Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
The Chapter 3 Maintaining Health across the continuum of care,…
The Chapter 3 Maintaining Health across the continuum of care
การสูญเสียการควบคุมของเด็กแต่ละวัย
*แบ่งเป็น 3 ระยะ
ระยะประท้วง (Protest)
ระยะหมดหวัง (Despair)
ระยะปฏิเสธ (Detachment)
ㆍ วัยทารก การดูแลไม่คงที่ ต่างจากที่บ้าน
ร้องไห้ งอแง ไม่ดูดนม
ㆍวัยเตาะแตะ กิจวัตรประจำวันเปลี่ยนแปลง
แยกตัว ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
ㆍวัยก่อนเรียน รู้สึกเหมือนถูกทำโทษ รู้สึกผิด กลัว
ㆍ วัยเรียน สูญเสียการยอมรับจากเพื่อน ซึมเศร้า กลัว
ㆍ วัยรุ่น เด็กไม่เป็นอิสระ รบกวนความเป็นเอกลักษณ์ อาจต่อต้าน ปฏิเสธ
ความเจ็บปวดและร่างกายได้รับบาดเจ็บของเด็กแต่ละวัย
ㆍวัยทารก เด็กเล็กแสดงออกทางสีหน้า เด็กโตต่อด้านทางร่างกาย
ㆍวัยเตาะแตะ กลัวการตรวจที่คุกคาม เช่น ตรวจหู กอ วัดปรอท
ㆍวัยก่อนเรียน กลัวหัตถการ การฉีดยาแสดงออกโดยทางกายและคำพูด
ㆍวัยเรียน กลัวความพิการ กลัวตาย
ㆍวัยรุ่น กลัวการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์มากกว่าแสดงพฤติกรรม
ปฏิกิริยาของมารดา
ไม่เชื่อ,โกรธ,รู้สึกผิด,กลัว,วิตกกังวล,ล้มเหลว
การเตรียมก่อนรับไว้ในโรงพยาบาล
-การพาชมโรงพยาบาล
-การใช้หนังสือ
-การเล่น
-การใช้โสตทัศนูปกรณ์
การลดการสูญเสียการควบคุม
การส่งเสริมการเคลื่อนไหวอย่างอิสระ
การคงไว้ซึ่งกิจวัตรประจำวัน
การให้ข้อมูล
การกระตุ้นให้เกิดความอิสระ วางแผนการพยาบาลร่วมกัน
ประโยชน์การเล่นในโรงพยาบาล
-เพลิดเพลินปลอดภัย
-ในสิ่งแวดล้อมใหม่
-ลดความวิตกกังวลเนื่องจากการแยกจาก
-ลดความเครียด
การพยาบาลเด็กที่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง
ความหมาย
การเจ็บป่วยเรื้อรัง (Chronic illness) หมายถึง การเจ็บป่วย
หรือภาวะทางร่างกายที่มีความบกพร่อง เบี่ยงเบนไปจากปกติ มีอาการของโรค เจ็บป่วยติดต่อกันเป็นเวลานาน 3 เดือนใน 1ปี มีผลต่อการดำเนินชีวิต หรือได้รับการรักษาในโรงพยาบาลนานมากกว่า 1 เดือน หรือการเจ็บป่วยที่ทำให้เกิดพยาธิสภาพของโรคหรือ ความพิการที่ยังคงมีอยู่ทำให้ผู้ป่วยต้องการการดูแลระยะยาวเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้
พ่อแม่ผู้ดูแลเด็กป่วยด้วยโรคเรื้อรัง
ปรับตัวได้กับโรคที่ลูกเป็นแต่ไม่ยอมรับกับความเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดภาวะเศร้าเรื้อรัง (Chronic sorrow)พยาบาลต้องเฝ้าระวังไม่ให้พ่อแม่เกิดภาวะเศร้าโศกเนื่องจากไม่ยอมรับเวลาที่อาการของลูกทรุดหนักลงไป
การส่งเสริมพัฒนาการตามปกติ
วัยทารก
การดูแลความสุขสบาย -ให้มารดาได้เฝ้าเพื่อดูแลเด็กเมื่ออยู่โรงพยาบาล
ให้ความรู้เกี่ยวกับการตอบสนองความต้องการของเด็ก
วัยเตาะแตะ
ให้ความรู้แก่ครอบครัวในการให้ความอิสระแก่เด้ก
ทั้งที่บ้านและโรงพยาบาล
การสนับสนุนช่วยเหลือในระยะวินิจฉัยโรค
การอภิปรายการวินิจฉัยโรคร่วมกัน
ให้ข้อมูลที่ต้องการ
การส่งเสริมการปรับตัวของครอบครัว
การประเมินครอบครัว
การให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาวะของเด็ก
การสนับสนุนช่วยเหลือทางอารมณ์
