบวม มีเลือดออกจากการผ่าตัด
แบบแผนการหายใจไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจาการขยายตัวของปอดลดลง
เสี่ยงต่อกระบวนการคิดถูกรบกวนเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาท
เสี่ยงต่อการสําลักการกลืนผิดปกติเนื่องจากภาวะอ่อนแรงครึ่งซีก
ภาวะโภชนาการขาดความสมดุล: ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
การขับถ่ายเปลี่ยนแปลงเนื่องจากระดับความรู้สึกตัวลดลง เคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้
การดูแลตนเองบกพร่อง/ การละลืมร่างกายด้านที่อ่อนแรง
การเคลื่อนไหวร่างกายบกพร่อง
เสี่ยงต่อความแข็งแรงของผิวหนัง/ เสี่ยงต่อการหดรั้งกล้ามเนื้อจากอัมพาตหรือการกระตุก
วิตกกังวลเนื่องจากไม่แน่ใจเกี่ยวกับการพยากรณ์โรค
ขาดประสิทธิภาพในการเผชิญปัญหาเนื่องจากกลัวการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์และบทบาท
การสื่อสารด้วยการพูดบกพร่องจากภาวะ aphasia
การพยาบาลผู้ป่วย Stroke ในระยะหลังเฉียบพลัน
ป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน IICP, ปอดอักเสบ การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
ส่งเสริมการฟื้นฟูสภาพ ช่วยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
ป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
วางแผนการจําหน่าย
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะ
Arteriovenous malformation และหลอดเลือดสมองโป่ง
ภาวะ Arteriovenous malformation (AVM)
ปวดศีรษะเฉียบพลันภายหลังการมีเลือดออกในสมองหรือใต้อแรชนอยด์ หรือภาวะขาดเลือด หากเกิดในชั้นดูราจะทําให้เกิดความดันเลือดสูงที่เกิดจากหลอดเลือดดํา ขาดเลือดและเลือดออกในสมอง อาจมีอาการเกี่ยวกับเส้นประสาทสมอง มีเสียงฟู่ในหู ได้ยินเสียงฟู่ในหู
ภาวะหลอดเลือดในสมองโป่ง (Intracranial aneurysm)
ผนังหลอดเลือดเปราะบาง(weakness)ทําให้เกิดการโป่งพองซึ่งอาจมีขนาดใหญ่มากขึ้นจนแตกตามมาได้ aneurysm อาจเกิดจากการเจริญผิดปกติ การติดเชื้อหรือการบาดเจ็บของหลอดเลือด
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีเนื้องอกหรือการเสื่อมของระบบประสาท
การพยาบาลผู้ป่วยเนื้องอกสมอง
สาเหตุ/พยาธิสภาพ
เนื้องอกกดเบียดเนื้อสมองอาจทําให้เกิดภาวะสมองบวม ความดันในกะโหลกศีรษะสูงน้ําคั่งในโพรงสมอง การเคลื่อนของสมอง (brain herniation) เนื้องอกอาจกดทับเส้นประสาทสมอง หลอดเลือดสมองจนเกิดภาวะสมองขาดเลือด ทําให้มีอาการผิดปกติทางระบบประสาทเสียชีวิตหากไม่ได้รับการรักษา
อาการและอาการแสดง
ปวดศีรษะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน หรือปวดศีรษะเวลากลางคืน
คลื่นไส้ อาเจียนแบบพุ่ง
ตามัว มองเห็นภาพซ้อน มองไม่ชัด
ระดับความรู้สีกตัวเปลี่ยนแปลง ซึมหมดสติ
ชัก
การทรงตัวผิดปกติอ่อนแรงและชาบริเวณแขนและขา
อาการจากการสูญเสียหน้าที่ของสมองส่วนที่ถูกกดหรือถูกทําลาย
