Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยที่ 9 การพยาบาลในระยะหลังคลอด - Coggle Diagram
หน่วยที่ 9 การพยาบาลในระยะหลังคลอด
Uterine involution กบก.เข้าอู่ของมดลูก
เปลี่ยนแปลงน้ำหนัก
เปลี่ยนแปลงตำแหน่ง
กลไก
Ischemic
Uterine contraction
Autolysis
Catabolism
Regeneration
decidual to endometrium
ปัจจัยการส่งเสริมการเข้าอู่ของมดลูก
Breastfeeding
Oxytocin ตอนลูกดูดนมแม่จะรส.เหมือนปวด ปจด.
(Afterpains)
จะดีขึ้นใน 24-48 hr this หรือนอนคว่ำเอาหมอนหนุนมดลูกเพื่อเบี่ยงเบน
การลุกเร็ว
กระตุ้นให้ลุก ทำให้น้ำคาวปลาขับออกตามแรงโน้มถ่วง
ปัจจัยขัดขวาง
Bladeer full
ทำให้มดลูกหดรัดตัวไม่ดี ยอดมดลูกสูงกว่าปกติ
Over distention
กระเพาะปสว.มีค.จุมาก ฉี่ออกไม่สุด
Fatique
ความอ่อนล้า
นย กล้ามเนื้อมดลูกได้ออกซิเจนไม่พอ
Retention piece ofplacenta and infection
เศษรกค้าง
ต้องดูให้ครบไม่งั้นแม่จะตกเลือด
มดลูกเข้าอู่
น้ำหนักลดลง
1000g >> 500g ใน 1 wk.
50-60 g ใน 6 wk
ตำแหน่งลดลง
ทันทีหลังรกคลอดอยู่บริเวณ
สะดือ
และ
หัวหน่าว
หลังชมที่ 2 จะลอยตัวอยู่บริเวณสะดือ หรือเหนือกว่าเล็กน้อย
ถ้านุ่มๆ หรือเอียงด้านใดด้านนึง
อาจเกิดกระเพาะปสว.เต็ม
ลดลง 0.5-1นิ้ว/วัน
wk 6 มดลูกเข้าอู่สมบูรณ์ (ตรวจหลังคลอด) wk 2 คลำไม่เจอแล้ว
น้ำคาวปลา Lochia
Lochia rubra
1-3 วันแรก
สีแดง กลิ่นคาว
Lochia Serosa
3-10 วันแรกหลังคลอด
สีแดงจางๆ/สีน้ำตาล
Lachia alba
10-14 วันหลังคลอด
สีขาว/สีเหลืองอ่อน
ปริมาณน้ำคาวปลา ไหลตามอิสระตามแรงโน้มถ่วงเฉลี่ย 240-270 ml
1 hr น้ำคาวปลาไม่ควรมีปริมาณชุ่มผ้าอนามัย
อาการปวดมดลูกหลังคลอด
จะปวดมากขณะให้นมและลดลงภายใน 48 hr. หลังคลอด ทานยาแก้ปวดได้ นอนคว่ำใช้หมอนรองบริเวณมดลูก
ปากมดลูก
ทันทีหลังคลอดปากมดลูกจะเปิดและไม่เป็นรูปร่าง บวม ขยายได้ กลับสู่ภาวะปกติภายใน 6 wks.หลังคลอด
ช่องคลอดและฝีเย็บ
ลักษณะเรียบ บางและบวม ภายใน 3 wks หลังคลอดรังไข่จะเริ่มทำงานและ ผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนทำให้ผนังช่องคลอดหนาขึ้น เริ่มมีรอยหยักกลับคืนมา
เต้านม
เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนลดลง โปรเลคตินเพิ่ม Oytocinเพิ่ม
ระยะน้ำนม
1.ระยะหัวน้ำนม (Colostrum)
2-3 วันแรกหลังคลอด มีสีเหลืองข้นมีส่วนประกอบหลักเป็น โบรตีนเป็นภูมิคุ้มกันโรค(IgA) สร้าง normal flora กับระบบGI ขับขี้เทา
2.น้ำนมระยะเปลี่ยนผ่าน (Transitional milk)
