Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาความผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ, image,…
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาความผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ
กระบวนการพยาบาลผู้ป่วยที่มีโรคหรือผิดปกติของหลอดเลือดดำ
ภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดดําลึกส่วนปลายหรือลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดํา (Deep vein thrombosis, DVT)
ภาวะนี้อาจเปนสาเหตุของการตายได้ หากก การเกิดลิ่มเลือดในระยะยาวจะเกิดการทําลายลิ้นของหลอดเลือดดําและหรือมี thrombus ค้างอยู่ ทําให้ ขาบวมปวด มีแผลเรื้อรัง
ภาวะเส้นเลือดขอด (Varicose vein)เป็นความผิดปกติของหลอดเลือดดําบริเวณใต้ผิวหนัง (Superficial Vein) เนื่องจากลิ้นที่กั้นใน หลอดเลือดดําเสียหน้าที่ ทําให้ไม่สามารถไล่เลือดดํากลับสู่หัวใจได้ เกิดการคั่งของเลือดในหลอดเลือดดํา ทําให้หลอดเลือดดําขยายตัวกว้างขึ้น ยาวขึ้นและคดเคี้ยว พบบ่อยบริเวณขา น่อง ข้อเท้าและหลังเท้า สาเหตุไม่ชัดเจน ปัจจัยเสริมได้แก่การยืนนานๆ การตั้งครรภ์ ความร้อน การถูกผูกรัด เช่น การใส่ถุงน่อง ที่คับเกินไป เป็นต้น
ภาวะหลอดเลือดดําอักเสบ (Thrombophlebitis)การอักเสบของผนังหลอดเลือดดําร่วมกับการมีลิ่มเลือดเกาะผนังด้านในของหลอดเลือด มักเกิด ภายหลังการอักเสบของหลอดเลือดดํา ซง่ึ มีผลให้ผนังด้านในหลอดเลือดไม่เรียบ เมื่อมีการไหลเวียนของ เลือดไหลช้าลงหรือมีการคั่งค้างของเลือด และมีความผิดปกตขิ องการแข็งตัวของเลือด จะส่งผลให้ลิ่มเลือด ใหญข่ึ้นเกิดการอุดตันในหลอดเลือดดําหรือลิ่มเลือดหลุดไปกลายเป็นก้อน(Emboli)ไปอุดตันหลอดเลือด ของสมอง หัวใจ หรือปอด ทําให้อันตรายถึงชีวิตได้
ระบบหัวใจและหลอดเลือดผิดปกติอาจเกิดจากการทํางานของหัวใจผิดปกติทำให้ประสิทธิภาพ ในการบีบตัวและปริมาตรที่ออกจากหัวใจลดลงหรือเกิดจากการมีปริมาตรเลือดลดลงจากภาวะเลือดออก หรือการมปีริมาตรเลือดในหัวใจเพิ่มขึ้นในภาวะหัวใจล้มเหลวส่งผลให้ร่างกายได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่ เพียงพอเกิดภาวะขาดออกซิเจนนําไปสู่ภาวะหัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตได้
อาการสําคัญระบบหัวใจและหลอดเลือดที่พบบ่อยคือ เหนื่อยหอบ เจ็บหน้าอก เขียว เป็นลม ใจสั่น และบวม
หายใจลำบากหรือเหนื่อยหอบ
เจ็บหน้าอกหรือเจ็บอก
ภาวะตัวเขียว
ใจสั่น
หมดสติชั่วคราวหรือเป็นลม
บวม
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาความผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือด
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีโรคหรือผิดปกติของหัวใจ
โรคหลอดเลือดแดงโคโรนารี (Coronary artery disease, CAD)โรคหลอดเลือดแดงโคโรนารี โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary heart disease, CHD) โรคหัวใจ ขาดเลือดหรือโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Ischemic heart disease, IHD) เป็นโรคที่พบบ่อบ ภาวะแทรกซ้อนที่สําคัญคือ กล้ามเนื้อหัวใจตาย หากได้รับการรักษาไม่ทันจะเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจวาย ช็อกจากหัวใจ หัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิต
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ชนิดหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว
ภาวะหัวใจห้องบนสั่น (Atrial fibrillation, AF)
1) การรักษาด้วยยา 1.1 ยาเพื่อให้ EKG เป็น sinus rhythm เช่น Amiodarone ซึ่งต้องระวัง QT prolong 1.2 ยากลุ่มอื่นเพื่อควบคุม ventricular response และป้องกัน clot จะใช้ยาที่มีฤทธิ์กด AV node ได้แก่ 1) ยาปิดกั้นเบตา เช่น Carvedilol 2) ยาปิดกั้นแคลเซียม เช่น Verapamil, Diltiazem 3) ยาดิจิทาลิส Digoxin 2) การช็อกหัวใจด้วยไฟฟ้า (cardioversion) เพื่อปรับอัตราการเต้นของหัวใจใหม่ ซึ่งต้องระวัง การเกิดลิ่มเลือด จะต้องให้ Heparin หาก AF เกิดขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง 3) การจี้ด้วยไฟฟ้า (radiofrequency ablation) 4) การรักษาด้วยการผ่าตัด (AF surgery)
การสวนหัวใจ และพิจารณาเปิดหลอดเลือดหัวใจ
การเปิดหลอดเลือดโดยใส่สายสวนเข้าหลอดเลือดหัวใจ เพื่อใช้ บอลลูนขยายหลอดเลือดที่อุดตัน จากนั้นจะใส่ลมเข้าไปตรงตําแหน่งของหลอดเลือดที่ตีบแคบ แรงกดจะ ดันผนังของหลอดเลือดที่ตีบแคบให้ขยายออก ทําให้เลือดไหลผ่านหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ หัวใจได้มากขึ้น
การขยายหลอดเลือดโดยการใช้บอลลูนร่วมกับเครื่องมือใหม่ (Percutaneous Coronary Intervention, PCI) คือ การนําเอาเทคโนโลยีใหม่มาใช้เพื่อลดการตีบซ้ํา
การผ่าตัดทําทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ หรือ การทําทางเดินของหลอดเลือดใหม่ (Coronary Artery Bypass Grafting, CABG หรือ Bypass) เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจในเส้นทาง ใหม่ โดยใช้หลอดเลือดเสริม (Graft) ด้านหนึ่ง ไปต่อที่ใต้จุดของหลอดเลือดหัวใจแดงเดิมท่ีตีบหรือตัน และอีกด้านหน่ึงไปต่อกับหลอดเลือดแดงใหญ่ (Aorta) ส่งผลให้เลือดจากหลอดเลือดแดงใหญ่ไหลเวียน ไปตามหลอดเลือดแดงเสริม อ้อมการอุดตันและไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้
การพยาบาลผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจผิดปกติ (Cardiac valvular disease, Valvular heart disease, Heart valve disease)
โรค Mitral Stenosis สาเหตุ ส่วนใหญ่มาจากโรค ไข้รูมาติคที่ทําให้ลิ้นหัวใจ และ ส่วน chordae tendineae แข็ง เมื่อเป็นนานกล้ามเนื้อส่วนนี้จะเชื่อมเข้า หากัน ทําให้ลิ้นหัวใจไมทรัลตีบแคบ ยับยั้งเลือดลงสู่เวนตริเคิล
โรค Mitral Regurgitationลิ้นปิดไม่สนิท ทําให้การมีเลือดย้อนกลับจาก left ventricle สู่ left atrium
โรค Aortic Stenosis เจ็บอกจากความต้องการออกซิเจนเพิ่มขึ้น จากกล้ามเนื้อหัวใจโตขึ้น
โรค Aortic Regurgitation การอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจเช่น Endocarditis, Syphilis และ Dissecting aneurysm ทําให้ เกิดการผิดรูปของส่วนของลิ้นปิดเปิด (leaflets) ของ aortic valve ทําให้มีการไหลย้อนกลับของเลือด จาก aorta เข้าสู่ left ventricle ในช่วงหัวใจคลายตัว
ภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart failure)เป็นกลุ่มอาการทางคลินิกรวมถึงกระบวนการทางสรีรวิทยาที่เกิดจากความผิดปกติในการทํางาน ของหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจไม่สามารถบีบตัวส่งเลือดไปสู่เนื้อเยื่อให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของหัวใจเนื่องจากการอักเสบติดเชื้อ
การอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ (Myocarditis)การอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ (myocardium) สาเหตุจากเชื้อต่างๆ เช่น ไวรัส แบคทีเรีย อาจ เกิดภายหลังโรค rheumatic fever
การอักเสบของเยื่อหุ้มหัวใจ (Pericarditis)การอักเสบของเยื่อหุ้มหัวใจ (pericardium) การอักเสบทําให้เกิดน้ํา ภายใน pericardial sac
การอักเสบที่เยื่อบุหัวใจ (Infective Endocarditis)การอักเสบที่เยื่อบุหัวใจ (endocardium) หรือลิ้นหัวใจ (valve) สาเหตุ ได้แก่ Staphylococcus aureus, Streptococci viridans, Enterococci และ Streptococcus bovis หรือ fungi และ rickettsia ความผิดปกติส่วนใหญ่เกิดที่ลิ้นหัวใจข้างขวาและส่วน chordae tendineae
การพยาบาลผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อมหรือกล้ามเนื้อหัวใจพิการ (Cardiomyopathy)
โรคของกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม แบ่งเป็น 5 ชนิดคือ 1) dilated cardiomyopathy 2) hypertrophic cardiomyopathy 3) restrictive carโรคของกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม แบ่งเป็น 5 ชนิดคือ 1) dilated cardiomyopathy 2) hypertrophic cardiomyopathy 3) restrictive cardiomyopathy 4) arrhythmogenic right ventricular cardiomyopathy and 5) unclassified cardiomyopathy อาการและอาการแสดงขึ้นกับ ชนิดและขนาดความรุนแรง ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการ กล้ามเนื้อหัวใจเสื่อมชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด คือ Dilated cardiomyopathy, DCM) เป็น พบในช่วงอายุ 20-60 ปี พบในชายมากกว่าหญิงdiomyopathy 4) arrhythmogenic right ventricular cardiomyopathy and 5) unclassified cardiomyopathy อาการและอาการแสดงขึ้นกับ ชนิดและขนาดความรุนแรง ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการ กล้ามเนื้อหัวใจเสื่อมชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด คือ Dilated cardiomyopathy, DCM) เป็น พบในช่วงอายุ 20-60 ปี พบในชายมากกว่าหญิง
กระบวนการพยาบาลผู้ป่วยที่มีโรคหรือผิดปกติของหลอดเลือดแดง
ภาวะความดันโลหิตสูง (Hypertension)
ความดันโลหิตสูง หมายถึง ภาวะที่มีความดันตัวบน (systolic pressure, SBP) มากกว่าหรือ เท่ากับ 140 มม.ปรอทหรือ ความดันตัวล่าง (diastolic pressure) มากกว่าหรือเท่ากับ 90 มม.ปรอท เมื่อวัดที่สถานพยาบาล
ภาวะหลอดเลือดแดงโป่งพอง (Arterial Aneurysm)ความผิดปกติที่หลอดเลือดแดงใหญ่ทําให้มีขนาดใหญข่ึ้นผนังหลอดเลือดแดงบางลงเกิดการปริ และรั่วซึมทําให้มีเลือดคั่งในช่องอกหรือช่องท้องเส้นเลือดที่มขีนาดใหญ่มากจะมีโอกาสแตกมากขึ้นหาก ไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงที จะมีโอกาสเสียชีวิตแทบทุกราย สาเหตุได้แก่ โรคหลอดเลือดแดงแข็ง ความ ดันโลหิตสูง ความผิดปกติของหลอดเลือดที่ทําให้มีการอักเสบภายในหลอดเลือด การติดเชื้อราหรือ แบคทีเรียหรือการบาดเจ็บ ปัจจัยเสี่ยงได้แก่ การสูบบุหรี่ อายุ 65ปีขึ้ นไป เพศชาย มีประวัติในครอบครัวการโป่งพองของหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้อง (Abdominal aorta aneurysm,AAA) จะมี ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพิ่มขึ้น > 50% ของปกติ ถ้าหากแตก (rupture) จะทําให้ผู้ป่วยมีโอกาสเสียชีวิตสูง
ภาวะ Arterial occlusion
หลอดเลือดแดงมีการอุดตัน ทําให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อได้น้อยลง ช้าลง ไม่เพียงพอกับความ ต้องการของร่างกายส่งผลให้เนื้อเยื่อขาดออกซิเจนทําให้ปวดชาอ่อนแรงบริเวณขาซดี เย็นคลําชีพจร ที่เท้าไม่ได้ เกิดเนื้อตาย สาเหตุจากหลอดเลือดตีบแข็งจากมีไขมันมาสะสมอยู่ที่ผนังของหลอดเลือด ปัจจัยเสี่ยงที่สําคัญคือ ภาวะไขมันในเลือดสูง ภาวะน้ําตาลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ขาดการออก กําลังกาย ประวัติสูบบุหรี่ และความเครียด