อาจพบอาการและอาการแสดงจากไขสันหลังถูกกด
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล/กิจกรรมทางการพยาบาล
ภาพลักษณ์เปลี่ยนแปลงจากการเปลี่ยนแปลงการทําหน้าที่ของระบบประสาท
ภาพลักษณ์เปลี่ยนแปลงจากการเปลี่ยนแปลงการทําหน้าที่ของระบบประสาท
พร่องความรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเอง
วิตกกังวลเกี่ยวกับการวินิจฉัยโรคและการรักษา
วิตกกังวลเนื่องจากไม่แน่ใจเกี่ยวกับอนาคตและการพยากรณ์โรค
ประเมินภาพลักษณ์ ผลกระทบจากการเจ็บป่วย การรักษา
ประเมินอาการและอาการแสดงของระบบประสาท
ให้การพยาบาลอย่างนุ่มนวล
เปิดโอกาสให้ครอบครัวได้อยู่กับผู้ป่วย
ให้ข้อมูลแก่ญาติ
สนับสนุน ส่งเสริมการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ป่วย ญาติและทีมสุขภาพ
มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดTransphenoidal approach
ดูแลความสะอาดในช่องปาก
ประเมินภาวะแทรกซ้อนเบาจืด
ดูแลให้ได้รับ hydrocortisone ทดแทน
เฝ้าสังเกตอาการรั่วของน้ำไขสันหลัง
หากมีแผลผ่าตัดบริเวณเหงือก ห้ามใช้หลอดดูดน้ำ
โรคพาร์กินสัน
สาเหตุ/พยาธิสภาพ
โรคที่เกิดจากเซลล์สมองบริเวณก้านสมอง มีจํานวนลดลง โดยไม่ทราบสาเหตุ ทําให้สารสื่อประสาทโดปามีน มีปริมาณลดลง อาจเกิดในผู้ที่ใช้ยา Phenothiazine นานๆ หรือจากการได้รับสารพิษ หรือในผู้ป่วย Head Injuryหรือกรรมพันธุ์และปัจจัยเสี่ยงทางสิ่งแวดล้อม
อาการและอาการแสดง
สีหน้าเมินเฉย ไม่แสดงอารมณ์ พูดเบาไม่ชัด เขียนหนังสือลําบาก สั่นขณะช่วงการพัก อาการสั่นลดลงเมื่อทํากิจกรรม ยืนไม่ตรง แขนขาและลําตัวแข็งเกร็ง เคลื่อนไหวร่างกายช้ำ เดินตัวงอน้ำลายไหลยืด
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล/กิจกรรมทางการพยาบาล
ขาดความรู้เกี่ยวกับโรค
เสี่ยงต่อการรับประทานยาไม่ถูกต้องและมีภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยาเนื่องจากขาดความรู้เรื่องการใช้ยา
การเคลื่อนไหวร่างกายบกพร่อง
การดูแลตนเองบกพร่องเนื่องจากการเคลื่อนไหวผิดปกติ
เสี่ยงต่อภาวะข้อยึดติดเนื่องจากการเคลื่อนไหวลดลง
เสี่ยงต่อการหกล้มเนื่องจากการเดินติดขัด
ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องโรค สาเหตุ อาการ และแนวทางการรักษา
อธิบายลักษณะอาการของโรคที่เกิดช่วงเวลาต่างๆ
แนะนําจัดสิ่งแวดล้อมสะอาด สว่าง ไม่มีสิ่งกีดขวาง
การแต่งกายพอดีกับรูปร่าง ไม่รุงรัง
ประเมินอาการเดินติดว่าสัมพันธ์กับมื้อยาหรือไม่
อธิบายให้เห็นความสําคัญของยา
ไม่สุขสบายเนื่องจากปวดเมื่อยจากกล้ามเนื้อเกร็ง
ประเมินอาการปวด ประคบร้อนหรือให้ได้รับยาแก้ปวด
อธิบายสาเหตุอาจเกิดในช่วงยาหมดฤทธิ์
เสี่ยงต่อการสําลักเนื่องจากการกลืนผิดปกติ
เสี่ยงขาดอาหารเนื่องจากกลืนลําบาก
อธิบายญาตถึงความสําคัญของการสําลัก
ระวังการสําลัก งดพูดคุยขณะรับประทาน อาหารควรเป็นอาหารอ่อน
การสื่อสารบกพร่องเนื่องจากการพูดลําบาก
วางแผนการพูดตั้งใจในการพูด
