Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Bronchopulmonary Dysplasia (BPD) - Coggle Diagram

- - - - O: หายใจเร็ว 66 ครั้ง/นาที มีช่องระหว่างซี่โครงบุ๋ม (intercostal retractions มีใต้ชายโครงบุ๋ม( subcostal retraction ) มี substernal retraction
        : O2 saturation SpO2 92 %
    - - เพื่อมีการแลกเปลี่ยนก๊าซเพียงพอ
    - - 1) อัตราการหายใจอยู่ระหว่าง40-60 ครั้ง/นาที
        
        2) ไม่มีอาการหายใจลำบาก เช่น ปีกจมูกบาน มีมีช่องระหว่างซี่โครงบุ๋ม (intercostal retractions)
        
        มีใต้ชายโครงบุ๋ม (subcostal retraction) มีการหายใจโดยที่ทรวงอกและหน้าท้องเคลื่อนไหวไม่พร้อมกัน(Paradoxical movement)
        
        3) O2 Saturation SpO2 90-95 %
    - - 2) ดูแล on duopap fio2 0.25-0.3 P Duo 8, CPAP 5 , RR 15 Ti 1.0, และ Keep SpO2 มากกว่าหรือเท่ากับ 92 % ตามแผนการรักษาของแพทย์ เนื่องจาก ทารกหายใจเหนื่อย พบมีอัตราการหายใจ 66 ครั้ง/นาที มีช่องว่างระหว่างซี่โครงบุ๋ม (intercostal retraction) มีใต้ชายโครงบุ๋ม (subcostal retraction) และ O2 saturation SpO2 92 %
      - 1) สังเกตและบันทึกอาการหายใจลำบาก ได้แก่ ปีกจมูกบาน หน้าอกบุ๋ม, มีช่องว่างระหว่าซี่โครงบุ๋ม intercostal retractions มีใต้ชายโครงบุ๋ม subcostal retraction
        มีการหายใจโดยที่ทรวงอกและหน้าท้องเคลื่อนไหวไม่พร้อมกัน (Paradoxical movement) และอาการเขียวคล้ำ
      - 3) จัดท่านอนที่เป็นกลางให้หน้าแหงนเล็กน้อยลำคอตรงโดยใช้ผ้าหนุนบริเวณไหล่สูงประมาณ 2-3 เซนติเมตร (neutral position) เพื่อช่วยให้ทางเดินหายใจโล่ง
      - 4) Keep warm ทารกใน crip จัดสิ่งแวดล้อมให้อุณหภูมิเหมาะสม กับอายุและน้ำหนักของทารก (Neutral thermal environment:NTE) :
      - 5) กำหนดเวลาในการทำกิจกรรมกับทารก
      - 6) ติดตามค่า SpO2 ให้อยู่ในช่วง 90-95% และค่า Arterial Blood Gas:ABG โดย PaO2 ไม่เกิน 80 mmHg
        เพื่อป้องกันปอดถูกทำลายมากขึ้นจากภาวะพิษของ O2
    - - สังเกตลักษณะการหายใจไม่เหนื่อยหอบ ไม่มีภาวะเขียว อัตราการหายใจอยู่ในช่วง 40-60 ครั้ง/นาที SpO2 อยู่ในช่วง 92-95%
  - - - O: ทารกเพศชายคลอดก่อนกำหนด GA 25+3 สัปดาห์ น้ำหนักแรกเกิด 859 กรัม : น้ำหนักปัจจุบัน 3,530 กรัม DX. Extremely low birth weight with Bronchopulmonary Dysplasia
      - WBC count = 5.40 cells/cu.mm.
        Neutrophil =36.2 %
        Body term = 36.9-37.3 C อัตราการหายใจ RR = 48-58 ครั้ง/นาที
        PR= 164-174 ครั้ง/นาที SPO2 = 91-99%
    - - เพื่อลดและป้องกันการติดเชื้อในร่างกาย และป้องกันการกระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่น
    - - 1.สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ T= 36.8-37+-2 องศาเซลเชียส
        HR = 120-160 ครั้ง/นาที RR = 40-60 ครั้ง/นาที
      - 2.ทารกไม่มีอาการหรืออาการแสดงในการติดเชื้อ เช่น ไม่ซึม ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย ท้องอืด เคลื่อนไหว แขนขาได้ปกติ รับนมได้
      - 3.ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการอยู่ในเกณฑ์ปกติ
        WBC count = 4800-10800 cells/cu.mm.
        Neutrophil = 43 – 65 %
    - - 1.ประเมินอาการและอาการแสดงของกานติดเชื้อ เช่นอุณหภูมิร่างกายต่ำหรือสูง ทารกร้องกวนเพื่อประเมินระดับความรุนแรงของการการติดเชื้อและการวางแผนให้การพยาบาล
      - 2.ให้การพยาบาลโดยยืดหลัก Aseptic technique สวมถุงมือก่อนสัมผัสทารกล้างมือก่อนและหลังสัมผัสทารกทุกครั้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อ
