Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยาต้านจุลชีพ (Antimicrobial drugs) part 1 - Coggle Diagram
ยาต้านจุลชีพ
(Antimicrobial drugs)
part 1
1.Penicilline
การแพ้ยาหรือภาวะภูมิคุ้มกันไว
(Hypersensitivity)
ผื่นลมพิษ (มีลักษณะเป็น maculoapular rash)
มีไข้ หอดลมหดตัว หลอดเลือดอักเสบ
Serim sickness , exfoliative dermatitis
Stevens-Johnson syndrome และ anaphaylaxis (ความดันโลหิตต่ำ หลอดลมหดตัว หอบอย่าวรุนแรง คบื่นไส้ อาเจียน ถ้ารุนแรงอาจเสียชีวิตได้)
ประโยชน์ทางคนีนิค
เป็นยาที่เลือดใช้เป็นอันดับแรก เพื่อรักษาโรคติดเชื้อ แกรมบวก และ แกรมลบ
ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้ยากลุ่ม penicillin 👉🏻และควรเลือกใช้ Erythromycin แทน
เลือกใช้เป็นอันดับแรกในหญิงตั่งครรภ์ ควรระวังอาการข้างเคียง เช่น ผื่นคัน อุจจาระร่วง เลือดไหลหยุดยาก
ระวังการใช้cephalosporin อาจเกิดการแพ้ยาได้เช่นเดียวกับ penicillin
2.Cephalosporins
First-generation
มีประสิทธิภาพดีสำหรับเชื่อแกรมบวก
ฆ่าเชื้อกรัมลบได้บางชนิด เช่น E.coli, klebsiella pneumoniae
Cephalexin :1–4 กรัม แบ่งให้ทุก 6 ชั่วโมง
Cephradine :1–4 กรัม แบ่งให้ทุก 6 ชั่วโมง
Cephalothin , Cephapirin
Second – generation
สามารถฆ่า เชื้อกรัมลบได้มากชนิดกว่า และได้ผลดีกว่า
ผลต่อเชื้อกรัมบวกคล้ายๆกัน แต่ทนต่อ B- lactamase ได้ดีกว่า
Cefaclor : 250 มก. ทุก 8 ชั่วโมง
Cefamandole , Cefuroxime
Third – generation
มีผลออกฤทธิ์กว้างกว่า 2 กลุ่มแรก และ สามารถฆ่าเชื้อPseudomonas ได้ด้วย
Cefotaxime
cefoperazone
Fourth – generation
ออกฤทธิ์กว้างและลึกที่สุด โดยเฉพาะต่อเชื้อกรัมลบทั้งที่ไวและดื้อยาใน 3 กลุ่มแรกและยากลุ่มอื่น
Cefpirome Cefepime
การเปรียบเทียบคุณสมบัติยา
อาการไม่พึงประสงค์
การแพ้ยา (Hypersensitivity)
คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน
IM 👉🏻 ปวดร้อนบริเวณกล้ามเนื้อ
IV 👉🏻อาจเกิดการอักเสบ
ผลต่อไต ถ้าใช้ร่วมกับ Aminoglycoside จะเพิ่ม ความเป็นพิษต่อไต
ประโยชน์ทางคลินิกของ Cephalosporin
ไม่ควรเลือกใช้เป็นยาชนิดแรกในการรักษาการติดเชื้อทั่วไปที่ อาการไม่รุนแรง
ควรระวังปฏิกิริยาระหว่างยาเหล่านี้กับแอลกอฮอล์ที่เรียกว่า Disulfiram–like reaction
ไม่ควรใช้ Cephalosporin ในผู้ป่วยที่มีประวัติการแพ้ยากลุ่ม Penicillins เพราะอาจเกิดอาการแพ้ได
3.Carbapenems
อาการไม่พึงประสงค์
คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ความดันโลหิตลดลง หลอดเลือดดาบริเวณที่ฉีดอักเสบ ผิวหนังเป็นผื่น คัน และอักเสบ enzymes ตับเพิ่มขึ่น
เด็กและผู้ป่วยโรคไตตอ้งมีการปรับขนาดยา
ฆ่าเช้อืแกรมลบและแกรมบวกทั้งชนิดaerobicและanaerobic
ใช้ได้ผลกับเชื้อพวก B -lactamase producing resistant strains
4.Monobactams
อาการไม่พึงประสงค์
เส้นเลือดดำบริเวณฉีดยาซ้าๆ อักเสบ ผื่นคัน ท้องเสีย
ข้อบ่งใช้
ใช้รักษาโรคติดเชื้อแกรมnegative bacilli ชนิด anaerobicในบริเวณทางเดิน หายใจ, ทางเดินปัสสาวะ, อวัยวะเพศ, กระดูกและข้อกระดูก, soft tissue และใน กระแสเลือด
มีประสิทธิภาพในการทำลายเชื้อเฉพาะแกรมลบ anaerobic เท่านั้น
ยาในกลุ่มนี้คือ astreonam ได้รับการสังเคราะห์มาเพื่อให้มีความคงทนต่อการ ทำลายของ B-lactamase
5.Polymyxins : Polymixin B , Polymixin E
อาการไม่พึงประสงค์
เป็นพิษต่อไตสูงมาก อาจทำให้ไตพิการอย่างถาวรได้
มีพิษ ต่อระบบประสาท ทำให้ชารอบๆปาก และอาจมีอาการเดินโซเซ
กล้ามเนื้อหายใจหยุดทำงาน โดยเฉพาะการฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
มีอาการแพ้ยา
6.Aminoglycoside
อาการไม่พึงประสงค์
พิษต่อไต
ทำลายกรวยไต
ทำลายท่อไต
พิษต่อหู
อาการวิงเวียน ศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน มึนงง และหูหนวกได้
เนื่อง จากยาทำลาย เส้นประสาทสมองคู่ที่ 8 ที่ทำหน้าที่ควบคุมการทรงตัว หรืออาจทำลายเส้นประสาทหูที่เกี่ยวกับ การได้ยิน
การแพ้ยา
เป็นผื่นแดง หรือลมพิษคัน มีไข้ บางรายอาจถึงขั้น anaphylaxis
ยับยั้งการสื่อประสาทระหว่างปลายเส้นประสาทกับกล้ามเนื้อลาย ทาให้กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ยไม่มี แรง หายใจไม่สะดวกหรือหายใจขัด
ยาในกลุ่มนี้ ได้แก่
Streptomycin, Neomycin, sisomicin ,Kanamycin, Amikacin, Gentamicin, tobramycin
ฆ่าเชื้อกรัมบวก และเชื้อกรัมลบหลายชนิด ยกเว้น
Pseudomonas, bacteroides ทำลายเชื้อวัณโรคได้ด้วย
7.Chloramphenicol
อาการไม่พึงประสงค์
รบกวนการสร้างกระดูกและฟัน
ระคายเคืองทางเดินอาหาร มีอาการจุก เสียด แน่นท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน
Fanconi ‘ s syndrome(เป็นความเจ็บป่วยที่เกิดที่ท่อไตส่วนต้น)
พิษต่อตับ ทาให้เกิด fatty liver
การแพ้ยา โดยเกิดผื่นคัน เกิดอาการทาง ผิวหนังได้ง่ายเวลาโดยแสง
ได้ผลทั้งเชื้อกรัมบวก และกรัมลบ หลายชนิด
รวมทั้ง Rickettsiae และ Chlamydia
Tetracyclin :1 – 2 กรัม แบ่งให้ 4 ครั้ง
Oxytetracyclin : 1 – 2 กรัม แบ่งให้ 4
ครั้ง
Doxycyclin : 100 มก. ทุก 12 ชั่วโมง
8.Tetracycline
อาการไม่พึงประสงค์
รบกวนการสร้างกระดูกและฟัน พิษต่อตับ ทำให้เกิด fatty liver
ระคายเคืองทางเดินอาหาร มีอาการจุก เสียด แน่นท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน
Fanconi ‘ s syndrome
การแพ้ยา โดยเกิดผื่นคัน เกิดอาการทาง ผิวหนังได้ง่ายเวลาโดยแสง
ได้ผลทั้งเชื้อกรัมบวก และกรัมลบ หลายชนิด
รวมทั้ง Rickettsiae และ Chlamydia
Tetracyclin :1 – 2 กรัม แบ่งให้ 4 ครั้ง
Oxytetracyclin : 1 – 2 กรัม แบ่งให้ 4 ครั้ง
Doxycyclin : 100 มก. ทุก 12 ชั่วโมง
9.Macrolides
อาการไมพึงประสงค์
การแพ้ยา อาการท่ีเกิดไม่
รุนแรง มีไข้ ผื่นแดงนูน
Cholesstatic hepatitis เกิดเมื่อใช้ erythomycin estolate
ระคายเคืองทางเดินอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
เป็นยายับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
เหมาะสาหรับใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีประวัติแพ้ยา
penicillin มาก่อน
ยานี้ได้ผลดีต่อเชื้อ Mycoplasma pneumonia , H. influenzae เชื้อคอตีบ และไอกรน
ยากลุ่มนี้มีโอกาสเกิดการดื้อยาได้บ่อย และรวดเร็ว จึงควรใช้เมื่อใช้ยาอื่นไม่ได้ผล
💊Erythromycin : 1 – 4 กรัม แบ่งให้ทุก 6 ชม.
💊Roxitromycin:150 มก.1x2
10.Sulphonamide
อาการไม่พึงประสงค์
คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ และเวียน ศีรษะ
ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ทั้งกรัมบวก และกรัมลบ
Norfloxacin , Ofloxacin , Ciprofloxacin
โรคระบบทางเดินหายใจ
โรคระบบทางเดินหายท่ีต้องได้รับยาต้านจุลชีพ3ชนิด
โรคคอหอยอักเสบจากเชื้อ group A streptococci (group A streptococcal pharyngitis)ในผู้ใหญ่ถ้ามีอาการ 3 ใน 4ข้อดังนี้ ควรได้รับยาปฏิชีวนะคือ
มีไข้38 องศาเซลเซียส
ไม่ไอ
ต่อมน้ำเหลืองหน้าขากรรไกรบวมโต
ต่อมทอนซิลบวมหรือมีตุ่มหนอง
โรคไซนัสและเยื่อบุในจมูกอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
(bacterial rhinosinusitis)
โรคหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน (acute otitis media)
มีไข้มากกว่าหรือเท่ากับ 39 องศาเซลเซียส หรือ ปวดหูมาก
มีไข้น้อยกว่า 39 องศาเซลเซียส และ ปวดหูน้อย แต่อายุน้อยกว่าหรือ เท่ากับ 6 เดือน
มีไข้น้อยกว่า 39 องศาเซลเซียส และ ปวดหูน้อย แต่อายุมากกว่า 6 เดือน ร่วมกับการสังเกตอาการแล้วนาน 48-72 ชั่วโมง แต่อาการยัง ไม่ดีขึ้น
โรคระบบทางเดินหายใจท่ีไมจำเป็นต้องได้รับยาต้านจุลชีพ
โรคไซนัสและเยื่อบุในจมูกอักเสบจากเชื้อไวรัส (viral rhinosinusitis)
โรคหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน (acuteotitismedia)ในผู้ป่วยที่มีไข้ น้อยกว่า39 องศาเซลเซียส และปวดหูน้อย แต่อายุมากกวว่า 6เดือน
โรคคอหอยอักเสบจากเชื้อไวรัส (viral pharyngitis)
โรคหวัด (common cold)
ฤทธิไม่พึงประสงค์ ของยาต้านจุลชีพ
ระบบทางเดินอาหาร
เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียนระคายเคืองทางเดินอาหาร
ท้องเดิน
ระบบเลือด
โลหิตจางเนื่องจากเม็ดเลือดแดงแตก (hemolytic anemia) อาจเกิดจากปฏิกิริยาการแพ้ยา หรือเกิดจาก การขาดเอนไซม์
กดการทางานของไขกระดูก (bone marrow depression) ทำให้ลดการสร้างเม็ดเลือดชนิดต่างๆ และ เกล็ดเลือด
ตับ
ระดับเอนไซม์ aminotransferase ได้แก่ AST, ALT ในซีรั่ม
เพิ่มมากขึ้น
ยารักษาวัณโรคยิ่งมีโอกาสเป็นอันตรายต่อตับได้มาก
ระบบขับถ่ายปัสสาวะ
เกิดการเน่าตายของหลอดไตฝอย (tubular necrosis)
rifampicin ทำให้ปัสสาวะมีสีแดง
ยาตกตะกอนที่ทางเดินปัสสาวะทำให้เกิดการระคายเคือง และ อุดก้ัน ทางเดินปัสสาวะ
ระบบประสาท
มีไข้ ปวดศีรษะ ง่วงซึม วิงเวียน สับสน นอนไมหลับ กระวนกระวาย
และชัก
ระบบประสาทส่วนปลายได้แก่ isoniazid ทำให้เกิดการเสื่อมสลาย ของ axon ท่ีประสาทส่วนปลาย
chloramphenicolทาให้ประสาทตาอักเสบ
หู
cochlea จะทำให้เกิดได้ยินลดลงมีเสียงอื้อ ในหู และ หูหนวก
ซึ่งอาจเกิดถาวร หรือเกิดชั่วคราว
ส่วนยาท่ีเป็นพิษต่อ vestribule จะทำให้การทรงตัวเสียไป มีอาการวิงเวียน คลื่นไส้ และ อาเจียน