อดทน ใจเย็นในการสื่อสาร
ท้องผูกเนื่องจากการเคลื่อนไหวลําไส้ลดลงจากการทํางานระบบประสาทอัตโนมัติผิดปกติ
ประเมินอุปนิสัยการขับถ่าย
กระตุ้นดื่มน้ําวันละ2000-2500 ซีซี
ไม่สุขสบายเนื่องจากแบบแผนการนอนหลับเปลี่ยนแปลง
วิตกกังวลและการปรับตัวไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากความสามารถลดลง หรือ ขาดความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตัว
ออกกําลังกาย
แนะนําปรับเวลา ไม่นอนกลางวัน
จัดสิ่งแวดล้อม แสง เสียง
ประเมินปัจจัยที่ทําให้วิตกกังวล
พูดคุยให้กําลังใจผู้ป่วยและญาติ
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
สาเหตุ/พยาธิสภาพ
การอักเสบของเยื่อหุ้มสมอง เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเช่นStreptococcus pneumoniaeในภาวะปอดอักเสบ และเชื้อNeisseria meningitidis ที่พบในไข้กาฬหลังแอ่น เชื้อมัยโคแบคทีเรียม ทิวเบอร์คูโลซิส เชื้อไวรัส เชื้อรา Cryptococcus เชื้อปรสิตคือแองจิโอสตรองไจลัส แคนโตเนนซิส หรือนาโทสโตมา สปินิเจอรัม , Toxoplasma gondi หรือเกิดจากสาเหตุที่อื่นเช่น การแพร่กระจายของมะเร็ง ยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตรอยด์ ยาปฏิชีวนะ และอิมมูโนกลอบูลิน
อาการและอาการแสดง
อาการคอแข็งเกร็ง
ไข้สูงเฉียบพลัน
การเปลี่ยนแปลงของสภาพจิต
การป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
ควรล้างมือบ่อย ๆ
หลีกเลี่ยงการดื่มหรือรับประทานอาหารจากภาชนะเดียวกันกับผู้อื่น
การพักผ่อนให้เพียงพอ
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ออกกําลังกายสม่่ำเสมอ
การป้องกันโรคในผู้ใหญ่
วัคซีน IPD
วัคซีนป้องกันโรคหัด โรคคางทูม และโรคหัดเยอรมัน
วัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น
ไข้สมองอักเสบ
สาเหตุ/พยาธิสภาพ
โรคไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส เป็นโรคที่ถ่ายทอดกันอยู่ในระหว่างสัตว์ ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ปีก สุกร โค กระบือ เชื้อไวรัสจะขยายพันธุ์ ในสัตว์โดยมียุงรําคาญที่อยู่ตามบ้านเเละท้องนาเป็นพาหะ เมื่อถูกยุงกัด เชื้อที่อยู่ในเลือดของสัตว์จะเจริญแพร่พันธุ์
อาการ
ไข้สูงปานกลาง ปวดศีรษะมากเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียนบ่อย ต่อมาจะมีอาการไข้สูงตลอดเวลา ซึมลง จนกระทั่งไม่รู้สึกตัว อาจมีอาการตัวเกร็งแข็ง หรือชักกระตุก หรือแขนขาเป็นอัมพาต
การรักษา
การรักษาตามอาการ คือ เพื่อลดอาการบวมของสมอง ดูแลระบบทางเดินหายใจ ให้ยาระงับอาการชัก ควบคุมความดันของสมองและความดันโลหิต
การดูแลอย่างต่อเนื่องที่บ้าน
• ดูแลให้ได้รับอาหารโปรตีนและพลังงานสูง
• การทํากายภาพบําบัด
• พักผ่อนและนอนหลับอย่างเพียงพอ
• ประเมินอาการและอาการแสดงที่ยังหลงเหลืออยู่
• ประเมินความวิตกกังวลของผู้ดูแล/ครอบครัว
ฝีในสมอง
สาเหตุ/พยาธิสภาพ
