Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Septic shock and End stage Renal Disease - Coggle Diagram
Septic shock and End stage Renal Disease
สาเหตุ ESRD
การทำลาย
หน่วยย่อยของไต
โรคไตจากเบาหวาน (Diabetic
nephropathy)
โรคไตอักเสบ (glomerulonephritis)
การเกิด Tubulointerstitial fibrosis
การบาดเจ็บของ tubulointerstitium
การอักเสบในเนื้อไต (tubulointerstitial inflammation)
การเกิดพังผืดในไต (tubulointerstitial fibrosis)
โรคประจำตัว
โรคเบาหวาน
โรคความดันโลหิตสูง
จากกรณีศึกษา ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูงเป็นระยะเวลา 5 ปี สาเหตุมาจากผู้ป่วยให้ข้อมูลว่า ชอบรับประทานอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูง ของทอด ปลานิลทอด ชอบทานรสเค็ม
โรคอ้วน
โรคถุงน้ำในไต (Cystic kidney disease)
นิ่วในไต(Renal calculi)
จากกรณีศึกษา A 2.7 cm right RC (Renal calculi)
= พบนิ่วในไตขนาด 2.7 cm
ข้อมูลทั่วไป
ผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 58 ปี เตียง 10
อาการสำคัญ (Chief Complaint) เวียนศีรษะ วูบหมดสติ 30 นาทีก่อนมาโรงพยาบาล
ประวัติการเจ็บป่วยปัจจุบัน (Present illness) มาตรวจตามนัด ขณะรอกลับบ้านวูบหมดสติเป็นเวลา 3 วินาที 30 นาทีก่อนมาโรงพยาบาล
ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต (Past illness) เป็นโรคความดันโลหิตสูงมาเป็นเวลา 5 ปี ได้รับประทานยาอย่างต่อเนื่องจากโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช
ข้อมูลจากการซักประวัติและการตรวจร่างกาย
Skin and nail : ผิวสีดำคล้ำ ผิวไม่ซีด ไม่มีภาวะตัวเหลือง ผิวแห้ง หยาบกร้าน Capillary refill 2 วินาที
Eyes: ตาทั้ง2ข้างรวมถึงใบหน้าบวมโต เยื่อบุตาไม่ซีด
รูม่านตาตอบสนองต่อแสงได้ดี pupil 2 mm.
Abdomen: มีภาวะท้องมาน มีแผลผ่าตัดทางช่องท้องด้านล้างขวา fluid thrill and shifting dullness positive
ผู้ป่วยมีอาการบวมทั้งตัว
Musculoskeletal: แขนและขาทั้ง2ข้างบวม กล้ามเนื้อขาทั้ง2ข้างอ่อนแรง Motor power of both leg grade 4
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ
US of the whole abdomen
A 2.7 cm right RC (Renal calculi) = พบนิ่วในไตขนาด 2.7 cm
Few gallstones = พบนิ่วในถุงน้ำดี
Ascites = ภาวะท้องมาน
Creatinine สูง หมายความว่า มีปัญหาสิ่งอุดตันในทางเดินปัสสาวะ ผู้ป่วยอัลตราซาวด์ พบนิ่วในไตและเป็นไตวายระยะสุดท้าย รวมถึงมีผลกระทบมาจากโรคประจำตัวคือโรคความดันโลหิตสูง
Total Protein ต่ำ หมายความว่า ผู้ป่วยเป็นโรคไตวายระยะสุดท้าย ไตอาจเกิดภาวะรั่ว (Nephrotic syndrome) ซึ่งจะต้องตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะร่วมด้วย เพราะร่างกายขับโปรตีนออกทางปัสสาวะ มักมีต้นตอมาจากผนังหลอดเลือดในไตไม่สามารถกรองโปรตีนได้ตามปกติ
ไตเข้าสู่สภาวะเสื่อม อาจมาจากโรคประจำตัว เนื่องจากผู้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง
Albumin ต่ำ หมายความว่า ผู้ป่วยเป็นโรคไต เนื่องจากไตมีหน้าที่ในการกรองของเสียออกจากร่างกาย ในภาวะปกติอัลบูมินจะไม่ถูกกรองออกไปกับปัสสาวะและจะพบในกระแสเลือดเท่านั้น แต่ในผู้ป่วยโรคไตที่มีการทำงานของไตบกพร่องหรือเนื้อไตเสียหาย จะมีอัลบูมินรั่วออกมากับปัสสาวะได้
Alkaline phosphatase สูง หมายความว่า มีความผิดปกติที่ตับหรือถุงน้ำดีหรือมีท่อน้ำดีอุดตัน ผู้ป่วยอัลตราซาวด์ พบนิ่วในถุงน้ำดี
Na ต่ำ หมายความว่า พบได้บ่อยโดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่นความดันโลหิตสูง ซึ่งโซเดียมลดลง เพื่อปรับสมดุลเลือดในภาวะที่ร่างกายทำงานบกพร่อง เช่นไตวายระยะสุดท้าย และสาเหตุมาจากภาวะน้ำคั่งในร่างกายมาก ทำให้มีอาการบวมหายใจเหนื่อยหอบ
Lactate สูง หมายความว่า เนื่องจาก lactate มีการขับออกจากร่างกายโดยการทำงานของไต ผู้ป่วยเป็นโรคไตวายระยะสุดท้ายมีการทำงานของไตผิดปกติไป ทำให้ lactate ถูกขับออกมากเกินไป
WBC.COUNT และ Neutrophils สูง หมายความว่า ผู้ป่วยอาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสในร่างกาย เนื่องจากผู้ป่วยอาจมีพฤติกรรมการล้างไตที่ไม่เหมาะสม ซึ่งส่งผลให้เกิดการติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะ
Troponin T สูง หมายความว่า เสี่ยงต่อกล้ามเนื้อหัวใจตาย เนื่องจากผู้ป่วยมีภาวะ Septic shock ทำให้ ความดันโลหิตต่ำ อาจส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้ไม่เพียงพอ
คำนิยาม
Septic shockคือ ภาวะ sepsis ที่ยังคงมี systolic blood pressure < 90 มิลลิเมตรปรอทหรือ systolic blood pressure ลดต ่าลง > 40 มิลลิเมตรปรอท จากระดับเดิมหรือmean arterial pressure < 70 มิลลิเมตรปรอท แม้ว่าผู้ป่วยได้รับ fluid resuscitation
อย่างเพียงพอแล้ว
จากกรณีศึกษา ผู้ป่วยมีอาการหน้ามืด เวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน วูบหมดสติ หายใจเหนื่อยหอบและ ความดันโลหิต 87/56 mmHg
โรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย (End Stage Renal Disease: ESRD) เป็นภาวะไตสูญเสียหน้าที่ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานหรือมากกว่า 3 เดือน ส่งผลให้ไตไม่สามารถขับของเสียในร่างกายออกได้ จึงจำเป็นต้องมีการบำบัดทดแทนไต ซึ่งการล้างไตทางช่องท้องแบบต่อเนื่อง (Continuous Ambulatory Peritoneal Dialysis : CAPD)
จากกรณีศึกษา ผู้ป่วยให้ข้อมูลว่าเริ่มเป็นโรคไตวายเรื้อรัง ตั้งเเต่ 10 ปีที่แล้ว
อาการและอาการแสดง
Septic shock
ทฤษฎี
อาการแสดงทั่วไปของการติดเชื้อเช่น มีไข้ หนาวสั่น ชีพจรเร็ว หายใจเร็ว การมีไข้
อาการที่เกิดจากความล้มเหลวของระบบอวัยวะต่างๆ เช่น ระบบหัวใจและไหลเวียนเลือดคือภาวะความดันโลหิตต่ำ อวัยวะต่างๆ ได้รับเลือดและออกซิเจนไม่พอเพียง ผู้ป่วยอาจมีอาการสับสน กระวนกระวาย ซึม หมดสติ มีปัสสาวะน้อยลงหรือไม่มีปัสสาวะเลย เลือดและเนื้อเยื่อต่างๆ มีกรด lacticคั่งหรือการมีสารน้ำ รั่วซึมในปอด ทำให้ผู้ป่วยหายใจหอบ ภาวะลิ่มเลือดกระจายทั่วไปในหลอดเลือด ทำให้เลือดออกง่าย เป็นต้น
กรณีศึกษา 1. สัญญาณชีพ (4/05/66) 10.00 น.
-T = 36.5 องศาเซลเซียส
-P = 116 time/min
-R = 24 time/min
-BP = 90/60 mmHg
ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยหอบ นอนราบไม่ได้ On O2 canular 3 L
ผู้ป่วยให้ข้อมูลว่า เวียนศีรษะ วูบหมดสติ 30 นาทีก่อนมาโรงพยาบาล
ผู้ป่วยมีอาการบวมบริเวณเปลือกตา ใบหน้า เเขน ขาและมีภาวะท้องมาน
ESRD
ทฤษฎี ซีด เหนื่อยง่าย ผิวดำคล้ำ ผิวหนังแห้งรอก เบื่ออาหาร เวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ความดันโลหิตสูง บวม ชาปลายมือปลายเท้า เป็นตระคิวบ่อย กระดูกพรุนแตกหักง่าย เหนื่อยหอบ ฉี่ไม่ออก ซึมลง ช็อค หมดสติ
กรณีศึกษา ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยหอบ นอนราบไม่ได้ On O2 canular 3 L ผิวดำคล้ำ ผิวหนังแห้งรอก เกาตลอดเวลา บวมทั้งตัว -ผู้ป่วยให้ข้อมูลว่า ไม่สามารถปัสสาวะเองได้มาเป็นเวลา 3 ปี
Nursing Diagnosis
เสี่ยงต่อภาวะช็อคซ้ำ เนื่องจากติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
ข้อมูลสนับสนุน
S: “เวียนศีรษะ วูบหมดสติ 30 นาทีก่อนมาโรงพยาบาล”
O: ญาติผู้ป่วยชอบเอามือมาจับบริเวณท้องผู้ป่วย ที่เป็นบริเวณล้างไต
O: ญาติไม่เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ ไม่ใส่ถุงมือและไม่ล้างมือก่อนล้างไตให้ผู้ป่วย
O: ความดันโลหิต 87/56 mmHg
O: ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
-Troponin T 113.70 ng/L
-WBC COUNT 13,720 cell/cu.m.m
-Neutrophil 77.3 %
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินอาการเวียนศีรษะ
ดูแลให้ได้รับสารน้ำ 0.9% NSS 1000 ml ตามแผนการรักษา
ดูแลให้ได้รับยา NorEPINEPRINE และ Fortum ตามแผนการรักษา
ล้างมือก่อนและหลังให้การพยาบาลทุกครั้ง
ทำความสะอาด ดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคลให้กับผู้ป่วยและรอบๆเตียง
ให้ความรู้กับญาติผู้ป่วยในการดูแลผู้ป่วย ไม่นำสิ่งสกปรกหรือสิ่งปนเปื้อนเชื้อมาแพร่ให้กับผู้ป่วย รวมถึงแนะนำญาติในการดูแลทำความสะอาดผู้ป่วย
ติดตามและประเมินอาการช็อคซ้ำ เช่น เหงื่อออก ตัวเย็นกระสับกระส่าย ความดันโลหิตต่ำ
ประเมินสัญญาณชีพทุกๆ 1 ชม.
ประเมิน SOS SCORE
ติดตามและประเมินผลทางห้องปฏิบัติการ
มีภาวะของเสียคั่ง เนื่องจากไตสูญเสียหน้าที่
ข้อมูลสนับสนุน
S: “ถ้าเอา O2 canular ออกจะมีอาการเหนื่อยหอบ”
O: ผู้ป่วยเป็นไตวายระยะสุดท้าย
O: มีอาการบวมบริเวณเปลือกตา ใบหน้า แขนและขา
O: มีภาวะท้องมาน
O: ผลตรวจพิเศษพบนิ่วในไตและในถุงน้ำดี
O: ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
Lactate 77.8 mg/dl
Creatinine 7.13 mg/dl
Albumin 2.5 g/dl
Alkaline phosphatase 277 U/L
Protein 4.97 g/dl
Na 132 mmol/L
กิจกรรมการพยาบาล
ดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยล้างไตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สังเกตและประเมินอาการของเสียคั่งในร่างกาย เช่น ปัสสาวะออกน้อย เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน บวม
ดูแลให้สารน้ำและยาตามแผนการรักษา
วัดสัญญาณชีพทุกๆ 4 ชม.
บันทึกปริมานสารน้ำเข้า-ออก ทุกๆ 8 ชม.
ให้ O2 canular 3 L
ติดตามและประเมินผลตรวจทางห้องปฏิบัติการและผลตรวจพิเศษ
ดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคล
จัดสิ่งแวดล้อมให้กับผู้ป่วยและรอบๆตัวผู้ป่วย
เสี่ยงต่อภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเนื่องจากภาวะช็อค
ข้อมูลสนับสนุน
S: “หน้ามืด วูบ หมดสติและมีอาการคลื่นไส้อาเจียน”
S: “หายใจเหนื่อยหอบ นอนราบไม่ได้”
O: on O2 canular
O: สัญญาณชีพ (4/05/66) 10.00 น.
-T = 36.5 องศาเซลเซียส
-P = 116 time/min
-R = 24 time/min
-BP = 90/60 mmHg
O: ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
Troponin T 113.70 ng/L
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะช็อค เช่น หน้ามืด วูบ หมดสติและคลื่นไส้อาเจียน
ประเมินภาวะขาดออกซิเจน เช่น กระสับกระส่าย หายใจเหนื่อยหอบ นอนราบไม่ได้ O2 sat ต่ำกว่า 96%
ดูแลให้ O2 canular 3 L
วัดสัญญาณชีพและ O2 sat ทุกๆ 4 ชม.
จัดท่านอนศีรษะสูง 30 องศา
จัดสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวผู้ป่วย
ติดตามผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากกล้ามเนื้อขาทั้ง2ข้างอ่อนแรง
ข้อมูลสนับสนุน
S: “ยืนไม่ได้ เดินไม่ได้”
S: “นอนนานไม่ได้เดินและออกกำลังกายแขนขา”
O: แขนและขาทั้ง 2 ข้างบวม
O: ผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตนเองแค่บนเตียง
O: ลุกนั่งเองได้ แต่ยืนเองไม่ได้ เดินเองไม่ได้
O: Motor power of both leg grade 4
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินอาการบวมของแขนและขาทั้ง 2 ข้าง
ประเมินระดับ Motor power
กระตุ้นให้ผู้ป่วยออกกำลังกายบนเตียงโดยการยกขาขึ้นลงและงอเข่า 50 ครั้ง/วัน
วัดสัญญาณชีพทุกๆ 4 ชม.
กระตุ้นให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และครบตามแผนการรักษา
กระตุ้นให้ผู้ป่วยออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ยกไม้กั้นเตียงขึ้นทั้ง 2 ข้าง หลังให้การพยาบาลทุกครั้ง
8 . จัดสิ่งแวดล้อมให้กับผู้ป่วยและรอบๆตัวผู้ป่วย
วางแผนจำหน่ายผู้ป่วยกลับบ้านตามหลัก D-METHOD
ข้อมูลสนับสนุน
S: “ไม่เวียนศีรษะ ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หน้ามืด”
O: ไม่มีอาการเหงื่อออก ตัวเย็น กระสับกระส่าย
O: สัญญาณชีพ
T 36.5 C
P 80 time/min
R 20 time/min
BP 110/80 mmHg
O2 sat 99 %
O: ผู้ป่วยและญาติมีความรู้ในการล้างไตมากขึ้น มีพฤติกรรมล้างไตขณะอยู่โรงพยาบาลที่สะอาดและถูกต้อง
O: อาการบวมลดลง
O: ผู้ป่วยสามารถนอนราบได้ ไม่มีอาการหายใจเหนื่อยหอบ
กิจกรรมการพยาบาล
Diagnosis: เข้าใจถึงความหมาย สาเหตุ และอาการของโรค
Septic shock ภาวะที่ร่างกายมีการติดเชื้อร่วมกับระบบไหลเวียนโลหิตการทำงานของเนื้อเยื่อ/ระบบเผาผลาญล้มเหลว
สาเหตุจากผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง หรืออาจเกิดจากพฤติกรรมการล้างไตที่ไม่เหมาะสมของผู้ป่วยโรคไต
อาการแสดงทั่วไปของการติดเชื้อเช่น มีไข้ หนาวสั่น ชีพจรเร็ว หายใจเร็ว การมีไข้
Medicine ยาที่ผู้ป่วยได้รับกลับบ้าน แนะนำ การใช้ยาที่ตนเองได้รับอย่างละเอียด ได้แก่ กินยาครบ ตรงเวลา ห้ามหยุดยาเอง
Environment จัดสิ่งแวดล้อม เปิดหน้าต่างให้อากาศปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเท ภายในบ้านสะอาด เป็นระเบียบ
Treatment แนะนำ วิธีการดูแลแผลบริเวณที่ล้างไต สังเกตและประเมินอาการปวด บวม แดง ร้อน และล้างมือ ใส่ถุงมือ เช็ดอุปกรณ์ให้สะอาดป้องการการติดเชื้อจากการล้างไต
Health
ควรเลือกรับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมัน คอเลสเตอรอล เค็มจัด และดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวัน
ออกกำลังกายขาทั้ง2ข้างอย่างสม่ำเสมอ
Out patient
แนะนำ แหล่งความรู้ที่เกี่ยวกับการล้างไตที่ถูกต้องเมื่อผู้ป่วยกลับบ้าน เช่น หาความรู้จากโทรศัพท์ หรืออนามัยใกล้บ้าน
Diet
แนะนำ ให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมัน คอเลสเตอรอล เค็มจัด และดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวัน
สาเหตุ Septic shock
การมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคของเม็ดเลือดขาวบางชนิด โรคตับแข็ง โรคภูมิคุ้มกันต้านทานของร่างกายบกพร่องชนิดต่าง ๆ เช่น ติดเชื้อHIV
การทำหัตถการต่างๆ ที่ต้องใส่เครื่องมือเข้าไปในร่างกาย ซึ่งจะเป็นการนำเชื้อโรคให้เข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้นเช่น การใส่ท่อช่วยหายใจ การใส่สายสวนปัสสาวะ การสอดใส่ท่อเข้าหลอดเลือดเพื่อให้สารน้ำต่างๆ
จากกรณีศึกษา ผู้ป่วยและญาติมีพฤติกรรมการล้างไต (CAPD) ที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม ไม่เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ ไม่ใส่ถุงมือและไม่ล้างมือก่อนล้างไต
สาเหตุอื่นๆ เช่น ถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ที่เกิดแผลเป็นบริเวณกว้าง เชื้อ โรคก็จะเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย และการใช้เข็มฉีดยาร่วมกันในกลุ่มผู้ติดยาเสพติด เป็นต้น
การวินิจฉัย
ทฤษฎี ผู้ป่วยที่มีภาวะไตผิดปกติ (renal damage) ติดต่อกันเกิน 3 เดือน อาจจะมีอัตราการกรองของไต (GFR) ผิดปกติ
-ตรวจพบอัลบูมินในปัสสาวะ (albuminuria)
-ตรวจพบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ (hematuria)
-มีความผิดปกติของเกลือแร่ (electrolyte) ที่เกิดจากท่อไตผิดปกติ
-ตรวจพบความผิดปกติทางรังสีวิทยา เช่น อัลตราซาวว์นพบถุงน้ำในไต, นิ่ว, ไตพิการ
-ตรวจพบความผิดปกติทางโครงสร้าง หรือทางพยาธิสภาพจากผลการเจาะเนื้อเยื่อไต
-มีประวัติการได้รับผ่าตัดปลูกถ่ายไต
-ป่วยที่มี GFR < 60 ml/min/1.73 m2 ติดต่อกันเกิน 3 เดือน
กรณีศึกษา
-ผู้ป่วยให้ข้อมูลว่า เป็นโรคไตวาย มาเป็นเวลา 10 ปี -ตรวจพบอัลบูมินในปัสสาวะ ต่ำกว่าปกติ 2.5 g/dl
-Na ต่ำ 132 mmol/L
-US of the whole abdomen พบนิ่วในไตขนาด 2.7 cm
พยาธิสภาพ
ระยะของโรคไตวายเรื้อรัง
ระยะที่ 1 ค่า GFR 90 หรือมากกว่า มีโปรตีนรั่วในปัสสาวะ แต่อัตราการกรองยังปกติ
ระยะที่ 2 ค่า GFR 60-89 ค่า GFR ลดลงเล็กน้อย เป็นระยะที่ไตเสื่อมแล้ว มีโปรตีนรั่วในปัสสาวะ อัตราการกรองลดลงเล็กน้อย
ระยะที่ 3 ค่า GFR 30-59 ค่า GFR ที่ลดลงปานกลาง อัตราการกรองอยู่ในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
ระยะที่ 4 ค่า GFR 15-29 ค่า GFR ลดลงมาก อัตราการกรองลดลงมาก
ระยะที่ 5 ค่า GFR น้อยกว่า 15 เป็นระยะสุดท้ายหรือภาวะไตวาย
ไตสูญเสียหน้าที่ในเรื่อง
1.การกรองของเสีย
ควบคุมปริมาณสารน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย
ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ระดับคงที่
ไม่สามารถสังเคราะห์อีริโทโพอิติน (erythropoietin) หรือเรียกว่า อีโป (EPO) ที่ช่วยกระตุ้นไขกระดูกให้สร้างเม็ดเลือดแดง
ไม่สามารถสร้าง active form ของวิตามินดี ที่ช่วยควบคุมระดับเกลือแร่แคลเซียมและฟอสฟอรัสในร่างกายได้
กรณีศึกษา พบว่าไตสูญเสียหน้าที่ สังเกตได้จาก
1.ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
Lactate 77.8 mg/dl
Creatinine 7.13 mg/dl
Albumin 2.5 g/dl
Na 132 mmol/L
Protein 4.97 g/dl
ผู้ป่วยมีผิวดำคล้ำ แห้ง และเกาตลอดเวลา
ผู้ป่วยมีอาการบวมบริเวณเปลือกตา ใบหน้า เเขน ขาและมีภาวะท้องมาน
Thai eGFR formula is:
= 375.5 × Cr(Enz) ((-0.848)) × Age ((-0.364)) × 0.712 (if female).
จากกรณีศึกษา eGFR = 5.8
โรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย (End Stage Renal Disease: ESRD) เป็นภาวะไตสูญเสียหน้าที่ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานหรือมากกว่า 3 เดือน
Septic shock
septic shock เป็นภาวะที่มีความ
เกี่ยวเนื่องกันอย่างซับซ้อนของเชื้อโรค ระบบภูมิต้านทานทั้งระดับ เซลล์และฮอร์โมน ทำให้มีผลต่ออวัยวะอย่างกว้างขวาง โดยเริ่มจากการติดเชื้อ เชื้อโรคต่างๆ จะสร้าง toxin มา
กระตุ้น monocyte, neutrophil และ endothelial cell ให้หลั่ง mediators เช่น TNF และ IL-1 ซึ่งจะ ไปกระตุ้นการหลั่ง cytokines ต่างๆ ร่วมกับการกระตุ้น complement pathway, coagulation system, platelet activating factors ฯลฯส่งผลให้มีการกระตุ้น inflammatory response ทั่วร่างกาย ทำให้เซลล์ เสื่อมสภาพ ที่หลอดเลือดเกิดการขยายตัว สูญเสียความสามารถในการซึมผ่าน
มีการลดลงของสารต้านการ แข็งตัวของเลือดเกิดภาวะ DIC จากการกระตุ้น coagulation cascade ส่งผลให้มีลิ่มเลือดขนาดเล็กอุดตันใน หลอดเลือด ขัดขวางระบบไหลเวียนเลือด อวัยวะต่างๆ ทำงานผิดปกติ รวมถึงการทำงานของหัวใจด้วย ตามมาด้วยภาวะช็อก
กรณีศึกษา ผู้ป่วยมีความดันโลหิตต่ำ 87/56 mmHg
หน้าที่ของไต
ขับถ่ายของเสีย ได้แก่ urea, Creatinine, uric acid
ควบคุมปริมาณสารน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย
สร้างสารเรนิน (renin) ช่วยควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ระดับคงที่ ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆเพียงพอ
สร้างฮอร์โมนกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง มีชื่อเรียกว่า อีริโทโพอิติน (erythropoietin) หรือเรียกว่า อีโป (EPO) สารนี้ช่วยกระตุ้นไขกระดูกให้สร้างเม็ดเลือดแดง ทำให้ร่างกายมีปริมาณเลือดเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายอย่างเพียงพอ
สร้าง active form ของวิตามินดี ซึ่งมีบทบาทควบคุมระดับเกลือแร่แคลเซียมและฟอสฟอรัสในร่างกาย ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง
การรักษา
การบําบัดทดแทนไต มี 3 วิธี
2.การล้างไตทางช่องท้อง (Peritoneal dialysis) หมายถึงการขจัดของเสีย สารน้ำและเกลือแร่โดยการแลกเปลี่ยนสารต่างๆ ในเลือดกับน้ำยาฟอกไตโดยอาศัยเยื่อบุช่องท้อง
วิธีการมาตรฐานของ CAPD
ขั้นตอนที่ 1:การต่อน้ำยาล้างไต โดยทำการต่อถุงน้ำยาล้างไตถุงใหม่เข้ากับสายท่อล้างไต ซึ่งในขั้นตอนนี้จะใช้เทคนิคปลอดเชื้อ ด้วยการล้างมือให้สะอาด และไม่ให้มือสัมผัสกับข้อต่อระหว่างต่อถุงน้ำยาล้างไต เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ขั้นตอนที่ 3: เติมน้ำยาล้างไต โดยทำการเติมน้ำยาล้างไตใหม่เข้าไปในช่องท้อง หลังจากทำการปล่อยน้ำยาล้างไตเก่าออกจากช่องท้องหมดแล้ว และชะล้างสายท่อล้างไตเรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนที่ 4:การปลดสายต่อและถุงน้ำยาต่าง ๆ ในขั้นตอนนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อเติมน้ำยาล้างไตใหม่เต็มช่องท้องแล้ว โดยทำการปลดสายต่อและถุงน้ำยาต่าง ๆ ด้วยเทคนิคปลอดเชื้อ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ พร้อมกับเก็บสายท่อล้างไตไว้ที่เดิมและปิดด้วยฝาจุกปลอดเชื้อตั้งแต่ตอนปลดสาย จนกว่าจะถึงการล้างไตครั้งถัดไป
ขั้นตอนที่ 2:การปล่อยน้ำยาล้างไต โดยทำการปล่อยน้ำยาล้างไตที่ค้างอยู่ภายในช่องท้องออกมา เพื่อกำจัดของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย ก่อนจะใส่น้ำยาล้างไตใหม่เข้าไปค้างไว้ในช่องท้องอีกครั้ง
ภาวะแทรกซ้อนของCAPD
1 การติดเชื้อของช่องทางออกและอุโมงค์ (exit site and tunnel infection)
2 การติดเชื้อในช่องท้อง (peritonitis)
จากกรณีศึกษา ผู้ป่วยและญาติมีพฤติกรรมการล้างไต ไม่ถูกต้องเหมาะสม ไม่ล้างมือ ไม่ใส่ถุงมือ และไม่เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ก่อนทำการล้างไต เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่เยื่อบุช่องท้อง และระบบทางเดินปัสสาวะ
3 ภาวะ ultrafiltration failure
4 การเสื่อมของเยื่อบุผนังช่องท้อง
การปลูกถ่ายไต (Kidney transplantion) เป็นการรับไตจากผู้บริจาคสมองตายหรือยังมีชีวิตมาปลูกถ่ายในอุ้งเชิงกรานหรือตำแหน่งที่เหมาะสมในร่างกายผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย
การฟอกเลือด (Hemodialysis) หมายถึง การนำเลือดออกจากตัวผู้ป่วยทางหลอดเลือดเทียมไปผ่านตัวกรองเลือดเพื่อแลกเปลี่ยนของเสีย สารน้ำและเกลือแร่ และนำเลือดที่มีของเสียน้อยวนกลับเข้าสู่ร่างกาย
ยา
ยาที่ใช้รักษาเพื่อแก้ไขความผิดปกติของสมดุลน้ำในร่างกาย ยาขับปัสสาวะ Furosemide
(Lasix)
การใช้ยาเพื่อรักษาภาวะโลหิตจาง
-ยาเสริมธาตุเหล็กFerrous Sulfate
-FBC
-Folic acid
-Erythropoietin (EPO)
กรณีศึกษา ผู้ป่วยได้รับยา
-Fortum ใช้รักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรียหลายชนิด เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังและส่วนที่เป็นเนื้อเยื่ออ่อนและภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด
-Calciferol รักษาภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ และป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
-Paracetamol ควบคุมอาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ลดไข้ จากการคิดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส
-E.KCLใช้ในการรักษาหรือป้องกันภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ (Hypokalemia)
-Dimenhydrinateบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไสและอาเจียน
ยารักษาภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ และป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน -Vitamin D
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Acute Coronary Syndrome-ACS) หมายถึง กลุ่มอาการที่มีลักษณะบ่งชี้ถึงกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอย่างรุนแรงและเฉียบพลัน
ภาวะหัวใจล้มเหลว(Heart failure) ภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างเพียงพอจนส่งผลให้อวัยวะต่างเกิดการขาดออกซิเจน
ภาวะหายใจล้มเหลว (Respiratory failure) หมายถึง ภาวะที่ระบบหายใจไม่สามารถ ทำงานได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
ภาวะปัสสาวะไม่ออก
เกิดภาวะน้ำคั่ง หรือบวมน้ำ
ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป
ความดันโลหิตสูง
โลหิตจาง
โรคเกี่ยวกับกระดูก เช่น กระดูกพรุน เปราะ แตกหักง่าย
ภาวะแทรกซ้อนทางสมอง ทำให้เกิดอาการชัก หมดสติ
ภาวะติดเชื้อง่ายและรุนแรงเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันต่ำ