เริ่มเจ็บครรภ์วันที่ 21/09/65 เวลา 08.10 น. (ระยะที่ 1)
เวลา 09.45 น. PV Cervix Dilatation 2 cm. Effecment 50% , Membrane Intact , station -2, Uterine contraction Interval = 2’50” Duration = 50” (ระยะที่ 1)
เวลา 13.00 น. PV Cervix Dilatation 7 cm. Effecment 80% , Membrane Intact , station -1, Uterine contraction Interval = 2’15” Duration = 40” (ระยะที่ 1) ใช้เวลาทั้งหมด 4 ชั่วโมง 45 นาที
เวลา 13.20 น. ปากมดลูกเปิดหมด (ระยะที่ 2)
ทารกคลอดเวลา 13.30 น.
รกคลอดเวลา 13.38 น.
ใช้เวลาทั้งหมด 5 ชั่วโมง 8 นาที
ถุงน้ำคร่ำแตกเวลา 13.20 น. 21/09/65 โดย Spontaneous ลักษณะน้ำค่ำ Clear แผล Perineum Rt. mediolateral Episiotomy การเย็บ Continuous Lock
รกคลอดโดยวิธี Modified crede น้ำหนักรก 600 gm. ชิดริม 5 cm. ห่างริม 15 cm. สายสะดือยาว 60 cm. ลักษณะรก Normal , Blood loss 200 ml.
ทารกคลอดเพศชาย น้ำหนัก 2,650 gm. เวลา 13.30 น. 21/09/65 วิธีคลอด N/L ความยาว 50 cm. รอบหัว 33 cm. V/S BT=36.8 RR=50 HR=144 O2 sat 96% Apgar Score 9,10,10 ได้รับ Vit k ขาขวา Hep.B ขาซ้าย
ระยะที่ 4 ของการคลอด
ปัญหาที่ 7 มารดาปวดแผลฝีเย็บและปวดมดลูก
S : มารดาบอกว่า “ปวดแผลฝีเย็บ และมดลูก”
O : - หน้านิ่วคิ้วขมวด - pain score 6 คะแนน
กิจกรรมการพยาบาล
- 1 more item...
ปัญหาที่ 9 ทารกเสี่ยงเกิดภาวะอณุหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติเนื่องจากการสูญเสียความร้อนของร่างกายและการปรับตัวยังไม่ดี
S : -
O : - ทารกคลอดเวลา 13.30 น
- 1 more item...
ปัญหาที่ 6 ทารกมีโอกาสเกิดภาวะพร่องออกซิเจนเนื่องจากทางเดินหายใจไม่สะดวก
S : -
O : ทารกมี Cord พันคอ 2 รอบ
กิจกรรมการพยาบาล
- สังเกตและบันทึกอาการหายใจลําบาก ได้แก่ หายใจเร็ว (> 60 ครั้ง/นาที) ปีกจมูกบาน (nasal
flaring)
- หน้าอกบุ๋ม, หายใจดึงรั้ง (Retraction of Substernal และ Inter Costal) มีเสียงคราง
(Expiratory grunt) เขียวคล้ำ
- กําหนดเวลาให้กิจกรรมควบคุมอุณหภูมิตู้ 32-34 องศาเซลเซียส เพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกายทารกให้อยู่ในระดับปกติ 36.5-37.5 องศาเซลเซียส
- 1 more item...
- การทําคลอดรก
- ประเมินกระเพาะปัสสาวะ คลํา บริเวณหน้าท้องว่ามีอาการโป่งตึง หรือไม่ ถ้าหากมีให้ทําการสวนปัสสาวะ ทิ้งทันที
- ตรวจสอบ sign ของรกลอกตัว
1) Uterine sign มดลูกจะหดรัดตัว แข็งเปลี่ยนรูปร่างจากยาวรี (Discoid) มาเป็น กลม (Globular) และลอยตัว ขึ้นถึงระดับสะดือ
2) Cord sign จะมีการเคลื่อนที่ตํ่า ของสายสะดือประมาณ 8-10 CM.จะ สังเกตได้จาก ด้ายยางที่ผูกไว้หรือ จาก Arterial clamp ที่ใช้หนีบสาย สะดือไว้ภายหลังรกคลอดจะเลื่อนตํ่า ลงมา สายสะดือจะเหี่ยวคลายเกลียว และคลําชีพจรไม่ได้
3) Vulvar sign มีเลือดไหลออกมาให้ เห็นทางช่องคลอด จะพบได้ในรายที่รก ลอกตัวแบบ Duncan mechanism ในรายที่รกลอกตัวแบบ Schultz mechanism อาจพบว่ามีเลือดออกได้
4) ทดสอบ (Cord test) โดยใช้มือกด บริเวณเหนือกระดูกหัวเหน่าและโกย มดลูกขึ้นไปข้างบนสายสะดือไม่เคลื่อน ตาม แสดงว่ารกลอกตัวและลงมาอยู่ ส่วนล่างของมดลูกแล้ว
ปัญหาที่ 5 ส่งเสริมการคลอดปกติ ในระยะคลอด
O : Cervix Dilatation = Fully
Effacement = 100% ผู้คลอดเจ็บครรภ์คลอด อยากเบ่ง ร้องเสียงดัง
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินความเจ็บปวดจากการหดรัด ตัวของมดลูกทุก30 – 1 ชั่วโมง และ ความสามารถในการควบคุมความ เจ็บปวดของผู้คลอด
2.ประเมิน U/C และ PV ซ้ำ ระหว่าง รอคลอด ทุก 15 นาที
3.ประเมิน FHS ทุก15 นาที
4.จัดท่าผู้คลอดให้อยู่ในท่า dorsal recumbent position นอนหงายชัน เข่าส้นเท้าชิดเเก้มก้น
5.แนะนําผู้คลอดเมื่อมดลูกเริ่มหดรัด ตัว ให้ผู้คลอดหายใจเข้าออก ลึกๆ ก้ม หน้าคางชิดอกและเบ่งคลอดยาวๆ เบ่งลงก้นไม่ออกเสียงนาน 6 –8 วินาที หลังจากนั้นผ่อนลมหายใจออกทาง ปากช้าๆ เมื่อมดลูกคลายตัว
6.เตรียมอุปกรณ์ทำคลอด
-Artery clamp 2 อัน พร้อมยางรัด cord หรือ บางรพ.อาจจะใช ้cord clamp
-กรรไกรตัด cord
-กรรไกรตัด ฝีเย็บ
-Tooth forceps และ non tooth forceps
-Top gauze สำหรับ safe perineum
- ลูกสูบยางแดง สำหรับดูด มูกจากจมูก และลำคอทารก
- สำลี เพื่อเช็ดสายสะดือ
- ผ้าปูรองก้น ผ้าคลุมหน้าท้อง ผ้าเช็ด ตัวเด็ก ผ้าสี่เหลี่ยมเจาะกลาง ถุงเท้า 2 ข้าง
- เตรียมชุดทําคลอด
- ผ้ารองคลอด 2 ผืน
- ผ้าคลุมหน้าท้อง 1ผืน , ปลอกขา 1 คู่ , ผ้ารับเด็ก 1 ผืน
- ผ้าสี่เหลี่ยมเจาะกลางสําหรับเย็บแผล 1 ผืน
6.เตรียม Set scrub (ฟอกทําความสะอาด)
- ถ้วยใบใหญ่สำหรับใส่ 0.9 % NSS
- ถ้วยใบเล็กใส่น้ำยาฆ่าเชื้อ
- น้ำยาฆ่าเชื้อ จะใช้เป็น Savlon 1:100 หรือ Hibitain solution 0.5% เพื่อใช้สำหรับฟอกทําความสะอาด
- ให้สำลีแห้งก้อนใหญ่ 5-6 ก้อนโดยเอา สำลีออกมา 3 ก้อน ก้อนที่1 ใช้ สำหรับเช็ดสายสะดือ ด้วย alcohol 1 ก้อน ใช้เช็ดตา 2 ก้อน
- Tooth forceps จํานวน 1 อัน -ถุงมือ 1 คู่
- Sterile water
- ล้างมือตามหลัก Surgical hand washing
- ทําความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ ภายนอกโดยการ scrub
- จัดท่าผู้คลอดเป็นท่า dorsal recumbent position ท่านอนหงาย ชันเข่า
- สอด Bed pan ไว้ใต้ ก้นผู้คลอดแล้วฟอกทำควาสะอาด โดย
- สำลีก้อนที่ 1 เช็ดบริเวณ mons pubis หัวหน่าวขึ้นนไปจนถึงประมาณ หน้าท้องช่วงล่าง
- ก้อนที่2 จะเช็ดบริเวณ labia migera ด้านไกลตัวัแล้วเช็ดบริเวณขาหนีบ และไปยังบริเวณโคนขาประมา 2 ส่วน 3 ของขา
- ก้อนที่3 จะเช็ดบริเวณ labia migera ด้านใกล้ตัว
- ก้อนที่4 จะเช็ดบริเวณ labia minora ด้านไกลตัว เช็ดจากบริเวณ ด้านในลงมาจนถึง clitolis
- ก้อนที่5 จะเช็ดบริเวณ labia minora ด้านใกล้ตัว
- ก้อนที่6 จะเช็ดบริเวณ clitolis จนถึง anus
จากนั้นใช้ Sterile water ราดทํา ความสะอาด
- 1 more item...
P : Passenger สิ่งที่คลอดออกมา ประกอบด้วย ทารก รก เยื้อหุ้มทารก น้ําคร่ํา โดยหากทารกมีขนาด รูปร่าง ลักษณะที่ไม่เหมาะสม จะทําให้คลอดยากได้
ข้อวินิจฉัย
ปัญหาที่ 1 ส่งเสริมความก้าวหน้าในการคลอดในระยะที่ 1 ของการคลอด
O : อยู่ในระยะ Latent phase
case G1P0-0-0-0 with GA 39+1 week
- PV Cervix Dilatation 2 cm. Effecment 50% , Membrane Intact , station -2, Uterine contraction
Interval = 2’50” Duration = 50”
กิจกรรมการพยาบาล
- ให้ผู้คลอดจัดท่าเพื่อส่งเสริมการเคลื่อนต่ำของส่วนนำและการขยายของช่องเชิงกราน
1) ท่าศีรษะสูง (semi setting position)
2) ท่าคุกเข่าโน้มตัวไปข้างหน้าโดยมีที่รองรับ (leaning forward with support position)
3) ท่านั่งยอง (squating position)
- ดูแลให้ผู้คลอดขับถ่ายปัสสาวะ ทุก 2-3 ชั่วโมงเพื่อไม่ให้กระเพาะปัสสาวะเต็มเนื่องจากเมื่อส่วนนำทารกเข้าสู่อุ้งเชิงกรานาจะไปเบียด กระเพาะปัสสาวะทำให้ส่วนนำทารก เคลื่อนต่ำได้ช้าและอาจทำให้การ คลอดติดขัดได้
- ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกทุก และ FHS ทุก 1 ชั่วโมง
- ประเมินความก้าวหน้าของการคลอดทุก 4 ชั่วโมงในระยะ Latent phase และทุก 2 ชั่วโมงในระยะ Active phase
- ควรหลีกเลี่ยงท่านอนหงายเพราะจะทำให้การไหลเวียนกลับของเลือดไม่ดี
- บันทึกความเปลี่ยนแปลงโดยใช้ Partograph หากตกเส้น alert line ให้รีบรายงานแพทย์
ปัญหาที่ 2 เจ็บครรภ์คลอดในระยะ Active phase
S : ผู้คลอดบอกว่า “ปวดท้อง ปวดหลังร้าวไปที่หน้าขา”
O : Pain score 7 คะแนน
อยู่ในระยะ Active phase
Cervix Dilatation 7 cm. Effecment 80% , Membrane Intact , station -1 Uterine contraction
Interval = 2’15” Duration = 40”
กิจกรรมการพยาบาล
- ประเมินความปวดก่อนและหลังให้การพยาบาลโดยใช้ Facial scale เป็น การประเมินโดยใช้รูปภาพแสดงสีหน้า บอกความรู้สึกปวดและ numerical rating scales เป็นการประเมินโดย การบอกความรู้สึกเป็นตัวเลข
- ดูแลให้ผู้คลอดอยู่ในท่านอนคะแคงซ้ายศรีษะสูงเพื่อป้องกันการกดทับของเส้นเลือด inferior vena cava ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี
- กระตุ้นให้ผู้คลอดเปลี่ยนท่านอนทุก 15 – 30 นาทีเพื่อป้องกันการกดทับ
- ประเมินความก้าวหน้าของการคลอดโดยการฟัง
1) FHS ทุก 30นาที – 1 ค่าปกติ 110- 160 ครั้ง/นาทีชั่วโมง
2) ประเมินการเปิดขยายของปากมด ลูก PV ทุก2 ชั่วโมง ค่าปกติในระยะ - Active phase 4-7 cms - Uterine Contraction I=2’-3’ D=45”- 60”(ห้ามเกิน 60”)
- ส่งเสริมให้ผู้คลอดใช้เทคนิคบรรเทา อาการปวดโดยไม่ใช่ยา แนะนำเทคนิคการหายใจ
การนวดบรรเทาปวด
1) การกดนวดลึกๆ เป็นวงกลม บริเวณ กระดูกก้นขณะที่มดลูกหดรัดตัว ใช้มือ กดให้แรงพอสมควร ความเร็วสม่ำเสมอน้ำหนักมือคงที่
2) การนวดเป็นรูปเลข8 ผู้นวดกำนิ้วมือ ทั้งสี่นิ้วแล้วนิ้วหัวแม่มือออก หลังจาก นั้นวางด้านฝ่ามือลงบริเวณหลังส่วนล่าง กดน้ำหนักมือค่อนข้างแรงวน มือเป็นรูปเลข 8 วงเล็กแล้วค่อยๆเบา แรงกด เมื่อวนเป็นเลข 8 ที่ใหญ่ขึ้น
3) การนวดตนเองโดยผู้คลอดหงายมือ ข้างหนึ่งกำนิ้วทั้งสี่แล้วกดหลังมือลงที่ บริเวณหลังส่วนล่าง ถูไปตามขวาง
การเพ่งจุดสนใจ
1) เมื่อปากมดลูกเปิด 4-8 เซนติเมตร แนะนำให้ผู้คลอดตั้งใจจดจ่ออยู่กับสิ่ง ใดสิ่งหนึ่ง นับลมหายใจเข้าออกขณะ มดลูกหดรัดตัว
2) เมื่อปากมดลูกเปิด 8-10 เซนติเมตร แนะนำให้ผู้คลอดหายใจเข้าลึกๆ เพ่ง ตามองที่จุดหนึ่งจุดใดอย่างแน่วแน่ ขณะมดลูกหดรัดตัว
- ประเมินการแตกของถุงน้ำคร่ำ ตรวจเพื่อดูว่าถุงน้ำแตกหรือยัง ถ้าแตก แล้วมีขี้เทา ปนหรือไม่ มีกลิ่นจากการ ติดเชื้อหรือไม่
1) MI (membrane intact) หมายถึง ถุงนํ้าครํ่ายังไม่แตก
2) ML (membrane leak) หมายถึง ถุงนํ้าครํ่ารั่ว มีนํ้าครํ่าซึมออกมาทีละน้อย
3) MR (membrane rupture) หมายถึงถุงนํ้าครํ่าแตก แบ่งได้เป็น
- SRM (spontaneous rupture of membrane) หมายถึง ถุงน้ำคร่ำแตกเอง
- ARM (artificial rupture of membrane) หมายถึง เจาะถุงน้ำคร่ำ
ลักษณะนํ้าครํ่า
- Clear หมายถึง ลักษณะนํ้าครํ่าไม่มีสิ่งอื่นปน
- Mild meconium stained หมายถึง ลักษณะนํ้าครํ่ามีขี้เทาปนเล็กน้อย
- Moderate meconium stained หมายถึง ลักษณะนํ้าครํ่ามีขี้เทาปนปานกลาง
- Thick meconium stained หมายถึง ลักษณะนํ้าคร่ำมีขี้เทาปนมาก
ปัญหาที่ 3 ส่งเสริมความก้าวหน้า ของการคลอดในระยะ Transitional phase
O : อยู่ในระยะ Transitional phase Cervix Dilatation 7 cm. Effecment 80% , Membrane Intact , station -1 Uterine contraction
Interval = 2’15” Duration = 40”
ระยะเปลี่ยนผ่าน (transition phase) เป็นระยะที่ปากมดลูกเปิด 7-10 ซม.เป็นระยะสุดท้ายของระยะที่ 1 ของการคลอด การหดรัดตัวของมดลูกเพิ่มมากขึ้น และ นานขึ้นเป็น 60-90 วินาที มารดามักจะมีความวิตกกังวลกลัวกระสับกระส่าย
กิจกรรมการพยาบาล
- ประเมินความก้าวหน้าของการ คลอด โดยการฟัง
1) FHS ทุก 15 – 30 นาทีค่าปกติ 110-160 ครั้ง/นาทีชั่วโมง
2) ประเมินการเปิดขยายของปากมดลูก PV ทุก 2 ชั่วโมง ค่าปกติในระยะ - Transitional phase 7-10 cms - Uterine Contraction I=2’-3’ D=40”- 60”(ห้ามเกิน 60”)
- ดูแลให้ได้รับ 5% DNSS 1000 cc IV rate 100 ml/hr.
- สังเกตอาการนำเข้าสู่ระยะคลอด เช่น มีมูกเลือด น้ำคร่ำแตก การเปิดขยายของปากมดลูก fully
- ดูแลให้ผู้คลอดขับถ่ายปัสสาวะ ทุก 2-3 ชั่วโมงเพื่อไม่ให้กระเพาะปัสสาวะ เต็มเนื่องจากเมื่อส่วนนำทารกเข้าสู่อุ้ง เชิงกรานาจะไปเบียดกระเพาะปัสสาวะทำให้ส่วนนำทารกเคลื่อนต่ำ ได้ช้าและอาจทำให้การคลอดติดขัดได้
- ดูแลจัดท่านอนในท่าที่สุขสบายและเหมาะสม
- ประเมิน Probable sign
- อยากเบ่งขณะ UC
- มี bloody show
- ถุงน้ำคร่ำแตก
- ทวารหนักตุง+ขยายตอนเบ่ง
- ฝีเย็บตึง มัน ใส
- ประเมิน Positive sign
- PV ปากมดลูกเปิด 10 cm
- คลำไม่พบปากมดลูก
- มี Head seen เห็นไรผมทารก หัว ผลุบๆโผล่ๆ ต้องเชียร์เบ่งผู้คลอดและ ตัดฝีเย็บ
- เตรียมผู้คลอดย้ายเข้าห้องคลอด
-
-