Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ผู้ป่วยชายไทย เตียง8 อายุ66ปี DX.Pneumonia with Respiratory failure,…
ผู้ป่วยชายไทย เตียง8 อายุ66ปี DX.Pneumonia with Respiratory failure
มีประวัติสูบบุหรี่มา 50 ปี เลิกมา 3 ปี :
Hydrogesulfate
ผ่านทางเดินหายใจเข้าไป
ดูดซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อปอด
Hemoglobin จับกับสาร
การพา O2 ลดลง
O2 sat drop
ระคายเคืองเนื้อเยื่อปอด
ปอดบวม
Nitrogen dioxide
สูดดมเข้าสู่ร่างกาย
ผ่านทางเดินหายใจ
ทำลายเยื่อบุหายใจหลอดลมส่วนปลาย+ถุงลม
ถุงลมโป่งพอง จำนวนลดลง
ประสิทธิภาพลดลง
Tar
เกาะปอด
ทำให้ความยืดหยุ่นปอดลดลง
การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนลดลง
O2ในเลือดลดลง
Hydrogen cyanide
ทำลาย cilia บริเวณเซลล์เยื่อบุทางเดินหายใจ
การขับเสมหะจากร่างกายบกพร่องไป
เสมหะคั่งค้างในปอด
ติดเชื้อ
1.มีไข้ T 40.5 องศาเซลเซียส วันที่ 19 /04/66
2.หายใจเหนื่อย
3.chill
4.Sputum C/S Nurmerous Acinetobacter baumannii
5.WBC สูง 14.12 10^3/uL ค่าปกติ 4.50-11.30 10S3/ul
การแลกเปลี่ยนก๊าซในถุงลมลดลง
O2 sat drop
อาศัยอยู่ในชุมชนชนบท
บริเวณบ้านเป็นทุ่งนา+ผู้ป่วยทำนา 20 ปีได้รับละอองยาฆ่าหญ้า ฆ่าแมลง
ยาฆ่าแมลงกลุ่ม Botanical and pyrethroid insection
หายใจเข้าไปเกิดความระคายเคือง
ความเข้มข้นสูงจะไปทำลายเยื่อบุทางเดินหายใจ
ถนนลูกรัง
ฝุ่น
ระคายเคืองที่ปอด
ปอดเกิดพังผืดเรื้อรัง
ประสิทธิภาพการทำงานน้อยลง
การแลกเปลี่ยนก๊าซไม่มีประสิทธิภาพ
U/D
TVD
Dementia
COPD
ถุงลมโป่งพอง
หลอดลมตีบแคบ บวม ผนังหนาตัว
มีภาวะระคายเคืองที่ผนัง
สร้างเมือก
กำจัดเชื้อโรค/สิ่งแปลกปลอม
มีเสมหะมากเรื้อรัง
1 more item...
ภายในเนื้อปอดถุงลมถูกทำลาย
พื้นที่การแลกเปลี่ยนก๊าซลดลง
O2sat drop
FANCUS
N:Nutrition
น้ำหนัก 70 กิโลกรัม ส่วนสูง 178 เซนติเมตร รับประทานอาหารทางสายยางให้อาหาร BD DM(1:1) 300 ml+น้ำ 50 ml x 4 feed
ความต้องการพลังงานในผู้ป่วยรายนี้
BEE=911.61 กิโลแคลอรี่/วัน
TEE=1203 กิโลแคลลอรี่/วัน
การตรวจร่างกาย :
ปากแห้ง ริมฝีปากแห้ง เหงือกซีดเล็กน้อย
ช่องท้อง ไม่มีรอยโรค ไม่มีท้องมาน ไม่พบก้อนกดเจ็บ
การคำนวนความต้องการพลังงาน
BEE
เพศชาย:BEE=66.47+[13.7 x น้ำหนักตัว(kg)]+[1.85 x ส่วนสูง(cm) -(6.76 x อายุ)
= 66.47 + [13.75 x 70]+ [1.85 x 178]-[6.76 x 66 ]
=66.47+ 962.+329.3-446.16
=911 .61 กิโลแคลอรี่/วัน
TEE
TEE = BEE x Stress factor x Activity
= 911.61 x 1.10 x 1.2
=1,203.32 กิโลแคลอรี่/วัน
พลังงานที่ผู้ป่วยได้รับจริง
BD DM(1:1) 300 ml+น้ำ 50 ml x 4 feed
300 x 1 = 300 กิโลแคลลอรี่/มื้อ
4 มื้อ จะได้พลังงาน 300 x 4 = 1,200 กิโลแคลอรี่/วัน
การฟัง Active bowel sound 10ครั้ง