เมื่อเชื้อโรคสามารถผ่าน BBB เข้าสู่่เนื้อสมองได้ ร่างกายจะตอบสนองต่อเชื้อโรคนั้นเกิดเป็นกระบวนการอักเสบของสมอง(cerebritis) และลุกลามเป็นฝีในสมอง
อาการและอาการแสดง
ปวดศีรษะไข้ ระดับความรู้สึกลดลง อาจมีอาการระบบประสาทเฉพาะที่ตามตําแหน่งที่มีฝีมีปัญหาการมองเห็น ชัก อาจพบอาการของความดันในกะโหลกศีรษะสูง
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล/กิจกรรมทางการพยาบาล
อุณหภูมิในร่างกายสูงเนื่องจากการติดเชื้อ
วัดอุณหภูมิร่างกายทุก 4 ชั่วโมง
ห่มผ้าบางๆ เช็ดตัวลดไข้ ดูแลการได้รับยาลดไข้
ดูแลการได้รับน้ําวันละ 2-3 ลิตร
ดูแลการได้รับยาต้านจุลชีพ
เสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อในทางเดินหายใจ
ให้การพยาบาลโดยใช้หลัก airborne precaurtion
ปวดศีรษะเฉียบพลัน เนื่องจากการระคายเคืองของเยื่อหุ้มสมองสมอง
ประเมินอาการปวดและดูแลให้ได้รับยาแก้ปวด
เสี่ยงต่อการชักจากการระคายเคืองเยื่อหุ้มสมอง หรือการเพิ่มของความดันในกระโหลกศีรษะ
ประเมินอาการชักและดูแลให้ได้รับยากันชัก
จัดท่าเพื่อป้องกันการสําลัก
เฝ้าระวังอุบัติเหตุในขณะชัก
โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
การรักษา
การรักษาเฉพาะในระยะกําเริบ
การรักษาอาการต่างๆของโรค
อาการและอาการแสดง
เส้นประสาทตาอักเสบ
ไขสันหลังอักเสบ
Myasthenia gravis
อาการและอาการแสดง
กล้ามเนื้ออ่อนแรง
deep tendon reflex
หนังตาตก มองเห็นภาพซ้อน
การรักษา
การรักษาด้วยยากลุ่ม Anticholinesteraseinhibitors
การผ่าตัดต่อมธัยมัส
การให้ยากดภูมิคุ้มกัน
การกรองพลาสมา
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของระบบประสาทส่วนปลายหรือไขสันหลัง
โรคปวดเส้นประสาทใบหน้า
สาเหตุ/พยาธิสภาพ
การที่เส้นเลือดที่อยู่ใกล้เคียงกับเส้นประสาทใบหน้าคู่ที่ 5 ซึ่งควบคุมกล้ามเนื้อในการเคี้ยวอาหารและรับความรู้สึกบนใบหน้า เคลื่อนเข้ามาใกล้จนกดทับเส้นประสาท ทําให้การทํางานของเส้นประสาทผิดปกติไวต่อการกระตุ้น อาจเกิดจากการอักเสบเส้นประสาทจากโรค MS
อาการและอาการแสดง
ปวดแปลบคล้ายไฟช็อตที่บริเวณใบหน้า
อาจมีอาการคล้ายปวดฟัน
ปวดบริเวณเหงือก
การรักษาโรคปวดเส้นประสาทใบหน้า
การใช้ยา
การผ่าตัด
การฉายรังสี
โรคอัมพาตเบลล์ หรือโรคใบหน้าเบี้ยว
สาเหตุ/พยาธิสภาพ
การบวมอักเสบของประสาทใบหน้าคู่ที่ 7 ไม่ทราบแน่ชัด เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อโดยเฉพาะไวรัส
อาการและอาการแสดง
จะมีอาการอัมพฤกษ์ของใบหน้าเพียงด้านเดียว แต่ถ้าเป็นมากอาจมีอาการทั้งหน้า
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล/กิจกรรมทางการพยาบาล
เยื่อบุช่องปากผิดปกติเนื่องจากการรับความรู้สึกลดลง/กล้ามเนื้อในการเคี้ยวผิดปกติ
ประเมินเยื่อบุช่องปาก
ให้จิบน้ำบ่อยๆ รับประทานอาหารครั้งละน้อย เคียวให้ละเอียด
การสื่อสารผิดปกติเนื่องกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง
ให้กําลังใจ ไม่เร่งรีบเมื่อต้องพูดคุยกับผู้ป่วย
