Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ใหญ่ที่มีปัญหาระบบโลหิตวิทยา - Coggle Diagram
การพยาบาลผู้ใหญ่ที่มีปัญหาระบบโลหิตวิทยา
ความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง
โลหิตจางที่เกิดจากการสร้างเม็ดเลือดแดงได้น้อย
Aplastic anemia
สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจาก
การได้รับยาต้านการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอก, Chloramphenicol,Sulfonamide, Phenytoin (Dilantin) ยาฆ่าแมลง เช่น DDT
การปนเปื้อนสารเคมี เช่น เบนซิน
การติดเชื้อ เช่น hepatitis B and C, Epstein-Barr virus, Cytomegalovirus, and Military tuberculosis
สาเหตุนี้มีผลให้เซลล์ต้นกำเนิดบาคเจ็บ การสร้างเม็ดเลือดผิดปกติ
ความผิดปกติที่เกิดมาตั้งแต่กำเนิด Fanconi's anemi
พยาธิสรีระวิทยา
แยกแยะตามลักษณะของเม็ดเลือดที่ผิดปกติ
จำนวนเม็ดเลือดขาวลดลง (Leukopenia) จำนวนเกล็ดเลือดต่ำ (Thrombocytopenia) กรสร้างเม็คเลือดแดงลดลง(Anemia)
กระบวนการเกิดความผิดปกติอาจจะเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันหรือเรื้อรังก็
ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่เป็นสาเหตุ
อาการ
ส่วนใหญ่จะพัฒนาขึ้นอย่างช้า ๆ อาจใช้เวลาหลายอาทิตย์หรือหลาย
เดือน แต่บางกรณีก็เกิดขึ้นทันทีทันใด
อาการเหนื่อยล้า ใจสั่น และหายใจลำบากเมื่อออกแรง พบได้บ่อยใน
ผู้ป่วย Aplastic anemia
ผู้ป่วยที่มี Granulocytopenia มักจะมีการติดเชื้อที่ผิวหนังและ
เยื่อบุต่างๆ ง่าย
ผู้ป่วยที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ อาจจะมีเลือดตามผิวหนัง ตามเยื่อบุ ทาง
จมูก เหงือก ช่องคลอด และทวารหนัก
การวินิจฉัย
ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบ Pancytopenia, การตรวจพิเศษ คือการตรวจไขกระดูก โดยการเจาะไขกระดูกหรือการตัดชิ้นเนื้อ การเจาะไขกระดูก อาจจะได้ Dry tap เนื่องจากไขกระดูกทำงาน
น้อยลง ดังนั้นจึงต้องทำ Bone marrow biopsy
การรักษา
การรักษาแบบประคับประคอง
การให้เลือด เช่น pack red cell
การได้รับเกล็ดเลือด
ควรได้รับเลือดที่กรองเม็ดเลือดขาว เพื่อป้องกัน alloimmunization
การป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อรักษา เช่น อาหารสุก สะอาด หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง
การรักษาแบบเฉพาะ โดยขจัดสาเหตุที่ทำให้เกิดความผิดปกติ
เปลี่ยนถ่ายไขกระดูก (Bone marrow transplantation,BMT)
ทางเลือกอื่น : วิธีการกดภูมิต้านทาน (Immunosupressive therapy)
การพยาบาล
การพยาบาลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
แนะนำญาติที่มาเยี่ยมผู้ป่วย ต้องล้างมือก่อนและหลังการเยี่ยมผู้ป่วย
หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้อื่นที่มีการติดเชื้อ
หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์สุก ๆ ดิบ ๆ รับประทานผักหรือผลไม้สุด โดยเฉพาะผลไม้เปลือกบาง เนื่องจากมีแบคทีเรียปนเปื้อน
สังเกตอาการแสดงของภาวะติดเชื้อ เช่น มีไข้ เมื่อพบต้องรายงานให้แพทย์ที่รักษาทราบทันที