      - 3.ดูแลทำความสะอาดร่างกายทั่วไปโดยเช็ดตัว เช็ดตา ทารกทุกวันและเปลี่ยนผ้าอ้อมทุก4 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการติดเชื้อบริเวณผิวหนังของทารก
      - 4.ดูแลให้ทารกได้รับนมแม่ 50 ml hr x 8 feed + MCT oil 1 ml drip in 2 ½ hr ตามแผนการรักษาของแพทย์ เพื่อให้รับภูมิคุ้มกันจากนมแม่
      - 5.ดูแลให้ทารกได้รับยา Dexamethasone (0.02 mk dose) 0.3 mg v q 12 hr x 2 day ตามแผนการรักษาของแพทย์ เพื่อลดการอักเสบและกดภูมิคุ้มกัน
      - 6.ติดตามผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่นผลตรวจ WBC และค่า Neutrophil เพื่อประเมินสาเหตุของการติดเชื้อเพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
      - 7.ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมงเพื่อให้ทารกอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม
    - - ทารก Active ดี ไม่มีอาการซึม ไม่ท้องอืด สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ อุณหภูมิร่างกาย 37.1 องศาเซลเซียส
        อัตราการเต้นของหัวใจ 148 ครั้ง/นาที อัตราการหายใจ 164 ครั้ง/นาที ความดันโลหิต 86/48 mmHg. SpO2 98 %
  - - - O : วัดอุณหภูมิร่างกาย 36.1 องศาเซลเซียส ตัวเย็น
        : ศูนย์ควบคุมความร้อนยังทำงานไม่สมบูรณ์อายุครรภ์ 25 สัปดาห์
        : พื้นที่ผิวกายมีมากเมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวและไขมันใต้ผิวหนังมีน้อย
        : น้ำหนักแรกเกิด 859 กรัม น้ำหนักปัจจุบัน 3,530 กรัม
        วัตถุประสงค์ : เพื่อให้ทารกมีอุณหภูมิร่างกายอยู่ในระดับปกติ
    - - อุณหภูมิของร่างกายอยู่ระหว่าง 36.8 – 37.4 องศาเซลเซียส
    - - จัดให้ทารกอยู่ในตู้อบจัดที่นอนที่ทำด้วยผ้าลักษณะคล้ายรังนก (Nest)
      - วัดอุณหภูมิของทารกตลอดจนวัดสัญญาณชีพ ทุก 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลง
      - สังเกตและบันทึกอาการผิดปกติของภาวะมีอาการอุณหภูมิของร่างกายต่ำ เช่น
        รีเฟลก็ซ์น้อยลง ผิวกายซีด ปลายมือปลายเท้าเย็นเขียว เป็นต้นเพื่อให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที
      - ระวังไม่ให้ทารกสูญเสียความร้อนที่เกิดจากการรักษาพยาบาลโดยก่อนจับทารกต้องเช็ดมือ ให้แห้งทุกครั้ง และปฏิบัติการพยาบาลควรใช้เวลาน้อยที่สุด ก่อนให้การพยาบาลทารกควรห่อตัวทารกให้อบอุ่นเสมอ ไม่ปล่อย ทารกนอนบนผ้ายาง
        หรือที่นอนที่ไม่มีผ้าปูรองหลังทารกถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระควรเช็ดให้แห้ง
      - ระมัดระวังการสูญเสียความร้อนจากผิวกาย ทั้งทางการนำ การพา การแผ่รังสี การระเหยดังนี้ หลีกเลี่ยงการวางทารกบนพื้นผิวที่เย็น โดยวางผ้ารองใต้ตัวทารก เช่น โต๊ะโลหะทำหัตถการ แผ่นเอกซเรย์ รวมทั้งผ้าอ้อมที่ เย็นควรทำให้อุ่น นอกจากนั้นควรถูมือให้อุ่นก่อนจับต้องตัวทารก เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อนโดยการนำ ตรวจสอบอุณหภูมิสิ่งแวดล้อมหรือตู้ให้ความอบอุ่นตามแผนการพยาบาล เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อนโดย การระเหย ดูแลผิวหนังทารกให้แห้งอยู่เสมอ และควรเปลี่ยนผ้าอ้อมที่เปื้อนปัสสาวะทันที เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อนโดยการระเหย ดูแลตู้หี้ความอบอุ่น เครื่องแผ่รังสีให้ความอบอุ่น และเตียงเด็กอยู่ห่างจาก ประตู หน้าต่างและผนังห้องที่เย็น เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อนโดยการแผ่รังสี
    - - ทารกตอบสนองต่อการกระตุ้นดี ไม่ซึม อุณหภูมิของร่างกายอยู่ระหว่าง 37.1- 37.4 องศาเซลเซียส
  - - - O: ทารกคลอดก่อนกำหนด GA34+4 สัปดาห์
        
