Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ผู้ป่วย นาง แข่น โคตะมะ เพศ หญิง อายุ 78 ปี 11 เดือน เตียง 7 หอผู้ป่วย…

- - - - ผู้ป่วย(เพศ/วัย/รูปร่าง/ สีผิว /สีหน้า/ความรู้สึกตัวฯ ) ผู้ป่วยเพศหญิง อายุ 78 ปี รูปร่าง ท้วม ผิวสีดำแดง สีหน้าสดใสใส่แมสทุกขณะ ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง GSC E4V5M6
- - - - ประเมินอาการและลักษณะของกระดูกหัก เช่น บวม ปวดผิดปกติ การเคลื่อนไหวผิดรูป หรืออาการชาของปลายเท้า
      - 2.ประเมินสัญญาณชีพ โดยเฉพาะ ความดันโลหิต และอุณหภูมิร่างกาย
      - ตรึงขาให้อยู่ในท่าที่เหมาะสม เพื่อลดอาการปวดและป้องกันการเคลื่อนของกระดูก (skin traction)
      - งดน้ำและอาหาร (NPO) อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ก่อนผ่าตัด
      - ตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น CBC, Coagulation test, Blood chemistry และ Cross-matching เพื่อเตรียมเลือดสำรอง
      - 6.แนะนําการดูแลปฏิบัติตนเกี่ยวกับโรคประจําตัวที่ผู้ป่วยมีอยู่ร่วมกับการเฝ้า ระวังภาวะผิดปกติที่อาจจะเกิดตามมา เช่น ภาวะน้ําตาลในเลือดต่ําหรือสูง ภาวะความดันโลหิตสูง ประสานโภชนาการ เพื่อให้แนะนําอาหารเฉพาะโรคที่เหมาะสม
      - ทำ Skin preparation เช่น เช็ดทำความสะอาดบริเวณที่จะผ่าตัด และอาจโกนขนบริเวณขาหากจำเป็น
      - อธิบายเกี่ยวกับ แผนการรักษา วิธีการผ่าตัด และแนวทางการฟื้นฟู
      - ตรวจสอบ เอกสารยินยอมผ่าตัด (Consent form)ตรวจสอบป้ายข้อมือผู้ป่วยเพื่อความถูกต้อง
      - 10.ดูแลเกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
      - 11.เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึกและซักถามข้อสงสัยที่เป็นอยู่ ให้ผู้ป่วย และญาติมีส่วนร่วมในการวางแผนการดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องจากโรงพยาบาล แนะนําครอบครัวและญาติให้ ช่วยเหลือผู้ป่วยในการทํากิจวัตรประจําวัน
- - - - ผู้ป่วยบอกอาการเจ็บปวดทุเลาลง pain score 0 คะแนน
      - หน้าตาสดชื่น
      - นอนพักผ่อนได้
  - - - 1. ประเมินอาการเจ็บปวดโดยใช้ pain score สังเกตสีหน้าและท่าทางที่แสดงออก
      - 2. พูดคุยให้กำลังใจแสดงออกด้วยท่าทีเห็นอกเห็นใจ
      - 3. ฝึกหายใจเข้าออกลึก ๆ สลับกับผ่อนออกยาว ๆ ขณะมีอาการปวด
      - 4. ให้การพยาบาลด้วยความนุ่มนวล รวดเร็ว และรบกวนผู้ป่วยน้อยที่สุดที่สุด
      - 5.จัดทำให้ผู้ป่วยนอนในท่าที่สุขสบาย โดยกางขาข้างที่ปวดออกเล็กน้อย ใช้หมอนสี่เหลี่ยมวางไว้ ระหว่างขา 2 ข้าง ในกรณีที่ต้องการพลิกตะแคงตัว จัดท่าพลิกตะแคงตัว ข้างด้านที่ไม่ปวดโดยใช้ขาด้านที่ดีกดลงกับพื้น ยกกันลอยขึ้นตัวเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อสะโพกอยู่ในท่าเหยียดมากเกินไป
      - 6. ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยาแก้ปวดตามแผนการรักษาของแพทย์ tramadol 50 mg IV q 8 hr พร้อมสังเกต ฤทธิ์ข้างเคียงของยา
      - 7. ลงบันทึกทางการพยาบาลเพื่อประเมินอาการครั้งต่อไป
      - 8. ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยาแก้ปวดตามแผนการรักษาของแพทย์ tramadol 50 mg IV q 8 hr พร้อมสังเกต ฤทธิ์ข้างเคียงของยา
- - - - แนะนำให้ผู้ป่วยตระหนักถึงความจำเป็นในการดึงถ่วงน้ำหนักและความสำคัญของการจัดท่านอนผู้ป่วยให้ถูกต้องเพื่อให้ผู้ป่วยให้ความร่วมมือ เช่นนอนให้ขากางออก (abduction)เล็กน้อย ลำตัวและขาเป็นแนวเดียวกับน้ำหนักที่ถ่วง
        