หลีกเลี่ยงการใส่สายเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ
การพยาบาลที่มีเป้าหมายเพื่อป้องการมีเลือดออก
ติดตามประเมินการมีเลือดออกบริเวณที่สอดใส่สายเข้าสู่ร่างกาย
ㆍ สังเกตอาการมีเลือดออกในร่างกาย โดยสังเกตจุดเลือดออกที่ผิวหนัง สีของปัสสาวะ และอุจจาระ การมีเลือดกำเดา เลือดประจำเดือน
ㆍ หลีกเลี่ยงการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ และลดจำนวนครั้งของการเจาะเลือดเท่าที่จำเป็น
ㆍหลีกเลี่ยงการวัดอุณหภูมิทางทวารหนัก และการสวนอุจจาระ
: แนะนำผู้ป่วยและญาติให้ทำความสะอาดปากฟันโดยใช้แปรงที่มีขนอ่อนนุ่ม หลีกเลี่ยงการใช้ไหมขัดฟัน
การพยาบาลที่มีเป้าหมายเพื่อป้องการมีเลือดออก
หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการกระแทก การหกล้ม เช่น การเล่นกีฬา
หลีกเลี่ยงการใช้ยาละลายลิ่มเลือด เช่น แอสไพริน
แนะนำให้เจลหล่อลื่น เมื่อมีเพศสัมพันธ์
การพยาบาสเพื่อป้องการอ่อนล้า
แนะนำให้จัดช่วงเวลาพักขณะการทำกิจกรรมประจำวันอย่างเหมาะสม
หลีกเลี่ยงการยกของหนัก และการทำงานหนัก
เมื่อรู้สึกเหนื่อย หายใจเร็ว วิงเวียน ควรงดการทำกิจกรรมต่าง ๆ
ติดตามประมินความวิตกกังวลเกี่ยวกับการรักษา และอาการของโรคเป็นระยะ
ประเมินความต้องและหาวิธีเพื่อลดความวิตกกังวลของผู้ป่วย เช่น การฟังคนตรีบำบัด และการใช้ศิลปะบำบัด
Vitamin B12 deficiency anemia
เป็นภาวะโลหิตจางประเภท Macrocytic or Megaloblastic
anemia เกิดจากความผิดปกติของการสังเคราะห์ DNA
เมื่อทํา Blood smear พบว่า เม็ดเลือดแดงมีขนาดใหญ่ และมี
นิวเคลียสหลายอัน การดูดซึมวิตามิน B12 ต้องใช้ปัจจัยภายในที่อยูในกระเพาะอาหารและจะถูกดูดซึมที่ลําไส้เล็กส่วน Ileum ผู้ป่วยตัดกระเพาะอาหารหรือลําไส้เล็กส่วน Ileum จะไม่สามารถดูดซึมวิตามิน B12 ได้เนื่องจากขาดปัจจัยภายในจําเป็นต้องได้รับวิตามินB12 ทดแทนทางหลอดเลือดดำ
การวินิจฉัยโรค
จากอาการและอาการแสดง การตรวจร่างกาย การตรวจ ระดับ Serum vitamin B12 พบว่า มีระดับตํ่ากว่า 100 ไมโครกรัม/ มิลลิลิตร และการทดสอบ Schilling test ได้ผลบวก
การรักษา
ให้วิตามิน B12 ฉีดเข้าหลอดเลือดเดือนละครั้ง
ขาด Intrinsic factor ขาดวิตามิน B12 เนื่องจากรับประทานไม่เพียงพอ ให้เป็นรูปของยาที่ใช้รับประทาน
การพยาบาล
แนะนําผู้ป่วยที่ขาด Intrinsic factor มารับยาฉีดตามแพทย์นัดทุกครั้ง
แนะนําอาหารที่มีวิตามินบี 12
ระมัดระวังอุบัติเหตุ
แนะนําให้สังเกตอาการผิดปกติทางระบบประสาท
ไม่ควรประคบความร้อนหรือความเย็นบริเวณมือและเท้าของผู้ป่วย
เนื่องจากผู้ป่วยมีอาการชา
ผู้ป่วยมังสะวิรัติ ควรอธิบายให้ทราบถึงภาวะขาดวิตามิน
พยาธิสรีระ
สร้าง DNA ผิดปกติ เม็ดเลือดแดงใหญ และมี
นิวเคลียสหลายอันและถูกทําลายก่อนออกจากไขกระดูก
อาการคล้ายกับโลหิตจางทั่วไป คือ มีภาวะซีด
สูญเสียการรับความรู้สึกเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวและการสั่นสะเทือน
อาการทางสมอง
Folic acid deficiency anemia
การวินิจฉัยโรค
โฟเลทส่วนใหญ่ถูกดูดซึมที่ลําไส้ส่วนเจจูนัม
ส่วนใหญ่เกิดจาการรับประทานอาหารไม่เพียงพอ
ปรุงอาหารประเภทผักด้วยการใช้ความร้อนเป็นเวลานาน
มีความผิดปกติของการดูดซึม
ใช้ยาที่ยับยั้งการดูดซึม
ตรวจเม็ดเลือดแดงพบ Megaloblastic and Macrocytic
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบวระดับโฟเลทในเลือดต่ำกว่า4นาโนกรัม Schilling test ปกติ
พยาธิสรีระ
มีการเปลี่ยนแปลงของเม็ดเลือดแดง
มีอาการอ่อนเพลีย
รู้สึกไม่สุขสบายในระบบทางเดินอาหาร
มีท้องอืด เจ็บลิ้น
การรักษา
ให้รับประทาน กรดโฟลิกทดแทน วันละ 1 มิลลิกรัม นาน 3 เดือน
การพยาบาล
แนะนําให้รับประทานยา คือ กรดโฟลิก
แนะนําให้รับประทานอาหารที่มีกรดโฟลิกสูง
หลีกเลี่ยงวิธีการปรุงอาหารด้วยการต้ม นึ่ง
Iron deficiency anemia
พยาธิสรีระ : ความไม่สมดุลของการได้รับและการสูญเสีย
Chronic blood loss อ่อนล้า เหนื่อยง่าย
สาเหตุ
ภาวะนีพบได้บ่อย ในผู้หญิงสาวที่มีภาวะโภชนาการที่ไม่ดี ผู้สูงอายุ และ บุคคลที่มีเศรษฐานะไม่ดี
ร่างกายมีธาตุเหล็กประมาณ 4 กรัม 3 กรัมอยูในฮีโมโกลบิน
500 มิลลิกรัม ถึง 1 กรัม ถูกสะสมไว้ในตับและไขกระดูก เมื่อสูญเสียธาตุเหล็กประมาณ 1.5 กรัมต่อวัน ร่างกายชดเชยการสูญเสีย
โดยการรับประทานอาหาร การสร้างเม็ดเลือดแดงมีปริมาณฮีโมโกลบินลดลง และในที่สุดปริมาณการสร้างเม็ดเลือดแดงจะลดตํ่าลง
เป็นภาวะโลหิตจางเนื่องจากขาดธาตุเหล็ก
การรักษา
การค้นหาสาเหตุของการขาดธาตุเหล็กเพื่อแกไขสาเหตุที่ทําให้ความสมดุลของธาตเหล็กในร่างกายบกพร่อง
ให้ธาตุเหล็กทดแทน ส่วนใหญ่ให้เป็นยารับประทานซึ่งอยูในรูปของ
Ferrous sulfate
การพยาบาล
แนะนําการรับประทานยา Ferrous sulfate: ควรรับประทานยาหลังอาหาร พร้อมกบดื่มนํ ัาส้มหรือวิตามินซี เพื่อยานั้นถูกดูดซึมดี
สังเกตสีอุจจาระจะเปลี่ยนเป็ นสีดําหรือนํ้าตาลเข้ม อาจมีอาการท้องผูกเนื่องจากเป็ นอาการข้างเคียงของยา อาจต้องใช้ยาระบายช่วยในการขับถ่ายอุจจาระ
กรณีที่ไม่สามารถทดแทนธาตุเหล็กโดยการรับประทานทางปากเพียงพออาจจําเป็ นต้องให้ทางหลอดเลือดดําอาจให้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ต้องใช้ technique ให้คําแนะนําเกี่ยวกบการรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กผส ัมอยู เช่น เนื้อสัตว์ ไข่แดง ผัก
กรณีมีปัญหาเรื่องเศรษฐานะไม่สามารถจัดหาอาหารที่มีธาตุเหล็กมารับประทานได้ ควรสงผู้ป่ วยปรึกษาหน่วยงานอื่น
Polycythemia
ภาวะที่เม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นเพียงอยางเดียวหรือเพิ่มทั้งเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวและเกร็ดเลือด หรือ plasma ลด
สาเหตุ
โลหิตข้นเทียม
โลหิตข้นแท้
โลหิตข้นชนิดปฐมภูมิ
โลหิตข้นชนิดทุติยภูมิ
พยาธิสรีระ
เกิดลิ่มเลือด
เมื่อเกิดภาวะเลือดข้น เลือดจะหนืด ไหลเวียนได้ช้า
เกิดการรวมกันของ Thrombus บริเวณผนังของหลอดเลือด
ภาวะแทรกซ้อน
ม้ามโต
มีปริมาณเม็ดเลือดแดงเพิ่มมากขึ้น ระดับฮีมาโตคริทสูงกว่า 53%
ผิวหนังมีสีแดง
เลือดออกง่าย
เหนื่อยง่าย
มือเท้าชา แขนกระตุก
ปวดศีรษะ หูอื้อ มีเสียงดังในหู
อาจพบก้อนเลือดอุดตันในสมองหรือเส้นเลือดแดงในสมองแตก
การรักษา
ลดจํานวนเม็ดเลือดแดงโดยการเจาะเลือดออก
การพยาบาล
พยาบาลควรประเมินอาการและ อาการแสดงของภาวะแทรกซ้อน ให้ผู้ป่วยได้รับสารนํ้าเข้าสู่ร่างกายอย่างเพียงพอ ให้ผู้ป่วยได้รับการเจาะเลือดออก วัดระดับความดันโลหิต และสังเกตจุดเลือดออกตามผิวหนัง
โลหิตจางที่เกิดจากเม็ดเลือดแดงถูกทำลายและ
ความผิดปกติของการสังเคราะห์ฮีโมโกลบิน
Sickle cell anemia
G6PD
เป็นความผิดปกติของเอนไซม ทําให้มีการแตกสลายของเม็ดเลือดแดง
พยาธิสภาพ
เซลล์จะถูกทําลายหรือแตกก่อนกําหนด
การวินิจฉัยโรค
การเจาะเลือดส่งตรวจเอนไซม์ G6PD
การรักษา
หลีกเลี่ยงการสัมผัสที่ทำให้เกิดการสลายเม็ดลือดแดง
การทําผ่าตัดม้าม
ให้ Folic acid and Iron
การพยาบาล
ติดตามประเมินภาวะโลหิตจาง
ติดตามประเมินอาการแสดงของภาวะเม็ดเลือด
หลีกเลี่ยงการกระตุ้นการแตกของเม็ดลือด
Aseptic technique
รับประทานยา Folic acid and Iron
Thalassemia
เป็นกลุ่มความผิดปกติทางพันธุกรรม Hypochromia and
Microcytosis
การแบ่งผู้ป่วยธาลัสซีเมียตามการถ่ายทอดทางพันธุกรรม
ผู้ป่วยที่เป็นโรค
ผู้ป่วยที่เป็นพาหะ
อาการ
ซีด
ตัวเหลือง ตาเหลือง
อ่อนเพลีย สับสน
เหนื่อยง่าย
การรักษา
การให้เลือด
Deferoxamine
บางรายต้องทําผ่าตัดม้าม
การรักษาโดยการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก
การพยาบาล
ดูแลให้เลือด
สนับสนุนความต้องการด้านอารมณ์
ไม่ปล่อยให้มีไขมันสูง
ห้ามรับประทานยาบํารุงเลือดที่มีธาตุเหล็ก
หลีกเลี่ยงการทํางานหนัก
รับประทานยา Folic acid
ดื่มนํ้าชาหลังอาหารเพื่อลดการดูดซึมธาตุเหล็ก
ควรตรวจฟันทุก 6 เดือน
อธิบายให้ญาติและผู้ป่วยทราบว่า โรคนี้เป็นโรคทางพันธุกรรม
โลหิตจางที่เกิดจากการสูญเสียเลือด
Acute blood loss: ภาวะโลหิตจางที่เกิดจากการสูญเสียเลือดอย่างเฉียบพลัน วัยผู้ใหญ่: เลือดไหลเวียน6,000 มิลลิลิตร และสามารถสูญเสียเลือดได้ประมาณ 500 มิลลิลิตร โดยไม่มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อร่างกายㆍม้ามสามารถปล่อยเม็ดเลือดแดงที่สะสมไว้เข้ามาชดเชยได้ถ้าเท่ากับหรือมากกว่า 1,000 มิลลิลิตร จะมีผลกระทบอย่างรุนแรง
อาการและอาการแสดง
Hypovolemia and Hypoxemia
อ่อนเพลีย ซึม สับสน
ผิวหนังเย็นขึ้น
ความดันโลหิตต่ำ
หัวใจและชีพจรเต้นเร็ว
ระดับฮีโมโกลบินและมาโตคริทลดลง
การดูแลรักษา
Acute blood Ioss: ค้นหาแหล่งหรืออวัยวะที่เป็นต้นเหตุของการ
สูญเสียเลือด พร้อมกับรีบรักษาแก้ไขและทดแทนเลือดที่สูญเสียไปทันทีโดยการให้เลือด (Blood transfusion) หรือให้ธาตุเหล็กเสริม
ควรหลีกเลี่ยงการให้ Whole blood ควรให้เป็น Pack red cell เนื่องจากสามารถลดภาวะ Pulmonary edema and Circulatory overload
Chronic blood loss ร่างกายมีกลไกปรับตัว เมื่อระดับเม็ดเลือดแดงและฮีโมโกลบินลดลง จะมีการสร้างเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ เพื่อคงไว้ซึ่งความสมดุล
อาจจะไม่แสดงอาการจนกระทั่งสูญเสียเม็ดเลือดแดงเกือบจะ50%
EX.ผู้ป่วยโรกไตวายรื้อวังสามารถดำรงชีวิตตามปกติแม้มีระดับ
ฮีโมโกลบินต่ำกว่า8 8/0 ในกาวะโลหิตจาง ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการจะมีค่าต่ำกว่าปกติ ได้แก่ RBC count, Hb, Hct, MCV, MCHC เป็นสาเหตุที่พบบ่อยของภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