การเคาะ/การคลำ: Nortenderness คลำไม่พบตับโต ม้ามโต
C:Communication
ก่อนผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในนโรงพยาบาล ผู้ป่วยสามารถพูดคุยได้ตามปกติ บอกควาามต้องการได้
ขณะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลผู้ป่วย On ET-Tube ทำให้มีความพพร่องในการสื่อสาร
การตรวจร่างกาย
การมองเห็น:ผู้ป่วยสามารถมองเห็นได้ตามปกติ
ความสามารถในการอ่าน:ไม่สามารถประเมินได้เนื่องจากผู้ป่วย On ET-Tube
การได้ยิน:เมื่องเรียกผู้ป่วยมีการตออบสนองด้วยการลืมตา
การรับรู้การสัมผัส:ตื่นลืมตาแแและรู้สึกตัวเมื่อมีการสัมผัส
การพูด:ผู้ป่วยไม่สามารถสื่อสารด้วยคำพูดได้เเนื่องจากผู้ป่วย On ET-Tube
ความสามารถในการเขียน:ผู้ป่วยไม่สามารถเขียนได้เนื่องจากโรคสมองเสื่อม
ความสามารถในการแสดงท่าทาง:ผู้ป่วยสามารถแสดงท่าทางการกัด ET-Tube ไดด้เมื่อไม่ต้องการให้Suction
A:Activity :
ในอดีต ผู้ป่วยสามารถเดินได้ ดูแลกิจวัตรประจำวันของตนเองได้
ปี 63 ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ ทำให้บกพร่องกิจวัตรประจำวันบางส่วน
5 วันก่อนมาโรงพยาบาลผู้ป่วยมีอาการซึมลง ดูแลตนเองไม่ได้เลย ญาติคอยดูแลกิจวัตรประจำวันให้
ปัจจุบัน ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจและระดับความรู้สึกตัวลดลง ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ ไม่สามารถลุกไปเข้าห้องน้ำได้จึง Rrtrain Foley’s Catheter ไว้
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเนื่องจากมีช่องทางเปิดระหว่างร่างกายกับสิ่งแวดล้อม
1.ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง โดยเฉพาะอุณหภูมิร่างกาย
ดูแลให้สายสวนปัสสาวะและถุงใส่ปัสสาวะอยู่ในระบบปิดตลอดเวลา ต้องไม่ให้มีรอยแตก
ดูแลให้ถุงปัสสาวะอยู่ต่ำกว่ากระเพาะปัสสาวะตลอดเวลาและถุงห้ามสัมผัสกับพื้นรวมถึงเมื่อมีการถ่ายปัสสาวะออกจากถุงห้ามให้ปลายท่อสัมผัสกับปากขวดหรือภาชนะที่รองรับปัสสาวะเด็ดขาด
ดูแลให้ปัสสาวะไหลดี โดยระวังไม่ให้สายสวนปัสสาวะ บิด พับงอ และบีบรีดสายสวนเป็นระยะ ๆ
5.เทน้ำปัสสาวะทิ้งเมื่อมีปริมาณราว 1,000 cc หรือทุก ๆ 3 ชั่วโมง
ทำความสะอาดบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์และรูเปิดของท่อปัสสาวะอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
7.เปลี่ยน Foley catheter และ urine bag ทุก 2-4 สัปดาห์
8.สังเกตอาการและอาการแสดงของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล บกพร่องกิจวัตรประจำวันเนื่องจากถูกจำกกัดการเคลื่อนไหว
กิจกรรมการพยาบาล
ดูแลกิจวัตรประจำวันให้แก่ผู้ป่วย ร่างกายสะอาด ไม่มีสิ่งสกปรกหรือกลิ่นเหม็น
2.แนะนำญาติดูแลออกกำลังกายเคลื่อนไหวร่างกายให้แก่ผู้ป่วย
3.จัดท่านอนและพลิกตะแคงตัวผู้ป่วยทุก 2 ชม
4.ดูแลความสะอาดองร่างกายผู้ป่วยหลังขับถ่าย
5.ยกไม้กกั้นเตียงขค้นทุกครั้งหลังให้การพยาบาล
6.ดูแลจัดสิ่งแวดล้อมรอบเตียงให้สะอาด และสะดวกแก่การใช้งาน
7.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับอาหาร DM(1:1) 300 ml+น้ำ 50 ml x 4 feed ตามแผนการรักษาของแพทย์
A: Aeration
ผลตรวจร่างกาย
ระบบหายใจ
การเคาะ
เคาะปอดได้ยินเสียง RESONANCE
การคลำ
Tactile fremitus ไม่สามารถประเมินได้ เนื่อจากผู้ป่วย On ET-Tube
หลอดลมอยู่ตรงกลางคอ
การดู
ผู้ป่วยไม่มีปลายมือ ปลายเท้าซีด On. ETT-Tube No.8 mask 22 On PCV mode Pi 16, PEEP 5 ,FiO2 0.4,RR=16, Ti=1.0
การหายใจสัมพันธ์กับเครื่องช่วยหายใจ รูปร่างของทรวงอกปกติ สมมาตรกัน
การฟัง
ฟังปอดพบเสียง Clear
EKG
SPECIMEN : Sputum culture 23/04/66
พบ Numeseruos Acinetobacter
วันที่ 24/04/66 พบ Moderate leukocyte,Numerous Gram negative bacilli (coccobacilli),Numerous Gram positive Bacilli (small)
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
ฟังเสียงหัวใจ S1S2 normal no murmur no cadiomegary PR 78/min ชีพจรเต้นสม่ำเสมอ
no deep vein thrombosis
EKG
O2sat
23/04/66 O2Sat=99%
24/04/66 O22Sat=98%
25/04/66 O2Sat=100%
26/0466 ก่อน off Tube O2Sat=98% หลัง Off Tube O2Sat=96%
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
การแลกเปลี่ยนก๊าซไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากมีการติดเชื้อที่ปอด
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินสัญญาณชีพและระดับความรู้สึกตัวทุก 4 ชั่วโมง
2.ประเมินและสังเกตภาวะพร่องออกซิเจน
3.ดูแลให้ได้รับออกซิเจนตามแผนการรักษา
4.ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง
-ดูดเสมหะด้วยเทคนิคปลอดเชื้อ
-ระวังน้ำที่ค้าง ในเครื่อวช่วยหายใจไหลเข้าสู่ท่อช่วยหายใจ
-เปลี่ยนท่าผู้ป่วยอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง
5.จัดท่านอนศีรษะสูง 30-45 องศาเซลเซียส
6.ประเมินความพร้อมในการหย่าเครื่องช่วยหายใจ
7.ให้ยา Tazocin 4.5 gm.IV q 6 hr. ตามแผนการรักษา
8.ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น ผล Sputum C/S,Sputum gram stain
วันที่ 23 เมษายน 2566 On ventiilator Mode SPONT Pi 14 PEEP 5 Fio2 0.4
วันที่ 24 เมษายน 2566 On ventilator Mode PCV Pi 18 PEEP 5 FiO2 0.4
วันที่ 25 เมษายน 2566 On ventilator Mode PCV Pi 16 PEEP 5 FiO2 0.4 RR Ti
S=Stimulation
LOC = E4M1VT Pupil 3 mm. RE reaction to light. Visual acuity : Normal
หายใจเหนื่อย 6 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล
การตรวจร่างกาย
Chest X-ray Infiltation RLL
F:Fluid
สารน้ำ 5% DW 1000 ml.IV rate 120 ml/hr.
I/O
20/04/66 I/O =1000/300 , 1200/300
21/04/66 I/O=3750/1000, 1910/500
22/04/66 I/O= 2000/700, 900/600
24/03/66 I/O=2500/800, 1000/600
25/03/66 I/O= 1620/656,200/100
26/04/66 I/O=2650/1600 , 100/400
23/04/66 I/O=2100/500,1200/400
Electrolyte
19/04/66 Na=160,K=4.2,Cl=128,Cr=5.26,BUN=76,Mg=2.5 eGFR=10.45
20/04/66 Na=161,K=4.7,Cl=128,Cr=4.97,BUN=85, eGFR= 11.24
21/04/66 Na=153,K=4.3,Cl=126,Cr=3.24,BUN=78,eGFR=18.17
22/04/66 Na=158,K=4.3,Cl=127,Cr=2.57,BUN=62,eGFR=10.45
23/04/66 Na=152,K=4.1,Cl=123,Cr=2.51,BUN=55,eGFR=25.67
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนเนื่องจาากมีภาวะไม่สมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินอาการของภาวะไม่สมดุลของเกลือแร่ในร่างกายเช่น ใจเต้นเร็ว เหนื่อย อ่อนแรง สับสน
2.ดูแลให้ได้รับสารน้ำตามแผนการรักษา 5% DW 1000 ml.IV 120 rate0ml./hr
3.บันทึกปริมาณน้ำเข้าและออกจากร่างกาย
4.ดูแลให้ได้รับ BD DM (1:1) 300 ml.x4feed +น้ำ 50 ml.
5.ดูแลให้ได้รับ free water 200 ml.x3feed ตามแผนการรักษา
6.ดูแลพลิกตะแคงตัวทุก 2 ชม.
7.ติดตามผลการตรวจทางหห้องปฏิบัติการ ผล electrolyte
ข้อมูลผู้ป่วย
23/04/66 อาการก่อนรับไว้ในความดูแล
ผู้ป่วยชายไทยวัยผู้ใหญ่ E4VTM1ร่างกายสะอาด on ETT no.8 mark 22 ventilator spont mode PS 14 PEEP 5 FiO2 0.4 ,on NG tube feed BD DM (1:1) 300 ml.+น้ำตาม 50 ml.x4 feed Retain foley’s catheter urine 300 ml. สีเหลือง ใส ไม่มีตะกอน ให้สารน้ำ 5% DW 1000ml. IV rate 120 ml./hr. V/S BP 122/78 mmHg. RR 18 /min PR 78 /min T.38.1 องศาเซลเซียส O2 sat 99 % วินิจฉัยปัจจุบัน Pneumonia with Respiratory failure
ตรวจร่างกาย23/04/66
General appearance :Thai male, look confusion,Normal growth E4M1VT
Head : normal shape and size ,normal face ,symmetrical
Eyes: normal eyes movement ,pale conjunctiva, no ictric sclera
Ear : Normal hearing, external ears no mass , no lesion , no inflammation
Mouth : Buccal mucous membrane pale,no cyanois ,Tonsil not enlarge not injected,on endotracheal tube no 8 mark 22.
Abdomen : normal movement,no scar ,soft,no mass,liver and spleen can't palpated ,fluid thrill negative ,no surgical scar ,tenderness ,abdomen pain
Neck : Tracheal in middle, Thyroid gland not enlarge, no stifness of neck , no engorgement of neck vein
Chest: Symmetrical chest wall, normal breathing movement , both lung clear.eual lung expantion,eual breath soundss
Extremities :abnormal movement ,no deformity ,no ccyanosis ,Moter power Grade 2
Heart:regular rthym,normal S1S2,nomurmer
CC : ซึมลง หายใจเหนื่อย มีไข้ 6 ชม.ก่อนมาโรงพยาบาล
PI : 4 วันก่อนมาโรงพยาบาล รับประทานอาหารได้น้อย ซึมลง มีไข้ ไม่ได้วัดอุณหภูมิ ไม่ได้รับประทานยาลดไข้
1 วันก่อนมาโรงพยาบาลยังมีไข้ต่อเนื่องร่วมกับมีอาการหายใจเหนื่อย ไอมีเสมหะ ซึมลง รับประทานอาหารได้น้อยญาติจึงโทรเรียกรถ 1669 นำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์
U/D : TVD(loss F/U 1 ปี :),COPD(ไม่ได้รับการรักษา) Dimentia (รับยาโรงพยาบาลสี่แคว)
มีอายุมากขึ้น (วัยผู้สูงอายุ)
ภูมิคุ้มกันต่ำ
สัมผัส/รับเชื้อ
เก็บ Sputum C/S 23/04/66
Numeseruos Acinetobacter baumannii (เชื้อก่อโรคที่พบได้ในโรงพยาบาล ในชุมชน)
การรักษาทางยา
Ceftriaxone 2 gm.IV 24 hr. (Off วันที่ 21/04/66)
Azithomycin (250) 2xpo acx5day (Off วันที่ 21/04/66)
Tazocin 4.5 g IV q 6 hr.
สาเหตุ เช่น แบคทีเรีย(ex. Streptocoocus pneumoniae,Staphyloccoccus aureus, Hemophilusinfuenzae, Klebsiella,Numeseruos Acinetobacter baumannii ) ไวรัส เชื้อรา สารเคมี
ผล X ray RLL infilltation. วันที่ 20/04/66
Sputum Gram Stain วันที่ 24/04/66
Moderate Leukocyte
Numerous Gram Negative Bacilli (Coccobacilli)
Numerous Gram Positive Bacilli (Small)
พยาธิสภาพ
ปอดอักเสบ (Pneumonia) การอักเสบอย่างเฉียบพลัยของเนื้อปอดประกอบด้วยถุงลม เนื้อปอดที่คั่นอยู่ระหว่างผนังถุงลม และหลอดเลือดฝอยใกล้ผนังถุงลม (Interstitial tissue)
ชนิดปอดอักเสบ
1.ปอดอักเสบเฉพาะกลีบ (Lobar pneumonia) แบ่งได้เป็น 3 ระยะที่ 1 ระยะเลือดคั่ง (Congestion) พบใน 12 -24 ชั่วโมงแรกเชื้อแบคทีเรียเข้าถุงลม ร่างกายตอบสนองต่อเชื้อและเกิดการอักเสบ เลือดคั่งบริเวณที่อักเสบ และมีการซึมผ่านของเซลล์ RED,WBC,fibrin ระยะที่ 2 ระยะปอดแข็งตัว (hepatization) ระยะนี้เกิดขึ้นใน 2-3 ของโรคมีเม็ดเลือดแดงและไฟบรินอยู่ในถุงลมเป็นนส่วนใหญ่ และมีปริมาณเม็ดเลือดขาวในการกำจัดเชื้อโรคเพิ่มมากขึ้น ในรายที่มีการอักเสบรุนแรงจะสามารถส่งผลถึงการอักเสบของเยื่อหุ้มปอด ตรวจพบเนื้อปอดเป็นสีขาวเรียกว่า Gray hepatization ระยะที่ 3 ระยะฟื้นตัว(Resolution) วันที่ 7-10 ของโรค เมื่อร่างกายมีภูมิต้านทานโรคเกิดขึ้น เม็ดเลือดชาวจะสามารถทำลายแบคทีเรียในถุงลมได้หมด และมีเอนไซม์ออกมาสลายไฟบริน ของเหลวในช่องเยื่อหุ้มปอด(exudates) ถูกกำจัดออกมาเป็นเสมหะ
2.ปอดอักเสบรอบ หลอดลม (bronchopneumonia) พยาธิสภาพกระจายเป็นหย่อมรอบหลอดลม ในปอดกลีบเดียวกันหรือหลายกลับ ไม่สามารถแบ่งระยะได้
3.ปอดอักเสบในผนังถุงลม (Interstitial pneumonia) พยาธิสภาพอยู่เกิดที่ผนังของถุงลม มีอาการบวม ในรายที่มีการอักเสบอย่างรุนแรงจะพบเม็ดเลือดขาวชนิดนิวโตรฟิล(Neutrophil) หรือพบ exudateจำนวนเล็กน้อยในถุงลม อาจมีการทำลายผนังถุงลมเกิดขึ้น
อาการและอาการแสดง
1.มีไข้สูง ไอ หายใจหอบ
2.ระยะแรกมีอาการไอแห้งไม่มีเสมหะ ต่อมาจะมีเสมหะลักษณะขาวขุ่น สีเหลือง เขียว เล็กน้อยหรือเริ่มมีเลือดปน เจ็บแปลบบริเวณหน้าอกเวลาหายใจเข้าหรือไอแรงๆ
3.ตรวจร่างกายฟังเสียงปอดพบเสียง Crepitation บริเวณที่มีการอักเสบ การขยายของปอดบริเวณนั้นลดลง ฟังเสียงลมผ่านเข้าปอดน้อยลง
4.อาการอื่นไม่จำเพาะ เช่น ท้องอืด ท้องเดิน อาเจียน กระสับกระส่าย ชัก ซึมลง
การวินิจฉัยโรค
มีอาการแสดงอย่างน้อย 1 ข้อต่อไปนี้
1.มีไข้ T > 38 องศาเซลเซียส ไม่มีสาเหตุ
2.ภาวะ leukopenia (WBC < 4000 wbc/mm3 หรือ>212,00omm3)
3.ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง
แรกรับวันที่ 19/04/66
T.40.5องศาเซลเซียส WBC 14.12 10s3/ul Neutrophil 29.4% Lymphocyte 12.5% Monocyte 7.9% Eosinophil 0.0 % Basophil 0.2%
มีอาการซึม
มีอาการอแสดงอย่างน้อย 2 ข้อต่อไปนี้
1.เสมหะเป็นหนอง มีเสมะมากขึ้น
2.ฟังปอดพบเสียงกรอบแกร(Crepitation)
3.ไอ ไอรุนแรง มีภาวะหายใจลำบาก
แรกรับวันที่ 19/04/66
ผุ้ป่วยไอมีเสมหะ สีขาวขุ่น ตรวจร่างกายปังปอดพบ Crepitation RLL
ภาพถ่ายรังสี ตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป ถ้ามีรอยโรคเดิมอยู่ จะต้องตรวจพบรอยโรคใหม่หรือลุกลามกว่าเดิมในภาพถ่ายซ้ำ ซึ่งต้องพบความผิกปกติอย่างน้อย 1 ข้อ
พบปอดลักษณะเหมือนกระจกฝ้า (infiltration)
X-ray วันที่ 20 เมษายน 2566 พบ infilltration
X-ray วันที่23 เมษายน 2566 พบ infilltration
พบปอดลักษณะเป็นเงาทึบสีขาว (consolidation)
พบปอดในลักษณะเเป็นโพรงในปอด (cavitation)
ผู้ป่วยชายไทย วัย 66 ปี มาด้วยหายใจเหนื่อยมากขึ้น ไอ มีเสมหะ ไข้ แรกรับ ผู้ป่วยรู้สึกตัว E4M4V1 On mask with bag O2sat 88%
admit อายุรกรรมชาย 2 On Ventilator PCV Pi 16 peep 5 Fio2 0.4 RR 16 Ti 1.0 ผลการตรวจร่างกาย lung:rhonchi both lung,crepitation right lower lobe.
Sputum Gram Stain วันที่ 24/04/2023
Gram Negative Bacilli:Few
Leukocyte: Numerous
Gram Positive Cocci (pair) :Numerous
Sputum C/S 23/04/66 พบ Numeseruos Acinetobacter baumannii
ผลการตรวจทางห้องปฏิบิติการ
Monocyte 7.9 % ปกติ
Eosinophil 0.0 %ต่ำกว่าปกติ
Basophil 0.2 % ปกติ
Lactase 3.5 mmol/L สูงกว่าปกติ
Lymphocyte 12.5 % ต่ำกว่าปกติ
WBC count : 14.12 10^3/uL สูงกว่าปกติ
Neutrophil 79.4 % สูงกว่าปกติ
ผล X ray . วันที่ 20/04/66 RLL infilltation
Skin : no surgical scar and keliod ,normal hair and nail ,good skin turgor , no edema , no cyanosis , no jaundice
ประวัติการได้รับอุบัติเหตุ:ปฏิเสธ ประวัติแพ้ยา/แพ้อาหาร :ปฏิเสธ ประวัติการผ่าตัด : ปฏิเสธ
การสูบบุหรี่ : สูบบุหรี่มา 30 ปี และหยุดสูบมา 3 ปี (สูบวันละ 10-15 มวน) การดื่มสุรา :ปฏิเสธ สารเสพติด : ปฏิเสธ
: