Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การใช้ Blockchain เบื้องต้น, 16653963129048, doctor-men-holding…
การใช้ Blockchain เบื้องต้น
1.Blockchain คืออะไร?
คือเทคโนโลยีที่ทำให้สามารถเก็บข้อมูลในลักษณะที่ปลอดภัยและไม่สามารถถูกแก้ไขได้อย่างง่ายดาย โดยข้อมูลเหล่านั้นจะถูกจัดเก็บในลำดับของบล็อกเชื่อมต่อกันเป็นห่วงโซ่ (chain) ซึ่งจะถูกกระจายไปยังหลายๆ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายเดียวกัน หรือที่เรียกว่า "Distributed Ledger" (ระบบบันทึกข้อมูลกระจาย)
4.ข้อดีและข้อเสียของ Blockchain
ข้อดี
ความปลอดภัย: การเข้ารหัสข้อมูลและระบบที่กระจายทำให้ข้อมูลปลอดภัยจากการโจมตีหรือการปลอมแปลง
ความโปร่งใส: ทุกคนสามารถตรวจสอบธุรกรรมได้ (ขึ้นอยู่กับประเภทของบล็อกเชน) ทำให้โปร่งใส
ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้: เมื่อข้อมูลถูกบันทึกแล้วจะไม่สามารถแก้ไขหรือทำให้ข้อมูลผิดพลาดได้ง่าย
ลดต้นทุน: ลดการพึ่งพาองค์กรกลาง เช่น ธนาคาร หรือหน่วยงานกลางในการยืนยันธุรกรรม
ข้อเสีย
การใช้พลังงานสูง: บล็อกเชนบางประเภท เช่น Bitcoin ใช้พลังงานมากในการทำธุรกรรม
ความช้าในการประมวลผล: การยืนยันธุรกรรมในเครือข่ายอาจใช้เวลานาน โดยเฉพาะในเครือข่ายที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก
การควบคุมและการกำกับดูแล: เนื่องจากบล็อกเชนเป็นระบบที่ไม่มีองค์กรกลาง การควบคุมและการบังคับใช้อาจเป็นปัญหา
3.การใช้ Blockchain ในชีวิตประจำวัน
3.1 การเงิน (Cryptocurrency): บล็อกเชนถูกใช้ในการทำงานของสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin, Ethereum ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ไม่ต้องผ่านสถาบันการเงินกลาง (เช่น ธนาคาร) การทำธุรกรรมจะได้รับการยืนยันจากเครือข่ายแทน
3.2 สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts): ในบางบล็อกเชน เช่น Ethereum, จะมีการใช้ "Smart Contracts" ซึ่งคือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ทำงานอัตโนมัติเมื่อเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาถูกต้องแล้ว
3.3 การตรวจสอบห่วงโซ่การจัดหาวัตถุดิบ (Supply Chain): บล็อกเชนสามารถใช้ในการติดตามแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์จากจุดเริ่มต้นจนถึงปลายทาง ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจในความโปร่งใสและความปลอดภัยของสินค้านั้นๆ
3.5 การบันทึกข้อมูลสุขภาพ (Healthcare): สามารถใช้บล็อกเชนในการจัดเก็บข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วย ซึ่งช่วยให้การเข้าถึงข้อมูลเป็นไปอย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว
3.6 การเลือกตั้ง (Voting): บล็อกเชนสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในระบบการเลือกตั้งออนไลน์ เพื่อให้มั่นใจว่าการลงคะแนนเป็นไปอย่างโปร่งใสและไม่สามารถถูกเปลี่ยนแปลงได้
2.หลักการทำงานของ Blockchain เบื้องต้น
2.1 บล็อก (Block): ข้อมูลจะถูกเก็บในหน่วยที่เรียกว่า "บล็อก" ซึ่งแต่ละบล็อกจะประกอบไปด้วย
ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น การทำธุรกรรม
รหัสแฮช (Hash) ของบล็อกก่อนหน้า
รหัสแฮชของบล็อกนั้นเอง
เวลาที่ทำการบันทึกข้อมูล
2.2 โซ่ (Chain): บล็อกแต่ละตัวจะเชื่อมโยงกับบล็อกก่อนหน้า (โดยการอ้างอิงแฮช) ซึ่งทำให้มันไม่สามารถถูกแก้ไขได้โดยง่าย เพราะถ้าเปลี่ยนแปลงข้อมูลในบล็อกใดบล็อกหนึ่ง จะทำให้แฮชของบล็อกนั้นและบล็อกถัดไปทั้งหมดเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งทำให้มันสังเกตได้ทันทีว่าเกิดการเปลี่ยนแปลง
2.3 การกระจาย (Distributed): บล็อกเชนทำงานในลักษณะของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีหลายเครื่องที่กระจายไปทั่วโลก ทุกเครื่องในเครือข่ายนี้จะเก็บสำเนาของข้อมูลในบล็อกเชนเดียวกัน ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงข้อมูลใดๆ จะต้องได้รับการยืนยันจากหลายๆ เครื่องในเครือข่าย
2.4 การยืนยัน (Consensus): การทำธุรกรรมหรือการบันทึกข้อมูลใหม่ในบล็อกจะต้องผ่านกระบวนการยืนยันจากเครื่องในเครือข่ายทั้งหมด ซึ่งเรียกว่า "Consensus Mechanism" เช่น Proof of Work (PoW) หรือ Proof of Stake (PoS) ที่ใช้ในการยืนยันและตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม
นางสาวศิริพร เมืองไทย เลขที่ 9 ปวส.1 สาขาบัญชี (สมทบ)