Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ชุมชนโชคดี, อ้างอิง - Coggle Diagram

- - - - ป้องกันการเกิดอันตรายจากภาวะหัวใจขาดเลือด
    - - ไม่เกิดอันตรายและภาวะแทรกซ้อนจากหัวใจขาดเลือด
      - ตอบคำถามเกี่ยวกับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง 3 ข้อได้ถูกต้อง
      - ตอบคำถามเรื่องวิธีการใช้ยาได้ถูกต้อง 2 ข้อ
      - บอกพฤติกรรรมที่ก่อให้เกิดอันตรายจากการใช้ยาได้
    - - 1.ให้คำแนะนำในการบริโภคอาหารและการปฏิบัติตน
        
        1.1) หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ อาหารชุปแป้งทอด อาหารที่ใช้กะทิเป็นส่วนประกอบ
        
        1.2) หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูง เช่น เครื่องในสัตว์ ไข่แดงเนื้อสัตว์ติดมัน หนังเป็ด - ไก่
        
        1.3) รับประทานเนื้อสัตวีไม่ติดมัน ย่อยง่าย เช่น ปลาหรือเนื้อไก่ โดยเฉพาปลาทะเล แนนำให้รับประทานอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพราะปลาจะให้น้ำมันซึ่งมีโมก้า 3 ที่มีประโยชน์ต่อหัวใจและหลอดเลือด
        
        1.4) รับประทานข้าวที่ไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ธัญพืช แทนข้าวขัดขาว เพื่อให้ได้วิตามิน บี1 ซึ่งมีผลดีกับหัวใจ
        
        1.5) รับประทานโปรตีนที่ได้จากพีช เช่น เต้าหู้ ถั่วเมล็ดแห้ง สลับบ้าง
        
        1.6) รับประทานอาหารประเภท ต้ม นึ่ง อบ ตุ๋น ปิ้ง ย่าง แทนการทอดหรือผัดที่ต้องใช้น้ำมันมาก ๆ
        
        1.7) รับประทานผักและผลไม้เป็นประจำ เพื่อให้ได้วิตามินและกากใยอาหารป้องกันท้องผูก
        
        1.8) งดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และผู้สูงอายุมีเรื่องความดันโลหิตร่วมด้วยควรระวังเรื่องอาหารที่มีรสเค็ม อาหารหมักดอง ไส้กรอก อาหารรมควัน ปลาร้า น้ำบูดู เต้าเจี้ยว
        
        1.9) ฝึกการผ่อนคลายความเครียด โดยการทำสมาธิ การฟังดนตรี การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
        
        1.10) ออกกำลังกายอย่างสม่าเสมอ ควรปรึกษาแพทย์ถึงการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย ควรเริ่มที่การออกกำลังกายเบา ๆ ก่อนประมาน 5 - 10 นาที และควรเพิ่มเวลาขึ้นโดยทำเป็นประจำ 3 - 5 ครั้ง/สัปดาห์ ประมาณครั้งละ 30 นาที
      - 2.ให้คำแนะนำถึงวิธีการใช้ยาที่ถูกต้อง
        
        2.1) กินยาตามที่แพทย์แนะนำ ไม่ซื้อยามากินเอง
        
        2.2) ไปพบแพทย์ตามนัด และนำมาติดทั่วไปด้วยทุกครั้ง
        
        2.3) แจ้งแพทย์ทันทีถ้ามีอาการผิดปกติจากการใช้ยา รวมทั้งปัญหาเกี่ยวกับการกลืนยา เพื่อให้แพทย์เลือกชนิดยาที่เหมาะสม เช่น ให้ยาน้ำแทนยาเม็ด
        
        2.4) ตรวจสอบยาทุกครั้งหลังพบแพทย์ ถ้ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับวิธีใช้ ควรสอบถามทันที
        
        2.5) หากผู้สูงอายุช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ผู้ดูแลควรเป็นผู้หยิบยามาไปกิน
        
        2.6) หากหลงลืม ให้ใช้สิ่งช่วยจดจำ
        
        เขียนวิธีกินยาให้มองเห็นได้ชัดเจน แล้วติดบนฉลากยา หรือใส่กล่องแยกชั้นยา เป็นมื้อในแต่ละวัน
        
        เก็บกล่องยาในที่ประจำที่มองเห็น และหยิบได้ง่าย
        
        ใช้นาฬิกาปลุกช่วยเตือนเวลาในการกินยา
      - บอกถึงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดอันตรายจากการใช้ยา
        
        3.1) ซื้อยามากินเองตามอาการเจ็บป่วย
        
        3.2) ไม่ไปพบแพทย์ตามนัด ซึ่งจะทำให้ขาดการติดตามการรักษาจากแพทย์และทำให้ขาดการกินยาต่อเนื่อง
        
        3.3) ไม่กินยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบถ้วนหรือหยุดยาเอง
        
