Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

หน่วยที่ 11 การพยาบาลทารกแรกเกิดปกติ, หน่วยที่ 11 การพยาบาลทารกที่ผิดปกติเ…

- - - - ปอดทารกเริ่มทำงานและปรับตัวได้ จนทำงานมีประสิทธิภาพ RR, O2 sat >= 95%
    - - HR >= 100 ครั้ง/นาที
- - - - เขียวปลายมือปลายเท้า?
  - - - ใช้ stet ฟังที่อก
  - - - ดูแลทางเดินหายใจให้โล่งและดูแลให้ความอบอุ่น
    - - ดูแล ขจัดสิ่งคัดหลัง ของทางเดินหายใจ และการให้ ออกซิเจนเพิ่มเติม
    - - (asphyxia) ทารกมีปัญหาทางการหายใจ ต้องช่วยเหลือโดยการกู้ชีพ
- - - - ปจบ.ไม่ค่อยมีเพราะได้ Vit k
    - - ดูแลไม่ดีจะเป็นตุ่มหนอง
  - - - หายใน 24 hr.
    - - หายใน 2-3 วัน
    - - เลือดคั่งใต้ผิวหนัง
- - - - ทารกแสดงอาการผวา ตกใจ สะดุ้งโดยเหยียดแขนขาชูขึ้นกลางนิ้วมือออกสองข้างเท่ากัน
    - - ทารกเหยียดแขน-ขาไปในด้านที่หันหน้าไป และงอแขน-ขาด้านตรงข้ามคล้ายท่าฟันดาบ
    - - ทารกลูกอ้าปาก และดูดนิ้ว
    - - ทารกหันหน้าไปหาสิ่งกระตุ้น และอ้าปากพยายามจะดูด
    - - ทารกกำนิ้วมือผู้ตรวจไว้ชั่วครู่แล้วปล่อย
    - - ทารกกางนิ้วเท้า
- - - - การนำ
        
        ใช้น้ำอุ่นอาบ
        
        วอร์มมือ
        
        พื้นผิวเย็นให้เอาผ้าปู
        
        ห่มผ้า
      - การพา
        
        แม่ร้อนแล้วเปิดพัดลม
      - การระเหย
        
        ทารกปัสสาวะ >>อาบน้ำ>>รีบเช็ดตัว
      - การแผ่รังสี
  - - - อาบน้ำ หลังเกิด 12-24 ชม.
      - เช็ดตา
        
        เช็ดตา ด้วยสำลี ชุบนต้มสุก บีบหมาด
  - - - 2 วันแรก
        
        ถ่ายขี้เทา
      - 3-4 วัน
        
        Transitional stool
- - - - นัดฉีดต่อ HBV2 1-2 เดือน และ HBV3 6 เดือน
        
        หลังได้วัคซีนอาจอาการปวด บวมบริเวณที่ฉีด มีไข้ต่ำ
    - - ภายหลังฉีด 1-3 สัปดาห์ อาจจะปรากฏตุ่มนูน เป็นหนอง แตกเป็นแผล เป็นๆหายๆ 3-4 สัปดาห์ จะกลายเป็นแผลเป็น
        
        ใช้สำลีชุบนาต้มสุกที่เย็นแล้ว เช็ดรอบ ๆ แผลแล้วซับให้แห้ง
  - - - 0.5 ml IM หรือคำนวณตามน้ำหนัก
        
        ภายใน 12 ชั่วโมงหลังคลอด
      - ฉีดคนละข้างกับ HBV
- - - - Meconium ileus ลำไส้อาจมี
        
        ภาวะอัมพาตของลำไส้ (Hirschsprung's disease)
        
        Duodenal atresia with or without annular
        
        pancreas, Jejunoileal atresia, Malrotation with midgut volvulus
        
        cystic fibrosis
  - - - ปัญหาไม่ถ่ายขี้เทา
        
        วัดปรอททางทวารหนักตั้งแต่แรกเกิด
        
        ติดตามการขับถ่ายขี้เทา โดยปกติถ่าย ภายใน 24 ชม.หลังเกิด สังเกตต่อได้ ถึง 48 ชั่วโมง
- - - - conjugated bilirubin
        
        ขับผ่านท่อและถุงน้ำดี (ละลายน้ำดี)
        
