Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Watson's Human Caring Theory - Coggle Diagram
Watson's Human Caring Theory
มโนทัศน์หลัก 4 ประการ
บุคคล
เป็นองค์รวม : ร่างกาย จิตใจ จิตวิญญาณ
จิตวิญญาณเป็นแก่นตัวตนบุคคล
มีศักดิ์ศรี มีคุณค่าในตนเอง
ควรได้รับการดูแล ช่วยเหลือ
สิ่งแวดล้อม
สังคมเป็นตัวกำหนดค่านิยมที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของบุคคล
ค่านิยมมีอิทธิพลต่อการรับรู้ของบุคคลและเป็นปัจจัยหนึ่งที่อาจก่อให้เกิดความเครียด
สุขภาพ
การทำหน้าที่สูงสุดของร่างกาย จิตใจ สังคม
การปรับตัวในการทำหน้าที่
ภาวะที่ปราศจากความเจ็บป่วย
การพยาบาล
เป็นการปฏิบัติการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกัน ดูแล และฟื้นฟู
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างพยาบาลและผู้ป่วย
ทฤษฎีการดูแลมนุษย์ของวัตสัน
กระบวนการดูแล
• ความรู้ทักษะในการดูแล+กับความรักความปรารถนาดี
• ปกป้อง ส่งเสริมและคงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
•แนวคิดด้านปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
ระยะปฏิสัมพันธ์
• สถานการณ์การดูแลที่เกิดขึ้นจริง : พบกัน
• ปฏิสัมพันธ์การดูแล : แลกเปลี่ยน
• การดูแล : เข้าใจความรู้สึกซึ่งกันและกัน
ผลลัพธ์ของการดูแล
• ความรู้เกี่ยวกับตนเอง
• การรักษาเยียวยาตนเอง
• การมีสุขภาวะ
ข้อตกลงเบื้องต้นของทฤษฎี
4.ก่อนให้การดูแลผู้อื่น พยาบาลต้องดูแลตนเองด้วยความสุภาพอ่อนโยนและรักศักดิ์ศรีของตนเอง
3.การพยาบาลเป็นวิชาชีพที่ให้การดูแล
การดูแลที่มีประสิทธิภาพ เกิดจากการปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
ประเด็นสำคัญและแนวโน้มที่สำคัญของวิชาชีพการพยาบาลในปัจจุบัน และอนาคต คือ การธำรงรักษาคุณค่าของการดูแลและการพัฒนาความก้าวหน้าของการดูแล
คุณค่าของการดูแลของพยาบาล ถูกบดบังจากความเจริญทางด้าน เทคโนโลยีทางการแพทย์ ข้อบังคับ และการบริหารงานที่ซับซ้อน
สิ่งสำคัญในระบบบริการสุขภาพ คือ การดูแลมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือกลุ่มบุคคล
การดูแล (Caring) เป็นศูนย์กลาง และเป็นจุดเน้นในการปฏิบัติการพยาบาล
การดูแลและความรักเป็นพลังอันลักลับ
การพยาบาลมุ่งเน้นการดูแลบุคคลในเรื่องสุขภาพและความเจ็บป่วย
มนุษย์ต้องการความรักและการดูแลซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นส่ิงจำเป็น ต่อการดำรงชีวิตและการอยู่ร่วมกัน
การที่พยาบาลจะสามารถช่วยเหลือมนุษยชาติและสังคม ต้องมีความรับผิดชอบ (Commitment) การพัฒนาทั้งด้านทฤษฎี การปฏิบัติ การวิจัย
ปัจจัยการดูแลที่สำคัญ 10 ประการ
5.ยอมรับการแสดงออกความรู้สึกทางบวกและทางลบ
6.การใช้วิธีการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ในการตัดสินใจ
การสร้าง/รักษาสัมพันธภาพ การช่วยเหลืออย่างไว้วางใจ-จริงใจ
7.การส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างบุคคลในการเรียนการสอน
การสร้างทักษะในการรับรู้จิตวิญญาณของตนเองและผู้อื่น
การเสริมสร้างพลังจิตวิญญาณในการมีชีวิตอยู่
1.การปฏิบัติด้วยความรักและความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์
การช่วยให้ได้รับการตอบสนองความต้องการ
2.การแสดงความเป็นตัวตนที่แท้จริง
การสนับสนุน ปกป้อง หรือแก้ไขภาวะสุขภาพ ร่างกาย จิตสังคม และจิตวิญญาณ
การประยุกต์ใช้ทฤษฎีการดูแลมนุษย์ใน
การพยาบาลผู้ป่วยระยะประคับประคอง
ทฤษฎีการดูแลมนุษย์ของวัตสัน
การพยาบาลเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันการเจ็บป่วย การดูแลเมื่อเจ็บป่วย
และการฟื้นฟูสุขภาพ
พยาบาลควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพ
การเจ็บป่วย และ ประสบการณ์ของบุคคล
การพยาบาล มีวัตถุประสงค์ เพิ่อช่วยให้บุคคลมีภาวะสมดุลในตัวเองในระดับสูงสุดเพื่อพัฒนาความรู้เกี่ยวับตนเองและการรักษาเยียวยาตนเอง หรือการเข้าใจความหมายของชีวิต