        : น้ำหนักแรกเกิด 859 กรัม น้ำหนักปัจจุบัน 3,530 กรัม
        
        : On OG tube
        
        : Urine output 60-120 ml/เวร stool 2 ครั้ง/เวร
    - - ทารกได้รับสารน้ำสารอาหารเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
    - - 1.ความตึงตัวและความยืดหยุ่นของผิวหนังเป็นปกติดี กระหม่อมไม่บุ๋ม
        
        น้ำหนักตัวไม่ลดลงหรือลดลงไม่เกินวันละ 20 กรัม ริมฝีปากไม่แห้ง จำนวนน้ำที่ร่างกายได้รับมีความสมดุลกับจำนวนน้ำที่ขับออกจากร่างกาย
        
        Feed นมรับได้ทั้งหมด ไม่สำรอก ไม่มีอาการท้องอืด
        
        4.ปัสสาวะออกไม่ต่ำกว่า 1-4 CC/Kg/hr.
    - - 1.สังเกตอาการและอาการแสดงของภาวะขาดสารน้ำและสารอาหาร เช่น ผิวหนังแห้ง ปากแห้ง กระหม่อมบุ๋มมีน้ำหนักตัวลดลง ปัสสาวะออกดีไม่ต่ำกว่า 1-4cc/kg/hr เพื่อประเมินความรุนแรงของภาวะขาดสารน้ำและสารอาหารและวางแผนการพยาบาล
        
        2.สังเกตอาการและอาการแสดงถึงความสามารถในการรับนมของทารกลดลง เช่น Bowel sound ลดลงGastric content มีมาก สำรอกนม ท้องอืด เพื่อประเมินความพร้อมของทารกในการรับนม
        
        3.ดูแลให้ทารกได้รับ BM/IF 50 ml. TF drip in 1 ชั่วโมงครึ่ง + MCT oil 1 ml. ทุก 3 ชั่วโมง x 8 feeds แบ่งเป็น BM 6 มื้อ , IF 2 มื้อ ตามแผนการรักษาของแพทย์ เพื่อให้ทารกได้รับนมแม่อย่างเพียงพอต่อวัน
        
        5.สังเกตอาการแสดงหลังให้นม เช่น อาการสำรอกนม อาการท้องอืด เพื่อประเมินการรับนมได้ของทารก
        
        6.บันทึกสารน้ำเข้า-ออกจากร่างกายทุก 8 ชั่วโมง เพื่อติดตามสมดุลน้ำภายในร่างกายทารก
        
        7.ดูแลชั่งน้ำหนักตัวทารกทุกวันเพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัว
        
        8.ติดตามผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ BUN เพื่อประเมินความสมดุลของอิเล็กโทรไลต์ของร่างกาย
  - - - O: การวินิจฉัยโรคครั้งแรก : Severe Respiratory Distress Syndrome with Extremely low birth weight
        การวินิจฉัยโรคครั้งสุดท้าย : Extremely low birth weight with Bronchopulmonary Dysplasia
    - - ทารกมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการสมวัย:
    - - แสดงท่าผ่อนคลาย สงบ เมื่อได้รับการกระตุ้นประสาทสัมผัส
        
        นอนในท่างอแขน-ขา
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.จัดกระตุ้นประสาทสัมผัสด้านต่างๆรวมทั้งแนะนำการปฏิบัติแก่บิดามารดาโดยกระตุ้น ประสาทสัมผัสด้านการมองเห็นที่เหมาะสม เช่น
        
        1.1) อุ้มทารกในระดับการมองหน้า สบตาตามปกติ อุ้มในท่านั่งหรือซบ ไหล่
        
        1.2) ปรับเวลาให้เหมาะสมกับกลางวันและกลางคืนโดยใช้ผ้าคลุมตู้อบ
        
        2.การกระตุ้นระบบประสาทด้านการได้ยิน
        
        2.1) พูดคุยด้วยน้ำเสียงจังหวะต่ำและนุ่มนวล
        
        2.2) เรียกชื่อทารก และพูดคุยขณะดูแลทารก
        
        2.3) ลดเสียงสัญญาณเตือนลง
        
        3.กระตุ้นนประสาทสัมผัสที่ผิวหนัง และการเคลื่อนไหว
        
        3.1)ลูบสัมผัสทารกตั้งแต่ศีรษะถึงปลายเท้าด้วยมือที่อบอุ่น
        
        3.2)โอบอุ้มสัมผัสทารก
        
        3.3)ให้ทารก นอนในรังนอน หนุนไหล่หน้าแหงนเล็กน้อย ลำคอตรง
        
        3.4) เปลี่ยนท่านอนทารกช้าๆทุก 2 ชั่วโมง
        
        3.5)ประเมินกระตุ้นประสาทสัมผัสที่ผิวหนังมาก เกินได้แก่ การเคลื่อนไหวมากเกินไป
        
        กำหนดกิจกรรมการพยาบาลให้เสร็จสิ้นในเวลาเดียวกัน เพื่อให้ทารกมีระยะพักนาน
    - - ทารกมีการกระตุ้นประสาทสัมผัสด้านการมองเห็นระดับการมองหน้า สบตาตามปกติ การกระตุ้นประสาทสัมผัสที่ผิวหนัง ทารกมีการเคลื่อนไหวมาก
  - - - O: บิดามารดาไม่มาเยี่ยมและถูกแยกอยู่หอผู้ป่วยวิกฤติ
    - - เพื่อให้ทารกมีปฏิสัมพันธ์กับบิดามารดาอย่างเหมาะสม
    - - บิดามารดาให้ความร่วมมือในการเข้าเยี่ยม และมีปฏิสัมพันธ์กับทารกอย่างสม่ำเสมอ
        
        ทารกได้รับการกระตุ้นสัมผัสโดยการพูดคุย ประสานสายตาและดูแลจากบิดามารดา
    - - ส่งเสริมและกระตุ้นบิดามารดาเข้าเยี่ยมทารกทุกวันโดยโทรศัพท์แจ้งทุกเช้าหลังกุมารแพทย์ให้การ ตรวจรักษาแล้ว ลูกสนับสนุนให้บิดา มารดาสัมผัสทารก และช่วยให้ทารกเกิด ความอบอุ่น ไว้วางใจต่อผู้เลี้ยงดู
        
        อำนวยความสะดวกให้บิดามารดาในการเข้าเยี่ยม เช่นจัดห้องสำหรับมารดารอลูกให้มารดาได้อยู่ใกล้
        
        ให้การพยาบาลด้วยความนุ่มนวล อ่อนโยน โดยสัมผัสทารก เพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่มารดา
- - - - อาการสำคัญ มีภาะปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Bronchopulmonarydysplasia : BPD)
    - - คลอดก่อนกำหนด อายุครรภ์ 25+3 week คลอดเอง 12/11/65 น้ำหนักตัวน้อยมากๆแรกเกิด 859 กรัม Apgar score 5,6,6 ปัจจุบัน น้ำหนัก 3060 กรัม ทารก หลับตื้น ตื่นเคลื่อนไหวมาก สัญญาณชีพ อุณหภูมิ 37.2 องศาเซลเซียส การหายใจ 60 ครั้ง/นาทีความดันโลหิต 70/45 mm. Hg ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจน 99 on ETT c HFOV setting AP 40 Map 10 F2 FIo2 0.45 มี อาการหายใจเหนื่อย หายใจเร็วกว่าปกติ มีภาวะ (intercostal retractions) มีภาวะ (substernal retraction) on pipercilin300mg+ 5%D/w upto 3ml Hydrocortisol 15 mg q6hr salbutamol0.5 ml+nss upto 4ml pulmlcort 1nb+ nss up to 4mlq 12hr meropenam60 mg+5D/w up to 5ml v drip in 2 hr q8hr Fentanyl 120 mg+5 %Dw up to 20 ml v rate 1ml/hr
    - - ชื่อผู้ป่วย : เด็กชายตี๋ ชาวลาว เพศ : ชาย : อายุ 5 เดือน
        
        หอผู้ป่วย: ทารกแรกเกิดวิกฤต เตียง 10
      - การวินิจฉัยครั้งแรก : Severe RDS
        
        การวินิจฉัยโรคครั้งสุดท้าย : Bronchopulmonarydysplasia
      - รับไว้ในโรงพยาบาลวันที่ : 12 พฤจิกายน 2565
        รับไว้ในความดูแลวันที่ : 20 มีนาคม 2566 จนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2566