การดูแลรักษา
การให้เลือดทดแทนพบไม่บ่อยเนื่องจากมี
ภาวะเสี่ยงสูงกว่าการรักษาโดยวิธีอื่น
การให้เลือดจึงมักใช้กรณีที่มีอาการรุนแรง
การพยาบาล
การดูแลผู้ป่วยที่ได้รับเลือด ตรวจเช็คความถูกต้อง ตรวจเช็คด้วยพยาบาล
3 คน เกี่ยวกับ ชื่อ นามสกุลของผู้ป่วย กรุ๊ปเลือด ชนิดของเลือดที่ต้อง
ให้กับผู้ป่วย หมายเลขกำกับถุงเลือด
ขณะที่ให้เลือดต้องสังเกตปฏิกิริยาของร่างกายที่มีต่อเลือดที่ได้รับ มักจะ
เกิดขึ้นหลังให้เลือดนาน 15 - 20 นาที ดังนั้นจึงต้องวัดสัญญาณชีพ
ทุก 15 นาที หลังได้รับเลือด
กระตุ้นและแนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กผสม ได้แก่
ไข่ ถั่ว นม เนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ ผักใบเขียว
Hb ต่ำ เหนื่อยล้าง่าย เพราะเนื้อเยื่อพร่องออกซิเจน ควรจัดช่วงเวลาในการทำกิจกรรมและการพักผ่อนให้เหมาะสม เพื่อให้ผู้ป่วยมีพลังงาน
สะสมอย่างเพียงพอในการทำกิจกรรม
มีโปรแกรมคัดกรองผู้ป่วยที่มีภาวะสี่ยง เช่น ผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจ Fecal occult blood screening เมื่อ
เข้ามารับการตรวจร่างกายประจำปี
จัดโปรแกรมการให้ความรู้เกี่ยวกับการรับประทานอาหารให้กับ
ประชาชนผู้มีรายน้อย เพื่อป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
และวิตามินบี 12
แนะนำให้หญิงที่เสียเลือดประจำเดือนในปริมาณมาก ติดตามประเมิน
ระดับความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดงอย่างต่อเนื่องและควรจัดตารางเวลา
ในการทำกิจกรรมและการพักผ่อน
ความผิดปกติของเม็ดเลือดขาว
มะเร็งเม็ดเลือดขาว
ความผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เจริญเติบโตเพิ่มจํานวนอยางไม่หยุดยั้งไม่สามารถควบคุมได้ ส่งต่ออวัยวะที่มีการสร้างเลือด ความสามารถด้านภูมิต้านทานจะลดลง
Acute Lymphoblastic Leukemia
เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบเฉียบพลัน เกิดการเปลี่ยนแปลงใน oncogene หรือ tumor suppressor gene สาเหตุไม่ทราบแน่นอน
พยาธิสรีระ
เซลล์มะเร็งทําให้เกิดความผิดปกติของ Lymphoid stem cell สร้างเซลล์ตัวอ่อนจํานวนมาก จํานวนตัวอ่อนที่มากจะนําไปสู่การพยากรณ์ของโรคที่ไม่ดี
อาการ
ภาวะโลหิตจาง เลือดออกง่ายหยุดยาก ติดเชื้อง่าย Blood smear พบ Lymphoblasts ระดับฮีมาโตคริตและจํานวนเกล็ดเลือดมีปริมาณลดลง SVC obstruction อาการของ leukemia infiltration ไปในอวัยวะต่าง ๆ
การวินิจฉัย
การวินิจฉัย ALL ต้องอาศัยการตรวจพบ lymphoblast ในไขกระดูก
การรักษา
โดยทั่วไปยุ่งยากซับซ้อน มีผลข้างเคียงมีค่าใช้จ่ายสูง
การรักษาการติดเชื้อ hyperleukocytosis
การให้ยาเคมีบําบัด
การให้สารนํ้าเพียงพอร่วมกับ allopurinol
Acute Myelogenous Leukemia
ทําให้เกิดความผิดปกติของ Myeloid stem cell
สาเหตุ
พันธุกรรม
สารรังสี
สารเคมี
บุหรี่
ยาเคมีบําบัด
พยาธิสรีระ
พบเซลล์ตัวอ่อน Myeloblasts ในไขกระดูก
เจาะไขกระดูกพบ Myeloblasts จํานวนมาก
การวินิจฉัย
การตรวจรูปร่างของเซลล์ตัวอ่อน
การรักษา
การให้ยาเคมีบําบัด
Bone marrow transplant
อาการ
ซีด
ไข้
เลือดออกง่ายสาเหตุจากเกล็ดเลือดตํ่า
leukemia cell infiltration
macroglossia
ตับม้ามโต
Chronic Lymphoblastic Leukemia
สาเหตุการเกิดไม่ทราบแน่ชัด พบมากเมื่อมีอายุมากขึ้น
พยาธิสรีระ
ความผิดปกติของ B-lymphocyte ทําให้การสังเคราะห์ Immunoglobulin ลดลง
กดการตอบสนองของแอนติบอดี
ตรวจไขกระดูกพบ จํานวน Lymphocytes เพิ่มมากขึ้น
อาการ
เมื่อเจาะไขกระดูกพบมีเซลล์ Lymphocytes จํานวนมาก
การรักษา
จะใช้ยาเคมีบําบัด
อาจใช้การฉายรังสีรักษา
Chronic Myelogenous Leukemia
สาเหตุเกิดจากการบาดเจ็บของ DNA ของเซลล์ต้นกําเนิดในไขกระดูก
พยาธิสรีระ
Blood smear จะพบเม็ดเลือดเลือดขาวชนิด Granulocytes เพิ่มอย่างรวดเร็ว มักมีเกร็ดเลือดสูงร่วมด้วย myeloproliferative disorder ส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของเม็ดเลือดชนิดต่างๆ
การวินิจฉัย
differential count จะพบกันเพิ่มขึ้น neutrophils band, myelocytes, myeloblast, eosinophil and basophil
การรักษา
ควบคุมการเพิ่มจํานวนของ WBC
ยาเคมีบําบัดที่ใช้รักษา
การรักษาด้วย interferon – alpha
การเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก
การพยาบาล
เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เนื่องจากมีระดับ Netrophils ตํ่า
Aseptic technique
จัดเตรียมอาหารที่ปรุงสุก
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด
หลีกเลี่ยงการรับประทานผักและผลไม้สด
เพื่อป้องกันการมีเลือดออก
ติดตามประเมินภาวะที่มีเลือดออกง่าย
ติดตามประเมินความรู้สึกตัว เมื่อมีอาการปวดศีรษะ การตอบสนองของรูม่านตาที่ผิดปกติ
หลีกเลี่ยงการทําหัตถการที่ทําให้มีเลือดออก
ความสามารถในการปรับตัวขณะเจ็บป่วยจะลดลง
ดูแลเรื่องการสูญเสียภาพลักษณ์จากการที่ผมร่วงมาก
การพยาบอลผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของเกล็ดเลือดและ clotting factor
Hemophilia
สาเหตุ
เกิดเฉพาะในชายเนื่องจากมีความผิดปกติบนโครโมโซม “X”
เป็นโรคเลือดออกง่ายหยุดยากทางพันธุกรรม
Hemophilia A พร่อง facto viii hemophilia B ขาด factor X hemophilia C พร่อง Factor IX
พยาธิสภาพ
ภาวะขาดปัจจัยการแข็งตัวของเลือดที่เรียกว่า “แฟคเตอร์” ทําให้มี
ความบกพร่องในกลไกการแข็งตัวของเลือด
มีความผิดปกติของ gene ที่มีหน้าที่ควบคุม การสร้าง factor VIII, Factor IX protein
การวินิจฉัยโรค
ตรวจการแข็งตัวของเลือด
ตรวจยืนยันด้วยระดับ Factor
อาการ
มีประวัติที่เกี่ยวข้องกับการมีเลือดออก
จ้ำเลือดขนาดใหญ่
ปวด และบวม หรือความรู้สึกตึงๆ ในข้อ
การเคลื่อนไหวของข้อลดลง
การหนาตัวของเยื่อบุsynovium
การอักเสบของเยื่อบุเรื้อรังจะให้การทําลายผิวข้อ
ภาวะ pseudotumor
ข้อผิดรูปและข้อพิการ
การรักษา
เมื่อมีเลือดออกต้องทําการห้ามเลือด ได้ผลไม่ดี
ให้ส่วนประกอบของเลือด
prophylactic therapy
การพยาบาล
หยุดอาการเลือดออกโดยการห้ามเลือด
ประคบเย็น
ไม่ควรเคลื่อนไหวข้อที่เกิดเลือดออก
ให้สารประกอบเลือดตามแผนการรักษา
หลังจาก 24-48 ชั่วโมง ประคบอุ่น