ปฏิสัมพันระหว่างพยาบาลกับผู้ป่วยอยู่บนพื้นฐานของความคาดหวังร่วมกันโดยผู้ป่วยคาดหวังให้พยาบาลปฏิบัติตามการรักษา และการดูแลท่ีคำนึงถึงความเป็นมนุษย์
การดูแลแบบประคับประคอง
พยาบาลต้องรู้ว่าผู้รับบริการท่ีต้องดูแลประกอบด้วยผู้ป่วย ครอบครัว (สามี ภรรยา บุตร ญาติ พี่น้อง เพื่อน หรือ บุคคลที่มีความสำคัญกับผู้ป่วย)
โดยการดูแล มุ่งเน้นการประเมินปัญหาท่ีเกิดขึ้นกับผู้ป่วยคำนึงถึงปัจจัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่นำมาใช้ในการประเมินและวางแผนการดูแล
ทั้งปัจจัยส่วนบุคคล ครอบครัว สิ่งแวดล้อม สังคม และระบบบริการ สุขภาพของบุคคล
ในการดูแลครอบครัวต้องคำนึงถึงผลของการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่มีต่อครอบครัว สมาชิกครอบครัวหรือบุคคลที่มีส่วน เกี่ยวข้องโดยตรง เช่น ผู้ดูแล
การบูรณาการแนวคิดทฤษฎีการดูแลมนุษย์ของ
วัตสันในการดูแลผู้ป่วยระยะประคับประคอง
ใช้มโนทัศน์ ข้อตกลงเบื้องต้น เป็นกรอบในการ ปฏิบัติการพยาบาล
เน้นการให้คุณค่าของบุคคลในฐานะมนษุย์คนหนึ่ง ที่ควรได้รับการดูแล
ทำความเข้าใจและยอมรับในความเชื่อค่านิยม และการแสดงพฤติกรรมของบุคคล
ให้ความสำคัญกับภาวะสุขภาพตามการรับรู้
ของผู้ป่วย
Nurse
ใช้ 10 Carative factorsเป็นแนวทางในการพัฒนาความรู้ทักษะ การดูแล และการปฏิบัติการดูแล
ใช้กระบวนการพยาบาลเป็นเครื่องมือในการให้การพยาบาล
ทฤษฎีการพยาบาลของวัตสันกับ
กระบวนการพยาบาล
การประเมินภาวะสุขภาพ
การรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์ การสังเกต: ข้อมูลของบุคคล ครอบครัว และชุมชน หรือสิ่งแวดล้อม
1.การรวบรวมประวัติสุขภาพ(Assessing Health History) : CC, PI, PH, PH
2.การประเมินด้านร่างกาย(Physical assessment): Head to toes, pain, การนอน, การตรวจทางห้องปฏิบัติการและการ ตรวจพิเศษอื่นๆ
3.การประเมินด้านจิตสังคมและจิตวิญญาณ (Psycho-social & Spiritual assessment)
การวินิจฉัยทางการพยาบาล
มีความทุกข์ทรมานจาการเจ็บป่วยระยะสุดท้าย
ไม่สุขสบายเนื่องจากอาการปวดจากการลุกลามของมะเร็ง
ไม่สุขสบายเนื่องจากอาการท้องผูก/คลื่นไส้อาเจียน
มีอาการซึมเศร้าภายหลังรับทราบเกี่ยวกับการดำเนินของโรคระยะลุกลาม
มีความหวังที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงเกี่ยวกับการเจ็บป่วย
กังวลเกี่ยวกับการจัดการธุระในครอบครัวที่ยังไม่แล้วเสร็จ
เป้าหมายและผลลัพธ์ทางการพยาบาล
เพื่อให้เกิดดุลยภาพ (Harmony) ระหว่างร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ
ให้ผู้ป่วยและญาติสามารถยอมรับกับการเจ็บป่วยในระยะสุดท้ายและวาระสุดท้ายของชีวิตที่จะเกิดขึ้น
การวางแผนพยาบาล
การจัดการกับสิ่งแวดล้อม:ส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสุขภาพ การพักผ่อน การมีกิจกรรม ความปลอดภัย
กิจกรรมการพยาบาลที่กำหนดขึ้นเนื่องจากแผนการรักษาของแพทย์ เช่น การให้ยา การให้สารละลาย
แผนปฏิบัติการพยาบาลที่พยาบาลสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของ ผู้ป่วย แล้วรายงานให้แพทย์ทราบ เพื่อให้คำสั่งการรักษา และ พยาบาลปฏิบัติกิจกรรมการพยาบาลตามคำสั่งการรักษา
การปฏิบัติการพยาบาลที่พยาบาลให้ความรู้ ประสบการณ์การดูแล เลือกกิจกรรมการพยาบาลที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาผู้ป่วย
การประเมินและการปรับเปลี่ยน
เป็นวิธีการและกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลและตรวจสอบผลของ การปฏิบัติการพยาบาล
โดยใช้เทคนิคการประเมิน รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอาการ และ ความรู้สึกของผู้ป่วยและครอบครัว และวินิจฉัยผลของการพยาบาล ว่าสามารถแก้ไขปัญหา ตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยได้ในระดับใด
เพื่อการปรับเปลี่ยนการพยาบาลให้สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการของผู้รับบริการที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง