Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

6P ระยะที่ 1 ของการคลอด Case G1P0 GA40+3 Wks. By U/S Dx. Labour pain with…

- - - - ปกติ G1 I 2-3 นาที D 60-90 วินาที Intensity moderate-strong
        
        มารดา G1P0 I 2 นาที 30 วินาที D 60 วินาที Intensity strong
        
        Good contraction
    - - ปกติ G1 I 4-10 นาที 20-40 วินาที Intensity mild
        
        มารดา G1P0 I 5 นาที D 45 วินาที Intensity mild
        
        Good contraction
    - - ปกติ I 2-3 นาที D 60-90 วินาที Intensity strong
        
        มารดามีปากมดลูกเปิดถึง 6 cm.
  - - - จากการสังเกตุในระยะที่ 1 ของการคลอด มารดายังไม่มีเเรงเบ่ง ในระยะที่ 2 มารดาเข้าผ่าตัด C/S
- - - - ลักษณะเป็นรูปรีตามขวาง มีขอยด้านหน้าเป็นขอบบนของกระดูกหัวเหน่า ด้านข้างเป็น linea terminalis ด้านหลังเป็น promontory of sacrum มี transverse diameter ยาว 13 cm.
        
        การตรวจครรภ์ท่าที่ 3 คือ Pawilk’s grip จะพบว่าไม่สามารถโยกได้ และประเมิน จากการตรวจครรภ์ท่าที่4Bilateralinguinalgripพบว่ามือไม่สามารถ สอบหากันได้ แสดงให้เห็นว่าส่วนทําของทารกเคลื่อนเข้าสู่ช่องเชิงกราน(Engagement) ส่วนนําของทารกสามารถผ่านเข้าสู่ Pelvic inlet ได้
    - - มีกระดูกเชิงกรานแบบ Gynecoid type และกระดูก Ischial spine ไม่แหลมและไม่ยื่น มีเส้นผ่านศูนย์กลางตามเเนว tranverse diameter 10 cm.
        
        หญิงตั้งครรภ์รายนี้มี ischial spine ค่อนข้างแหลม มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 8 cm.
        
        ทารกไม่สามารถเข้าสู่ pelvic cavity ได้
    - - ช่องเชิงกรานเป็นรูปรีตามแนวตั้ง ด้านบน เป็นกระดูก symphysis pubis ด้านล่างเป็นกระดูก coccyx ด้านข้างเป็นกระดูกเป็นกระดูก ischial tuberosities มีมุมของ Supra pubic arch มากกว่า 85 องศา
  - - - มารดาช่องคลอดปกติ ไม่มีการตีบ ไม่มีผนังกั้น
    - - ระยะ Active phase
        
        Phase of maximum slope
        (Cx 4-9 cm.)
        
        G1 ปากมดลูกมีการเปิดขยาย 1.2 cm. ต่อชั่วโมง
        
        มารดา G1P0
        เวลา 12.00 น. PV พบปากมดลูกเปิด 4 cm.
        เวลา 13.20 น. PV พบปากมดลูกเปิด 6 cm.
        เวลา 15.30น. PV พบปากมดลูกเปิด 7 cm.
        เเสดงให้เห็นว่ามารดามีการเปิดของปากมดลูกที่ล่าช้า เนื่องจากผ่านไป 3ชั่วโมง 30 นาที ปกติปากมดลูกต้องเปิดถึง 8.2 cm. เเต่เคสนี้เปิดเพียง7 cm. เเละเวลา 15.30 น.ควรเปิด 8.2 cm.
        
        มีการคลอดยาวนานเนื่องจากช่องเชิงกรานแคบ
      - Secondary arrest of dilatation
        
        ปากมดลูกเปิดเพิ่มขึ้นหลังจากการตรวจทางช่องคลอด 2 ครั้ง ห่างกันมากกว่า 2 ชั่วโมง
        
        มารดา G1P0
        เวลา 13.20 น. PV พบปากมดลูกเปิด 6 cm
        เวลา 12.00 น. PV พบปากมดลูกเปิด 4 cm.
        เวลา 15.30น. PV พบปากมดลูกเปิด 7 cm.
        ไม่มีภาวะ Secondary arrest of dilatation
    - - มารดาไม่มีการตีบของปากช่องคลอด ฝีเย็บไม่เเข็งตึง ไม่มีอาการบวม
    - - มดลูกปกติ ไม่มี anteflexion, retroflexion, prolapsed uterus เเละ myoma
- - - - ปกติส่วนนำเป็นศีรษะ
        
        ทารกรายนี้มีส่วนนำเป็นศีรษะ
    - - ปกติ ส่วนนำเป็นศีรษะ ส่วนของท้ายทอยอยู่ด้านหน้าช่องเชิงกราน
        
        จากผล U/S วันที่ 27/11/67 พบ ทารกรายนี้อยู่ในท่า LOP
    - - ทารกรายนี้เป็นปกติคือ ใช้ Vertax เป็นส่วนนำ
    - - ปกติไม่เกิน 4000 g. HF +-2 cm.จาก GA
        
        จากผล U/S วันที่ 27/11/67 พบทารกมีน้ำหนัก 3015 กรัม GA 40+3 wks. HF 37 cm.
  - - - U/S GA31+5 wks. Placenta anterior no previa
  - - - AFI =19.18 (GA 31.5 wks.)
- - - - ไม่สุขสบายเนื่องจากมดลูกมีการหดรัดตัว
- - - - semi sitting position
      - rocking motion
    - - มารดาสามารถเดินไปเข้าห้องน้ำได้เอง ไม่ได้มีการ monitor EFM ตลอดเวลา
- - - - ศีรษะเป็นส่วนนำและอยู่ในท่าปกติ ส่วนที่ผ่านช่องเชิงกรานลงมาเป็นส่วนที่เล็กที่สุด แต่ไม่สามารถผ่านช่องเชิงกรานออกมาได้
    - - ทารกมีส่วนนำหรือ ท่าผิดปกติ ทำให้ส่วนที่ผ่านช่องเชิงกรานมีขนาดใหญ่ไม่สามารถผ่านช่องเชิงกรานออกมาได้ แม้ว่า ขนาดของทารกจะไม่ใหญ่มาก
  - - - การที่ทารกมีขนาดใหญ่เกินไปหรือเชิงกรานของมารดามีขนาดเล็กเกินไปทำให้การผ่านช่องคลอดไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติ การพยายามที่จะคลอดทารกออกมาทางช่องคลอดอาจทำให้เกิดการคลอดที่ล่าช้า
      - ประเภท
        
        การคลอดยาวนานในระยะปากมดลูกเปิดช้า (prolong latent phase) คือ ในระยะปากมดลูกเปิดช้าใช้เวลามากกว่า 20 ชั่วโมงในครรภ์แรกและมากกว่า 14 ชั่วโมงในครรภ์หลัง
        
        การคลอดยาวนานในระยะเร่ง (active phase disorder)
        
        ปากมดลูกปิดขยายล่าช้า (practed dilatatation) คือ ปากมดลูกเปิดขยายน้อยกว่า 1.2 เซนติเมตรต่อชั่วโมงในครรภ์แรกและน้อยกว่า 1.5 เซนติเมตรต่อชั่วโมงในครรภ์หลัง
        
        ส่วนนำเคลื่อนต่ำล่าช้า (protracted descent) คือ ส่วนนำของทารกมีการเคลื่อนต่ำน้อยกว่า 1 เซนติเมตรต่อชั่วโมงในครรภ์แรกและน้อยกว่า 2 เซนติเมตรต่อชั่วโมงในครรภ์หลัง
        
        การหยุดชะงักของการเปิดขยายของปากมดลูกหรือ
        การเคลื่อนต่ำของต่ำของส่วนนำ(arrest disorder)
        
        การคลอดยาวนานในระยะ deceleration (prolonged deceleration phase) ในระยะ deceleration phase ใช้เวลามากว่า 3 ชั่วโมงในครรภ์แรกและมากกว่า 1 ชั่วโมงในในครรภ์หลัง
        
        การเปิดขยายของปากมดลูกหยุดชะงัก (secondary arrest of dilatation) คือ ปากมดลูกไม่การเปิดขยายเพิ่มขึ้นภายในเวลา 2 ชั่วโมง
        
        การเคลื่อนต่ำของส่วนนำหยุดชะงัก (arrest of descent) คือ ส่วนนำของทารกไม่มีการเคลื่อนต่ำเพิ่มขึ้นภายในเวลา 1 ชั่วโมง
        
        ไม่มีการเคลื่อนต่ำของส่วนนำ (failure of descent) คือ ส่วนนำของทารกไม่มีการเคลื่อนต่ำลงมาแม้ว่าจะอยู่ในระยะ deceleration phase หรือระยะที่สองของการคลอดแล้วก็ตาม
      - การดูเเล
        
        ประเมินหาสาเหตุของการคลอดยาวนานและให้การพยาบาลเพื่อแก้ไขตามสาเหตุ
        
        ติดตามความก้าวหน้าของการคลอด และส่งเสริมให้เกิดความก้าวหน้าของการคลอด อย่างเหมาะสม รวมทั้งประเมินสภาวะของทารกในครภ์อย่างใกล้ชิด
        
        ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะมดลูกแตกในกรณีที่ได้รับเร่งคลอด
        
        ดูแลให้ได้รับอาหารหรือสารน้ำทางหลอดเลือดดำอย่างเพียงพอ
      - ปวดมากขึ้น สมองส่วนซิมพาเทติกจะหลั่ง Catecholamines Corticosteroids เเละ Acethylcholinethyroid hormone สั่งการให้มดลูกหดรัดตัวน้อยลงเพื่อลดปวด ส่วนนำของทารกเคลื่อนต่ำได้ช้า
    - - ขนาดศีรษะทารกที่ใหญ่เกินไปและไม่สามารถผ่านช่องคลอดได้อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ศีรษะหรือคอของทารก เช่น การบาดเจ็บที่เส้นประสาท (Erb’s palsy) หรือการบาดเจ็บที่กระดูกกราม (fractures) ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการใช้อุปกรณ์ช่วยคลอด (forceps) หรือจากการที่ศีรษะทารกถูกดึงออกจากช่องคลอด
    - - การคลอดที่ยืดเยื้อหรือมีความซับซ้อนอาจทำให้เกิดการเสียเลือดมากจากการคลอด โดยเฉพาะหากมีการใช้เครื่องมือช่วยในการคลอดหรือถ้ามีการฉีกขาดของช่องคลอดหรือปากมดลูก การบาดเจ็บเหล่านี้อาจทำให้เกิดการเสียเลือดมากเกินไปหลังคลอด (postpartum hemorrhage)
    - - เมื่อการคลอดไม่สามารถดำเนินการได้ตามปกติหรือเมื่อมีการแทรกแซงทางการแพทย์เช่น การผ่าคลอดหรือการใช้เครื่องมือช่วยคลอด อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในมดลูก (endometritis) หรือช่องคลอด (vaginitis)
    - - ส่วนนำของทารกมีการกดที่ช่องเชิงกรานเป็นเวลานานเกิด ภาวะ Umbilical cord compression(สายสะดือถูกกด)เลือดเเละO2ไปเลี้ยงทารกลดลง
      - ทารกมีภาวะ Fetal distress เนื่องจาก มดลูกหดรัดตัวถี่ร่วมกับมีการคลอดยาวนาน
- - - - Baseline rate: 110-160 bpm
      - Baseline FHR variability: moderate
      - Late or variable decelerations: absent
      - Early deceleration: present or absent
      - Acceleration: present or absent
    - - Baseline rate
        
        Bradycardia not accompanied by absent baseline variabilty
        
        Tachycardia
      - Baseline FHR variability
        
        Minimal baseline variability
        
        Absent baseline variability not accompanied by recurrent decelerations
        
        Marked baseline variability
      - Accelerations
        
        Absence of induced accelerations after fetal stimulation
      - Periodic or episodic decelerations
        
        Recurrent variable decelerations accompanied by minimal or moderate baseline
        
        Prolonged deceleration > 2 minute but < 10minutes
        
        Recurrent rate decelerations with moderate baseline variability
        
        Variable decelerations with other characteristics such as slow retum to baseline "overshoots" or "shoulder"
    - - Recurrent late decelerations
      - Recurrent variable decelerations
      - Bardycardia
      - Sinusoidal pattern
  - - - Uterine hyperactivity เช่น ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด การได้รับยากระตุ้นการหด
        รัดตัวของมดลูก เป็นต้น
      - Maternal hypotension เช่น ภาวะตกเลือด supine position, sympathetic paralysis
        ที่เกิดจากการได้รับยาระงับความรู้สึก (anesthesia) เป็นต้น
      - Placental dysfunction เช่น ในสตรีครรภ์ที่เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง การตั้งครรภ์เกินกำหนด การสูบบุหรี่ในขณะตั้งครรภ์ เป็นต้น
  - - - มารดาได้รับการผ่าตัด C/S วันที่ 26/11/2567
        
        มารดาเสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอดเนื่องจากมีแผลผ่าตัดทางหน้าท้อง
        และแผลในโพรงมดลูก
        
        ทารกมีโอกาสเกิดภาวะ hypothermia เนื่องจากการสูญเสียความร้อน
        ของร่างกาย