รูปแบบการดูแลต่อเนื่องของเด็กที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง
ระยะที่ 1 การดูแลที่โรงพยาบาลการตอบสนองความต้องการของเด็กและครอบครัว
การให้บิดามารดามีส่วนร่วมการสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัว
ระยะที่ 2 การส่งต่อการดูแลการมีผู้จัดการส่งต่อการส่งต่อข้อมูลที่เป็นลายลักษณ์อักษร
ระยะที่ 3 การดูแลที่บ้านการให้ครอบครัวมีส่วนร่วมการทำงานร่วมกันในแต่ละระดับการดูแล
การพยาบาลเด็กในระยะวิกฤต
ความหมาย
ㆍเมื่อเด็กอยู่ในระยะวิกฤตทำให้เกิดความเครียดเป็นอย่างมากพยาบาลมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเผชิญความเครียดเพื่อให้ผู้ป่วยเด็กและครอบครัวเผชิญกับความเครียดอย่างมี
ประสิทธิภาพ ลดผลกระทบ
วัยทารก
ผลกระทบต่อเด็ก
การอยู่ที่หน่วยวิกฤต เป็นสิ่งแวดล้อมที่แปลก รบกวนการนอนและชีวิตประจำวัน แสง เสียง หรือสิ่งกระตุ้น
การพยาบาล
ให้การดูแลด้านจิตใจให้ใกล้เคียงกับทางกาย ดูแลให้ผู้ป่วยสุขสบายให้มารดาเข้าเยี่ยมได้
วัยเตาะแตะ
ผลกระทบต่อเด็ก
-พัฒนาการอยู่ในขั้นยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง
-บรรยากาศในหน่วยวิกฤต มีคนแปลกหน้ามากมาย เจ็บปวด ไม่สามารถเคลื่อนไหวอย่างอิสระ แยกจากครอบครัว
การพยาบาล
-ให้มารดาอยู่ด้วยหรือเข้าเยี่ยมบ่อยครั้ง -ให้เด็กเคลื่อนไหวอย่างอิสระเท่าที่ทำได้ -ใช้ของเล่นที่เหมาะสมตามวัย
วัยก่อนเรียน
ผลกระทบ
-ยากที่จะแยกความฝันออกจากความจริง
-ยากที่จะแยกความฝันออกจากความจริง
-กลัวในสิ่งที่ไมรู้ กลัวความมืด การอยู่ตามลำพัง
-กลัวร่างกายพิการ
การพยาบาล
-ให้มีแสงไฟเพียงพอและอยู่ใกล้ๆเด็ก
-การปิดแผล เพื่อป้องกันเลือดไหลออกมา
วัยเรียน
ผลกระทบ
-เด็กปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย
ต้องการความเป็นเอกลักษณ์ -แสดงพฤติกรรมออกมาโดยที่ไม่สามารถคาดเดาได้
การพยาบาล
-ให้การดูแลที่มีความเป็นส่วนตัว
-ให้เพื่อนเยี่ยม
การพยาบาลเด็กในระยะสุดท้าย
ความหมาย
การเจ็บป่วยระยะสุดท้าย (Terminal illness) คือ การเจ็บป่วยที่โรคดำเนินอยู่อาการของโรครุนแรงขึ้นจนไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ อาจเสียชีวิตภายใน 1ปี
วัยทารก
การรับรู้ต่อความตายของเด็ก : สื่อสารด้วยท่าทางพูดไม่ได้
พฤติกรรม: ซึมลง ไม่เล่น ดื่มนมน้อยลง นอนน้อย ตื่นไวกระวนกระวาย
วัยเดิน
การรับรู้ต่อความตายของเด็ก : จดจำเหตุการณ์ที่ผ่านมาได้
รับรู้ความตายจากพฤติกรรมและท่าทีของพ่อแม่ผู้ใหญ่
วัยก่อนเรียน
การรับรู้ต่อความตาย : รับรู้การตายเป็นการหายไปชั่วกราว กิดว่าการตายเป็นการจากไปคล้ายกับนอนหลับ: เชื่อว่าคนทำไม่ดีหรือกนแก่เท่านั้นที่ตาย
พฤติกรรม: แสดงความวิตกกังวถในในรูปของพฤติกรรมถดถอย พึ่งพามากขึ้น
วัยเรียน
รับรู้ความตาย
-เริ่มเข้าใจว่าการตายเป็นการจากไป
พฤติกรรม
เข้าใจการตายใกล้เคียงกับผู้ใหญ่ สนใจเกี่ยวกับความตาย แสดงความกังวลว่าตนเองจะตาย เศร้าโศก ซึม หงุดหงิด
การให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวและพี่น้อง
-การให้ความรู้
-การสนับสนุนทางอารมณ์
-การสนับสนุนด้านศาสนาและจิตวิญญาณ
-การดูแลพี่น้อง
นางสาวอัญทิราตากองค์ 64122230102