        3.4) เก็บยาไว้นาน ป่วยเมื่อไหร่ก็เอามากิน อาจได้รับอันตรายจากยาหมดอายุ
  - - - มีการนอนหลับเพียงพอ
      - เพื่อให้มีความรู้เรื่องการนอนหลับที่ดีขึ้น
    - - ยกตัวอย่างวิธีการทำกิจกรรมผ่อนคลาย ได้ถูกต้องอย่างน้อย 2 ข้อ
      - นอนหลับได้ต่อเนื่องคืนละ 5-7 ชั่วโมง
      - ใช้เวลาเข้านอนเร็วขึ้น
    - - กำหนดเวลาในการเข้านอนและการตื่นนอนในแต่ละวันให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน
      - หากนอนไม่หลับหลังเข้านอนไปแล้วประมาน 20 นาที ไม่ควรนอนบนเตียงต่อ ควรลุกขึ้นมาทำกิจกรรมที่เบาและผ่อนคลาย เช่น การอ่านหนังสือ การพับผ้า เมื่อรู้สึกง่วงอีกครั้งจึงกลับไปนอนต่อ
      - ผู้สูงอายุไม่ควรนอนหรืองีบในเวลากลางวัน แต่หากฝืนไม่ได้แนะนำให้งีบกลางวันได้ 10 – 15 นาทีในช่วง 8 ชั่วโมงแรกหลังตื่นนอน
      - ใช้ผ้าปูที่นอนหรือม่านสีอ่อน เพื่อเพิ่มบรรยากาศให้หลับสบายและปรับสภาพแวดล้อมภายในห้องนอนให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่หนาวหรือร้อนเกินไป ไม่มีแสงหรือเสียงรบกวน
      - ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ โดยงดออกกำลังกายในช่วง 4 ชั่วโมงก่อนถึงเวลานอน
      - งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เป็นต้น
      - หลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนักในช่วง 4 ชั่วโมงก่อนถึงเวลานอน
      - ทำกิจกรรมผ่อนคลายเป็นเวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงก่อนเวลาเข้านอน เช่น อ่านหนังสือ อาบน้ำอุ่น จัดเตรียมเสื้อผ้า จัดของใช้ส่วนตัว สวดมนต์ นั่งสมาธิ เป็นต้น
      - ไม่ควรรับประทานยานอนหลับโดยไม่ได้พบจิตแพทย์ผู้ชำนาญการ เนื่องจากยาจะส่งผลเสียต่อสมอง ความจำแย่ลง การติดยา การดื้อยา การพลัดตกหกล้ม การเกิดอุบัติเหตุ และการบดบังอาการของโรคอันเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะนอนไม่หลับขึ้นได้
      - ให้ความรู้เกี่ยวกับแนวทางการปฎิบัติเพื่อสุขอนามัยเพื่อการนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับผู้สูงอายุ เช่น
        
        รับแสงแดดให้เพียงพอในตอนเช้าอย่างน้อย 30 นาทีทุกวัน
        
        ไม่แนะนำให้งีบในเวลากลางวัน
        
        หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน
  - - - เพื่อส่งเสริมการดูแลตนเองด้านการรัปประทานยา
    - - ผู้ดูแลบอกวิธีการฝึกสมองให้ผู้สูงอายุได้
      - ผู้ดูแลสามารถจัดยาใส่กล่องใส่ยาให้ผู้สูงอายุได้ถูกต้อง
      - บอกวิธีการจัดสิ่งแวดภายในบ้านและนอกบ้านได้
    - - 1.ประเมินภาวะสุขภาพด้านสมองโดยการประเมินความผิดปกติทางการรับรู้ (6CIT)และ MMSE เพื่อประเมินความรุนแรงของอาการสมองเสื่อม
      - ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุควบคุมภาวะการเกิดความดันโลหิต เบาหวาน
        ไขมัน ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยการลดอาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสหวานจัดและเค็มจัด และออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายอย่างน้อย 30 นาที เช่น ทำงานบ้านเดินช้าๆภายในบ้าน กายบริหารในบ้าน
      - สร้างนิสัยให้ผู้สูงอายุรับประทานยาเวลาเดียวกันทุกวันหรือตั้งนาฬิกาปลุกแจ้งเตือนเวลาการรับประทานยา
      - กิจกรรมสำหรับผู้ดูแล
        
        ดูแลจัดยาให้ผู้สูงอายุ ใส่กล่องใส่ยาในแต่ละอาทิตย์ เพื่อป้องกันการเกิดการลืมรับประทานยา
        
        ดูแลให้ผู้สูงอายุเขียนบันทึกเตือนความจำในตารางการรับประทานยาและตรวจสอบการรับประทานยาของผู้สูงอายุทุกเวลา
        
        ฝึกสมองให้ผู้สูงอายุ เพื่อบริหารสมองและเพิ่มความจำโดยมีเทคนิค ดังนี้
        
        3.1) ให้ผู้สูงอายุเรียงลำดับความสำคัญ โดยเขียนว่าจะทำอะไรก่อนหลัง
        
        3.2 ให้ผู้สูงอายุฝึกบวกเลขง่ายๆ โดยตั้งโจทย์ทางคณิตศาสตร์และเขียนคำตอบลงในช่องว่าง
        
        3.3) ให้ผู้สูงอายุฝึกอ่านหนังสือพิมพ์ ป้ายต่างๆ และหนังสือที่ผู้สูงอายุสนใจ
        
        3.4 ให้ผู้สูงอายุฝึกนับถอยหลังเลข 20 ถึง 1 ทุกวัน
        
        จัดสิ่งแวดล้อมภายในบ้านและนอกบ้าน เช่น จัดมุมพักผ่อน พาผู้สูงอายุเข้าวัดทำบุญและหางานอดิเรกให้ผู้สูงอายุทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นความทรงจำของผู้สูงอายุ
  - - - เพื่อให้ผู้สูงอายุขับถ่ายอย่างเป็นกิจวัตร
    - - 1.บอกวิธีการทำความสะอาดหลังการขับถ่ายได้อย่างถูกต้อง
      - ผู้ดูแลสามารถจัดตารางการขับถ่ายของผู้สูงอายุได้
    - - จัดทางเดินสำหรับไปห้องน้ำให้โล่ง กว้าง และสะดวกต่อการเข้าไปใช้ห้องน้ำทั้งการเดินหรือใช้รถเข็น
      - ช่วยญาติจัดตารางการขับถ่ายของผู้สูงอายุ โดยกำหนดให้ผู้ดูแลพาผู้สูงอายุเข้าห้องน้ำหรือจัดหม้อนอนให้ผู้สูงอายุ ขับถ่าย 30 นาทีก่อนเวลาที่ผู้สูงอายุขับถ่ายปกติตามที่ได้ประเมินไว้
      - ประเมินแบบแผนการขับถ่ายของผู้สูงอายุและประเมินภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
      - แนะนำการจัดหาเสื้อผ้าที่สวมใส่และถอดได้ง่าย เช่น การใช้เสื้อผ้าที่ใช้แถบตื่นตุ๊กแกแทนแบบใส่กระคุมและติดซิป
      - แนะนำวิธีการทำความสะอาดหลังการขับถ่ายอย่างถูกต้องแก่ผู้ดูแลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และป้องกันระคายเคืองต่อผิวหนัง
  - - - เป้าประสงค์ทางการพยาบาล
        
        ไม่เกิดภาวะกระดูกหัก
      - เกณฑ์การประเมินผล
        
        มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะกระดูกพรุน โดยต้องตอบคำถามถูกต้องอย่างน้อย 3 ข้อ จากทั้งหมด 5 ข้อ
        
        ตรวจร่างกายโดยวิธี Timed Up and Go Test (TUG)
        ใช้เวลาในการปฏิบัติไม่เกิน 10 วินาที
        
        แบบประเมินภาวะเสี่ยงต่อการหกล้มของผู้สูงอายุ
        ได้คะแนน 0-3 คะแนน
      - กิจกรรมการพยาบาล
        
        พร่องความรู้เกี่ยวกับโรคกระดูกพรุน
        
        ให้ความรู้ผู้สูงอายุเกี่ยวกับความหมาย สาเหตุ และปัญหาที่เกิดจากโรคกระดูกพรุน
        
        ความหมายของโรคกระดูกพรุน
        เป็นภาวะที่เนื้อกระดูกมีความหนาแน่นลดลงและโครงสร้างในเนื้อกระดูกไม่แข็งแรง ทำให้กระดูกเปราะบางและแตกหักง่ายจากการสูญเสียแคลเซียมในกระดูก โรคนี้จะไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดนอกจากกระดูกแตกหรือหัก
        เกิดขึ้นบ่อยในหญิงสูงอายุ
        
        สาเหตุของโรคกระดูกพรุน
        มีอายุมากกว่า 50 ปี ผู้หญิงหมดประจำเดือน รูปร่างเล็ก ผอม การออกกำลังกายไม่เหมาะสม
        กินอาหารที่มีกากใยสูง จะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม
        ในลำไส้เล็ก การกินโปรตีนจากสัตว์น้อยไปทำให้กระดูก
        ไม่แข็งแรง เพราะโปรตีนเป็นตัวทำให้แคลเซียมเกาะ
        ถ้าแคลเซียมไม่เกาะก็ทำให้เกิดกระดูกพรุน การขาดความรู้เกี่ยวกับกระดูกพรุน
        
        ปัญหาที่เกิดจากโรคกระดูกพรุน
        อาจเกิดกระดูกหัก ส่วนใหญ่เป็นสะโพก สันหลังและกระดูกข้อมือ ความพิการจากการกระดูกหัก ความเจ็บปวด คุณภาพชีวิตลดลงจากการโดนจำกัดทางด้านร่างกาย ค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้น
        
        ให้ความรู้ผู้สูงอายุ เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนท่าทางในชีวิตประจำวัน โดยให้ความรู้ผู้สูงอายุ เรื่อง การเปลี่ยนอิริยาบถ โดยอธิบายขั้นตอน “3 ท่า ลุกจากเตียงอย่างถูกวิธี” คือ พลิกตัว นอนตะแคง งอเข่าและสะโพกเล็กน้อย ใช้มือทั้งสองข้างยันตัวให้ลุกขึ้นพร้อมกับค่อย ๆ ยกขาทั้งสองห้อยลงข้างเตียง จากนั้นยันตัวลุกขึ้นนั่งตรง แล้วยืนขึ้น
        
        พร่องความรู้เกี่ยวกับโภชนาการ
        
        ให้ความรู้ผู้สูงอายุเกี่ยวกับ โภชนาการที่เหมาะสมสำหรับโรคกระดูกพรุน โดยให้ข้อมูลเรื่องการได้รับสารอาหาร
        ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก ประกอบด้วย กีวี กล้วย มะละกอ ถั่วเมล็ดแข็ง พืชตระกูลถั่ว งาดำ เต้าหู้ก้อน ผักตะกูลกระหล่ำ
        
        พร่องความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกาย
        
        ให้ความรู้ผู้สูงอายุ เกี่ยวกับการออกกำลังกายในผู้สูงอายุเพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุน เรื่อง การบริหารข้อ
        โดยอธิบายท่าการบริหารข้อ 4 ท่า คือ
        
        ท่าที่ 1 นั่งชิดเก้าอี้ เหยียดเข่าตรง กระดกปลายเท้าขึ้น เกร็งค้างนับ 1-10 แล้ววางลง ทำสลับกันทั้ง 2 ข้าง
        ข้างละ 20 ครั้ง
        
        ท่าที่ 2 นั่งชิดเก้าอี้ แล้วไขว้ขา โดยขนบนกดขาล่าง และขาล่างเหยียดขึ้นต้านขาบน เกร็งค้างนับ 1-10 ทำสลับกัน
        ทั้ง 2 ข้าง ข้างละ 20 ครั้ง
        
        ท่าที่ 3 นอนหงาย กระดกปลายเท้าขึ้นลง เกร็งค้าง
        นับ 1-10 ทำสลับกันทั้ง 2 ข้าง ข้างละ 20 ครั้ง
        
        ท่าที่ 4 นอนหงาย ใช้หมอนรองใต้เข่าด้านขวา เหยียดเข่าซ้ายยกสูงประมาณ 1 ฟุต เกร็งค้างไว้นับ 1-10
        แล้วทำสลับกัน
  - - - เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโภชนาการและการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ
    - - ผู้สูงอายุสามารถจัดเมนูมื้ออาหารได้3เมนูอย่างถูกต้อง
      - ผู้สูงอายุสามารถเลือกวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุได้
    - - สอบถามพฤติกรรมการรับประทานอาหารและพฤติกรรม การออกกําลังกาย เพื่อเป็นแนวทางในการให้คําแนะนํา
      - ให้ความรู้เกี่ยวกับชนิดของอาหารที่มีผลต่อปัญหาสุขภาพ คือ อาหารที่มีไขมันสูง เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม น้ำหวาน ขนมขบเคี้ยว และอาหารที่มีฟรุกโตสสูง เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความรู้ ความตระหนัก ในการเลือกชนิดอาหารในการบริโภค ดังนี้
        
        2.1 อาหารที่มีไขมันสูง เช่น นม เนย กะทิ อาหารทะเล ไข่แดง ซึ่งมีแคลอรีสูงมาก อาหารทอด เนื้อสัตว์ติดมันอาหารที่มีไขมันสูงทุกชนิดควรหลีกเลี่ยง
        
        2.2 เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จะทําให้ตับทํางานเพิ่มขึ้น
        
        2.3 น้ำอัดลม น้ำหวาน เป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง หากรับประทานมากแต่ไม่ได้ออกกําลังกายจะเสี่ยงต่อภาวะอ้วน ส่งผลกระทบต่อการทํางานของตับ อาจเป็นสาเหตุที่ทําให้ตับมีไขมันมาเกาะได้ง่ายขึ้น
        
        2.4 ขนมขบเคี้ยว ให้พลังงานสูง อาจเป็นสาเหตุของภาวะอ้วนได้
        
        2.5 อาหารที่มีฟรุกโตสสูง เช่น ขนมปัง ซีเรียล น้ำอัดลม ทําให้ร่างกายสร้างไขมันไม่ดีเพิ่มมากขึ้น
      - แนะนําการรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ และครบ 5 หมู่ ตามอัตราส่วนธงโภชนาการ
      - ให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของการออกกําลังกาย เพื่อชี้ให้เห็นความสําคัญของการออกกําลังกาย ดังนี้
        
        4.1 ป้องกันโรคกระดกูพรุน ลดอุบัติการของกระดูกหักที่กระดูกสันหลัง, กระดูกสะโพก, ช่วยลดไขมันในเลือดโคเลสเตอรอล, ไตรกลีเซอไรด์ เป็นการลดปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ, โรคหลอดเลือดสมอง, อัมพาต, อัมพฤกษ์
        
        4.2 ทําให้คล่องแคล่ว ทรงตัวดี ลดการลื่นล้มบาดเจ็บ
        
        4.3 ช่วยในการย่อยและดูดซึมอาหาร ลดท้องอืดท้องเฟ้อ ระบบขับถ่ายดีขึ้น ลดความอ้วน
        
        4.4 ช่วยรักษาโรคซึมเศร้า ลดความเครียด
        
        4.5 นอนหลับได้ดี
        
        4.6 ชะลอความแก่ ความเสื่อมของสมรรถภาพทางร่างกาย ทําให้ดูหนุ่มสาวขึ้น ยืดอายุให้ยืนยาว
      - ให้ความรู้เกี่ยวกับหลักการออกกําลังกาย การออกกําลังกายที่ถูกต้อง คือ ออกกําลังกายอย่างน้อย 20-30 นาที 2-3 วัน/สัปดาห์ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความรู้ และสามารถนําไปปฏิบัติ และปรับใช้ในชีวิตประจําวัน
      - ให้ความรู้เกี่ยวกับท่าบริหารกายอย่างง่ายๆ ภายในบ้านสําหรับผู้สูงอายุ เช่น
        
        6.1 ท่าเดินสลับเท้า เดินสลับเท้าซ้าย-ขวา 20 ครั้ง
        
        6.2 ท่ายักไหล่ขึ้น-ลง ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ยักไหล่ขึ้น-ลง และเป็นวงกลมทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทําซ้ำ 10 ครั้งในแต่ละทิศทาง
        
        6.3 ท่ายืดข้อไหล่ขณะนั่งเก้าอี้ นั่งเก้าอี้ วางแขนพาดบนโต๊ะ ยืดข้อไหล่ โดยการก้มตัวลงให้รู้สึกตึงบริเวณข้อไหล่และยืดค้างไว้ ประมาณ 30 วินาที
      - ให้ข้อแนะนําวิธีการออกกําลังกายที่ผู้สูงอายุเลือก สังเกตอาการผิดปกติของตนเองและควรหยุดออกกําลังกายเมื่อพบความผิดปกติและพบแพทย์ เช่น การเหนื่อย แน่นหน้าอก หรืออาการ ปวดข้อ ปวดหลัง เป็นต้น
      - เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุซักถามปัญหา และสอบถามความเข้าใจในการรับประทานอาหารและการออกกําลังกาย เพื่อทบทวนความเข้าใจ
  - - - เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการหกล้มของผู้สูงอายุ
    - - 1.ปฏิบัติท่าการออกกำลังกายขาอย่างง่ายได้
      - 2.บอกวิธีการจัดสิ่งแวดล้อมภายในบ้านและนอกบ้านได้ถูกต้อง
    - - 1.ประเมินความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม และใช้แบบประเมินภาวะเสี่ยงต่อการหกล้มของผู้สูงอายุ (Thai FRAT)
      - 2.ประเมินความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันด้วยตนเองของผู้สูงอายุ
      - 3.แนะนำให้ความรู้ถึงผลข้างเคียงของยาที่ผู้ป่วยได้รับประทาน ได้แก่ ยาระบบไหลเวียนโลหิตและยาด๊อกซาโซซิน ทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ ความดันโลหิตต่ำ รู้สึกอ่อนเพลีย
      - ให้คำแนะนำในการจัดสิ่งแวดล้อมภายในบ้าน ได้แก่
        
        4.1) แสงสว่างที่ใช้ในบ้าน : ควรมีแสงสว่างในบ้านให้เพียงพอ แสงไฟที่ใช้ไม่ควรเป็นแสงจ้าเกินไป มองเห็นชัดเจนโดยเฉพาะบริเวณทางเดิน
        
        4.2) พื้น : พื้นทางเดินในบ้านควรเป็นพื้นเรียบไม่ลื่น ดูแลจัดไม่ให้มีสิ่งกีดขวางทางเดินเพราะอาจทำให้เกิดการสะดุดล้ม ควรดูแลพื้นให้แห้งเสมอ ไม่มีน้ำหรือของเหลวหกกระเบื้องปูพื้น ควรใช้สีที่เหมาะสมและไม่มีลวดลายจนทำให้ลายตา เพราะจะทำให้ผู้สูงอาจเสี่ยงต่อการหกล้มได้
        
        4.3) ห้องน้ำ : เป็นบริเวณที่ผู้สูงอายุเกิดการหกล้มได้มากที่สุด พื้นห้องน้ำควรมีการปูพื้นกันลิ้น มีการติดตั้งราวจับไว้สำหรับจับบริเวณที่นั่งขับถ่ายหรือที่อาบน้ำ
        ใช้โถส้วมแบบชักโครก ควรจัดวางของใช้ให้หยิบจับง่ายในระดับข้อศอกที่นั่งขับถ่าย ประตูห้องน้ำควรเป็นแบบเปิดออกด้านนอก และที่ล็อคควรเปิดออกจากภายนอกได้ เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถช่วยเหลือได้ทันที
        
        4.4) ห้องนอน : ควรจัดของใช้ให้เป็นระเบียบเพื่อให้หยิบใช้ได้ง่าย ไม่วางของเกะกะตามพื้นห้อง โดยเฉพาะสายไฟ การเคลื่อนไหวหรือลุกจากเตียงควรทำอย่างช้าๆ ควรประเมินตนเองว่ามีอาการเวียนศีรษะหรือหน้ามืดก่อนจะลุกนั่งหรือไม่ โดยไม่ลุกขึ้นขณะมีอาการดังกล่าว ควรเรียกหาคนช่วย
        
        4.5) เครื่องเรือน : เตียงนอนควรมีความสูงระดับที่ผู้สูงอายุขึ้นเตียงหรือลุกออกจากเตียงได้สะดวกที่นอน ควรมีความแข็งระดับพอดีไม่ยุบตัวเกินไป ตู้เก็บของหรือชั้นวางของ ควรมีความสูงระดับที่ผู้สูงอายุสามารถหยิบจับสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆได้สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน
        
        4.6) ห้องครัว : ควรจัดของใช้หรือเครื่องปรุงต่างๆ ให้ง่ายต่อการใช้งาน หากพื้นหรือภายในห้องครัวมีความไม่ปลอดภัยในการใช้งาน ควรแก้ไขให้สภาพห้องครัวพร้อมใช้งานเพื่อป้องกันการหกล้มในห้องครัว
      - 5.ให้คำแนะนำเกี่ยวกับอิริยาบถอันตรายที่ผู้สูงอายุต้องระวัง
        
        5.1) นั่งยองคุกเข่า เมื่อผู้สูงอายุนั่งยองหรือคุกเข่าน่านเกินไป อาจทำให้ผู้สูงอายุปวดเข่าและข้อเข่าเสื่อมได้ จึงควรนั่งบนเก้าอี้ที่มั่นคงและให้ผู้สูงอายอยู่ในอิริยาบถหลังตรงเสมอ
        
        5.2) ยืนโดยไม่มีที่เกาะ เมื่อผู้สูงอายุยืนโดยไม่มีที่เกาะอาจทำให้ต้องเกร็งขาจนเกิดอาการปวดขาและปวดเข่าได้ ดังนั้นในบริเวณบ้านหรือห้องน้ำของผู้สูงอายุควรมีราวช่วยพยุงตัวเวลาเปลี่ยนอิริยาบถ
        
        5.3) การลุกเร็ว เมื่อผู้สูงอายุลุกจากเตียงในท่านอนหรือจากเก้าอี้ในท่านั่ง
        ผู้สูงอายุไม่ควรอย่างยิ่งที่จะทำด้วยความเร็ว เพราะอาจจะทำให้ความดันโลหิตเปลี่ยนด้วยความรวดเร็ว ทำให้ผู้สูงอายุเกิดอาการเวียนศีรษะถึงขั้นคลื่นไส้อาเจียนได้ ดังนั้นผู้สูงอายุจึงควรค่อยๆทำและเคลื่อนไหวด้วยความระมัดระวัง
      - ส่งเสริมการออกกำลังกายขาด้วยตนเอง โดยการนั่งบนเก้าอี้เหยียดขาตรงสุดกระดกปลายเท้าขึ้นลงข้างละ 10 ครั้ง และกระดกปลายเท้าขึ้นค้างไว้แล้วนับ 1-10 แล้วเอาลง
- - - - 1.คู่มือการดูแลตนเองของผู้สูงอายุและผู้ดูแล
      - 2.ส่งต่ออสม.ให้แนะนำผู้ดูแลฝึกสมองให้ผู้สูงอายุ เพื่อกระตุ้นการบริหารสมองในแต่ละวัน
  - - - 1.จัดเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นระเบียบ
      - 2.ความสว่างภายในบ้านและนอกบ้าน
      - 3.ราวจับในห้องน้ำ และตะไคร่น้ำที่พื้นในห้องน้ำ
      - 4.ส่งเสริมการออกกำลังกายขาของผู้สูงอายุ โดยการนั่งบนเก้าอี้เหยียดขาตรงสุดกระดกปลายเท้าขึ้นลงข้างละ 10 ครั้ง และกระดกปลายเท้าขึ้น ค้างไว้แล้วนับ 1-10 แล้วเอาลง
      - 5.ส่งต่อคู่มือเรื่องการดูแลตนเองของผู้สูงอายุและผู้ดูแล
  - - - คู่มือ เรื่อง โรคกระดูกพรุน
      - โปสเตอร์ เรื่อง 6 อิริยาบทอันตรายที่ผู้สูงอายุต้องระวัง และ 3 ท่าการลุกจากเตียงอย่างถูกวิธี
      - ส่งต่อให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ติดตามสอบถามญาติผู้สูงอายุ เกี่ยวกับยาที่เคยใช้รักษาโรคกระดูกพรุน
      - ติดตามวิธีการเปลี่ยนอิริยาบทในชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุ
      - ส่งต่อแผ่นพับ เรื่อง ปวดหลัง ป้องกันไม่ยาก และส่งต่อให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ติดตามวิธีการยกของของผู้สูงอายุ
  - - - คู่มือส่งเสริมโภชนาการ
      - คู่มือส่งเสริมการนอนหลับ
      - คู่มือการส่งเสริมการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ
      - ติดตามว่า ผู้สูงอายุสามารถปฏิบัติตามคู่มืออย่างถูกต้องเหมาะสมหรือไม่
      - ให้คำแนะนำคู่มือ หากผู้สูงอายุมีข้อสงสัยหรือมีขั้นตอนที่ไม่สามารถปฏิบัติได้
  - - - 1.คู่มือการดูแลตนเองของผู้สูงอายุและผู้ดูแล
      - ส่งต่อให้อสม.ติดตามเรื่องการไปพบแพทย์ตามนัด
      - 2.การใช้กล่องยาเพื่อป้องกันการลืมกินยา
- - - - ข้อมูลผู้ดูแล
        
        นางจิตโสม เสียวสัง เพศหญิง อายุ 59 ปี เป็นบุตรสาวคนโต จบประถมศึกษาชั้นปีที่ 5 มีโรคประจำตัวเป็น เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, ไขมันสูง เริ่มดูแลผู้สูงอายุตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564-ปัจจุบัน ให้การดูแลตั้งแต่ผู้สูงอายุตื่นนอนจนถึงเข้านอน
      - ลักษณะบ้านที่ชุมชน
        
        มีแสงสว่างเพียงพอในบ้านและรอบบ้าน มีอากาศถ่ายเทสะดวก
        
        บริเวณนอกบ้านมีต้นไม้เล็ก ไม่มีแหล่งน้ำขัง
        
        บ้านเช่าชั้นเดียว ภายในบ้านมีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์เป็นระเบียบ ไม่ขวางทางเดิน
        
        มีเครื่องใช้ไฟฟ้าในการอำนวยความสะดวกภายในบ้าน
        
        ใช้น้ำขวดในการดื่มและปรุงอาหาร น้ำใช้ ใช้น้ำประปาในการอุปโภค
        
        ลักษณะส้วมเป็นชักโครก
        
        มีการแยกขยะภายในบ้านก่อนทิ้งโดยใส่ถุงและมัดปากถุงและนำไปทิ้งในถังขยะใหญ่บริเวณหน้าบ้าน มีรถขยะมาเก็บทุกวัน
        
        เลี้ยงนก 1 ตัว
        
        สภาพที่ตั้งติดถนน อยู่หน้าเทศบาลแสนสุข มีคมนาคมสะดวก
      - ข้อมูลเกี่ยวกับแบบแผนสุขภาพ
        
        ผู้สูงอายุนอนหลับไม่เป็นเวลา ใช้เวลาในการนอนหลับนานกว่า 30 นาที กลางดึกมีสะดุ้งตื่น และมีนอนกลางวันบ้างบางครั้ง
        
        การได้ยินปกติ สายตายาว มองไม่ค่อยชัด มีตาฝ้าตาฟาง มีความจำบกพร่องเล็กน้อย หลงๆลืมๆเวลาวางของมักจำไม่ได้ว่าวางไว้ตรงไหน
        
        ผู้สูงอายุสามารถทำกิจวัตรประจำวันเองได้ ทำความสะอาดบ้าน มีการออกกำลังกายโดยการเดินหน้าบ้าน
        
        ผู้สูงอายุมีความรู้สึกน้อยใจตนเองเรื่องการเจ็บป่วยเปรียบเทียบกับคนข้างบ้านว่าเขายังแข็งแรงกว่า
        
        ผู้สูงอายุมีการขับถ่ายอุจจาระ 2 วัน/ครั้ง ลักษณะเป็นก้อกนุ่ม ไม่แข็ง มีสีเหลืองปกติ และกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เวลาเห็นห้องน้ำ น้ำ มื้อจุ่มน้ำ หรืออากาศเย็น ก็จะทำให้ผู้สูงอายุปัสสาวะออกมา จึงทำให้ผู้สูงอายุใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเพื่อแก้ปัญหาการปัสสาวะราด ขณะปัสสาวะไม่มีปวด แสบขัด ปัสสาวะมีสีใส ไม่มีเลือดออกหรือขุ่น ไม่มีกลิ่นฉุน
        
        การดื่มน้ำ ซื้อน้ำแพ็คแบบขวด ขวดปริมาณ 600 ml ดื่มน้ำประมาณวันละ 1-2 ขวด
        
        ผู้สูงอายุไม่มีความเครียด
        
        ผู้สูงอายุรับประทานอาหารครบ 3 มื้อ มื้อเช้า กลางวัน เย็น รับประทานม้ือละ 1 จาน ชอบรับประทานอาหารจำพวกต้ม เช่น น้ำพริกผักต้ม ต้มจืด เป็นต้น ผลไม้ทานบ้างบางครั้งแต่ไม่ได้ทานเป็นประจำ
        
        เชื่อว่าการเจ็บป่วยเกิดจากกรรมเก่า
        
        การดูแลตนเองเมื่อเจ็บป่วย หากเจ็บป่วยเล็กน้อยผู้สูงอายุจะไปที่คลินิคก่อน ถ้าหากเป็นหนักจะไปโรงพยาบาล
        
        ไม่เคยมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์
      - ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสุขภาพผู้สูงอายุ
        
        ปฏิเสธการเจ็บป่วยในครอบครัว
        
        นางลัลลนา เหมสุวรรน อายุ 76 ปี เพศหญิง
        
        ปัจจุบันได้รับเฉพาะยาในการรักษา เมื่อ 6 เดือนที่แล้วเคยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากวูบหมดสติจากภาวะหัวใจขาดเลือด
        
        สัญชาติไทย เชื้อชาติ ศาสนาพุทธ สถานภาพ สมรส ระดับการศึกษาประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 อาชีพ ว่างงาน รายได้จากลูกสาว 5,000 บาท/เดือน
        
        ภูมิลำเนาเดิมอยู่ชลบุรี ที่อยู่ปัจจุบัน 9/1 ถนนบางแสนสาย 2 ซอย 4 ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี
        
        โรคประจำตัวได้แก่ โรคหัวใจ, ความดันโลหิตสูง และโคเลสเตอรอลสูง
    - - แบบประเมิน 6CIT ได้ 8 คะแนน แปลผลมีความผิดปกติทางการรับรู้เล็กน้อย
      - แบบประเมินภาวะเสี่ยงต่อการหกล้มของผู้สูงอายุ ได้คะแนนรวม
        9 เต็ม 11 คะแนน เสี่ยงต่อการหกล้ม
      - แบบสัมภาษณ์การรับรู้ความสามารถในการทรงตัวได้ 2 คะแนน แปลผลมีการรับรู้ความสามารถในการทรงตัวไม่ดี
      - แบบประเมินการกลั้นปัสสาวะ ได้ 15 คะแนน แปลผล มีการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่รุนแรง
      - แบบประเมิน Barthel ADL Index ได้ 16 คะแนน แปลผล คะเเนน
        ระดับสูง มีภาวะพึ่งพาเล็กน้อย
      - แบบประเมิน Chula ADL Index ได้ 6 คะแนน แปลผลช่วยเหลือตัวเองได้
      - แบบประเมินภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุไทย TGDS ได้ 8 คะแนน แปลผลปกติ
      - แบบประเมินภาวะโภชนาการ MNA ได้ 17.5 แปลผลมีความเสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหาร
      - แบบประเมิน ST-5 ได้ 5 คะแนน แปลผลเครียดปานกลาง
      - แบบประเมินข้อเข่าเสื่อม ได้ 0 คะแนน แปลผลไม่มีภาวะข้อเข่าเสื่อม
      - ประเมินคุณภาพการนอนหลับ ได้ 18 คะแนน แปลผลคุณภาพการนอนหลับไม่ดี
  - - - ผู้สูงอายุเพศหญิง อายุ 70 ปี น้ำหนัก 45 กิโลกรัม ส่วนสูง 150 เซนติเมตร BMI 20 อยู่ในเกณฑ์สมส่วน มีโรคประจำตัวเป็นกระดูกพรุน ไปพบแพทย์เมื่อหลายปีก่อนและได้ยากลับมารับประทานแต่ไม่ทราบว่าคือยาอะไร นัดพบแพทย์ทั้งหมด 3 ครั้งเพื่อนำยามารับประทาน ครั้งสุดท้ายแพทย์บอกให้ซื้อยามารับประทานต่อเอง แต่เนื่องด้วยผู้สูงอายุมีทุนทรัพย์ไม่เพียงพอทำให้ไม่สามารถซื้อยามารับประทานต่อเองได้ และทราบข้อมูลอีกว่าผู้สูงอายุมีการยกของหนักผิดวิธี ผู้สูงอายุบอกว่าตนเองก้มลงไปยกของเลย ไม่ได้ย่อเข่าก่อน ไม่ทราบว่าวิธีการที่ถูกต้องควรทำอย่างไร
    - - แบบคัดกรองโรคข้อเข่าเสื่อม (คะแนนการปวดเข่าได้ 1 คะแนน) มีเสียงกรอบแกรบในข้อเข่าขณะเคลื่อนไหว-แบบทดสอบความผิดปกติทางการรับรู้ 6CIT (4 คะแนน) แปลผลได้ว่า ไม่มีความผิดปกติทางการรับรู้
      - แบบสัมภาษณ์การรับรู้ความสามารถในการทรงตัว (3 คะแนน) แปลผลได้ว่า มีการรับรู้ความสามารถในการทรงตัวพอใช้
      - แบบประเมินความสามารถเชิงปฏิบัติ Barthel ADL Index(19 คะแนน) แปลผลได้ว่า มีภาวะพึ่งพาเล็กน้อย
      - แบบประเมินความสามารถเชิงปฏิบัติ Chula ADL Index (9 คะแนน) แปลผลได้ว่า ช่วยเหลือตัวเองได้
      - แบบประเมินการกลั้นปัสสาวะ (0 คะแนน) แปลผลได้ว่า ไม่มีประวัติการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
      - แบบวัดภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุไทย TGDS (6 คะแนน) แปลผลได้ว่า ปกติ
      - แบบประเมินคุณภาพการนอนหลับ (1 คะแนน) แปลผลได้ว่า คุณภาพการนอนหลับดี
      - แบบประเมินภาวะโภชนาการ MNA (22 คะแนน) แปลผลได้ว่า มีความเสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหาร
      - แบบประเมินความเครียดกรมสุขภาพจิต ST-5 (0 คะแนน) แปลผลได้ว่า เครียดน้อย
      - แบบประเมินภาวะเสี่ยงต่อการหกล้ม (1 คะแนน) แปลผลได้ว่า ไม่เสี่ยงต่อการหกล้ม
  - - - ผู้สูงอายุชื่อ ลำพรวน หามนตรี อายุ 60 ปี เพศหญิง สถานภาพ หย่าร้าง
      - สัญชาติ ไทย เชื้อชาติ ไทย ศาสนา พุทธ
      - อาชีพ ค้าขาย ระดับการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
      - น้ำหนัก 47 กิโลกรัม ส่วนสูง 150 เซนติเมตร BMI 20.83 อยู่ในเกณฑ์สมส่วน
      - มีโรคประจำตัวเป็นไขมันพอกตับ รักษาด้วยการควบคุมการรับประทานอาหาร แพทย์นัดติดตามทุก 3 เดือน
      - ประวัติการเจ็บป่วยในอดีตผ่าตัดไทรอยด์และผ่าตัดก้อนซีสต์
      - ไม่พบประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว
      - ข้อมูลแบบแผนสุขภาพ
        
        ผู้สูงอายุรับรู้ว่าตนเองเป็นไขมันพอกตับ การดูแลตนเองเมื่อเจ็บป่วยไปหาหมอที่โรงพยาบาลด้วยตนเอง รับประทานผัก ผลไม้ ควบคุมอาหาร ลดอาหารทอด
        
        น้ำดื่ม น้ำใช้ประกอบอาหารใช้จากเครื่องกรองน้ำ น้ำใช้ใช้น้ำประปา
        
        ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
        
        ขับถ่ายอุจจาระ 1 ครั้งต่อวัน ปัสสาวะ 7-8 ครั้งต่อวัน ปัสสาวะมีสีใส ขณะปัสสาวะไม่แสบและขัด
        
        ออกกำลังกายเป็นบางครั้งด้วยการเดินเล่นที่หาดในช่วงเย็น
        
        ปกตินอนวันละ 7-8 ชั่วโมง เข้านอนเวลา 22:00 น. ใช้เวลาเข้านอน 30-60 นาที หลับตลอดทั้งคืน มีสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะปวดปัสสาวะ และกลับไปนอนต่อได้โดยใช้เวลา 5-10 นาทีในการนอนต่อ นอนหลับสนิท ตื่นนอนตอนเช้า 7:00 น. ตื่นมาสดชื่น ไม่มีอาการง่วงนอน
        
        การได้ยินปกติ การมองเห็นปกติ
        
        ผู้สูงอายุมีความรู้สึกต่อตนเองในด้านที่ดีมาก พยายามมองชีวิตในปัจจุบันเป็นไปในทางที่ดี
        
        ปัจจัยที่ทำให้ผู้สูงอายุมีความเครียด คือ เกี่ยวกับโรคไขมันพอกตับ วิธีการจัดการกับความเครียด ผู้สูงอายุไปเดินเล่นและออกไปพอเจอเพื่อนบ้านเพื่อพูดคุย
        
        สิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้สูงอายุ คือ พระและสวดมนตร์ก่อนนอน
        
        ผู้สูงอายุตระหนักถึงปัญหาสุขภาพ และพยายามแสวงหาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลร่างกายในด้านโภชนาการ การนอนหลับและการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัยผู้สูงอายุว่าควรจะทำอย่างไร
    - - แบบประเมินความสามารถเชิงปฏิบัติ Barthel ADL Index(20 คะแนน) แปลผลได้ว่า มีภาวะพึ่งพาเล็กน้อย
      - แบบประเมินความสามารถเชิงปฏิบัติ Chula ADL Index (9 คะแนน) แปลผลได้ว่า ช่วยเหลือตัวเองได้
      - แบบประเมินการกลั้นปัสสาวะ (0 คะแนน) แปลผลได้ว่า ไม่มีประวัติการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
      - แบบวัดภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุไทย TGDS (12 คะแนน) แปลผลได้ว่า ปกติ
      - แบบประเมินคุณภาพการนอนหลับ (5 คะแนน) แปลผลได้ว่า คุณภาพการนอนหลับดี
      - แบบประเมินภาวะโภชนาการ MNA (24 คะแนน) แปลผลได้ว่า มีภาวะโภชนาการปกติ
      - แบบประเมินความเครียดกรมสุขภาพจิต ST-5 (3 คะแนน) แปลผลได้ว่า เครียดน้อย
      - แบบทดสอบความผิดปกติทางการรับรู้ 6CIT (4 คะแนน) แปลผลได้ว่า ไม่มีความผิดปกติทางการรับรู้
      - แบบสัมภาษณ์การรับรู้ความสามารถในการทรงตัว (4 คะแนน) แปลผลได้ว่า มีการรับรู้ความสามารถในการทรงตัวดี
      - แบบคัดกรองโรคข้อเข่าเสื่อม (คะแนนการปวดเข่าได้ 0 คะแนน) แปลผลได้ว่า ปกติ
- - - - สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (ม.ป.ป.). โรคกระดูกพรุน. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน
        2565, จาก https://dol.thaihealth.or.th/Media/Pdfview/78fde8ad-4ae3-e811-80e6-00155d93ef00
        
        สถาบันความปลอดภัยในการทำงาน. (2548). ข้อแนะนำเพื่อป้องกันและบรรเทาอาการ ปวดหลัง. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565, จาก https://www.bloggang.com/viewfb.php?id=cmu
        
        สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (ม.ป.ป.). สมองเสื่อม. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565, จาก https://shorturl.asia/WPXE0
        
        สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (ม.ป.ป.). ระวังตัวดีไม่มีล้ม. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565, จาก https://shorturl.asia/F8OXC
        
        สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (ม.ป.ป.). กินยาใช้ยา ให้ถูกต้องและปลอดภัย. สืบค้นเมื่อ วันที่ 29 กันยายน 2565, จาก https://dol.thaihealth.or.th/Media/Pdfview/86fde8ad-4ae3-
        
        สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (ม.ป.ป.). นอนไม่หลับ รับมือได้. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565, จาก https://dol.thaihealth.or.th/Media/Pdfview/7dfde8ad-4ae3-e811-