Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาความผิดปกติของทางเดินหายใจ, image, image, image …

- - - - การพยาบาล
        
        อธิบายเหตุผลการให้ออกซิเจนอย่างคร่าวๆแก่ผู้ป่วยและญาติ เพื่อลดความวิตกกังวล
        2.ดูแลทางเดินหายใจให้โล่งเพื่อส่งเสริมการได้รับออกซิเจนโดยการจัดท่านอนให้ปอดขยายตัวได้เต็มที่หรือดูดเสมหะตามความจําเป็น
        3.ให้ได้รับน้ําอย่างเพียงพอเพื่อให้เสมหะอ่อนตัวขับออกง่าย
        
        ควรหมั่นดูแลทําความสะอาดปาก ทาริมฝีปากด้วยวาสลีน เนื่องจากผู้ป่วยมักมีปากแห่ง คอแห้ง ให้จิบน้ําบ่อยๆในกรณีไม่มีข้อห้ามในการจํากัดน้ํา
        
        ควรเช็ดทําความสะอาดใบหน้า โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ได้ออกซิเจนทาง mask
        
        ดูแลระบบออกซิเจนไม่ให้ข้อต่อสายยางหลุด เติมน้ํากระบอกทําความชื้นไม่ให้มาก/น้อยเกินไป
        7.วัดสัญญาณชีพประเมินสีผิวหนังค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดค่าABGเพื่อประเมินผล
        
        ประเมินระดับออกซิเจนเป้าหมาย (Target oxygen prescription) ในผู้ป่วยแต่ละราย ให้เป็นไปตามแผนการรักษา ดังนี้
        8.1 ในผู้ป่วยหนักโดยทั่วไป ระดับออกซิเจนเป้าหมาย คือ 94-98% 8.2 ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการเกิด Hypercapnic respiratory failure เช่นในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ระดับออกซิเจนเป้าหมาย คือ 88-92%
    - - 3.1 การเจาะปอด (thoracentesis/ thoracocentesis, pleural tap, needle thoracostomy)
        3.2 การใสทอระบายทรวงอก (tube thoracostomy, Intercostal drainage, ICD)
        3.3 การทํา Thoracotomy
- - - - การวินิจฉัย -ประวัติอาการของผู้ป่วย -การตรวจร่างกาย. ตรวจดูในลําคอ คลําต่อมน้ําเหลืองลําคอ และตรวจทางหูคอจมูก -การตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจย่อมเชื้อและ/หรือเพาะเชื้อจากสารคัดหลั่ง เสมหะหรือจากลําคอ, การตรวจเลือด CBC, ปัสสาวะ, การตรวจเลือดเพื่อดูสารก่อภูมิต้านทานโรคติดเชื้อต่าง ๆ
      - การรักษา 1.รักษาตามสาเหตุและการรักษาประคับประคองตามอาการ 2. ให้ยาปฏิชีวนะ 5-14 วัน หากมีลักษณะการติดเชื้อ GABHS
    - - การรักษา 1.การรักษาด้วยยา a.ยาปฏิชีวนะกลุ่มเพนิซิลลินหากแพ้ควรได้รับอีริโธรมัยซิน b.ยารักษาตามอาการ ยาแก้ปวด ลดไข้ดื่มน้ํามากๆ 2.การผ่าตัด: ผ่าตัดต่อมทอนซิล (Tonsillectomy) ผ่าตัดต่อมทอนซิลและอะดีนอยด์ (Tonsillectomy with adenoidectomy) หากอักเสบมากกว่า 4-5 ครั้งต่อปีติดต่อกัน 2 ปี เคยเป็นฝีรอบต่อมทอนซิล ต่อมทอนซิลโตหรือต่อมดีนอยด์โตมาก จนกลืนลําบากและหายใจไม่สะดวก หายใจมีเสียงดัง ต้องหายใจทางปากตลอดเวลา
      - ข้อวินิจฉัยการพยาบาลก้อนผ่าตัด: -ไม่สุขสบายเนื่องจากปวดจากมีการอักเสบของต่อมทอนซิล -มีไข้เนื่องจากการอักเสบและติดเชื้อ -พร่องความรู้ในการดูแลตนเองให้เหมาะสมกับโรค -วิตกกังวล เกี่ยวการผ่าตัด/ พร่องความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัด
    - - การรักษา
        1.กําจัดสาเหตุเช่น โรคหวัดภูมิแพ้ ริดสีดวงจมูก ฟันผุ
        2.การให้ยา
        3.การระบายน้ําหรือหนองในโพรงอากาศข้างจมูก
      - ข้อวินิจฉัยการพยาบาลกิจกรรมการพยาบาล
        -การหายใจไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากคัดจมูกและมี nasal packing -ปวดเนื่องจากเนื้อเยื่อได้รับบาดเจ็บ
        -มีโอกาสเลือดออกหลังผ่าตัด
        -เสี่ยงต่อการติดเชื้อเนื่องจากมีของเหลวคั่งข้างในช่องจมูก
        -วิตกกังวลเกี่ยวกับการดูแลตนเองหลังผ่าตัด เนื่องจากพร่องความรู้
        -พร่องความรู้ในการดูแลเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ําของโรค
    - - การรักษา
        
        การปฐมพยาบาลโดยบีบจมูกก้มหน้า ประคบเย็น ห้ามสั่งน้ํามูก ห้ามรับประทานยา aspirinหรือ ibuprofen จนกว่าจะห้ามเลือดได้ รายงานแพทย์ หากหายใจผิดปกติ
        
