Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Posterior Hip Dislocation Lt - Coggle Diagram
Posterior Hip Dislocation Lt
ความหมายของโรค
ข้อสะโพกเคลื่อน โดยข้อสะโพกจะเป็นข้อต่อที่มีความแข็งแรงและมั่นคง เนื่องจากเป็นข้อต่อชนิด ball and socket ที่มีกระดูกเบ้าสะโพกคลุมหัว สะโพกอยู่ประมาณร้อยละ 74 มีเยื่อหุ้มข้อและกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ช่วยให้ความมั่นคงแก่ข้อสะโพก ดังนั้นแรงกระทำที่จะก่อให้เกิดการเคลื่อนของสะโพกออกจากเบ้าได้ จึงจำเป็นต้องเป็นแรงกระทำที่รุนแรงมาก เช่น อุบัติดหตุทางจราจรหรือ ตกจากที่สูง
กรณีศึกษา : ผู้ป่วยเกิดอุบัติเหตุทางจราจร
การักษา
ข้อตะโพกหลุดถือว่าเป็น emergency ต้องทำการ reduce ให้ได้ภายใน 12 ชั่วโมง เริ่มจากการทำ closed reduction ถ้าไม่สามารถทำได้ จึง open reduction การทำ open reduction ทำในผู้ป่วยที่ ทำ closed reduction ไม่ได้
จากกรณีศึกษาผู้ป่วย : ผู้ได้ทำ closed reduction with skin traction
การจำแนก
ข้อสะโพกเคลื่อนหลุดไปด้านหลัง (posterior dislocation) เป็นการเคลื่อนหลุดของข้อสะโพกที่พบบ่อยสุด เกิดจากการกระแทกบริเวณหน้าเข่า ในท่างอเข่า งอสะโพก และหุบขา ซึ่งหากงอสะโพกมากและขาหุบเข้าใน หัวกระดูกตันขาจะหลุด โดยไม่ทำให้เกิดการแตกของเบ้าสะโพก (simple dislocation) แต่หากงอสะโพกไม่มากและขากางออก หัวกระดูกต้นขาจะกระแทกกับเบ้าสะโพก ทำให้เกิดการแตกของกระดูกเบ้าสะโพก (fracture
dislocation)
กรณีศึกษา : แพทย์วินิจฉัยเป็น Posterior Hip Dislocation
ข้อสะโพกเคลื่อนหลุดไปด้านหน้า (anterior dislocation) พบประมาณร้อยละ 10 เกิดจากแรงกระทำในท่ากางขา และหมุนต้นขาออก
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะหัวกระดูกขาดเลือด พบได้ประมาณร้อยละ 5-40 ของการบาดเจ็บ อัตราการเกิดสัมพันธ์กับระยะเวลา ที่สะโพกหลุด ความรุนแรงของอุบัติเหตุ และจำนวนครั้งที่พยายามดึงสะโพกให้เข้าที่
ข้อสะโพกเสื่อม เป็นภาวะแทรกซ้อนระยะยาวและสัมพันธ์โดยตรงกับข้อสะโพกเคลื่อนหลุดที่มีการแตก ของหัวกระดูกต้นขา หรือเบ้าสะโพกร่วมด้วย
การบาดเจ็บของเส้นประสาท Sciatic พบประมาณร้อยละ 10-20 เกิดจากเส้นประสาทถูกดึงรั้งในขณะที่สะโพกเคลื่อนหลุด พยากรณ์โรดพบว่ามีเพียงร้อยละ 50 ที่เส้นประสาทกลับมาทำงานปกติ
ข้อวินิจฉัย
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะท้องผูกเนื่องจากการเคลื่อนไหวของร่างกายลดลง
ข้อมูลสนับสนุน
O : ผู้ป่วย on skin traction 2 kg.
จุดมุ่งหมายและเกณฑ์การประเมิน
จุดมุ่งหมาย : ผู้ป่วยไม่เกิดภาวะท้องผูก
เกณฑ์การประเมิน : ผู้ป่วยไม่มีภาวะท้องผูก
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินการขับถ่ายอุจจาระทุกวัน
กระตุ้นให้ได้รับน้ำมากๆ 2000 ถึง 3000 cclวัน
แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีกากมาก เช่น ผัก ผลไม้ ฯลฯ เพื่อช่วยกระตุ้นการขับถ่าย
สังเกตลักษณะ และระยะเวลาในการขับถ่าย
ฟัง Bowel sound (วันละ 1-2 ครั้งเช้า-เย็น)
การประเมินผล
ผู้ป่วยไม่มีอาการท้องผูก
ปวดบริเวณข้อและกล้ามเนื้อ
ข้อมูลสนับสนุน
s: ผู้ป่วยบอกว่า "ปวดบริเวณขาที่ทำ skin traction"
o: pain score 6
จุดมุ่งหมายและเกณฑ์การประเมิน
จุดมุ่งหมาย : ผู้ป่วยไม่มีอาการปวดเพิ่มมากขึ้น
เกณฑ์การประเมิน : pain score น้อยกว่า 5 และผู้ป่วยไม่บ่นปวด
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินความปวด
2.จัดท่านอนให้เหมาะสมกับการรักษา
3.จัดสิ่งแวดล้อมให้เงียบสงบ เพื่อให้ผู้ป่วยได้พักผ่อนได้เพียงพอ
4.ลดการเคลื่อนไหวบริเวณขาที่ on skin traction
5.ให้การพยาบาลอย่างนุ่มนวล
6.ให้ยาแก้ปวดตามแผนการรักษา
7.ประเมินอาการปวดหลังจากการได้รับยา
การประเมินผล
pain score 2
ผู้ป่วยไม่บ่นปวด
D-METHOD
D-Diagnosis
posterior hip dislocation คือ ภาวะที่สะโพกเคลื่อนผิดรูปไปด้านหลัง สาเหตุที่ให้เกิดภาวะนี้ การรับได้รับกระทบกระทืนอย่างรุนแรงบริเวณสะโพก
M-Medicine
แนะนำการใช้ยาที่ตนเองได้รับอยางละเอียด สรรพคุณของยา ขนาด วิธีใช้ ข้อควรระวังในการใช้ยา ตลอดจนการสังเกตภาวะแทรกซ้อนรวมทั้งข้อห้ามการใช้ยาด้วย
E-Environment
การจัดการสิ่งแวดล้อมบริเวณบ้านให้เหมาะสมกับภาวะสุขภาพให้เหมาะสมกับภาวะสุขภาพ เช่น ควรเปลี่ยนชักโครกนั่งยองเป็นเป็นแบบนั่งราบ เนื่องจากผู้ป่วยที่มีปัญหาข้อสะโพกเคลื่อนไม่ควรให้สะโพกอยู่ต่ำกว่าหัวเข่า หรืองอมากกว่า 90 องศา
T-Treatment
แนะนำการใช้ไม้ค้ำยันสำหรับ และแนะนำหากมีอาการผิดปกติ หรือมีภาวะแทรกซ้อนให้รีบมาพบแพทย์ทันที
D-Diet
อาหารที่เหมาะสมสำหรับการฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วยสะโพกหลุดเช่น กลุ่มปลาทะเล ปลาเล็กปลาน้อย และกุ้งแห้ง กลุ่มนม และโยเกิร์ต กลุ่มผลไม้ กีวี กล้วย และมะละกอ กลุ่มถั่วเมล็ดแข็ง พืชตระกูลถั่ว งาดำ และเต้าหู้ก้อน และ กลุ่มผักตระกูลกะหล่ำ
H-Health
แนะนำการบริหารร่างกายเพื่อฟื้นฟูร่างกายสำหรับผู้ป่วยสะโพกหลุด เช่น การกระดกข้อเท้า และการนอนตะแคง
O-Out patient
แนะนำให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์ตามนัด เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย