Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาล ตา หู คอ จมูก, หูชั้นกลางอักเสบ Otitis Media หรือ หูน้ำหนวก -…

- - - - ปวดและเห็นภาพซ้อน (โดยเฉพาะเมื่อเคลื่อนไหวในแนวตั้ง) เจ็บตา เปลือกตาบวม อาจเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดเมื่อเคลื่อนไหวตาหากมีกล้ามเนื้อถูกกดทับ กระจกตาฉีกขาด เนื้อเยื่อบุตาบวมและมีเลือดออกใต้เยื่อบุตามาก และเยื่อบุตาบวม เปลือกตาล่างมีเสียงกรอบแกรบ ลูกตาอาจมีลักษณะ "ยุบลงไปในเบ้าตา" หรือเคลื่อนลงด้านล่าง อาจมีอาการบาดเจ็บที่ตาร่วมด้วยอันเป็นผลจากแรงกระแทก (ดูด้านบน) การได้รับผลกระทบของเส้นประสาทใต้เบ้าตาทำให้รู้สึกแก้ม ฟันบน และเหงือกของด้านที่ได้รับผลกระทบลดลง
    - - การบาดเจ็บของลูกตาแบบเปิด (Open Globe injury, OGI) หมายถึง บาดแผลเต็มความหนาของผนังตา ซึ่งเกิดจากการฉีกขาดหรือการแตกที่ซ่อนเร้น1โดยทั่วไป ลูกตาที่แตกจะเกิดขึ้นเมื่อมีแรงทื่อจำนวนมากกระทำกับดวงตา แรงนี้ทำให้ความดันลูกตา (Intraocular pressure, IOP) สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งนำไปสู่การแตกของผนังตาโดยตรงโดยใช้กลไกจากด้านในออกด้านนอก การบาดเจ็บแบบฉีกขาดเป็นการฉีกขาดของผนังตาทั้งชั้นที่เกิดจากการบาดเจ็บภายนอก มักเกิดจากวัตถุมีคม การบาดเจ็บเหล่านี้สามารถแบ่งย่อยได้อีกเป็นการบาดเจ็บแบบทะลุ การบาดเจ็บแบบมีสิ่งแปลกปลอมในลูกตา การบาดเจ็บแบบทะลุมีจุดเข้าลูกตาแต่ไม่มีแผลออกที่ชัดเจน ในขณะที่การบาดเจ็บแบบมีสิ่งแปลกปลอมในลูกตาจะมีทั้งแผลเข้าและแผลออกผ่า
    - - 1.ให้คนไข้งดน้ำและอาหารก่อนเข้ารับการผ่าตัด
        
        2.การระงับอาการปวดอย่างเหมาะสมด้วยยาแก้อาเจียน เนื่องจากการอาเจียนอาจทำให้ความดันภายในลูกตาเพิ่มสูงขึ้น
        
        3.ให้ผู้ป่วยนั่งตัวตรงเมื่อทำได้
        
        4.ปกป้องดวงตา ระวังในการบังตาไม่ให้กดทับดวงตา
  - - - ความดันในลูกตาสูงเกินไป (Increased Intraocular Pressure, IOP)
        
        การผลิตน้ำในลูกตาที่มากเกินไป
        
        การเสื่อมสภาพของท่อระบายน้ำ (Trabecular Meshwork)
        
        พันธุกรรม
        
        อายุ
        
        ความผิดปกติของโครงสร้างตา
    - - ปวดตา
        ตาแดง
        ตามัวอย่างรุนเเรง
        เห็นแสงรุ้งงรอบดวงไฟ
        ปวดศรีษะ อาเจียนร่วมด้วย
        ใช้มือคลำลูก
    - - เกิดจากกระบวนการที่มีผลต่อความดันในลูกตาและเส้นประสาทตา ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายที่เส้นประสาทตา และอาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็น หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
    - - การรักษาด้วยยา 2. การรักษาด้วยเลเซอร์ 3. การผ่าตัด
- - - - น้ำมูกข้นในจมูกสีเหลืองเขียว
      - สารคัดหลั่งลงคอ
  - - - -ติดเชื้อ epstein-barrvirus (EBV)
      - -รับประทานอาหารที่มีสารไนโตรซามีนซึ่งอยู่ในอาหารพวกหมักดอง เช่น ไส้กรอก แหนม
      - -การอักเสบเรื้อรังของโพรงหลังจมูก
      - -พันธุกรรม
- - - - อาการและะอาการแสดง
        
        เวียนศีรษะบ้านหมุน (Vertigo) เกิดเป็นพัก ๆ โดยแต่ละครั้งอาจนาน 20 นาที ถึงหลายชั่วโมง
        
        การได้ยินลดลง หรือหูอื้อ
        
        เสียงรบกวนในหู (Tinnitus) เช่น เสียงหวีด
        
        รู้สึกแน่นในหู
      - พยาธิ
        
        การสะสมของของเหลวในส่วน Endolymph ในหูชั้นใน
        
        ทำให้แรงดันในหูชั้นในเสียสมดุล
        
        ส่งผลต่อระบบควบคุมการทรงตัว (Vestibular system) และระบบการได้ยิน
      - การรักษา
      - สาเหตุ
        
        ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
        
        เชื่อว่าเกิดจากการสะสมของของเหลวในหูชั้นใน (Endolymphatic hydrops) ส่งผลให้เกิดแรงดันในหูชั้นในผิดปกติ
        
        มีผลต่อการได้ยินและการทรงตัว