หายปวดให้เริ่มบริหารข้อให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม
ติดตามประเมินอาการผิดปกติการมีเลือดออกง่ายหยุดยาก
Thrombocytopenia
พยาธิสรีระ
Autoimmune thrombocytopenia เป็นกลุ่มอาการเกล็ดเลือดตํ่าที่เกิดจากความ ผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน สร้างภูมิคุ้มกันต่อเกล็ดเลือดของตนเองทําให้มีการทําลายเกล็ดเลือด
สาเหตุ
Autoimmune Diseases
Drug-induced thrombocytopenia
Aplastic anemia
acute leukemia
การรักษาบางชนิด
การสัมผัสสารเคมีบางชนิด
การใช้ยาบางชนิด
การดื่มแอลกอฮอล์
การขาดแร่ธาตุและวิตามิน
การติดเชือไวรัสบางชนิด
อาการ
มีจุดเลือดออกที่ผิวหนัง (Petechiae)
จ้ำเลือด (Purpura)
เลือดออกใต้ผิวหนัง (Ecchymoses)
มีเลือดประจําเดือนออกมาก
มีเลือดออกทางช่องคลอดบ่อย ๆ
มีเลือดกําเดาไหลบ่อย
การวินิจฉัย
ซักประวัติ
ตรวจร่างกาย
ตรวจเลือด
ตรวจไขกระดูก
การรักษา
ผู้ป่วยที่เหล็กเลือดไม่ต่ำมากอาจไม่จำเป็นต้องรักษา
ผู้ป่วยที่สาเหตุจากยาบางชนิด ให้เปลี่ยนยา
รักษาด้วยใช้ยา
การให้เลือดหรือเกล็ดเลือด
การผ่าตัดม้าม
การพยาบาล
ในรายที่มีอาการเลือดออกให้เห็น ควรห้ามเลือดเฉพาะที่ก้อน เช่น ถ้ามีเลือดกําเดาออก อาจใช้น้ำแข็งประคบ
ให้การพยาบาลอย่างนุ่มนวลเพื่อป้องกันการเกิดบาดเจ็บ
หลีกเลี่ยงการเจาะเลือดบ่อย วางแผนให้ดีก่อนเจาะ เจาะวันละครั้ง ใช้เข็มเบอร์เล็ก ห้ามเจาะเลือดบริเวณขาหนีบ เพราะจะทําให้เลือดออกมาก
งดฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อโดยเฉพาะในรายที่เกล็ดเลือดยังตํ่าอยู่
จํากัดกิจกรรมทางกายงดเล่นกีฬาที่โลดโผนเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และมีเลือดออก
ให้รับประทานอาหารอ่อน งดอาหารที่ต้องเคี้ยว
ผู้ป่วยมักมีเลือดออกตามไรฟันจึงให้การดูแลทําความสะอาดช่องปากบ่อยๆ ป้องกันโอกาสติดเชื้อ
สังเกตอาการมีเลือดออกในสมอง เช่น ปวดศีรษะ อาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรง ชัก หมดสติ
อธิบายให้ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจเกี่ยวกับโรค แนะนําการดูแลตนเอง ไม่ควรซือยารับประทานเอง ยาบางตัวทําให้เลือดออกง่าย เช่น แอสไพริน
Disseminated intravascular
Coagulation (DIC)
พยาธิสภาพ
เป็นภาวะที่ระบบการแข็งตัว ของเลือดถูกกระตุ้นให้เกิดขึ้นอย่าง
ผิดปกติทั่วร่างกาย กิดลิ่มเลือด ในหลอดเลือดขนาดเล็ก อุดตันหลอดเลือดหากรุนแรงจะนําไปสู่ภาวะล้มเหลวของอวัยวะต่าง ๆ
การแข็งตัวของเลือด (Process of coagulation)
การต้านการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulation process
สาเหตุ
การติดเชื้อ
ภาวะที่ทําให้มีtissue thromboplastin
ภาวะต่าง ๆ ที่เกิดปฏิกิริยาแอนติเจน-แอนติบอด
การวินิฉัย
มีเกร็ดเลือดตํ่า (Thrombocytopenia)
Screeningcoagulogram(PTT, PT, TT)นานกว่าปกติ
มีFibrin degradation product (FDP)เกิดขึ้น
อาการ
Purpura fulminans (hemorrhage infarction)
Acrocyanosis
Dissectinghemartosis
Hemorrhagic blebs
. Ischemic ecchymosis
การรักษา
Treatment of underlying disorder
Anticoagulantslow dose heparin thrombin inhibitor