5-7วันหลังคลอด เปลี่ยนเป็นน้ำนมแท้ สี เหลืองจางไม่ข้น โปรตีนและภูมิคุ้มกันลดลง น้ำตาล ไขมัน พลังงานเพิ่มขึ้น
3.น้ำนมแท้(Mature mill)
สีขาวอมน้ำเงิน ไม่ข้น ให้พลังงานปริมาณ20แคลอรี/ออนซ์ โปรตีนต่ำกว่าในนมผสม มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส โปแตสเซียม คลอไรด์ โซเดียม เหล็กและทองแดง เด็กน้อย มีส่วนประกอบของวิตามินทุกชนิด มีเอนไซม์ ไลเปส และอไมเลส
การเปลี่ยนแปลงระบบทางเดินอาหาร
-ขณะตั้งครรภ์มดถูกไปเบียดกระเพาะลำไส้และอิทธิพลฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่มีผลทำให้กล้าม
เนื้อเรียบคลายตัว ลดการเคลื่อนไหวของลำไส้ ทำให้มารดาตั้งครรภ์มีปัญหาท้องผูก อืดแน่นท้อง
หลังคลอดอวัยวะในช่องท้องที่ถูกเบียดอยู่จะกลับคืนสู่สภาพเดิม ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนค่อยๆลดลง ทำให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหวเพิ่มมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงระบบผิวหนัง
มีการสร้างสีผิวมากขึ้น
จากฮอร์โมน MSH ร่วมกับเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ทำให้เกิดสีผิวเข้มขึ้น บริเวณหัวนม หน้าท้อง Linea nigra บริเวณหน้าผาก หรือมีฝ้า
เกิดการแตกลายของผิวหนัง
บริเวณหน้าท้อง เต้านม ต้นขา เรียกว่า Striae gravidarum
รอยแตกลายในระยะหลังคลอดทันที
จะเห็นเป็นรอยแตก สีแดง ม่วงขาว และค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินขาว
กระบวนการงอกของเส้นผม
จากฮอร์โมนเอสโตรเจนทำให้ตลอดการตั้งครรภ์ผมร่วงช้า เมื่อฮอร์โมนนี้ลดลงหลังคลอด จะเกิดการร่วงของเส้นผมหลังคลอด ~4-20 wks.
การขับเหงื่อมากขึ้น
ใน weekแรกหลังคลอด เพื่อลดน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย (ออกเยอะเวลากลางคืน)
การเปลี่ยนแปลงระบบทางเดินปัสสาวะ
1.ปัสสาวะเพิ่มขึ้น
พบน้ำตาล โปรตีน คีโตนในปัสสาวะชั่วคราวหลังคลอดใหม่ สาเหตุจาก ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำในระยะคลอด การลดลงของฮอร์โมน Oxytocin การคั่งค้างของน้ำส่วนเกิน การลดการสร้างฮอร์โมน Aldosterone จะกลับสู่ภาวะปกติภายใน 1 เดือนหลังคลอด
2.ความรู้สึกปวดปัสสาวะลดลงและการตกค้างของปัสสาวะ
หลังคลอดกระเพาะปัสสาวะมีความจุเพิ่มขึ้น แต่ความไวต่อการกระตุ้นจากแรงดันลดลง การหครัดตัวกระเพาะปัสสาวะลด ทำให้ไม่รู้สึกปวดปัสสาวะและ
มีปัสสาวะตกค้างอยู่ในกระเพาะ มีการยืดขยายของขนาดกระเพาะปัสสาวะมากเกินไป
การเปลี่ยนแปลงของระบบหัวใจและหลอดเลือด
1.Blood component
Volume ลดลง กลับเป็นปกติใน 4 wks.
