Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ - Coggle Diagram
ความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ
การประเมินผู้ใหญ่ในระบบต่อมไร้ท่อ
การตรวจร่างกาย
การประเมินสัญญาณชีพ (Vital signs)
ชีพจร
ชีพจร เร็ว พบใน ภาวะ hyperthyroidism
ภาวะชีพจรช้า พบในภาวะ hypothyroidism
อัตราการหายใจ ช้าน้อยกว่า 14 ครั้ง/นาที พบในภาวะ hypothyroidism
อุณหภูมิ
อุณหภูมิสูงพบใน ภาวะ hyperthyroidism, pheochromocytoma, diabetic ketoacidosis, Adrenal Cancer
ภาวะอุณหภูมิต่ำพบใน hypothyroidism, hypoglycemia
ความดันโลหิต
กรณีความดันสูง > 140/90 mmHg พบใน pheochromocytoma,
Hyperthyroidism, Acromegaly, Cushing’s syndrome
ถ้ามีความดันต่ำพบในภาวะ Addison’s disease
การตรวจสภาพร่างกายทั่วไป
การตรวจตามระบบต่างๆ
ลําคอ คลํา ดู ต่อมไทรอยด์ ฟังเสียง bruit ถ้าไทรอยด์โต ดูเส้นเลือดดํา jugular, ดูว่ามี buffalo hump
ผิวหนัง ดู ภาวะ Hypo/hyperpigmentation วงด่างของผิวหนัง
ใบหน้า เช่น คาง/หน้าผากยื่น ภาวะ Acromegaly
การกระจายของขน เช่นขนดก (hirsutism) ผมร่วง การเปลี่ยนแปลงของผม
รีเฟลกซ์ ถ้าเพิ่มขึ้นพบในภาวะ Hyperthyroidism, ถ้าลดลงพบใน hypothyroidism
การรับความรู้สึกของแขนขาเทียบกัน 2 ข้าง ถ้าลดลงพบได้ใน DM, hypothyroidism, Acromegaly
ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า,ระดับความสูง,น้ําหนักตัว, ค่า BMI,
โครงสร้างของร่างกาย,รอบเอว, มวลกล้ามเนื้อ
การตรวจทางห้อง ปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ
ารตรวจพิเศษดูการตอบสนอง ของต่อมไร้ท่อ
การตรวจพิเศษ เช่น การตรวจทางรังสีวิทยา เช่น X ray , CT ,MRI
เลือด ปัสสาวะ
การซักประวัติ
3 ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต
การติดเชื้อต่างๆ เช่น การติดเชื้อวัณโรค เชื้อรา ประวัติเบาหวาน, โรคต่อมหมวกไต ประวัติ การใช้ยาลดความดันโลหิต ยาสเตียรอยด์ ยาเม็ดคุมกําเนิด การสูบบุหรี่และการดื่มสุรา
4 ประวัติบุคคลและครอบครัว
ภาวะอ้วน ลงพุงและเบาหวาน
2 ประวัติการเจ็บป่วยในปัจจุบัน
กลุ่มที่ 2 รูปร่างใหญ่และสูงขึ้น
โรคเกี่ยวกับต่อมใต้สมอง
กลุ่มที่ 3 กระดูกและกล้ามเนื้อ ปวดหรือกดเจ็บ
โรคต่อมพาราไทรอยด์
กลุ่มที่ 1 หิวบ่อย กระหายน้ําบ่อย บวม มีอาการร้อนหรือหนาวมากกว่าปกติ
โรคเบาหวาน ไทรอยด์
กลุ่มที่ 4 ตาโปน คอโต ใจเต้นเร็วหรือเชื่องช้า อ่อนแรง
โรคต่อมไทรอยด์
5 แบบแผนสุขภาพที่เกี่ยวข้อง
1 ข้อมูลส่วนบุคคล
เพศ
อายุเป็นข้อมูลพื้นฐานที่สําคัญ
1 ความผิดปกติของตับอ่อน: Diabetes mellitus
เบาหวานมี 4 ชนิด
ชนิดที่ 1 (type I DM) เกิดจากการทําลายเบต้าเซลล์ที่ตับอ่อนจากภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดย ผ่านขบวนการ cellular mediated ส่วนใหญ่พบในคนอายุน้อย
ชนิดที่ 2 (type II DM) ผู้ป่วยเบาหวานส่วนใหญ่ (95%) เป็นชนิดที่ 2 เกิดจากภาวะดื้อต่ออิน สุลิน (insulin resistance) และมีความบกพร่องในการผลิตอินสุลิน (relative insulin deficiency)
เบาหวานจากการตั้งครรภ์ (gestational DM)
เบาหวานที่มีสาเหตุเฉพาะ (specific DM) เช่นมีความผิดปกติทางพันธุกรรม เบาหวานชนิดที่ 1 และ 2 พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
อาการแสดง
1) ถ่ายปัสสาวะจํานวนมาก
2) ดื่มน้ํามาก
3) น้ําหนักลด