        ดูแลการดึงถ่วงน้ำหนักให้มีประสิทธิภาพ ได้แก่ ไม่ยกตุ้มน้ำหนักออกโดยไม่จำเป็น ตรวจเชือกที่ดึงถ่วงน้ำหนักให้ตึงและตุ้มถ่วงน้ำหนักต้องขอบเตียงหรือติดพื้น และไม่แกว่งแขวนลอยอย่างอิสระไม่ติดกับไปมา
        
        ดูแลให้ Elastic bandage ที่พันไม่แน่นหรือหลวมเกินไป
        
        4.หมั่นตรวจผิวหนังบริเวณที่พันElastic bandage เพราะผู้ป่วยอาจแพ้ผ้าพัน (Adhesive plaster) ได้กดทับหรือบริเวณที่มีปุ่มกระดูก
        
        ประเมินการถูกกดของเส้นประสาทหากพบให้รายงานแพทย์
        
        กระตุ้นให้ผู้ป่วยออกกำลังกล้ามเนื้อและเคลื่อนไหวข้อต่างๆ (ROM)
  - - - การทำงานของ skin traction
      - ถูกต้อง
      - ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการ
      - ใส่ skin traction
      - ผิวหนังไม่มีรอยแดง
      - กล้ามเนื้อไม่เหี่ยวลีบ
- - - - รับฟังปัญหาของผู้ป่วยเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยระบาย
      - ความรู้สึกและซักถามปัญหา
      - อธิบายเกี่ยวกับโรคให้ผู้ป่วยทราบตามความเหมาะสมและให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวให้
      - ผู้ป่วยเข้าใจเพื่อลดความวิตกกังวลและความหวาดกลัวต่อโรคที่เป็น
      - จัดสิ่งแวดล้อมให้เย็นสบายและเงียบสงบ เช่น ปิดไฟ ไม่มีเสียงรบกวน
      - แนะนำผู้ป่วยให้ปฏิบัติใน สิ่งที่จะช่วยให้นอนหลับได้
      - ดีขึ้นก่อนนอน เช่นดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ อาบน้ำ อ่านหนังสือ หรือสวดมนต์ เป็นต้น
      - แนะนำให้หลีกเลี่ยงเครื่องดื่ม ที่มีคาเฟอีนโดยเฉพาะมื้อเย็นเช่นน้ำชา กาแฟ น้ำอัดลม โคลาชอคโกแลต
      - วางแผนกิจกรรมการพยาบาลให้เหมาะสมเพื่อจะได้ไม่รบกวนผู้ป่วยบ่อยเกินไป หรือโดยไม่จำเป็นในเวลากลางคืน
      - กระตุ้นให้ผู้ป่วยถ่ายปัสสาวะ ก่อนนอนเพื่อจะได้ไม่ต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อเข้าห้องน้ำ
- - - - ติดตามประเมินความดันโลหิตทุก 4 ชั่วโมง
      - ประเมินอาการที่แสดงถึงการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูงเช่นอาการปวดศีรษะ ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อนคลื่นไส้อาเจียนปากเบี้ยวพูดไม่ชัดแขนขาชาอ่อนแรง
      - ดูแลให้ได้รับยา Amlodipine10 mg 1 tab p.o OD pc และ Enalapril 5 mg 1 tab p.o pc ตามแผนการรักษา
      - แนะนำอาหารที่ช่วยลดไขมันในเลือดโดยหลีกเลี่ยงอาหารที่มีแคลอรีสูงไขมันสูงอาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูงเลือกใช้น้ำมันพืชชนิดไม่อิ่มตัวและลดอาหารเค็มเพื่อป้องกันความดันโลหิตสูงขึ้น
      - แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีกากใยมากขึ้นและดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันการเบ่งถ่ายอุจจาระจากอาการท้องผูกซึ่งจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
      - แนะนำผู้ป่วยให้ระมัดระวังการเปลี่ยนท่าอาจทำให้ความดันโลหิตเปลี่ยนแปลงและเกิดอุบัติเหตุได้