2.Cardiac output
เพิ่มขึ้น
3.Vital signs
T,BP เพิ่ม เมื่อเปลี่ยนท่าเฉียบพลัน BP จะต่ำ
หัวใจจะเต้นเร็วเมื่อหัวใจขาดเลือด -- >หัวใจโต
การเปลี่ยนแปลงของระบบต่อมไร้ท่อ
ฮอร์โมนจากรก
ทันทีหลังรกคลอดฮอร์โมนจะมีการลดระดับลง : Estrogen, Peaogasterone,hPIL,hCG ดดง
ฮอร์โมนจากต่อม Piuitary
Prolaclin,Oxytocin เพิ่มมากขึ้นกระตุ้นการสร้างน้ำนม
ช่วยให้มดลูกหดรัดตัวขณะคลอด
การตกไข่
แม่หลังคลอดจะตกไข่ก่อนมีประจำเดือน วิธีการคุมกำเนิดมารดาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นวิธีธรรมชาติ เรียกว่า lactational amenorrhea method
Body weight
ห้ามลดน้ำหนักฮวบฮาบ น้ำหนักหายทันทีหลังคลอด 5 kg ตอนท้องขึ้นยังไง ลงอย่างั้น ~2-3 kglwk ควรถดลง 6 kg
แนะนำแม่หลังคลอด
ให้เปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 3-4 ชั่วโมง
ไม่เช็ดย้อนไปย้อนมา เช็ดจากหน้าไปหลัง เพราะปากมดลูกยังปิดอยู่
ห้ามลงสระว่ายน้ำ
อาหาร
ดื่มน้ำหวาน โอวัลตินวุ่นๆ ไม่ทานอาหารรสจัด ของหมักดอง
ชา กาแฟ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
การเฝ้าระวังการตกเลือด
แม่หลังคลอด
งดการสระผม 1 สับดาห์ ต้องอยู่ไฟให้ครบก่อน (การจำกัดอาหารการกิน) แนะนำให้กินน้ำอุ่น
การพยาบาลคลายท้องผูก
รีบบระทานอาหารที่มีกากใย
ลดปวด บวม
Hot sit bath
เพิ่มเติม
หลังนอนพัก
กระตุ้นให้แม่ลูกเดิน จะกระตุ้นให้น้ำคาวปลาไหลดี กระตุ้นการไหลเวียนเลือด
affer pain
อธิบายว่าจะหายได้เองใน 1-7 วันหรือนอนคว่ำหมอนหนุนหลัง
อุณหภูมิแม่หลังคลอด
สูงได้ไม่เกิน 38 องศาเชลเชียส เรียกว่า realionary fover
การปรับตัวด้านจิตสังคม
Rubin maternal role attainment
Letting go phase
ใช้เวลาเป็นเดือน ให้คำปรึกษาคนอื่นได้
หายใน 4 month
Taking hold
ช่วยเหลือตนเองได้ แต่ก็ยังต้องการความช่วยเหลืออยู่
หายใน 4-10 days
Taking in
เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง
หายใน 3วันแรก
Father’s role adaption
ความหวัง
รับรู้/นึกถึงการเปลี่ยนแปลงไม่ออก
ความเป็นจริง
ดีใจ สับสน บางคนอิจฉาลูก
ชำนาญ
พร้อมสำหรับการเป็นพ่อ/ เหมือนletting go
1.Postpartum blue, baby blue
ซึมเศร้าหลังคลอด ดีขึ้นใน 2 wks
หงุดหงิด/รูปแบบการนอนหลับเปลี่ยนแปลง
ให้กำลังใจ อยู่ข้างๆคอยรับฟัง
2.Postpartum depression
รส.ไม่มีคุณค่า ทำร้ายตนเอง/ลูก หายใน 2wks - 6month
3.Postpartum psychosis
มีประวัติป่วยจิตเวช
หลุดจากโลกความเป็นจริง
การประเมินสุขภาพมารดา BUBLE HE
Breats
ประเมินเต้านม เต้านมตึงอ่อนนุ่มปกติ
Uterus
ประเมินมดลูก ให้มารดาปัสสาวะก่อน
Bladder
หลังคลอดมารดาควรปัสสาวะเอง หากออกน้อยกว่า 150ml ให้สวนปสว.ทิ้ง
Bowels
ลำไส้เคลื่อนไหวปกติประมาณ 8-14 วัน
Lochia
น้ำคาวปลาไม่เกิน 240-270 ml
Episiotomy&Perineum
ประเมินทุก 8 hr ใช้หลักของ REEDAP
Homans’sign
ประเมินภาวะเสี่ยง deep vein thrombosis
Emotional status