Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ โภชนาการของบุคคลในภาวะปกติ 6 - Coggle Diagram
บทที่ โภชนาการของบุคคลในภาวะปกติ
6
โภชนาการสาหรับหญิงตั้งครรภ์ (Nutrition for pregnant women)
การเปลี่ยนแปลงด้านสรรีะของหญิงตั้งครรภ์
มดลูกเพมิ่ ความจุ (จาก 10 มล. >> 5 ลิตร / น้าหนกั จาก 70 กรัม >> 1,100 กรัม)
2.การเปลี่ยนแปลงของฮอรโ์มน
(estrogen และ progesterone เพิ่ม)
3.การเปลยี่นแปลงของการไหลเวยีนของเลือด
เมื่อครรภ์ใกล้ครบกาหนด ปริมาตรของเลือดจะเพมิ่ ประมาณรอ้ยละ45
4.การเปลยี่นแปลงระบบทางเดนิอาหาร
▪ ฮอร์โมนเปลยี่ นแปลง >> กระเพาะอาหารและลาไส้เคลอื่ นไหวนอ้ ยลง >> น้ายอ่ ยหลงั่ น้อยลง>>แน่นทอ้งท้องอดืคลื่นไส้อาเจยีนมีการยอ้นกลบัของนา้ยอ่ยเข้าสหู่ลอด อาหารทาใหม้อีาการแสบยอดอก(Heartburn)
5.อาการคลื่นไสอ้าเจยีน
▪เป็นผลมาจากการเปลยี่นแปลงของฮอรโมนในร่างกาย ▪เรียกว่าอาการแพ้ท้อง”(morningsickness)
น้าหนักตัวเพิ่มมากขึ้น
เกณฑ์การเพมิ่ขนึ้ของนา้หนกัตัวที่เหมาะสมในหญิงตั้งครรภ
1.หญิงตงั้ครรภ์ทเป็นโรคอ้วน:ควรมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นตลอดการตั้งครรภ์7-8kg
2.หญิงตงั้ครรภ์ที่มีน้ำหนักเกิน:ควรมีน้ำตัวเพิ่มขึ้นตลอดการตงั้ครรภ์10kg
3.หญิงตงั้ครรภ์ที่มีน้ำหนักตัวปกติและวางแผนที่จะให้นมบุตรหลงัคลอด:
ควรมนีา้หนกัตวัเพมิ่ขึ้นตลอดการตงั้ครรภ์12kg
4.หญิงตงั้ครรภ์เป็นวัยรุ่น (อายุ<18ปี)หรือหญงิตงั้ครรภ์ทมีที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่ารอ้ยละ90
ของน้าหนกั มาตรฐาน : ควรมีนา้ หนกั เพมิ่ ขึ้นตลอดการตงั้ ครรภ์ 14-15 kg
5.หญิงตงั้ครรภ์ที่มีลูกแฝด:ควรมนีา้หนกัตวัเพมิ่ขึ้นตลอดการตงั้ครรภ์18kg
ความต้องการ สารอาหารขณะตั้งครรภ์
1.สารอาหารที่ให้พลังงาน
▪ตลอดการตงั้ครรภ์หญิงมคีรรภ์ตอ้งการพลังงานเพมิ่80,000kcalหรือประมาณ300 กิโลแคลอรี่ต่อวัน (วันละ 2,050 kcal)
โปรตีน(Protein) ▪การได้รับโปรตีนที่เพียงพอมีผลต่อการเจรญิเตบิโตของสมองทารก(**ช่วง3เดือน
ก่อนคลอดถงึ6เดือนหลังคลอด>>มีผลต่อสตปิญัญาและการเรยีนรขู้องเดก็)
3.แคลเซยีม(Calcium) ▪ต้องการแคลเซยีมเพมิ่ขึ้นเพื่อใช้ในการสรา้งกระดกูและฟนัของทารกและสะสมไวใ้ช้
ในระยะใหน้มบุตร
4.ธาตเุหลก็ (Iron) ▪ต้องการเหล็กเพมิ่มากขนึ้เพื่อใช้ในการสรา้งเมด็เลอืดแดงและสะสมไวใ้ชส้าหรบัแม่ใน
ระยะคลอดถ้าแม่ไดร้บัอาหารทมี่ธีาตเหล็กก็ไม่เพียงพอ
5.ไอโอดีน (Iodine) ▪ระหว่างตั้งครรภ์ตอ่มไทรอยดจ์ะทางานมากข้ึน>>ความตอ้งการไอโอดนีเพมิ่ขึ้น ▪ถ้าไดร้บัไอโอดนีไม่เพยีงพอ>>แม่เปน็โรคคอพอก
โฟเลท (Folate) ▪การขาดโฟเลท>>การเจรญิเตบิโตของเซลล์และการแบง่เซลลบ์กพรอ่ง>>เป็นสาเหตุที่ทำให้ทารกมีความผิดปกติแต่กำเนิด
7.วิตามนิ B6 ▪ควรได้รับวิตามนิB6เพิ่มจากเดมิวนัละ0.6mgเป็นวนัละ2.6mg ▪ช่วยในการเผาผลาญและสงัเคราะหก์รดอะมโินช่วยสงัเคราะห์hem
วิตามิน C
▪ควรไดร้บัวติามนิCเพิ่มเปน็วนัละ80mg
9.วิตามนิ A
▪ควรไดร้บัวติามนิเอวนัละ800μgRE
วิตามิน D ▪ในระยะตงั้ครรภร์า่งกายตอ้งการวติามนิDวันละ10mg
แนวทางการบริโภคอาหารของหญิงตั้งครรภ์
2.นม>>ควรดื่มนมไขมันต่ำวันล่ะ 1-2แก้วหรือดมื่นมถวั่เหลืองแทน
เนื้อสัตว์
▪ควรได้รับเนื้อสัตว์ต่างๆ เช่นเนื้อหมูปลากุ้งหอยไก่หรือเปด็ วันละ120-180กรัม
ไข่ >> ควรกินไข่วันละ 1 ฟองเป็นประจำ
4.ผลไม้>>ควรกินผลไม้ทกุวนัๆละ2-4ครั้งเพื่อได้รับวิตามินและเกลอืแร่ ได้แก่มะละกอสกุสับประรดกล้วยเป็นตน้
ผัก
▪ควรกินผกัใบเขียวทกุวนัในปรมิาณไม่จากดัหรืออย่างน้อยวันละ2-3ถ้วยตวง ผักบุ้ง ผักตาลงึ ผักคะนา้ ฟักทอง
6.ถั่วเมล็ดต่างๆ
▪ควรกินถวั่ทสี่กุวนัละ1/2ถ้วยตวงเช่นถั่วเหลืองถั่วเขียวถั่วแดงถั่วดาถั่วลิสง
7.ไขมันหรือน้ำมัน>>ควรบริโภคในระดับปานกลาง
เกณฑ์การเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัวที่เหมาะสมในหญิงตั้งครรภ์
1.หญิงตงั้ครรภ์ทเป็นโรคอ้วน:ควรมนีา้หนกัตวัเพมิ่ขึ้นตลอดการตงั้ครรภ์7-8kg
2.หญิงตงั้ครรภ์ที่มีน้ำหนักเกิน:ควรมีน้ำหนกัตวัเพิ่มขึ้นตลอดการตงั้ครรภ์10kg
3.หญิงตงั้ครรภ์ทมี่นีา้หนกัตวัปกติและวางแผนทจี่ะใหน้มบุตรหลงัคลอด:
ควรมนีา้หนกัตวัเพมิ่ขึ้นตลอดการตงั้ครรภ์12kg
4.หญิงตงั้ครรภ์ทเป็นวัยรุ่น (อายุ<18ปี)หรือหญงิตงั้ครรภ์ทมี่ีนา้หนกัตวันอ้ยกวา่รอ้ยละ90
ของน้าหนกั มาตรฐาน : ควรมีนา้ หนกั เพมิ่ ขึ้นตลอดการตงั้ ครรภ์ 14-15 kg
5.หญิงตงั้ครรภ์ที่มีลูกแฝด:ควรมนีา้หนกัตวัเพมิ่ขึ้นตลอดการตงั้ครรภ์18kg
ความต้องการสารอาหารขณะตั้งครรภ
1.สารอาหารที่ให้พ้ลงังาน
▪ตลอดการตงั้ครรภ์หญิงมคีรรภ์ตอ้งการพลังงานเพมิ่80,000kcalหรือประมาณ300 กิโลแคลอรตี่ อ่ วนั (วันละ 2,050 kcal)
โปรตีน (Protein) ▪การไดร้บัโปรตนีเพยีงพอมีผลตอ่การเจรญิเตบิโตของสมองทารก(**ช่วง3เดือน
ก่อนคลอดถงึ6เดือนหลังคลอด>>มีผลต่อสตปิญัญาและการเรยีนรขู้องเดก็)
3.แคลเซยีม(Calcium) ▪ต้องการแคลเซยีมเพมิ่ขึ้นเพื่อใชใ้นการสรา้งกระดกูและฟนัของทารกและสะสมไวใ้ช้
ในระยะใหน้มบุตร
4.ธาตเหล็ก (Iron) ▪ต้องการเหล็กเพมิ่มากขนึ้เพื่อใชใ้นการสรา้งเมด็เลอืดแดงและสะสมไวใ้ชส้าหรบัแม่ใน
ระยะคลอดถ้าแม่ไดร้บัอาหารทมี่ธีาตเุหลก็ไม่เพยีงพอ
5.ไอโอดีน (Iodine) ▪ระหวา่งตง้ัครรภ์ตอ่มไทรอยดจ์ะทางานมากข้ึน>>ความตอ้งการไอโอดนีเพมิ่ขึ้น ▪ถ้าไดร้บัไอโอดนีไม่เพยีงพอ>>แม่เปน็โรคคอพอก>
โฟเลท (Folate) ▪การขาดโฟเลท>>การเจรญิเตบิโตของเซลล์และการแบง่เซลลบ์กพรอ่ง
7.วิตามนิ B6 ▪ควรไดร้บัวติามนิB6เพิ่มจากเดมิวนัละ0.6mgเป็นวนัละ2.6mg
วิตามิน C
▪ควรไดร้บัวติามนิCเพิ่มเปน็วนัละ80mg
9.วิตามนิ A
▪ควรไดร้บัวติามนิเอวนัละ800μgRE
วิตามิน D ▪ในระยะตงั้ครรภร์า่งกายตอ้งการวติามนิDวันละ10mg
แนวทางการบริโภคอาหารของหญิงตั้งครรภ
เนื้อสัตว์
▪ควรไดร้บัเนอื้สัตวต์า่งๆเช่นเนื้อหมูปลากุ้งหอยไก่หรือเปด็ วันละ120-180กรัม หรือประมาณ 1/2-3/4 ถ้วยตวง
2.นม>>ควรดม่ืนมไขมนัตา่วนัละ1-2แก้ว
ไข่ >> ควรกินไข่วนั ละ 1 ฟองเปน็ ประจา
4.ผลไม้>>ควรกินผลไม้ทกุวนัๆละ2-4ครั้งเพ่ือใหไ้ดร้บัวติามนิและเกลอืแร่ ▪ผลไม้ทคี่วรกินเปน็ประจาได้แก่มะละกอสกุสับประรดกล้วย
ผัก
▪ควรกินผกัใบเขียวทกุวนัในปรมิาณไม่จากดัหรืออยา่งนอ้ยวนัละ2-3ถ้วยตวงเช่น ผักบุ้ง ผักตาลงึ ผักคะนา้ ฟักทอง
6.ถั่วเมลด็ตา่งๆ
▪ควรกินถวั่ทสี่กุวนัละ1/2ถ้วยตวงเช่นถั่วเหลืองถั่วเขียวถั่วแดงถั่วดาถั่วลิสง 6.ถั่วเมลด็ตา่งๆ
7.ไขมันหรือนา้มัน>>ควรบริโภคในระดบัปานกลาง
น้า >> ควรดมื่ นา้ วนั ละ 1,500-2,000 มล. หรือ 6-8 แก้ว
โภชนาการสาหรับหญิงหลังคลอดและให้นมบุตร
Nutrition for lactating women
ความต้องการของสารอาหารในระยะให้นมบุตร
พลังงาน
▪ร่างกายตอ้งการพลงังานเพมิ่ขึ้นเพอื่ใช้ในการผลตินา้นมสาหรบัทารก>> ต้องใชพ้ ลงั งานประมาณ 85 kcal ต่อน้านม 100 มล.
โปรตีน(Protein) ▪ควรไดรับโปรตีนเพิ่มขึ้น25g/day>>ใช้ผลตินา้นมและซอ่มแซมเซลล์ต่างๆของแม่
ที่สูญเสียไประหวา่งคลอด
3.แคลเซยีม(Ca)
▪แม่จะตอ้งการแคลเซยีมมากเพอื่ใชใ้นการสรา้งน้ำนมสำหหรับทารก
4.ธาตเหล็ก(Iron) ▪ระยะใหน้มบตุรแม่จะตอ้งการธาตเหล็กจากอาหารวนัละ15mg
ไอโอดีน(Iodine) ▪แม่ควรได้รับไอโอดีนเพียงพอ>>ป้องกันการขาดและให้ทารกได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอ
วิตามิน (Vitamins) ▪วิตามนิAเป็นส่วนประกอบทสี่าคญัของนา้นมแม่ควรไดร้บัเพมิ่อีกวนัละ375μg
โฟเลท (Folate)
▪ระยะใหน้มบตุรต้องการวนัละ500μg
น้ำ (Water) ▪แม่ควรดมื่นา้ใหม้ากขนึ้วันละ8-10แก้ว
แนวทางการบริโภคอาหารของหญิงให้นมบุตร
ประเภทของอาหาร
▪เนื้อสตัว์>>ควรเปน็เนอื้สตัวไ์มต่ดิมนัหรอืมมีันนอ้ยเช่นเนื้อปลาไก่หม ควรไดร้บัประมาณ180-240กรัมต่อวนัหรือวนัละ1/2-1ถ้วยตวง
▪ควรกินวนัละ1ฟอง
2.ข้อแนะนาเกี่ยวกับอาหารในหญิงให้ฃมบตุร
▪กินอาหารครบ5หมู่และปรมิาณเพยีงพอตอ่ความตอ้งการของร่างกาย หลีกเลยี่งเครื่องดมื่ที่มีแอลกอฮอล์รวมถึงเหล้าดองยาชากาแฟ ▪หลีกเลยี่งการกินขนมหวานต่างอาหารทอดอาหารมัน
โภชนาการสาหรับวัยทารก Nutrition in infancy วัยทารก หมายถึง เด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 1
ปี
ความต้องการสารอาหารในทารก
แรกเกิด-6เดือนแรกทารกไดพ้ลังงานและสารอาหารจากนมแม่อย่างเดียว
หลังจาก6เดือนถงึขวบปแีรกทารกจะไดร้บัพลังงานและสารอาหารจากอาหารอนื่รว่มกับ
นมแม่
ความพร้อมในการให้อาหารสำหรับทารก
1.ความพรอ้มของระบบทางเดินอาหาร
ความพร้อมของไต อัตราการกรองของไตของทารก = ร้อยละ 15 ของผู้ใหญ่
3.ความพรอ้มของระบบประสาทและกลา้มเนอื้ ทารก4-6เดือนมีความพร้อมในการกนิ อาหารกึ่งแข็งกึ่งเหลวทารกสามารถควบคมุการทรงตวัของศรีษะและลาตวัไดด้
ข้อแนะนำการให้อาหารสำหรับทารก
ให้นมแม่อย่างเดียวตั้งแต่อรกเกิดจนถึง6เดือนไม่ต้องให้อาหารอื่นแม้แต่น้ำ
เริ่มให้อาหารเสริมเมื่ออายุครบ6เดือนเต็มควบคู่ไปกับนมแม่
เน้ือสัมผัสอาหาร>>จัดให้เหมาะสมกับพัฒนาการของทารก(เร่ิมจากอาหารเหลวกึ่ง เหลวกึ่งแข็งอ่อนนมิ่และหนั่เป็นชิ้นเล็กๆ)
ให้ดื่มน้ำสะอาดงดเครื่องดื่มรสหวานและน้ำอัดลม
อาหารสำหรับทารก
อายุ 6 เดือน
▪นมแม่และอาหาร1มื้อผลไมเ้ปน็อาหารว่าง
อายุ 7 เดือน
▪นมแม่และอาหาร1มื้อมีผลไม้เปน็อาหารว่าง
อายุ 8-9 เดือน
▪นมแม่และอาหาร2มื้อมีผลไม้เปน็อาหารว่าง
อายุ 10-12 เดือน
▪นมแม่และอาหาร3มื้อมีผลไม้เปน็อาหารว่าง
นมสาหรับทารก
1.นมผงดัดแปลงสาหรบัทารก(สูตร1)เป็นนมผงที่เหมาะสำหรับทารกวยั0-12เดือน
2.นมผงดัดแปลงสตูรตอ่เนอื่งสาหรบัทารกและเดก็เลก็(สูตร2)
**สาหรบัเดก็อายุ6เดือนถงึ3ปี
3.นมผงดัดแปลงสูตร3และสูตร4(นมผงครบสว่น)/wholecow’smilk **นมผงสูตร3
โภชนาการสาหรับเด็กก่อนวัยเรียน Nutrition in pre
-school children
เด็กวัยก่อนเรียน หมายถึง เด็กอายุ 1-6 ปี
โภชนาการของเด็กวัยก่อนเรียน
เป็นวยัทมี่ีการเจรญิเตบิโตของรา่งกายและสมองชา้กวา่ในวยัทารก **ในระยะแรกๆของวยันกี้ารเจรญิเตบิโตคอ่นข้างเร็วและจะชา้ลงเมอื่อายมุากขึ้น
เด็กวัยนี้เสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหารเนื่องจากเดก็ยงัไม่โตพอทจี่ะเขา้โรงเรยีนและพอ่แม่ ต้องไปทางาน
หากขาดสารอาหารจะทาใหค้วามเจรญิเตบิโตหยดุชะงกัร่างกายอ่อนแอ ขาดภูมติา้นทานโรคป่วยบอ่ย
การสร้างนิสัยการรับประทานอาหารที่ดีแก่เด็กก่อนวัยเรียน
ต้องจัดอาหารใหเ้พียงพอและใหเ้พิ่มเมื่อเด็กต้องการ
ควรฝึกให้รับประทานอาหารหลกัวนัละ3มื้อให้มีอาหารว่างระหว่างมื้อเช้าและบ่าย
ลักษณะและรสชาตต้องจืดอร่อยไม่เค็มจัดหรือหวานจัดเกินไป
พ่อแมค่วรเปน็แบบอย่างที่ดีโดยกินอาหารที่มีคุณค่า
ตัวอย่างรายการอาหารสาหรับเด็กวัยก่อนเรียนใน1วัน
อาหารเช้า ▪ ข้าวสุก 1 ถ้วยตวง ▪แกงจดืตาลงึหมูสบั1ถ้วยตวง ▪ ไข่เจียว 1 ฟอง
▪ มะละกอสกุ 1 ชิ้น
อาหารกลางวัน
▪ข้าวผดัปใูส่ไข่1จาน ▪แกงจดืมักกะโรนีกุ้ง1ถ้วย ▪เต้าสว่น
อาหารเย็น ▪ ข้าวสวย 1 ถ้วยตวง ▪แกงจดืผกักาดขาวหมสูับ1ถ้วย ▪ผัดเปรยี้วหวานปลา1จาน
อาหารค่า
▪ นมสด 1 แก้ว
โภชนาการสาหรับเด็กวัยเรียน Nutrition in school -
age children เด็กวัยเรียน หมายถึง เด็กอาย7-12ปี
ความต้องการสารอาหารของเด็กวัยเรียน
พลังงานขึ้นกับอตัราการเจรญิเตบิโตและกิจกรรมทที่าอาจคำนวณได้จากน้ำหนัก ด็กคนหนงึ่นา้หนกั40กิโลกรัมจะความตอ้งการพลงังานเท่าใด 10 x 100) + (20 x 50) + (10 x 20) = 2,200 Kcal/วนั
โภชนาการของเด็กวัยเรียน
เป็นวยัทมี่ีการเจรญิเตบิโตอยา่งตอ่เนอื่งจากเดก็กอ่นวยัเรยีนฝ
อัตราการเจรญิเตบิโตในชว่งวยัเรยีนตอนตน้จะเปน็ไปอย่างช้าๆในชว่งวยัเรยีนตอนปลาย
อัตราการเจรญิเตบิโตของรา่งกายจะสงูมากอีกครงั้
เพศหญงิ เริ่มเข้าสวู่ ยั แรกรนุ่ เมื่ออายุ 10 ปี เร็วกว่าเพศชายประมาณ 2 ปี
การเจรญิเตบิโตของเนอื้เยอ่ืสมองและระบบประสาทจะไม่มีการเจรญิเตบิโตเพมิ่ขนาด
แต่จะมพีฒันาการดา้นการเสริมสรา้งเชาวนป์ญัญา
ข้อปฏิบัติในการจัดอาหารเด็กวัยเรียน
จัดอาหารให้ครบ5หมู่ในแตล่ะวันโดยมปริมาณพอเหมาะกับความต้อการ
ฝึกวินัยในการรบัประทานอาหารใหเ้ปน็เวลาไม่รับประทานอาหารจบุจิบหรืออาจจะยอม
ให้เดก็กนิอาหารผดิเวลาบา้งในวนัหยดุเพอื่ผอ่นคลายความกดดนัทโรงเรียน
ฝึกให้เด็กรู้จักความพอดีในการรบัประทานอาหารแตล่ะประเภทไม่ควรตามใจหคือให้อาหารเป็นสิ่งต่อรองให้เป็นรางวลัหรือทาโทษ
โภชนาการสาหรับวัยรุ่น Nutrition in adolescents) วัยรุ่น หมายถึง ผู้ที่มีอายุ 13-18 ปี
ความต้องการสารอาหารของวัยรุ่น
พลังงาน
▪วัยรนุ่ชายควรไดร้บัพลังงาน2,300-2,400kcal/วนั ▪วัยรนุ่หญงิควรไดร้บัพลังงาน1,850-2,000kcal/วนั
โปรตีน ▪ควรไดร้บัโปรตีนอย่างน้อยวัยละ1-2กรัมต่อนา้หนกัตวั1kg
3 . น้ำ
▪ควรดื่มน้ำวันละ6-8แก้ว
วิตามิน
▪วิตามนิA>>ใช้ในการเจรญิเติบโตและคงสภาพเยื่อบุต่างๆ
เกลือแร่
▪ แคลเซียมและฟอสฟอรัส
ความสาคัญของอาหารในเด็กวัยรุ่น
กินอาหารใหค้รบ5หมู่
กินอาหารใหค้รบ3ม้ือ
เด็กวัยรุ่นที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ควรกินอาหารทกุมื้อและถกูตอ้งตามหลกัโภชนาการ
ตัวอย่างรายการอาหารสำหรับวัยรุ่นชาย 13-15 ปี (2,300 kcal)
อาหารเช้า
▪ ขนมปัง ไข่ดาว-แฮม
อาหารว่างเช้า
ฝรั่ง 1/2 ผล
ตัวอย่างรายการอาหารสำหรับวัยรุ่น ชาย 13-15 ปี (2,300 kcal)
อาหารกลางวัน ▪บะหมี่หมูแดง อาหารว่างบ่าย ▪ นม 1 แก้ว
ตัวอย่างรายการอาหารสำหรับวัยรุ่นชาย 13-15 ปี (2,300 kcal
อาหารเย็น ข้าวสวย 4 ทัพพี กุ้ง 4-5 ตัว
ผักต่างๆ
ตัวอย่างรายการอาหารสำหรับ วัยรุ่นหญิง 16-18 ปี (1,850 kcal)
อาหารเช้า
▪ ก๋วยจั้บ อาหารว่างเช้า
▪นมพรอ่งมันเนย1กล่อง(240ml)
ตัวอย่างรายการอาหารสำหรับวัยรุ่นหญิง 16-18 ปี (1,850 kcal
อาหารกลางวัน ▪ ข้าวสวย 3 ทัพพี ▪ ผัดคะน้าหมู
ตัวอย่างรายการอาหารสำหรับวัยรุ่นหญิง 16-18 ปี (1,850 kca
อาหารเย็น
▪ ข้าวสวย 3 ทัพพี ▪ ต้มข่าไก่
โภชนาการสาหรับวัยผู้ใหญ Nutrition in Adult วัยผู้ใหญ่ หมายถึง ผู้ที่มีอายุ20-59ปี
ความต้องการสารอาหารในวัยผู้ใหญ่
พลังงาน
▪ผู้ชายตอ้งการพลังงานมากกวา่ผหู้ญงิเพราะในผหู้ญิงมนีา้หนกัตวันอ้ยกวา่และทากจิกรรม น้อยกวา่ผชู้ายถ้าไดร้บัพลังงานจากอาหารมากแตใ่ช้แรงงานในการทากิจกรรมนอ้ย>> น้าหนกัก็จะเพมิ่มากขนึ้
โปรตีน
▪วัยนตี้อ้งการโปรตนีเพอื่เสรมิสรา้งเซลลต์า่งๆให้ทางานปกติ
วิตามนิและเกลือแร่
▪วัยนมี้ีความตอ้งการพอๆกับวัยรนุ่ยกเวน้แคลเซยีมและฟอสฟอรัสตอ้งการนอ้ยลงเหลือ 800mg/day
น้ำ
▪ ต้องการประมาณ 1,500-2,000 ml/day
วัยทอง (Golden period
วัยทองหมายถงึวัยหมดประจาเดอืน(Menopausalperiod) ในผหู้ญงิอายปุระมาณ50ปี
มีอาการรอ้นวบูวาบ
มีการเปลยี่นแปลงของระบบทางเดนิปสัสาวะและระบบสืบพนั
อาจมีอาการกระดกูพรนุกระดกูเปราะหักง่าย
อาหารของสตรีวัยทอง
ควรรบัประทานอาหารประเภทถ่ัวตา่งๆเมล็ดธญัพชืข้าวซอ้มมือปลาผักและผลไมส้ด
อาหารประเภทถวั่เหลอืงมีphytoestrogenช่วยบรรเทาอาการชอ่งคลอดแหง้และ
โรคกระดกูพรนุได้
ถั่ว>>เป็นแหลง่โปรตนีแคลเซยีมแมกนีเซยีมโพแทสเซยีมวิตามินBcomplexสังกะสี และเหลก็บรรเทาอาการประจาเดอืนมาผดิปกติได้
ควรหลีกเหลี่ยง
▪ อาหารทมี่ คี าเฟอนี เช่น ชา กาแฟ น้าอดั ลม และชอ็ กโกแลต >> อาการกระวนกระวาย และมีการแปรปรวนของอารมณ์
โภชนาการสาหรับวัยผู้สูงอายุ Nutrition in the elderly
การเปลี่ยนแปลงของผู้สูงอายุที่มีผลต่อภาวะโภชนาการ
1.การทางานของประสาทสัมผสัทงั้5ลดลงได้แก่การมองเหน็การรบัรสการดมกลิ่น การไดย้ นิ และการสัมผสั
ภาวะสุขภาพปากและฟัน >> ฟันผุหรอื ไม่มีฟนั / ต่อมน้าลายทางานลดลง >>
3.การเคลอื่นไหวของกระเพาะอาหารและลาไส้ลดลง>>ท้องผกู
4.ประสทิธภิาพการเผาผลาญกลูโคสลดลงเนื่องจากตบัอ่อนหลั่งอนิซลูนิได้นอ้ยลงและเนอื้เยอื่ ต่อต้านการทางานของอนิซลูนิ>>ระดบันา้ตาลในเลือดสงูขึ้น
5.การทางานของระบบไหลเวยีนและไตลดลง>>ความสามารถในการขับของเสยีลดลง
6.กล้ามเนอื้อวัยวะตา่งๆและเนอื้เยอื่กระดกูลดลง>>โปรตนีในรา่งกายลดลง
7.เนื้อกระดกูลดลงเมื่ออายุ40ปีขึ้นไปเนื่องจากได้รับแคลเซยีมไม่เพยีงพอการเปลยี่นแปลง ของฮอรโ์มนทมี่ีผลตอ่การทางานของแคลเซยีมและวติามินD
8.ปัจจัยดา้นเศรษฐกิจและจติสงัคม(ผู้สูงอายทุอี่ยคู่นเดยีวจะรบัประทานอาหารได้นอ้ยลง)
ความต้องการสารอาหารในผู้สูงอาย
พลังงาน
▪ผู้สูงอายมุคีวามตอ้งการพลงังานนอ้ยกวา่วยัหนมุ่สาว
โปรตีน
▪มีความสาคญัในการสรา้งและคงสภาพของเนอ้ืเยอ่ืในรา่งกาย
ไขมัน
▪ควรลดปรมิาณไขมนัที่บรโิภคโดยเฉพาะกรดไขมนัอิ่มตวัและโคเลสเตอรอลเพื่อลด
4.คาร์โบไอเดรต
▪ผู้สูงอายมุโีอกาสเกดิภ ภาวะนา้ตาลในเลอืดสูงและโรคเบาหวาน
วิตามนิ Aผู้สูงอายชุายตอ้งการ700และหญงิตอ้งการ600μgRE
วิตามินDมีความสาคญัในการสรา้งกระดกู(ช่วยดดูซมึแคลเซยีมและฟอสฟอรสัที่ลาไส้)
ผู้สูงอายชุายและหญงิควรไดร้บั วันละ5μg
วิตามนิEantioxidation/ชะลอกระบวนการแก่และปอ้งกนัการเกดิมะเรง็
ผู้สูงอายชุายและหญงิควรไดร้บั วันละ10และ8mg
8.วิตามนิKพบในผกัใบเขยีวผลไม้ธัญพชืเนื้อนมและสงัเคราะหจ์ากแบคทเีรยีในลาไส้
ผู้สูงอายชุายและหญงิควรไดร้บั วันละ80และ65μg
9.วิตามนิCจาเปน็ตอ่การสรา้งกระดกูเลือดและคอลลาเจน>>
ผู้สูงอายชุายและหญงิควรไดร้บัวันละ60mg
10.วิตามนิ B6เป็นโคเอนไซมข์องกรดอะมิโนถ้าขาดจะทาใหเ้กดิอาการชาและซดี ผู้สูงอายชุายและหญงิควรไดร้บัวันละ2.2และ2.0m
11.วิตามินB12จาเปน็ในการสงัเคราะห์DNAถ้าขาดจะทาใหก้ารสรา้งเม็ดเลอืดแดงผดิปกติ และมคีวามสาคญัในการคงสภาพของmyelinของเนอื้เยอื่ประสาทผสูู้งอายุ
ผู้สูงอายชุายและหญงิควรไดร้บัวันละ2.0μg
12.โฟเลต จาเปน็ในการสงัเคราะห์DNAถ้าขาดจะทาใหเ้กดิภาวะซีด
13.แคลเซยีม ผู้สูงอายจุะสญูเสยีเนอื้กระดกู(Osteoporosis)โดยเฉพาะผหู้ญงิ
ความตอ้งการสาหรบัหญงิวยัหมดประจาเดอืนวนัละ1,000-1,500
14.เหล็ก การขาดธาตเุหล็กในผสู้งูอายมุสีาเหตมุาจากการไดร้บัเหล็กไม่เพยีงพอ ผู้สูงอายชุายและหญงิต้องการวันละ10mg
15.สังกะสี ช่วยส่งเสรมิการไดร้บักลิ่นการรบัรสความอยากอาหารดขีึ้น และส่งเสรมิ การหายของแผล
ผู้สูงอายชุายและหญงิต้องการวันละ15mg
โภชนาการสาหรับหญิงหลังคลอดและให้นมบุตร (
Nutrition for lactating women)
ความต้องการของสารอาหารในระยะให้นมบุตร