Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Cirrhosis - Coggle Diagram

- - - - อาการทางสมองของเคสกรณีศึกษา มีอาการซึม ความรู้สึกข้า
        
        การรักษา
        
        การรับประทานอาหารโปรตีนสูง
        
        การลดแอมโมเนียในเลือดแลแบคทีเรีย
  - - - การเจาะท้อง (Paracentesis)
      - การให้อัลบูมิน
      - อาหารแลกเปลี่ยน การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำร่วมกับจำกัดน้ำดื่ม การให้โปรตีนขนาดปานกลาง จะช่วยให้ผู้ป่ไม่มีอาการทางสมอง
      - ส่งเสริมการหายใจอย่างมีประสิทธิภาพเคสกรณีให้ cannular keep มากกว่าหรือเท่ากับ 95
  - - - เสี่ยงต่อการแตกจนทำให้มีเลือดออกอย่างรุนแรงในกระเพาะอาหารส่วนบนหรือหลอดอาหารได้
- - - - รับประทานอาหารได้อย่างน้อย 1/2 ถาดและตรงเวลา
      - ไม่มีอาการ Hypoglycemiaคือ ใจสั่น เหงื่อออก ตัวเย็นกระสับกระส่าย ระดับความรู้สึกตัวลดลง
      - Vital signs ปกติ
      - FBSไม่ต่ำกว่า 60 mg%
    - - ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับอาหารตรงตามเวลาในปริมาณเพียงพอกับความต้องการของร่างกายสังเกตอาการ Hypoglycemia
        
        สอนให้ผู้ป่วยทราบเกี่ยวกับอาการของ Hypoglycemia ถ้าผู้ป่วยเริ่มมีอาการ จะได้ดูแลตนเองในเบื้องต้นได้ โดยการรับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตที่ดูดซึมเร็ว เช่น น้ำหวาน ลูกอมน้ำตาล น้ำผลไม้ที่มีรสหวาน เป็นต้น
        
        ตรวจวัด Vital signs ทุก4 ชั่วโมง ถ้าผิดปกติรายงานแพทย์ทราบทันทีเพื่อให้ความ ช่วยเหลือต่อไป อาจต้องเจาะเลือดผู้ป่วยเพื่อตรวจหาระดับน้ำตาลในเลือดและเตรียมกลูโคสเพื่อฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ถ้ามีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำมาก
        
        ถ้าผู้ป่วยรับประทานอาหารไม่ค่อยได้ หรือไม่ยอมรับประทานอาหาร ไม่ควรฉีดยาอินสุลิน หรือให้ผู้ป่วยรับประทานยาลดน้ำตาลในเลือดเพราะจะทำให้เกิดอาการน้ำตาลในเลือดต่ำได้ง่าย
        
        ติดตามผลการตรวจ Bloodsugar อย่างใกล้ชิดให้คำแนะนำผู้ป่วยและญาติเกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่เหมาะกับโรค และออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเมื่อกลับบ้านและย้ำให้ตระหนัก
  - - - -สัญญาณชีพปกติ
      - -อาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน ตัวตาเหลืองลดลง
      - -ผลตรวจ Enzyme SGPTSGOT อยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่เกิน 40 IU/L
    - - ดูแลให้ผู้ป่วยพักผ่อนให้มากที่สุด โดยเฉพาะในระยะที่มีระดับtransaminase ขึ้นสูง
        
        หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงมาก เช่นฟุตบอล บาสเกตบอล หรือทำงานที่ต้องออกแรงมาก
        
        แนะนำให้รับประทานอาหารและน้ำอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อาหารควร ย่อยง่าย ไขมันต่ำ แต่ให้พลังงานสูงจากคาร์โบไฮเดรต เช่น ขนมหวาน น้ำหวาน
        
        สังเกตอาการ ระยะเวลา และการเปลี่ยนแปลงของโรค ได้แก่ การมีไข้ อาการเหลือง ปัสสาวะ สีชาเข้ม อุจจาระสีเหลืองอ่อนอาการอ่อนเพลีย ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน สิ่งเหล่านี้จะช่วยบอกถึงระยะของโรคและเป็นแนวทางในการให้อาหารที่เหมาะสม
        
        หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงมาก เช่นฟุตบอล บาสเกตบอล หรือทำงานที่ต้องออกแรงมาก
        
        แนะนำให้รับประทานอาหารและน้ำอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อาหารควร ย่อยง่าย ไขมันต่ำ แต่ให้พลังงานสูงจากคาร์โบไฮเดรต เช่น ขนมหวาน น้ำหวาน
        
        สังเกตอาการ ระยะเวลา และการเปลี่ยนแปลงของโรค ได้แก่ การมีไข้ อาการเหลือง ปัสสาวะ สีชาเข้ม อุจจาระสีเหลืองอ่อนอาการอ่อนเพลีย ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน สิ่งเหล่านี้จะช่วยบอกถึงระยะของโรคและเป็นแนวทางในการให้อาหารที่เหมาะสม
        