Platelet and plasma
Clotting factor concentrate
Supportive therapeutic option in severe DIC
การพยาบาล
สังเกตและจดบันทึกลักษณะของสิ่งคัดหลั่งที่ไหลออกมาจากท่อระบายต่างๆ
สังเกตการมีเลือดออกในตําแหน่งใหม่
หลีกเลี่ยงการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ
ติดตามประเมินอาการแสดงของภาวะนํ้าเกิน
ติดตามประเมินจํานวนปัสสาวะที่ออกในแต่ละชั่วโมง
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางน้ำเหลือง
มะเร็งต่อมนํ้าหลือง (Lymphoma) รอยโรคมักจะอยู่ที่ต่อมนํ้าเหลือง และอวัยวะต่างๆ
Hodgkin’s lymphoma
พยาธิสรีระ
เกิดจากเซลล์มะเร็งที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวคือ Reed-Sternberg cells
เซลล์ต้นกำเนิดเซลล์เม็ดเลือดขาว ลิมโฟไซทซ์ สามารถสร้าง cytokines ชนิดต่าง ๆ กระตุ้นให้เซลล์อักเสบชนิดอื่น
พยาธิสภาพจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์ เกิดจากลิมฟอย
การวินิจฉัย
ตรวจชิ้นเนื้อจากต่อมน้ำเหลือง เพื่อหา Reed-Sternberg cells
bone marrow biopsy
CT scan or PET scan chest and whole abdomen
อาการ
อ่อนล้า อ่อนเพลีย
เบื่ออาหาร
มีไข้โดยไม่รู้สาเหตุ
มีเหงื่อออกตอนกลางคืน
มีอาการคันตามร่างกายโดยทั่วไป
ตรวจร่างกายจะพบต่อมนํ้าเหลืองโตแต่กดไม่เจ็บ พบบ่อยบริเวณ คอ รักแร้ และขาหนีบ
อาจพบ ตับ ม้ามโต
การรักษา
Chemotherapy
Radiation
Target drug-! Antibody therapy
Stem cell transplantation
Steroid
Non-Hodgkin’s lymphoma
พยาธิสภาพ
ลักษณะเซลล์แบบ Diffuse B-cell Lymphoma (DLCL)
ต่อมนํ้าเหลืองโดนแทรกโดย lymphoid cell
สาเหตุ
การติดเชื้อโรค
ภูมิต้านทานตํ่า
การสัมผัสสารก่อมะเร็ง
การวินิฉัย
การซักประวัติและการตรวจร่างกายที่ละเอียด รวมถึงการกําหนด performance status (PS)และ B symptoms, การตรวจ complete blood count (CBC) และ differential count, Bone marrow aspiration และ biopsy, CT scan
อาการ
ไข้สูงกว่า 38 องศา
เหงื่อออกเวลากลางคืน
น้ำหนักลดมากกว่า 10% โดยไม่ทราบสาเหตุ
ซีด
มีอาการคันที่ผิวหนัง
การรักษา
รังสีรักษา
ได้ผลในระยะแรกๆ
การผ่าตัด
บำบัดได้สำหรับผู้ป่วยที่เกิดขึ้นกับต่อมน้ำเหลืองเพียงอย่างเดียว
เคมีรักษา (เคมีบําบัด)
นํายาต้านโรคมะเร็งไปทําลายหรือควบคุมเซลล์มะเร็ง
การพยาบาล
การพยาบาลผู้ป่วยก่อนการรักษาด้วยยาเคมีบําบัด
เตรียมความพร้อมของผู้ปวยทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
การประเมินภาวะทางจิตสังคม และการรับรู้ของผู้ป่วยต่อโรค
การพยาบาลผู้ป่วยขณะได้รับยาเคมีบําบัด
การแนะนําให้ผู้ป่วยหมั่นสังเกตอาการผิดปกติบริเวณที่ให้ยาเคมีบําบัด
วัดสัญญาณชีพ
การพยาบาลภายหลังการรักษาด้วยยาเคมีบําบัด
การให้คําแนะนําในเรื่องการพักผ่อน การออกกําลังกาย การรับประทานอาหารที่เหมาะสม การรักษาความสะอาดร่างกาย
สังเกตอาการผิดปกติที่ต้องรีบมาพบแพทย์
จัดตารางเวลาในการให้การรักษาให้สอดคล้องกับการดําเนินชีวิต
ให้กําลังใจผู้ป่วยเมื่อโรคที่เคยสงบมีอาการกําเริบอีกครั้ง
ติดตามประเมินจํานวนเซลล์เม็ดเลือดเป็นระยะ