Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การตกเลือดหลังคลอด(postpartumhemorrhage)(PPH) - Coggle Diagram
การตกเลือดหลังคลอด(postpartumhemorrhage)(PPH)
การตกเลือดหลังคลอด หมายถึง การที่มารดาหลังคลอดมีเลือดออกหลังการคลอดบุตร
บุตรทางช่องคลอดแล้วใน ปริมาณที่มากกว่า 500 cc. หรือ ร้อยละ 1 ของน้ําหนักตัวมารดาหลังคลอด
ในกรณีผ่าตัดคลอด เสียเลือด มากกว่า 1,000 cc.
การตกเลือดหลังคลอดมี 2 ระยะ
การตกเลือดหลังคลอดในระยะแรก (early or immediate or primary postpartum hemorrhage) เกิดภายใน 24 ชั่วโมง ชั่วโมงแรกหลังคลอดโดยรวมระยะที่สามของการคลอดด้วย สาเหตุที่สําคัญคือ 4 T
4 T
1.1.1 การหดรัดตัวของมดลูกไม่ดี (Tone)
1.1.2 หนทางคลอดฉีกขาด (Trauma)
1.1.3 รกค้าง (Tissue)
1.1.4 ความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด (Thrombin)
การตกเลือดหลังคลอดในระยะหลัง (late or secondary postpartum hemorrhage) เกิดหลัง 24 ชั่วโมง ไปจนถึง 6 สัปดาห์หลังคลอด
1.2.1 เศษรกหรือเยื่อหุ้มเด็กค้าง อาจเป็นเศษเนื้อรก หรือรกน้อย หรือเยื่อหุเมทารก ค้างในโพรง มดลูก ซึ่งพบได้บ่อย ส่วนใหญ่จะมีอาการเลือดออกภายหลังคลอดประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งเป็น ระยะที่ decidua ที่บุโพรงมดลูกมีการสลายตัวมากที่สุด เศษรกจึงหลุดออกมาหลอดเลือดบริเวณนี้จึงเปิดออก
1.2.2 มดลูกเข้าอู่ช้า (sub involution) อาจมีการอักเสบของเยื่อบุภายในโพรงมดลูกร้วมด้วย อาการส่วนใหญ่เกิดขึ้น ภายหลังคลอดเลย 5 สัปดาห์ไปแล้ว
1.2.3 เลือดออกจากแผลในทางคลอด เกิดขึ้นได้จากการอักเสบติดเชื้อลุกลามออกไปจนหลอด เลือดบริเวณดังกล่าวเปิดออก มักเกิดในระหว่างสัปดาห์ที่ 2 หลังคลอด
1.2.4 ภาวะติดเชื้อในโพรงมดลูก
1.2.5 สาเหตุอื่นๆ เช่น เนื้องอกของตัวมดลูก ตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก เป็นตน
อาการและอาการแสดง
อาการและอาการแสดงขึ้นอยู่กับสาเหตุ ปริมาณ ระยะเวลาในการเสียเลือด สุขภาพของมารดาและ
ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ อาการและอาการแสดงที่พบ ได้แก่
มีเลือดออกทางช่องคลอดลักษณะแตกต่างกันตามสาเหตุ
1.1 มดลูกหดรัดตัวไม่ดี เลือดที่ออกมาจะเป็นสีคล้ำ มีลิ่มเลือดปน
1.2 การฉีกขาดของช่องทางคลอด เลือดที่ออกมาจะเป็นสีแดงสด ถ้ามีการฉีกขาดของหลิดเลือดฝอย เลือดจะไหลซึมมาเรื่อยๆ ถ้ามีการฉีกขาดของหลอดเลือดแดงเลือดจะพุ่งแรงตามจังหวะของชีพจรและไหลไม่หยุด แม้ว่ามดลูกจะหดรัดตัวแข็ง
1.3 เศษรกค้าง ถ้าเศษรกขนาดใหญ่จะเกิดการตกเลือดทันทีจากมดลูกหดรัดตัวไม่ดี ถ้าขนาดเล็กจะ เกิดการตกเลือดในช่วง 6-10 วันหลังคลอด เลือดจะเป็นสีแดงคล้ำ
1.4 การปลิ้นของมดลูก เลือดจะไหลพุ่งออกมาให้เห็นเป็นจํานวนมากและอาจมีลิ่มเลือดสีแดงคล้ำปน ออกมาด้วย
มดลูกหดรัดตัวไมดี จะคลําพบระดับมดลูกอยูสูงถึงระดับสะดือ หรือเหนือกวาสะดือ และขนาดโตขึ้น เมื่อคลึงมดลูกจะมีกอนเลือดและเลือดสดจํานวนมากออกมาทางชองคลอด
ลักษณะน้ําคาวปลา การติดเชื้อในโพรงมดลูกน้ําคาวปลาจะมีกลิ่นเหม็น สีแดงคล้ำ หรือสีน้ําตาล เป็น เวลานาน มีอุณหภูมิกายสูงขึ้น
ปวดท้องน้อย กรณีมดลูกปลิ้นจะปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง ปวดถวงในอุ้งเชิงกราน หรือมีก้อนจุกที่ช่อง คลอด ถ้าโผล่ออกมาภายนอกช่องคลอดจะสังเกตได้
พยาธิสรีรภาพ
การตกเลือดหลังคลอดอย่างรุนแรง ทำให้าริมาณเลือดในร่างกายลดลง เกิดภาวะ hypovolemia เลือดไปเลี้ยงไตลดลง ทาใ้หการขับ้ปัสสาวะลดลง การขาดเลือดไป เลี้ยงไต้เปนเวลานานอาจทำให้ภาวะไต้ลมเหลว (renal shutdown)
หรือเกิดภาวะแทรก้ซอนจากการได้รับเลือดหรือสารน้ำ เชน ปอดบวมน้ำ การให้ เลือดผิดหมู่
มารดาหลังคลอดที่เสียเลือดเป็นจำนวนมากแล้วมีผลกระทบตอการสร้างน้ำนมน้ำนมลดนิอยลง ทกให้เสียเกิดโอกาสในการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา
การประเมินและการวินิจฉัย
การซักประวัติ เพื่อค้นหาภาวะเสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอด เช่น การมีเลือดออกผิดปกติ มีภาวะโลหิต จาง ประวัติการตั้งครรภ์แฝด ทารกตัวโต การคลอดยาก การแท้ง การขูดมดลูก การผ่าตัดมดลูก การตกเลือดใน ครรภ์ก่อน เป็นโรคเลือด
การตรวจร่างกาย
2.1 คาดคะเนปริมาณเลือดที่ออกทางช่องคลอดหลังจากทารกคลอด
2.2 สังเกตอาการ อาการแสดงของการเสียเลือด เช่น ชีพจรเบาเร็ว เหงื่อออกตัวเย็น ใจสั่น กระหายน้ํา ความดันโลหิตต่ํา การหาวเนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลง ซีด ถ้าอาการรุนแรงอาจช็อค ไม่รู้สึกตัว
2.3 ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก โดยคลําหน้าท้อง ประเมินการฉีกขาดช่องทางคลอด ตรวจดู ความสมบูรณ์ของรก ตรวจในโพรงมดลูกเพื่อหาชิ้นส่วนของรกที่อาจคเางอยู่
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ดูความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด ภาวะโลหิตจาง เช่น CBC, platelets count, thrombin time, prothrombin time, fibrinogen concentration ฯลฯ