        ถ้ามีอาการอ่อนเพลียมากควรแนะนำให้พักผ่อนมากๆ จำกัดกิจกรรมที่ทำ
        
        ดูแลให้ได้รับยาบำรุงตับตามแผนการรักษา
        
        1 more item...
  - - - 1)ให้ผู้ป่วยพักผ่อนบนเตียงให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจน อย่างเพียงพอ
      - 2) ประเมินสัญญาณชีพและระดับความรู้สึกตัว ทุก 15 นาทีหรือตามสภาพผู้ป่วยเพื่อสังเกตการ เปลี่ยนแปลง และรายงานแพทย์ทันที
      - 3) ถ้าอาเจียนเป็นเลือด ควรให้นอนตะแคงหันหน้าไป ด้านใดด้านหนึ่งเพื่อป้องกันการอุดกั้นทางเดินหายใจ
      - 4) งดน้ำดอาหารชั่วคราว เพื่อสังเกตและบันทึก ภาวะเลือดออก อาเจียนหรือถ่ายเป็นเลือดสด content
      - 5) สวนล้างกระเพาะอาหารด้วยน้าเกลือ 0.9 % NSS ในกรณี Active bleed
      - 7) ดูแลให้ได้รับเลือดตามแผนการรักษา
      - 8) สังเกตภาวะแทรกซ้อนขณะและหลังจากให้เลือด เช่น อาการแน่นหน้าอก
      - 9) จดบันทึกปริมาณสารน้าเข้าและออกจากร่างกาย ปริมาณปัสสาวะทุก 1 ชั่วโมง เพื่อประเมินความ สมดุลและภาวะน้าเกิน
- - - - ระยะแรก ผู้ป่วยจะเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่ตับและอวัยวะอื่นๆอย่างชัดเ ผู้ป่วยมักมีอาการ ดีซ่าน ท้องมาน น้ำหนักตัวลด กล้ามเนื้อลีบมีความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่ออาจพบจุดเลือดออก จ้ำเลือดตามตัว เนื่องจากการลดการสังเคราะห์ coagulation rectors อาจมีอาเจียนเป็นเลือดตับวายก็จะเกิดอาการทางสมอง (hepatic encephalopathy) มีอาการซึมเพ้อและไม่ค่อยรู้สึกตัว
        
        ผู้ป่วยอาจมีอาการ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน เมื่อในรายที่เนื้อตับส่วนที่เหลือทำงานไม่เพียงพอผู้ป่วยอาจมีอาการ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
        
        เมื่อตรวจร่างกายอาจพบอาการแสดงของโรคตับเรื้อรัง เช่น ฝ่ามือแดงผิดปกติ (palmar erythema) หรือมีจุดแดงที่หน้าอก (spider nevi)
    - - ทำให้เห็นเป็นหลอดเลือดพองที่หน้าท้อง เกิดหลอดเลือดขอดที่หลอดอาหาร (Esophageal varices) ซึ่งอาจจะแตกและทำให้ผู้ป่วยอาเจียนเป็นเลือดสด ๆ ทำให้เสียเลือดมากและอาจถึงชั้นช็อกและเสียชีวิตได้ ในระยะสุดท้ายเมื่อตับทำงานไม่ได้ (ตับวาย)
        
        ผู้ป่วยก็จะเกิดอาการทางสมอง เช่น หลงลืมง่าย สับสน ซึม เพ้อ มือสั่น และจะค่อย ๆ ไม่รู้สึกตัวจนกระทั่งหมดสติไป เรียกว่า “ภาวะหมดสติจากตับวาย” (Hepatic coma)
  - - - ทำให้เลือดไหลเวียนผ่านตับได้ไม่ดีการทำงานของตับลดลงเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา
        
        เกร็ดเลือดถูกทำลายมากขึ้นและมีการสร้างปัจจัยการแข็งตัวของเลือดลดลง เกิดภาวะเลือดออกง่ายหยุดยากรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
        
        ในกรณีที่มีอาการเลือดออกไม่มากผู้ป่วยจะมีภาวะซีด การหายของแผลช้าและเกิดการติดเชื้อง่าย
        
        อาจเกิดภาวะ hepatic encephalopathy
        
        มีการเพิ่มแรงต้านทานการไหลเวียนเลือดที่ (portal vein)เมื่อมีแรงต้านมากๆ
        
        ทำให้เกิดภาวะ ความดันหลอดเลือดพอร์ทัลสูงขึ้น (portal hyper tension)
        
        ทำให้มีการเพิ่มขึ้นของพลาสมาประกอบกับร่างกายมีระดับของอัลบูมินลดลงจากการสังเคราะห์โปรตีนได้ลดลง
        
        ทำให้ความดันออสโมติกลดลงเกิดการซึมผ่านของน้ำในช่องท้องและความดันที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิด esophageal varices,abdominal varies ,splenomegaly