อธิบายว่ามีโอกาสหายได้ถ้าโรคไม่รุนแรง
แนะนําให้ผู้ป่วยพูดประโยคสั้นๆ พูดช้าๆ
ปวดเนื่องจากการอักเสบของเส้นประสาทสมอง
ประเมินอาการปวด
ดูแลให้ได้รับยาแก้ปวดตามแผนการรักษา
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีการบาดเจ็บของไขสันหลัง
สาเหตุ/พยาธิสภาพ
การบาดเจ็บหรือแรงกระแทกของกระดูกสันหลังทําให้ไขสันหลังถูกทําลาย ระบบประสาทอัตโนมัติทํางานผิดปกติ
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล/กิจกรรมทางการพยาบาล
แบบแผนการหายใจไม่ประสิทธิภาพ/ทางเดินหายใจไม่โล่ง/การแลกเปลี่ยนกาซบกพร่อง
มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนในทางเดินหายใจเนื่องจากถูกจํากัดการเคลื่อนไหว
ติดตามค่าออกซิเจนในเลือด
ให้ยาขยายหลอดลม ยาละลายเสมหะสอนใช้ Spirometer
ทํากายภาพบําบัด
กระดูกคอ C4 ขึ้นไปจะหายใจเองไม่ได้เนื่องจาก phrenic nerve และintercostal muscle เสียหน้าที่
ใส่ท่อและเครื่องช่วยหายใจ ในระยะยาวเจาะคอใส่เครื่องกระตุ้น phrenic nerve
กระดูกคอ C5 ถึง T6 ขึ้นไป กระบังลมทํางานได้แต่intercostal muscle เป็นอัมพาต
ให้ออกซิเจนเพียงพอ
ความดันต่ำจากการเปลี่ยนท่าเนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
หลีกเลี่ยงภาวะขาดน้ำ และแก้ไขภาวะ
ใช้ผ้ายืดพันขาทั้งสองข้าง ก่อนให้ผู้ป่วยลุกนั่ง
หลีกเลี่ยงการนอนนานหรือการเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็ว
ให้ปรับองศาของเตียงเพิ่มขึ้นทีละน้อย
กระตุ้นให้ลุกจากเตียงโดยเริ่มห้อยขาข้างเตียง
มีภาวะ Autonomic hyperreflexiaจากการบาดเจ็บไขสันหลัง
จัดท่านอนfowler
ดูแลให้รับยาลดBP
แนะนําผู้ป่วยเกี่ยวกับการดูแลตนเอง
Deep vein thrombosisเนื่องจากไม่มีการเคลื่อนไหวส่วนที่เป็นอัมพาต
วัดสัญญาณชีพ ใช้ผ้ายืดพันรอบขา ให้ดื่มน้ำเพียงพอวันละ 3 ลิตร งดการบริหารบริเวณนั้นเพราะเสี่ยง pulmonary embolism
ท้องอืดจากparalytic ileusใน complete cord compression
ใส่NG tube ต่อลงเครื่องดูดเพื่อลดแรงกดในช่องท้อง และลดคลื่นไส้อาเจียน NPOจนกว่าลําไส้จะเคลื่อนไหว ติดตามระดับเกลือแร่ ดูแลให้ยาลดกรด ประเมินภาวะขาดน้ำชั่งน้ำหนัก กระตุ้นดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตร
เสี่ยงติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะเนื่องจากกระเพาะปัสสาวะเป็นอัมพาต
spastic bladder hyperreflexiaถ้าบาดเจ็บที่เอว L1หรือสูงกว่า ทําให้ไม่สามารถรับรูความปวด และควบคุมการปัสสาวะไม่ได้ หรือ
areflexia ถ้าบาดเจ็บต่ํากว่าที่เอว L1ไม่สามารถรับรูความปวดเมื่อมีปัสสาวะเต็ม ทําให้ปัสสาวะค้างในกระเพาะปัสสาวะ
คาสายสวนปัสสาวะ 2-3 สัปดาห์หลังบาดเจ็บ
กระตุ้นดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร
วางสายสวนต่ำกว่าลําตัว
ดูแลความสะอาดของอวัยวะสืบพันธุ์
ติดตามลักษณะและผลตรวจปัสสาวะ
เมื่อพ้นระยะเฉียบพลัน สอนผู้ป่วยและญาติสวนปัสสาวะเป็นครั้งคราว ทุก 4-6 ชั่วโมง
เกิดแผลกดทับ
ทําความสะอาดร่างกายทุกครั้งหลังถ่ายหรือเปียกชื้น
ประเมินBraden scale
พลิกตัวทุก 2 ชั่วโมง
กระดูกพรุน กล้ามเนื้อลีบ
บริหารข้ออย่างน้อยข้อละ 10 ครั้ง วันละ 2 รอบ
จัดข้อต่างๆให้อยู่ในท่าเหมาะสม
มีการเกร็งของกล้ามเนื้อ หลังพ้นระยะช็อค4-6 สัปดาห์
จัดท่าให้เหมาะสม บริหารแขน ขา ให้ยาแก้ปวด
มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
จัดให้อยู่ในที่อุณหภูมิเหมาะสม
โรคปวดเส้นประสาทใบหน้า
สาเหตุ/พยาธิสภาพ
การยกของหนักด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้องบ่อยๆนั่งทํางานด้วยอิริยาบถที่ไม่ถูกต้องนานๆ
น้ำหนักตัวที่มากเกินไปหรือ อุบัติเหตุและการบาดเจ็บต่อกระดูกสันหลัง
อาการและอาการแสดง
ปวดหลังบริเวณเอวส่วนล่าง อาจปวดเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง มักมีอาการในท่านั่ง หรือมีการนั่งงอตัวไปทางด้านหน้า
อาการอื่นได้แก่ อาการปวดขาชาขาหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงโดยอาการปวดหรือชาขาจะเกิดตามแนวที่เส้นประสาทวิ่งไป
การรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท
รับประทานยาแก้อักเสบหรือยาคลายกล้ามเนื้อ
กายภาพบําบัด
การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าโพรงประสาท
การผ่าตัดหมอนรองกระดูก
โรคกระดูกสันหลังเคลื่อน
สาเหตุ/พยาธิสภาพ
ข้อต่อกระดูกสันหลังเสื่อมมาก หรือผิดปกติแต่กําเนิด
กระดูกสันหลังส่วน pars interarticularis หัก
อุบัติเหตุและการบาดเจ็บต่อกระดูกสันหลัง
อาการและอาการแสดง
ปวดหลังเรื้อรัง มักเกิดอาการในขณะที่มีการขยับหลังมาก
ปวดชา หนักที่บริเวณสะโพกหรือต้นขา 2 ข้าง
การรักษาโรคกระดูกสันหลังเคลื่อน
การผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงกระดูกสันหลังด้วยวิธีดั้งเดิมหรือวิธีเปิดแผลเล็ก
การผ่าตัดเชื่อมข้อกระดูกสันหลัง
โรคกระดูกสันหลังเคลื่อน
สาเหตุ/พยาธิสภาพ
เกิดจากความเสื่อมของอวัยวะในกระดูกสันหลัง ทั้งหมอนรองกระดูก เส้นเอ็น และข้อต่อ เมื่ออวัยวะเหล่านี้เกิดความเสื่อมขึ้น ขนาดจะใหญ่เพื่อเพิ่มความแข็งแรง การที่อวัยวะเหล่านี้ขยายขนาดทําให้โพรงประสาทที่มีเส้นประสาทอยู่ด้านในถูกเบียดหรือกดทับ ทําให้ปวดขึ้นตามเส้นทางที่เส้นประสาทนั้นวิ่งไป เมื่อมีการกดทับรุนแรงเข้าก็ทําให้การสั่งงานไปที่กล้ามเนื้อเสียไป ทําให้เกิดการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ
อาการและอาการแสดง
อาการที่หลัง:ปวดหลังเรื้อรัง อาการปวดมักอยู่ที่ส่วนกลางของเอวและมักเป็นมากขึ้นในท่ายืน เดิน หรือเมื่อมีการแอ่นหลังไปด้านหลังมากๆ
อาการที่ขา:มีได้ 3 แบบ คือ ปวด ชา หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
การรักษาโรคกระดูกสันหลังเคลื่อน
รับประทานยาแก้อักเสบหรือยาคลายกล้ามเนื้อ
กายภาพบําบัด
การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าโพรงประสาท
การผ่าตัด