Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคตับเเข็ง
Cirrhosis - Coggle Diagram
โรคตับเเข็ง
Cirrhosis
• พยาธิสภาพโรคตับแข็ง
โรคตับแข็ง คือภาวะที่ตับมีการก่อตัวของเนื้อเยื่อพังผืดส่วนเกิน อันเป็นผลจากภาวะตับอักเสบเรื้องรังจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น โรคพิษสุราเรื้อรัง ไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง หรือไขมันคั่งในตับ เป็นต้น เมื่อเกิดการอักเสบเรื้อรังเป็นระยะเวลานาน ตับจะทำการซ่อมแซมตัวเอง กระบวนการซ่อมแซมจะสร้างเนื้อเยื่อพังผืดสะสมจนเกิดเป็นโรคตับแข็ง ทำให้ตับไม่สามารถทำงานได้ปกติ โรคตับแข็งระยะท้ายๆเป็นภาวะที่เป็นอันตรายถึงชีวิต ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งตับอีกด้วย
• สาเหตุโรคตับแข็ง
-
-
-
-
-
-
-
-
โรคกาแลคโตซีเมียหรือภาวะที่มีการสะสมไกลโคเจนในตับมากผิดปกติ โรคตับที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรคตับอักเสบจากภูมิต้านตนเอง
-
-
• อาการและอาการแสดง
- ไม่มีอาการใดๆแต่ตรวจพบโดยบังเอิญ เช่น การตรวจร่างการ ประจำปี , การตรวจสุขภาพโดยการทำอัลตราซาวด์ เป็นต้น
- ตัวเหลือง ตาเหลือง เป็นอาการที่พบได้ถ้าตับแข็งเข้าสู่ระยะสุดท้าย เช่นคนที่ดื่มสุรามานาน คนที่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบมาหลายสิบปี
- ท้องมาน พบในตับแข็งระยะสุดท้าย จะมาหาแพทย์ด้วยอาการ ท้องอืด บวม ขาบวม กดบุ๋ม เป็นๆหายๆ
- เบื่ออาหารคลื่นไส้อ่อนเพลีย น้ำหนักลด
- ภาวะตับโต อาจมาด้วยอาการแน่นใต้ชายโครงขวา
- อาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายดำ เนื่องจากหลอดเลือดดำของหลอด อาหารหรือกระเพราะอาหารแตกรั่ว
-
-
• การวินิจฉัยโรค
-
-
- ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
-
-
• การรักษา
การรักษาโรคพิษสุราเรื้อรัง : ผู้ที่เป็นโรคตับแข็งจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป แนะนำให้หยุดดื่ม แพทย์อาจแนะนำเข้าร่วมโปรแกรมการรักษาโรคพิษสุราเรื้อรัง
การรักษาโรคไขมันคั่งตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์ : แนะนำให้คนไข้ลดน้ำหนักและรักษาระดับน้ำตาลรวมทั้งไขมันในเลือด
-
การใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการอื่นๆ ของโรคตับแข็ง : ยาเหล่านี้อาจช่วยชะลอการเกิดโรคตับแข็งบางชนิดได้ ผู้ที่เป็นโรคตับแข็งจากท่อน้ำดีอักเสบหรือผู้ป่วยที่มีภาวะโรคตับจากภูมิคุ้มกันผิดปกติ ที่ได้รับการวินิจฉัยแต่เนิ่นๆ สามารถรักษาด้วยยาได้
สำหรับของเหลวส่วนเกินในร่างกายที่ทำให้เกิดภาวะบวมน้ำ : แนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารโซเดียมต่ำและใช้ยาขับปัสสาวะเพื่อป้องกันการสะสมของเหลวส่วนเกินในร่างกาย และเพื่อควบคุมอาการบวม ในรายที่อาการรุนแรง อาจต้องเจาะระบายของเหลวในช่องท้องออก
-
ความดันโลหิตในหลอดเลือดพอร์ทัลสูง : ยาที่ช่วยควบคุมความดันโลหิตในเส้นเลือดพอร์ทัลช่วยป้องกันเลือดออกรุนแรงได้ แพทย์จะทำการส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนบนเพื่อค้นหาเส้นเลือดโป่งพองในหลอดอาหารหรือในกระเพาะอาหาร
-
การติดเชื้อ : แพทย์อาจสั่งยาปฏิชีวนะหรือการรักษาอื่นๆ เพื่อรักษาการติดเชื้อ คุณอาจจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม และไวรัสตับอักเสบชนิดเอและบี
-
โรคตับแข็งจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับ : แพทย์จะแนะนำให้ตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งตับและตรวจอัลตราซาวนด์ทุก 6 เดือน เพื่อค้นหามะเร็งตับตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
-
-
-
• ปัญหาทางการพยาบาล
- มีภาวะท้องมานเนื่องจาก ประสิทธิภาพการทำงานของตับลดลง
ข้อมูลสนับสนุน
SD : ผู้ป่วยบอกแน่นท้อง ท้องโตเป็นพักๆ,เคยเป็นไวรัสตับอักเสบชื่,ดื่มสุรา 15 ปี
OD : ตรวจร่างกายพบตัวตา เหลือง ท้องโตตึง, คลำพบตับโต, Bilirubin = 2.5 mg/dl, Liver function tes (LFT) AST (SGPT) = 230 U/L, AST (SGOT) = 550 U/L, Albumin = 2 .2 mg/dL
-
- เสี่ยงต่อการเกิดภาวะHapatic encephalopathy เนื่องจากประสิทธิภาพการทำงานของตับในการขจัดของเสียลดลง
ข้อมูลสนับสนุน
-
OD : ผู้ป่วยตัวเหลืองตาเหลืองท้องโตตึง, Bilirubin = 2.5 mo/dl, Liver function tes (LFT) AST (SGPT) = 230 U/L
-
- เสี่ยงต่อภาวะ Hypovolemic shock เนื่องจากมีการสูญเสียเลือด
ข้อมูลสนับสนุน
-
OD : PT= 20 sec, PTT = 40 sec, Hct = 28%
-
- ผู้ป่วยมีภาวะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอเนื่องจากประสิทธิภาพ ของตับในการเผาผลาญสารอาหารและสร้างโปรตีนลดลลง
ข้อมูลสนับสนุน
-
OD : ผู้ป่วยมีประวัติเป็นโรคไวรัสตับอักเสบซี, ดื่มแอลกอลซูอล์มาประมาณ 15 ปี, Albumin = 2.2 mg/dL
-
- ผู้ป่วยเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกง่ายหยุดยาก เนื่องจากปัจจัยในการแข็งตัวของเลือดลดลง
ข้อมูลสนับสนุน
OD : มีภาวะตัวเหลืองตาเหลือง, PT= 20 sec, PTT = 40 sec, Hct= 28%, Bilrubin = 25 mg/dl
-