Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Pneumonia ( ปอดอักเสบ), ผู้ป่วยชายไทยคู่ อายุ 65ปี รับไว้รักษาในหอผู้ป่วยศ…

- - - - การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
        
        1.การตรวจนับเม็ดเลือดขาวพบ WBC มากกว่า 14000 cumm
        
        การย้อมเสมหะ sputum gran stain: gram positive cocci
        
        ผล x-ray ปอดพบ Pulmonary infiltration of both lungs
        
        Sputum C/S Pseudomonas aeruginosa
      - การตรวจร่างกายแพทย์จะใช้อุปกรณ์ตรวจฟังเสียงปอด ซึ่งอาจได้เสียงcrepitations หรือเสียงหายใจเบากว่าปกติ
        
        3.มีไข้ 38.4
        
        4.หายใจเร็ว 32 ครั้ง/นาที
        
        2.อาการหายใจลำบาก (Dyspnea)
        
        1.ฟังเสียงปอดของผู้ป่วยได้ยินเสียงcrepitation
    - - ร่างกายได้รับออกซิเจนเพียงพอต่อความต้องการร่างกาย
      - ลดการติดเชื้อและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
    - - 1.WBC140000 CUMM
      - 2.neutrorhil 85%
      - ฟังเสียงปอดได้ยินเสียง fine crepitation
      - ผล x-ray ปอดพบ Pulmonary infiltration of both lungs
      - ผล culture พบ pheudomonas aeruginosa
    - - วัด v/s ตรวจวัดสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง ประเมินความรู้สึกตัว ภาวะพร่องออกซิเจน ฟังปอด วัดO2 SAT (90%) เพื่อประเมินอาการเปลี่ยนเเปลงของผู้ป่วย
      - ฟังเสียงปอดทุก 8 ชั่วโมง
      - ดูทางเดินหายใจให้โล่งโดยการให้ผู้ป่วยนอนท่า Fowler position 45 c เพื่อให้ปอดได้ขยายเต็มที่
      - Suction clear airway ก่อนหรือหลังอาหารอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อลดการอุดตันของเสมหะที่ท่อทางเดินหายใจเพิ่มประสิทธิภาพในการหายใจ
      - ดูเเลให้ผู้ป่วยได้รับยาขยายหลอดลม Berobual 1 nebule q 4 hrs พ่นทางจมูกเพื่อให้เสมหะอ่อนตัวลง
      - ติดตามผล CBC และผลตรวจ culture ผล X-ray
      - จัดสิ่งเเวดล้อมเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สดวก
      - ดูเเลให้ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ลดการทำกิจกรรม เพื่อลดการใช้ออกซิเจน
    - - อุณหภูมิร่างกายปกติ 36.5 - 37.4 C
      - WBC ปกติ 5000 - 10000 cell/ml
      - ผล X-ray ไม่พบ infiltration บริเวณที่มีการอักเสบ
      - ฟังปอดไม่ได้ยินเสียง crepitation
      - ผลตรวจ sputum gram stain, Sputum C/S ไม่พบเชื้อ
      - 6.ผลการตรวจ CBC ค่าเม็ดเลือดขาวปกติ 3600 - 11500 cell/mm3. neutrophil 40-80%
    - - Oxygen therapy เพื่อป้องกันการเกิดภาวะออกซิเจนต่ำเเละภาวะหายใจล้มเหลว
        
        Cannula 2 LPM เพราะร่างกายสามารถรับได้เท่านี้
      - การรักษาการผ่าตัด
        
        5%D/N/2 1,000 cc + KCL 20 mEq (V) 80 cc/hr สรรพคุณ : รักษาค่าน้ำตาลในร่างกายเนื่องจากคนไข้มีการงดน้ำงดอาหาร
        
        2.MO 3 mg dilute (V) slowly q 6 hrs for pain สรรพคุณ : ยาแก้ปวด ผลข้างเคียง : ง่วง ท้องผูก นอนหลับ ง่วง ผ่อนคลาย
        
        3.Paracetamol (500 mg) 1 tab O prn q 4-6 hrs สรรพคุณ : บรรเทาอาการปวดทั่วไป ผลข้างเคียง : คลื่นไส้ อาเจียน เหนื่อยง่ายผิดปกติ มีผื่นคัน ปัสสาวะน้อยลงอย่างไม่มีสาเหตุ
        
        4.Dexamethazone 4 mg (V) q 6hrสรรพคุณ : ยาต้านการอักเสบ ผลข้างเคียง : กล้ามเนื้อเกร็ง อ่อนเเรง ปัสสาวะน้อย
- - - - -ภาวะลำไส้ตีบตัน (Mechanical Obstructions)
        1.มีการอุดตันของทางเดินของลำไส้เนื่องจากพฤติกรรมการกินของคนไข้ คนไข้ชอบรับประทานเนื้อสัตว์ ไม่รับประทานผักผลไม้จึงทำให้มีอาการท้องผูก
    - - การอุดกั้นที่ลำไส้ส่วนต้นมักพบบริเวณดูโอดีนัมหรือเจจูนัมส่วนต้นทำให้มีอาการอาเจียนซึ่งจะมีน้ำดีปนออกมาการอุดกั้นที่ลำไส้ส่วนเจจูนัมส่วนล่างและไอเลียมจะมีอาการอาเจียนออกมาคล้าย ๆ อุจจาระมักมีอาการปวดเกร็งรอบ ๆสะดือ
      - การอุดกั้นที่ลำไส้ส่วนปลายมักพบบริเวณไอเลียมทำให้มีน้ำและแก๊สคั่งค้างอยู่ในลำไส้ส่วนเหนือบริเวณที่อุดกั้นทำให้เกิดการขยายและพองออกและขับหลั่งสารต่างๆออกมาจากผนังลำไส้มีการหดเกร็งของลำไส้เล็กทำให้มีเลือดมาเลี้ยงผนังลำไส้น้อยลงอาจมีแผลที่ผนังลำไส้และผนังแตกทะลุและมีการเน่าตายของลำไส้เนื่องจากเลือดดำไหลกลับไม่สะดวก
    - - ปัญหาที่ 1 ผู้ป่วยมีภาวะไม่สมดุลของสารน้ำและเกลือแร่ เนื่องจากการกำจัดอาหารและน้ำ
        
        การพยาบาล
        
        1.ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะElectrolyte imbalance(K) เช่น มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง สับสน เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
        
        ประเมินและบันทึกสัญญาณชีพทุก vital signs ทุก 1นาที 1-2 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัดจน vital signs คงที่ จึง วัดทุก 30 นาที นาน 1-2 ชั่วโมง จากน้ันวัดทุก 4 ชั่วโมง โดยเฉพาะ EKG monitor เพื่อป้องกันความผิดปกติ จากHypokalemia
        
        3.ใส่สายสวนปัสสาวะเพื่อประเมินหน้าที่การทำงานของไต
        
        4.บันทึกIntake/Output ทุก8ชั่วโมง ถ้าพบความผิดปกติให้รายงานแพทย์เพื่อให้การรักษา
        
        ดูแลให้สารน้ำ 5%D/N/2 1,000 cc + KCL 20 mEq(<)80 cc/hr เพื่อให้ร่างกายได้รับสารน้ำและเกลือแร่ที่เพียงพอต่อร่างกาย
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        
        ผู้ป่วยปวดท้องบิดๆเป็นพักๆ ไม่ผายลม ไม่ถ่ายอุจจาระ
        
        2.ผู้ป่วยไม่รับประทานผักและผลไม้ ชอบรับประทานแต่เนื้อสัตว์
        
        วัตถุประสงค์
        
        -เพื่อแก้ไขภาวะไม่สมดุลของสารน้ำ และ Electrolyte ท่ีสูญเสียไปอย่างรวดเร็ว
        -เพื่อดูแลป้องกันไม่สมดุลของสารน้ำและ Electrolyte
        
        เกณฑ์การประเมิน
        
        1.ค่า electrolyte อยู่ในระดับเกณฑ์ที่ปกติ Na 135-145 , K 3.5-5.5 , CL 90-106 , HCO3 23-31 (เกณฑ์ปกติ),Hct = 34-45 vol%
        
        สัญญาณชีพปกติความดันโลหิตอยู่ในระดับ120/80mmH9,ชีพจร60-100คร้ัง/นาที,อุณหภูมิ35.4-37.4
        องศาเซลเซียส
      - ปัญหาที่ 2 ผู้ป่วยปวดบริเวณหน้าท้องเนื่องจากปวดแผลผ่าตัด
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        
        -ผู้ป่วยมีแผลผ่าตัด Explore lap c colostomy
        
        -ผู้ป่วยปวดแผล Pain score 8 คะแนน
        
        -สัญญาณชีพเปลี่ยนแปลงความดันโลหิตสูงกว่าปกติ 140/90 mmHg ,ชีพจรเต้นเร็ว 110 ครั้ง/นาที อัตราการหายใจเร็ว 32 ครั้ง/นาที
        
        การพยาบาล
        
        1.ประเมิน Pain score ทุก 1 ชั่วโมง เพื่อประเมินอาการปวดและความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น
        
        2.จัดท่านอนในท่าศีรษะสูง (Fowler's position 45-60 องศา) เพื่อให้กล้ามเนื้อหน้าท้องหย่อนตัว ทำให้อาการปวดลดลง
        
        ดูแลให้งดอาหารและน้ำ ใส่ NG tube with bag เพื่อระบายของเหลวและเศษอาหารเป็นการลดความดันในลำไส้และการเพาะอาหารช่วยบรรเทาอาการปวด
        