        ที่ลำไส้ conjugated bilirubin +bacteria
        
        Stercobilin และ Urobilinogen
        
        ขับออกทางอุจาระและขับออกทางปัสสาวะ
  - - - นมแม่ไม่เพียงพอ ขับถ่ายน้อย มีการดูดกลับ ของบิลิรูบิน
      - พบ 2-3 วันหลังคลอด หายเองใน 1 wks
      - ทารกครบกำหนดที่นหนักลดลงสามารถใช้ทำนายภาวะ breast feeding jaundiceได้ 24 hr.> 5.1% 48 hr. > 7.7%
    - - น้ำนมมารดามีสาร 3อัลฟ่า, 20 เบต้า pregnanediol จึงมีการขัดขวาง การทำหน้าที่ของตับในการเปลี่ยนบิลิรูบิน รวมทั้งกรดไขมันอิสระบางตัว เช่น B-glucuronidase ซึ่งทำให้เกิดการดูดซึมกลับของบิลิรูบินมากขึ้น
  - - - การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
      - เจาะส้นเท้า เก็บเลือดส่งตรวจ หาค่า MB / Hct
      - ตรวจ jaundice work up เจาะเลือดส่งตรวจ
  - - - อายุครรภ์น้อย ภาวะแทรกซ้อนในขณะคลอด ทารกมีลิ้นติด
  - - - ให้นมแม่ ดูดบ่อย ดูดถูกวิธี
      - ช่วยเหลือให้ทารกได้นมมากขึ้น เพื่อขับขี้ เทาออก
    - - อาการซึม ไม่ดูดนม อาเจียน
      - ร้องเสียงแหลม
      - Moro Reflex ลดลง
      - ความตึงตัวของกล้ามเนื้อลดลง
    - - MBมากกว่าเท่ากับ13 mg/dl (กรณีไม่ใช่เหลืองเร็ว)
      - การพยาบาลขณะส่องไฟทารก
        
        อธิบายให้มารดา บิดา เข้าใจ
        
        เช็ดตาด้วยNSS ปิดตาทารกให้มิดชิดด้วยวัสดุนุ่มทึบแสง
        
        เช็ดตัว งดทาแป้งทารกหรือโลชั่น เพื่อให้ผิวหนังสัมผัสแสงมากทีสุด
        
        ถอดเสื้อให้ผิวหนังสัมผัสแสง ทารกเพศชายใส่ผ้าอ้อมป้องกันอัณฑะจากความร้อนจากไฟที่ส่อง
        
        วางทารกตำแหน่งกลางไฟ ห่างจากหลอดไฟ 30-40 เซนติเมตร (ขึ้นกับชนิดเครื่องส่องไฟ)
        
        ใช้ผ้าคลุมรอบ ๆ เครื่องสองไฟ เพื่อลดการกระจายแสง
        
        ให้นมให้เพียงพอ
        
        สั่งเกตอาการ ติดตาม microbilirubin และ hematocrit
        
        9.กรณีเหลืองมากขึ้น รายงานแพทย์ อาจต้องย้ายไป หน่วยทารกป่วย เปลี่ยนถ่ายเลือด
- - - - Kangargo care ห่มผ้าทั้งมารดาและ ทารก หรือ SSC
      - ห่อด้วยผ้าห่อตัว 2 ชั้น และ สวมหมวก Keep warm
    - - ให้วางทารกไว้ใต้เครื่องให้ความอบอุ่น
      - ติดตามตรวจวัดอุณหภูมิภายหลังดูแลทุก 1 ชั่วโมง
      - ครบ 2 ชั่วโมงอุณหภูมิของทารกยังไม่ เพิ่มขึ้นเป็นปกติ ควรรายงานแพทย์
    - - ดูแลสภาพแวดล้อมของทารกแรกเกิด ได้แก่
        
        อุณหภูมิห้อง
        
        การเช็ดตัวทารก
        
        ไม่ปล่อยให้ ทารกเปียกแฉะเมื่อขับถ่าย
      - อบอุ่นมือก่อนสัมผัสทารก อบอุ่นผ้า และอุปกรณ์
      - ใช้ผ้าห่อตัวทารก ใส่หมวก
    - - ตรวจดู Skin perfusion เพื่อประเมินว่าทารกมี ภาวะcardiac decompensation หรือไม่
      - วัดค่า Oxygen อิ่มตัวในเลือด ซึ่งไม่ควรต่ำกว่า 95 เปอร์เซ็นต์
- - - - จะมีเมือกหรือ ขี้ตาออกมาจากรูเปิดของท่อน้ำตา
  - - - ทำก่อนเด็กมีอายุครบ 1 ปี ถ้าทิ้งไว้นานเกิน 1 ปี กระดูกในโพรงจมูกจะ แข็งตัวและหนาขึ้นเป็นกระดูกทึบ ต้องรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด
- - - - ปากแหว่ง (Cleft lip) เพดานโหว่ (Cleft palate)
      - (ภาวะลิ้นติดตรึง (Tongue tie)
        
        ทำให้ทารกได้นมไม่พอ และหัวนมแม่เจ็บ แตก ลิ้นทารกไล้ไม่ถึงลานนม (suckling defect)
        
        ลักษณะลิ้นของทารก
        
        แลบลิ้นได้ไม่พ้นริมฝีปากหรือเหงือกบน*
        
        ปลายลิ้นอาจเป็นร่องหยักเข้ามา หรือเป็นรูป V หรือรูปหัวใจ
        
        SIRIRAJ TONGUE-TIE SCORE (STT SCORE)
        
        STT score < 8 ปรึกษาแพทย์พิจารณา ผ่าตัด Frenotomy!
        
        การลงชื่อยินยอมทำหัตถการ หลังตัดพังผืดใต้ลิ้น ให้ทารกดูดนมได้ และสังเกตการดูดนมของทารก
      - (ภาวะลิ้นติดตรึง (Tongue tie)
    - - ปฏิกิริยาการดูดกลืนของทารกยังไม่สมบูรณ์
      - (Sucking and Swallowing reflex)
    - - ตัวเหลือง ซึม เป็นเหตุให้ได้รับปริมาณนานมไม่เพียงพอ