Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เคสกรณีศึกษา หญิงไทยวัยสูงอายุ อายุ 77 ปี
U/D : Diabetes Mellitus,…
เคสกรณีศึกษา หญิงไทยวัยสูงอายุ อายุ 77 ปี
U/D : Diabetes Mellitus, Hypertension
Hypertension
พยาธิสภาพ
ความดันโลหิตของบุคคลจะเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับ ประสิทธิภาพการบีบตัวของหัวใจและแรงต้านการไหลเวียนของหลอดเลือดส่วนปลาย
โดยความดันโลหิตคือปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจใน 1 นาที (cardiac output) และความต้านทานของหลอดเลือดส่วนปลาย
การมีระดับความดัน โลหิตสูงเกิดจากการเพิ่มขึ้นของปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งหรือทั้งสองปัจจัยหรือจากความล้มเหลวของกลไกการปรับชดเชย
-
-
ภาวะแทรกซ้อน
ทฤษฎี
-
ไต
ความดันโลหิตสูงเรื้อรัง ทำให้เนื้อไตที่เกี่ยวข้องกับการกรองของเสียออกจากร่างกายเสื่อม ส่งผลให้ไตเสื่อมสมรรถภาพ เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันหรือเรื้อรัง
หัวใจ
เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหนา ผนังกล้ามเนื้อหัวใจขยายตัวใหญ่ขึ้น แต่ไม่แข็งแรง ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น หลอดเลือดหัวใจหนาตัว เสี่ยงต่อการขาดเลือดง่ายขึ้น
-
กรณีศึกษา
-
- การทำงานของไตเริ่มไม่มีประสิทธิภาพ
- ขาบวมกดบุ๋ม 3+ ทั้งสองข้าง
การรักษา
ทฤษฎี
- การรักษาโดยวิธีการใช้ยา (pharmacologic treatment)เป้าหมายในการลดความดันโลหิตโดย
การใช้ยาคือการควบคุมระดับความดันโลหิตให้ลดต่ำกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท โดยลดแรงต้านของหลอดเลือดส่วนปลายและเพิ่มปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจ
2.การรักษาโดยไม่ใช้ยาหรือการปรับเปลี่ยนแบบแผนการดำเนินชีวิต (lifestyle modification) ควบคุมอาหาร ลดอาหารเค็ม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เลิกสูบบุหรี่ ควบคุมปริมาณแอลกอฮอล์ ควบคุมน้ำหนัก
กรณีศึกษา
-
- Amlodepin 5 mg 1 tab oral OD pc.
- Enalapril 20 mg ½ tab oral OD pc.
- ปัจจุบันมีการควบคุมการรับประทานอาหารเค็มเล็กน้อย
- มีการออกกำลังกายบริหารขา โดยการนอนแล้วยกขาขึ้นลง
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
กรณีศึกษา
- กรณีศึกษาเพศหญิง อายุ 77 ปี
- มีประวัติมารดาเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมัน
- เมื่อก่อนมีการรับประทานอาหารเค็ม เช่น ปูเค็ม ของหมักดอง
- ดื่มกาแฟทุกเช้ากับขนมปังจิ้มน้ำตาล
- มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวานเป็นระยะเวลาประมาณ > 10 ปี
ความหมาย
ความดันโลหิตสูงคือภาวะที่มีความดันโลหิตซิสโตลิค (systolic pressure [SBPI) มากกว่าหรือเท่ากับ 140 มิลลิเมตรปรอท และ/หรือความดันโลหิตไดแอสโตลิค (diastolic pressure [DBP]) มากกว่าหรือเท่ากับ 90 มิลลิเมตรปรอท (มม.ปรอท)
สำหรับผู้สูงอายุที่มีความดันโลหิตสูงคือมีความดันโลหิตชิสโตลิคตั้งแต่ 140 มิลลิเมตรปรอท ขึ้นไป (เนื่องจากความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือดจะลดลง)
Diabetes Mellitus
ความหมาย
โรคเบาหวานคือโรคที่เกิดระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติเนื่องจากร่างกายไม่สามารถนำกลูโคสไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีสาเหตุมาจากร่างกายมีการผลิตอินซูลินไม่เพียงพอหรือมีความผิดปกติในการออกฤทธิ์ของอินซูลิน บางรายอาจเกิดความผิดปกติทั้ง 2 ประการ
อาการและอาการแสดง
-
กรณีศึกษา
- หิวบ่อยและกินข้าววันละ 1-2 ทัพพี กินขนมหวาน ผลไม้ ดื่มน้ำวันละประมาณ 1,200-1,800 ml
- ปัสสาวะบ่อย กลางวัน 3-5 ครั้ง กลางคืน 4-5 ครั้ง
-
-
-
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
-
กรณีศึกษา
- มีประวัติมารดาเป็นโรค เบาหวาน และความดันโลหิตสูง
- มีพฤติกรรมชอบรับประทานอาหารรสหวาน ดื่มกาแฟทุกเช้ากับขนมปังไส้สังขยาจิ้มกับน้ำตาล และทุกวันตอนเย็นจะรับประทานขนมหวาน เช่น ขนมไทย บัวลอย
-
-
พยาธิสภาพ
โรคเบาหวานมี 4 ประเภท
2.เบาหวานชนิดที่ 2 เกิดจากการที่ร่างกายมีภาวะดื้อต่ออินซูลินและการหลั่งอินซูลินลดลง หรือทั้งสองประการรวมกัน
-
-
-
-
1.เบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจาก B-cell ของตับอ่อนที่ถูกทำลายจากภูมิคุ้มกันของร่างกายจนไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ ทำให้ขาดอินซูลินโดยสิ้นเชิง พบในคนอายุน้อยกว่า 30 ปี
3.เบาหวานชนิดที่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้แก่ ความผิดปกติทางพันธุกรรมของเบต้าเซลล์ ความผิดปกติทางพันธุกรรมของการออกฤทธิ์ของอินซูลิน โรคต่อมไร้ท่อต่าง ๆ การได้รับยาหรือสารเคมีบางชนิด
4 โรคเบาหวานที่เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ เป็นความผิดปกติในความทนต่อกลูโคส ส่วนใหญ่ภายหลังการคลอดบุตรภาวะนี้จะหายไป แต่สตรีดังกล่าวจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้
การรักษา
ทฤษฎี
-
1.กลุ่มกระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อนเพิ่มขึ้น (Insulin Secretagogue) ยากลุ่มนี้ควรรับประทานก่อนอาหาร 30 นาที อาการข้างเคียงของยากลุ่มนี้คือ ภาวะน้ำตาลต่ำในเลือด คลื่นไส้ ผื่นขึ้นหรือแพ้แสง น้ำหนักเพิ่ม เป็นต้น
- กลุ่มที่ลดภาวะดื้ออินซูลิน คือ Biguanide ออกฤทธิ์ยับยั้งการปล่อยกลูโคสจากตับ เพื่อลดการผลิตกลูโคส ใหม่ที่ตับและช่วยให้อินซูลินออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น ยากลุ่มนี้ที่ใช้ในปัจจุบันคือ เมทฟอมิน กลูโคฟาก์
-
-