Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่11 ครอบครัวและมรดก - Coggle Diagram

- - - - กรณีที่ชายกับหญิงตกลงว่าจะทำการสมรสกันการหมั้นนี้จะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อฝ่ายชายได้ส่งมอบหรือโอนทรัพย์สินอันเป็นของหมั้นให้แก่หญิง
    - - การหมั้นต้องมีของหมั้นอันได้แก่ทรัพย์สินที่ฝ่ายชายได้ส่งมอบหรือโอนให้แก่หญิงเพื่อเป็นหลักฐานว่าจะสมรสกับหญิงนั้น
    - - สินสอดเป็นทรัพย์สินซึ่งฝ่ายชายให้แก่บิดามารดาผู้รับบุตรบุญธรรมหรือผู้ปกครองของฝ่ายหญิงเพื่อตอบแทนการที่หญิงยอมสมรส
    - - การหมั้นจะสมบูรณ์ต่อเมื่อได้ทำให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้
    - - สิทธิเรียกค่าทดแทนจากคู่หมั้นอีกฝ่ายหนึ่ง
      - สิทธิเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งได้ร่วมประเวณีหรือข่มขืนกระทำชำเราหรือพยายามข่มขืนกระทำชำเราคู่หมั้นของตน
      - สิทธิเกี่ยวกับของหมั้น
    - - การสิ้นสุดโดยกฎหมาย
        
        กรณีที่คู่หมั้นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายก่อนสมรส
        
        กรณีที่มีการบอกล้างสัญญาหมั้น
        
        กรณีที่มีการสมรส
      - การสิ้นสุดโดยการบอกเลิกสัญญา
      - การสิ้นสุดโดยความยินยอม
  - - - การสมรสจะทำได้ในระหว่างชายกับหญิงเท่านั้น
      - หากผู้เยาว์จะทำการสมรสต้องได้รับความยินยอมจากบุคคล
      - การสมรสจะกระทำมิได้ ถ้าชายหรือหญิงเป็นบุคคลวิกลจริต หรือเป็นบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถ
      - ชายหรือหญิงนั้นต้องไม่ใช่ญาติสืบสายโลหิตโดยตรงขึ้นไปหรือลงมาหรือเป็นพี่น้องร่วมบิดาหรือมารดา
      - ผู้รับบุตรบุญธรรมและบุตรบุญธรรมจะสมรสกันไม่ได้
      - ชายหรือหญิงจะทำการสมรสในขณะที่ตนมีคู่สมรสอยู่มิได้
      - หญิงที่สามีตายหรือการสมรสสิ้นสุดลง จะสมรสใหม่ไม่ได้จนกว่าความตายหรือการสิ้นสุดแห่งการสมรสนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้วไม่น้อยกว่า 310วัน
      - ชายและหญิงยินยอมสมรสกัน
    - - กฎหมายได้กำหนดไว้ว่าการสมรสจะมีได้เพราะเมื่อได้จดทะเบียนแล้วเท่านั้นหากคู่สมรสฝ่าฝืนไม่ทำตามกล่าวคือไม่ได้จดทะเบียนก็ไม่ถือว่าเป็นสามีภริยากันตามกฎหมายการทำพิธีแต่งงานกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสต่อมาจะฟ้องศาลขอให้บังคับอีกฝ่ายหนึ่งจดทะเบียนสมรสไม่ได้
  - - - การอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา
      - สามีภริยาต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกันตามความสามารถและฐานะของตน
    - - สินส่วนตัว
      - สินสมรส
  - - - ซึ่งกฎหมายได้กำหนดให้บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของสินส่วนตัวนั้นเป็นผู้ดูแลจัดการสินส่วนตัวนั้นเอง
    - - กฎหมายกำหนดให้สามีและภริยาต้องจัดการสินสมรสร่วมกันหรือต้องได้รับความยินยอมจากอีกฝ่ายหนึ่ง
  - - - ความตายโดยธรรมชาติ
      - ความตายโดยกฎหมาย
    - - การสมรสที่ฝ่าฝืนเงื่อนไขเกี่ยวกับเรื่องอายุ
      - การสมรสที่เกิดจากการสำคัญผิดตัวคู่สมรส
      - การสมรสที่เกิดจากกลฉ้อฉล
      - การสมรสที่เกิดขึ้นจากการข่มขู่
      - การสมรสที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้รับความยินยอมจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง
    - - การหย่าโดยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย
        
        การหย่าโดยความยินยอมของทั้งสองฝ่ายนั้นต้องทำเป็นหนังสือและมีพยานลงลายมือชื่ออย่างน้อย2 คนสามีภริยาตกลงหย่ากันต่อหน้าพยานหลายคนเมื่อมิได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือไว้ก็ไม่มีผลเป็นการหย่า
      - การหย่าโดยคำพิพากษาของศาล
        
        เหตุการหย่าที่กฎหมายกำหนด
  - - - บุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดามีสิทธิใช้ชื่อสกุลของบิดาบิดาจะห้ามปรามขัดขวางไม่ให้บุตรใช้สกุลของตนเองไม่ได้
    - - บุพการีถือว่าเป็นผู้มีพระคุณสูงสุดที่ผู้สืบสันดานต้องเคารพนับถือกฎหมายจึงห้ามมิให้ผู้สืบสันดานฟ้องผู้บุพการีไม่ว่าจะเป็นบิดามารดาปู่ย่าตายายและทวดทั้งทางแพ่งและทางอาญาโดยถือว่าเป็น“คดีอุทลุม”
  - - - 1.ผู้ที่จะรับบุตรบุญธรรมต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า25 ปี
        2.ผู้รับบุตรบุญธรรมต้องมีอายุแก่กว่าผู้ที่จะเป็นบุตรบุญธรรมอย่างน้อย15 ปี
        3.ในการรับบุคคลที่มีอายุไม่ต่ำกว่า15 ปีเป็นบุตรบุญธรรมต้องให้บุคคลนั้นให้ความยินยอมด้วย
        4.ในการรับบุคคลที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเป็นบุตรบุญธรรมจะทำได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากบิดาและมารดาของผู้เยาว์นั้นก่อนในกรณีที่ผู้เยาว์นั้นถูกทอดทิ้งและอยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์เด็กให้ขอความยินยอมจากผู้มีอำนาจในสถานสงเคราะห์เด็กนั้นแทน
        5.ในกรณีที่ผู้รับบุตรบุญธรรมหรือผู้ที่จะเป็นบุตรบุญธรรมมีคู่สมรสแล้ว ในการรับหรือเป็นบุตรบุญธรรม ต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสก่อน
        6.ผู้เยาว์เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลใดบุคคลหนึ่งอยู่ จะเป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่นอีกในขณะเดียวกันไม่ได้ เว้นแต่จะเป็นบุตรบุญธรรมของคู่สมรสของผู้รับบุตรบุญธรรม
        7.การรับบุตรบุญธรรมจะสมบูรณ์ต่อเมื่อได้จดทะเบียนตามกฎหมาย
    - - 1.มีฐานะอย่างเดียวกับบุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้รับบุตรบุญธรรมนั้น กล่าวคือ บุตรบุญธรรมนั้นจะมีสิทธิได้รับการอุปการะเลี้ยงดู ส่งเสียได้รับการศึกษา มีสิทธิได้ใช้นามสกุล และมีสิทธิได้รับมรดกเหมือนบุตรชอบด้วยกฎหมายทั้งหลาย
        2.มีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูผู้รับบุตรบุญธรรมทำนองเดียวกับบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย
    - - 1.ผู้รับบุตรบุญธรรมมีสิทธิใช้อำนาจปกครองกับบุตรบุญธรรม 2.ผู้รับบุตรบุญธรรมไม่มีสิทธิรับมรดกของบุตรบุญธรรมในฐานะที่เป็นทายาทโดยธรรม แต่สามารถรับมรดกได้ในฐานะเป็นผู้รับพินัยกรรม 3.ผู้รับบุตรบุญธรรมมีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรบุญธรรมทำนองเดียวกับบิดามารดาซึ่งมีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย
    - - 1.การเลิกรับบุตรบุญธรรมโดยความตกลง
        2.การเลิกเมื่อมีการสมรสกัน
        3.การเลิกรับบุตรบุญธรรมโดยคำสั่งศาล