        การห้ามเลือด ขึ้นอยู่กับตําแหน่งเลือดออก
    - - การรักษา 1.การกําจัดริดสีดวงจมูกออกโดย ใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์พ่นจมูก เพื่อทําให้ยุบตัวลงและ การรักษาโดยการผ่าตัดมักใช้วิธี Functional endoscopic sinus surgery (FESS) ซึ่งให้การพยาบาล เช่นเดียวกับผู้ป่วยโพรงอากาศข้างจมูกอักเสบที่รักษาโดยการทํา FESS 2.การรักษาโรคที่เกิดร่วมและการป้องกันการเกิดซ้ําของริดสีดวงจมูก โดยตรวจสอบสาเหตุและกําจัดสาเหตุร่วมกับการรักษาโดยการกําจัดริดสีดวงจมูก
    - - การรักษา - การรักษาด้วยเครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (CPAP) -การรักษาด้วยทันตอุปกรณ์(oralappliance)-การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดทางเดินหายใจ- การรักษาอื่นๆ เช่นหลีกเลียงการนอนหงาย, การลดน้ําหนัก หรือการฝักกล้ามเนื้อคอหอยเพื่อเพิ่มแรงคงตัว เป็นต้น
- - - - กิจกรรมการพยาบาล ประเมินการหายใจฟังปอดทุก4ชั่วโมงดูแลการพักผ่อนและการได้รับอาหารและน้ําเพียงพอ ดื่มน้ําอุ่นมากๆ ดูแลให้ทางเดินหายใจชุ่มชื้น แนะนํา/ กระตุ้นให้ผู้ป่วยไอที่ถูกวิธี ขับเสมหะและบ่วนทิ้งทุก 2 ชั่วโมง และปิดปากทุกครั้ง รักษาความสะอาดปากและฟันล่างมือบ่อยๆ ดูแลให้ยาตามแผนการรักษา
    - - การรักษา วัณโรคสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยใช้ยา Isoniazid (INH), Rifampicin (R), Pyrazinamide (Z), Ethambutol(E),Streptomycin(S)จะใช้อย่างน้อย2ชนิดคือINHเป็นหลักร่วมกับยาอื่น1-3ชนิดระบบยามาตรฐานใช้เวลารักษาสั้นที่สุด 6 เดือน คือ 2HRZE (S)/4 HR มีตัวเลขจํานวนเดือนอยู่ด้านหน้าถ้ารับประทานยาไม่ต่อเนื่องจะเสี่ยงวัณโรคดื้อยา (MDR TB, XDR TB) ทําให้ระยะเวลาการรักษานานและรักษายากมากขึ้น ปัจจุบันมีการจัดยาเม็ดรวม 2, 3, หรือ 4 ขนาน (fix-dose combination มีหลักการกินยาแบบมีพี่เลี้ยง (Directly observed treatment, DOT) หรือผู้ดูแลสังเกตการกินยาและบันทึก ระหว่างการรักษาจะติดตามผลเสมหะอย่างน้อย3ครั้งคือหลังครบเดือนที่2ซึ่ง35-85%ผลเสมหะจะเปลี่ยนเป็นลบ และติดตามหลังครบเดือนที่ 5 และ 6 ถ้าพบผลบวก แสดงว่ารักษาไม่เหมาะสมหรือดื้อยา
    - - การรักษา-การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะในกรณีที่สงสัยว่ามีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้ออื่นๆ-การรักษาด้วยยาขยายหลอดลม ในรายที่ได้ยินเสียง Wheeze หรือ Rhonchi -การให้สารน้ําให้เพียงพอ แนะนําให้ดื่มน้ํามากๆ แพทย์อาจให้สารน้ําทางหลอดเลือดดํา -การให้ออกซิเจน ในรายที่หายใจเร็วหอบ กระวนกระวาย หรือซึม
    - - การรักษา 1. การให้ยาปฏิชีวนะ ครอบคลุมเชื้อที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิด empyema 2.การเจาะปอด(Thoracentesis)เพื่อระบายน้ําหรือหนองตรวจหาเชื้อก่อนให้ยาปฏิชีวนะ3) การผ่าตัดระบายทรวงอก (Surgical drainage) เช่น tube thoracostomy, thoracotomy โดยใช้ท่อระบายที่ใส่ใช้เบอร์ 28-32 Fr อาการและภาพถ่ายรังสีทรวงอกจะค่อยๆ ดีขึ้น ใน 24-48 ชั่วโมง ควรใส่ต่อจนน้ําที่ออกมาใสและปริมาตร<50ซีซี/วัน
        
        การพยาบาล - มีโอกาสเกิดปอดแฟบเนื่องจากพร่องความรู้เกี่ยวกับการบริหารปอด
    - - การรักษา เพื่อชลอพยาธิสภาพ
        
        1.การให้คําแนะนําเลิกสูบบุหรี่
        
        2.การให้วัคซีน influenza
        
        การฟื้นฟูสมรรถภาพ
        
        4.การให้ออกซิเจนอย่างต่อเนื่อง (longterm oxygen therapy, LTOT
    - - การรักษา
        1.การรักษาด้วยยา
        2.การรักษาที่ไม่ใช้ยา (non-pharmacological therapies)
    - - ข้อวินิจฉัยการพยาบาลมะเร็งปอด: ทางเดินหายใจไม่โล่งเนื่องจากการได้ยาระงับความรู้สึก/ปวดหลังผ่าตัดปอด