4) รับประทานอาหารมากขึ้น
ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน
1) ภาวะแทรกซ้อนเรื้อรัง
1.1 ภาวะแทรกซ้อนทางหลอดเลือดขนาดใหญ่
กล้ามเนื้อหัวใจ ตาย โรคหลอดเลือดสมอง ฯลฯ
1.2 ภาวะแทรกซ้อนทางหลอดเลือดขนาดเล็ก
ภาวะแทรกซ้อนทางตา (diabetic retinopathy) มักพบมีจอตา (retina) เสื่อม (non- proliferative diabetic retinopathy, NPDR)
1.3 ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท
มีปัญหาสูญเสียการรับความรู้สึก ชาตามปลายมือ ปลายเท้า
2) ภาวะแทรกซ้อนชนิดเฉียบพลัน
การประเมินสภาพผู้ป่วย
การตรวจร่างกาย
ระบบหัวใจและหลอดเลือด วัด BP ฟัง carotid bruit คลํา dorsalis pedis, posterior tibial
ตา ประเมินภาวะแทรกซ้อนที่จอประสาทตาและต้อกระจก
ผิวหนัง ผิว แห้ง แตก หรือการติดเชื้อ
เท้า ลักษณะเท้าผิดรูป แผล ตาปลา
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ลตรวจพลาสมากลูโคสเมื่ออดอาหาร 8 ชั่วโมง (Fasting plasma glucose, FPG) มีค่า126 มก./ ดล. หรือมากกว่า (ค่าปกติ < 100)
การตรวจความทนต่อกลูโคส 75 กรัม ค่าหลังตรวจ 2 ชั่วโมง มีค่า 200 มก./ ดล. หรือมากกว่า (ค่าปกติ < 140)
ตรวจพลาสมากลูโคสโดยไม่ต้องอดอาหาร หาก 200 มก./ ดล. ให้วินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน
ค่า A1C 6.5% หรือมากกว่า (ค่าปกติ < 5.7%)
การซักประวัติ
อาการของเบาหวาน
อาการของภาวะแทรกซ้อนเบาหวาน
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อาหาร การออกกําลังกาย
การตรวจคัดกรองโรค
3) เป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือรับประทานยาลดความดันโลหิตอยู่
4) ระดับไขมันในเลือดผิดปกติ
2) ความอ้วน (BMI >=25 กก./ม.2 และ/หรือรอบเอวเกินมาตรฐาน*)
5)มีประวัติเป็นโรคเบาหวานในขณะตั้งครรภ์ หรือคลอดบุตรที่มีน้ําหนักเกิน 4 กิโลกรัม
1) อายุ 35 ปีขึ้นไป
6) เคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น impaired glucose tolerance หรือ impaired fasting glucose
7) มีโรคหัวใจและหลอดเลือด
การรักษา
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิต
1.1 การควบคุมอาหาร
เลือกอาหารที่มีดัชนีน้ําตาล (glycemic index ต่ำ )
1.2 การออกกําลังกาย
การออกกําลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกําลังกายควรตั้งเป้าหมายและประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจ
แนะนําให้ออกกําลังกายแอโรบิคสม่ำเสมอ ร่วมกับการออกแบบแรงต้าน
การใช้ยาควบคุมระดับน้ําตาลในเลือด
2.1 ยาเม็ดลดน้ําตาลในเลือด
2) กลุ่มลดภาวะดื้ออินสุลิน
3) กลุ่มที่ยับยั้ง เอนไซม์ alpha glucosidase
1) กลุ่มกระตุ้นการหลั่งอินสุลินจากตับอ่อนเพิ่มขึ้น
4) กลุ่มยับยั้ง sodium-glucose co-transporter (SGLT-2 receptor) ที่ไต
2.2 ยาฉีดอินซูลิน
อินซูลินออกฤทธิ์นานปานกลาง
peak 4- 8 ชั่วโมง duration 12-20 ชั่วโมง
อินซูลินออกฤทธิ์เร็ว
peak 1-2 ชั่วโมง duration 12-20 ชั่วโมง
อินซูลินออกฤทธิ์สั้น
peak 2-3 ชั่วโมง duration 4-8 ชั่วโมง
อินซูลินออกฤทธิ์ยาว
peak ไม่มี duration 18- 36 ชั่วโมง แล้วแต่ชนิด
คําแนะนํา
ตรวจหาระดับน้ําตาลในเลือดจากปลายนิ้วทันที เมื่อมีภาวะน้ําตาลในเลือดต่ำ
แนะนําให้ผู้ป่วยฝึกสังเกตอาการ และค้นหาสาเหตุของภาวะน้ําตาลในเลือดต่ำ
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยาแก้คลื่นไส้ อาเจียน
ดูแลให้ได้อาหารเพียงพอ
หากเกิดอาการภาวะน้ําตาลในเลือดต่ำ โดยให้ดื่มน้ําหวาน 1 แก้วแล้วนอนพักทันที ฯลฯ
อธิบายให้ผู้ป่วยทราบถึงสาเหตุ
การสูบบุหรี่
แนะนําให้หยุดสูบบุหรี่ รวมยาสูบรูปแบบอื่นหรือบุหรี่ไฟฟ้า
การมาตรวจตามนัด
ติดตามผลการรักษาและประเมินสภาพของ โรคเป็นระยะ ๆ และถ้าพบความผิดปกติจะได้รักษาได้ทันท่วงที
2 ความผิดปกติของต่อมใต้สมอง: Pituitary tumor, Diabetes insipidus, SIADH
8.2.1 ภาวะผิดปกติของต่อมใต้สมอง
8.2.2.2 ภาวะเบาจืด (Diabetes insipidus, DI)
ร่างกายไม่สามารถรักษาสมดุลน้ําได้ ผู้ป่วยมีอาการกระหายน้ํามาก ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะมาก เกิดจากภาวะพร่อง antidiuretic hormone (ADH)
การประเมินสภาพ
การซักประวัติ สาเหตหรือปัจจัยเสี่ยง อาการ
การตรวจร่างกายพบ
ภาวะขาดน้ํา:ผิวแห้งตาลึกน้ําหนักลด
ภาวะโซเดียมสูง เช่น ระดับความรู้สึกตัวลดลง กระหายน้ํา
ความถ่วงจําเพาะปัสสาวะต่ำ ระดับโซเดียมในเลือดสูง
การรักษา
ให้ vasopressin และ vasopressin tannate ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือให้ lypressin โดยพ่นทางจมูก
อาการและอาการแสดง
ขาดน้ํา: ผิวหนังแห้ง น้ําหนักลด เบื่ออาหาร ท้องผูก
ปัสสาวะมีความถ่วงจําเพาะต่ำ (Sp.gr < 1.005)
กระหายน้ํามาก ดื่มน้ํามาก อ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง ฉุนเฉียวง่าย ปวดศีรษะ
หัวใจเต้นเร็ว หรืออาจถึง shock ถ้าให้น้ําทดแทนไม่ทัน
ปัสสาวะมาก ประมาณ 5-20 ลิตรต่อวัน หรือถ่ายปัสสาวะทุก 1⁄2 -1 ชั่วโมง
8.2.2.3 ภาวะ Syndrome of Inappropriate ADH Secretion (SIADH)
มีภาวะน้ําเกินโดยปริมาณน้ําในร่างกายมากกว่าปกติทั้งภายในและนอกเซลล
การวินิจฉัย SIADH
ปริมาณน้ําในร่างกายปกติ หรือเกินเล็กน้อย
ปริมาณโซเดียมในปัสสาวะสูง ขณะที่ผู้ป่วยได้รับเกลือและน้ําในปริมาณปกติ
โซเดียมในปัสสาวะ > 20 มิลลิโมล/ลิตร และ osmolality ในปัสสาวะ > 100 mOsm/kg ในขณะที่มี osmolality ในปัสสาวะต่ำ
ผู้ป่วยต้องไม่มีภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมน hypocortisolism ไม่มีการใช้ยาขับปัสสาวะ หรือความผิดปกติของตับและไต
ค่า osmolality ในเลือด < 280 mOsm/kg และผู้ป่วยต้องไม่มี pseudohyponatremia
การรักษา SIADH
สารน้ําทางหลอดเลือดดํา ชนิด normal saline
รักษาสาเหตุของ SIADH เช่น โรคมะเร็ง
การจํากัดน้ํา (Fluid restriction) วันละ 500-800 มิลลิลิตร
การให้ยาขับปัสสาวะ furosemide 1 mg/Kg
8.2.1.1 เนื้องอกของต่อมใต้สมอง (Pituitary tumor หรือ Pituitary adenoma )
การประเมินสภาพ
การตรวจร่างกาย การตรวจระบบประสาท การมองเห็น
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ/ การตรวจพิเศษ
(CT scan)
การตรวจการทํางานของต่อมไร้ท่อ
(X-Ray)
การซักประวัติ อาการ
การรักษา
การรักษาทางยา
hydrocortisone, thyroid hormone, growth hormone, pitressin, estrogen และ androgen
รังสีรักษา (Radiation therapy)
การผาตัด
1.1 การผาตัดแบบเปดกะโหลก (transcranial approach)
1.2 การผาตดั ผานกระดูกสฟนอยด (transsphenoidal approach)
อาการและอาการแสดง
ประสาทตาทําให้การมองเห็นผิดปกติ หรืออาจทําให้เกิดภาวะความดันภายในกะโหลกศีรษะสูง
เนื้องอกสร้างฮอร์โมนมากเกินปกติ
การพร่องฮอร์โมน