        4.ดูแลให้ยา Plasil 10 mg ทางหลอดเลือดดำ
        
        5.สังเกตอาการผิดปกติหลังให้ยาเช่น ง่วงนอน รู้สึกสับสน กระสับกระส่าย เวียนศีรษะ
        
        วัตถุประสงค์
        
        เพื่อให้ผู้ป่วยปวดแผลผ่าตัดลดลง
        
        เกณฑ์การประเมิน
        
        ผู้ป่วยนอนหลับพักผ่อนได้ดีขึ้น
        
        ความดันโลหิตอยู่ระดับ 120/80 มิลลิเมตรปรอท ชีพจร 60-100ครั้งต่อนาที อัตราการหายใจ 16-24ครั้งต่อนาที
        
        3.สีหน้าท่าทางผ่อนคลาย สุขสบายขึ้น
        
        1.เคลื่อนไหวด้วยตนเองได้มากขึ้น
        
        4.ทรวงอกเคลื่อนไหวได้มากขึ้นในขณะหายใจ
        
        5.บอกว่าอาการปวดลดลง ประเมินปวดได้ในระดับ ต่ำกว่า4
      - ปัญหาที่3 สูญเสียภาพลักษณ์ เนื่องจากมีถุงหน้าท้อง (on colostomy)
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        
        -S/P Explore lab c Lt colostomy
        
        วัตถุประสงค์ทางการพยาบาล
        
        -เพื่อให้ผู้ป่วยยอมรับและมีทัศนคติที่ดีต่อการเปลี่ยนแปลง
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.พูดคุย ซักถาม และสังเกตพฤติกรรมที่ผู้ป่วยแสดงออกเมื่อกล่าวถึงทวารเทียม
        
        2.สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ป่วย ให้คำตอบข้อมูลย้อนกลับที่ดี
        
        3.แนะนำให้ผู้ป่วยรู้จักกับทวารเทียมของตนเองมากขึ้น กระตุ้นให้ผู้ป่วยมอง สัมผัส ด้วยมือ
        
        4.สนับสนุนให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการดูแลทวารหนัก
        
        5.ให้กำลังใจ ยกย่อง ชมเชยเมื่อผู้ป่วยสามารถปฏิบัติได้
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        
        1.ผู้ป่วยยอมรับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
        
        2.ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันและดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
    - - Film Acute Abdominal series
      - Plain abdomen Distance abdomen c free air R/O total gut obstruction
    - - Conservative
        
        NPO, ให้ /VF ตามความเหมาะสม
        
        On NG tube with intermittent suction pressure
        ประมาณ 80 mmHg
        
        F/U Lab, ประเมินภาวะ Electrolyte imbalance
        ส่ง pt. ทำ PICC line และ consult nutrition เพื่อประเมิน
        
        แนวทางในการให้ TPN
      - Warning sign ที่ต้องผ่าตัด
        
        ผ่านไป 2 wks. content NG>1000
        ml/day
    - - ปวดท้องรุนแรง ท้องอืดตึง คลื่นไส้อาเจียน ไม่ผายลม ไม่ถ่ายอุจจาระ
  - - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        -ขณะหายใจต้องใช้กล้ามเนื้อ sternocleidomastoid ช่วยในการหายใจ
        
        -ทำผ่าตัด Explore lap c colostomy
        
        -ผู้ป่วยเหนื่อยมาก หายใจจมูกบาน อัตราการหายใจ 32 ครั้งต่อนาที On O2 2 LPM
        O2 sat = 90%
        
        -ผู้ป่วยมีประวัติสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 16 ปี ปัจจุบันยังคงสูบอยู่
        
        -พบ barrel shape
      - วัตถุประสงค์
        
        -ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนเพียงพอ ไม่มีภาวะพร่องออกซิเจน
      - เกณฑ์การประเมิน
        
        -ไม่มีอาการของภาวะพร่องออกซิเจน เช่น หายใจหอบเหนื่อย ปลายมือปลายเท้าเขียว
        
        -อัตราหายใจอยู่ในช่วง 16-24ครั้ง/นาทีลกัษณะการหายใจปกติไม่มีหายใจเร็วแรงลึก
      - กิจกรรมการพยาบาล
        
        2.ประเมินภาวะพร่องออกซิเจน (Hypoxia) อาการผิวหนังซีด สับสน มึนงง หัวใจเต้นเร็ว
        
        4ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา เช่น ให้ยาBerodual 1 NB q 4 hrs. , ยา Naclong 600 mg 1-tab O OD
        
        3.ดูเเลจัดท่าผู้ป่วยให้สุขสบาย ให้ผู้ป่วยนอนศรีษะสูง
        
        5.สอนฝึกการหายใจอย่างมีคุณภาพ pursed-lip breathing exercise (การฝึกการหายใจแบบใช้การเผยอริมฝีปาก) โดย 1. ผู้ฝึกอาจจะอยู่ในท่านั่งหรือที่ยืนก็ได้ และหายใจเข้าทางจมูกนับ 1-2 ในใจ2. หลังจากนั้นให้หายใจออกช้าๆ ทางปากร่วมกับนับ 1-2-3-4 ในใจ3.ให้ทำ 5-10 ครั้งต่อเซ็ต
        
        6.On O2 Canula 2 LPM ตามแผนการรักษา
        
        7.ติดตามผล CXR ดูแลให้ Lung clear.