ผิวหนังและการแพ้ยา
ผิวหนังแดง คันและผื่นข้ึน พวกท่ีทำให้เกิดอาการ พิษต่อ
ผิวหนังโดยตรง ซึ่งไมเ่ก่ียวข้องกับการแพ้ยา
ตา
อาจเกิดเนื่องจากประสาทตาอักเสบ หรือทำลายจอรับภาพ (retina)
ทำให้ความคมชัดของภาพ ที่มองเห็นลดลง ตาพร่าและ
มองเห็นภาพซ้อน
กระดูกและฟัน
tetracycline รบกวนการเจริญของกระดูกและฟัน การใช้ใน เด็กท่ีมีอายุต่ากว่า 8ปี อาจทำให้ฟันแท้สีน้าตาลไหม้หรือ เหลืองและทำให้ฟันเสียได้
คำแนะนำทั่วในการใช้ยาต้านจุลชีพ
ควรรับประทานยาติดต่อกันทุกวันตามแพทย์สั่ง จนยาหมดเพื่อให้ ได้ผลในการรักษาและป้องกันอาการดื้อยา
Cefaclor , cefuroxime , cephalein , cefamandole ,cefoperazone ,metronidazole
รับประทานยาเหล่านี้แล้วห้ามดื่มเหล้า หรือเครื่อวดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทำให้มีอาการมึน งง คลื่นไส้
ยารักษาวัณโรค
🟣เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Mycobacterium tuberculosis
🟣มักติดต่อโดยการสูดเอาละอองเสมหะของผู้ป่วยที่ไอจาม หรือหายใจรดซึ่งจะ สูดเอาเชื้อวัณโรคเข้า ไปในปอดโดยตรง
🟣 การรักษาวัณโรค จึงตอ้งใชย้าแต่2ชนิดข้ึนไป
การจำแนกยารักษาวัณโรคแบ่งเป็น2กลุ่ม
1.ยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อวัณโรค
(Bactericidal activity)
ยากลุ่มนี้มีบทบาทสาคัญที่จะย่นระยะเวลาในการรักษาวัณโรคให้สั้นลง
Isoniazid
อาจให้ในผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อ meningitis
♦️อาการไม่พึงประสงค์💬
🔺Allergic reaction จะพบว่ามีไข้ ผื่นขึ้นตามผิวหนัง คนที่แพ้มากๆ
อาจมี agranulocytosis หรือ thrombocytopenia
🔺มีพิษโดยตรงต่อระบบประสาททั้งส่วนกลางและปลาย
—>มีอาการบวม ชาตามปลายมือ ประสาทตาอักเสบ
🔺 การใช้ยานี้รักษานานๆมักมีผลต่อตับ
—> ตรวจหา liverfunctiontest จะผิดปกติ มีตัวเหลือง ตาเหลือง
ขนาดและวิธีใช้
👨🏻 ผู้ใหญ่ใช้ขนาด 5-8 มก./กก
👩🏻🤝👨🏼 โดยทั่วไปใช้ขนาด300มก./วันให้ครั้งเดียว
🙅🏻♀️ ยกเว้นกรณีที่ให้ยาแบบเว้นระยะต้องให้สูงถึง 900 มก./วัน
👧🏻 ในเด็กให้ขนาด 10 – 20 มก./วัน แต่ไม่เกิน 300 มก./วัน
Rifampicin
เป็นยาที่มีฤทธิ์ฆ่า วัณโรคสูง เทียบเท่าหรือ อาจเหนือกว่า
ไอโซไนอะซิด
♦️ อาการไม่พึงประสงค์ 💬
🔺ตับอักเสบ
-พบในคนที่สูงอายุ
-คนที่ดื่มเหล้าอยุ่เป็นประจำ หรือคนที่มีโรคตับอยุ่แล้ว
-การใช้ยาร่วมกับ isoniazid
ข้อควรระวัง 🙅🏻♀️
🔺ในผู้ป่วยโรคตับ
หญิงมีครรภ์ หญิงให้นมบุตร
ขนาดและวิธีใช้
👩🏻🤝👨🏼 ในผู้ป่วยทั่วไป วันละ 600 มก.
👧🏻 เด็กให้ขนาด 10-20 มก./กก
Pyrazinamide
🔸 first choice combination regimen (สูตรผสมตัวเลือกแรก)
bactericidal (ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย)
♦️ อาการไม่พึงประสงค์ 💬
🔺 ตับอักเสบรุนแรง
—> เนื่องจากยานี้ขัดขวาง การขับกรดยูริคออกทางปัสสาวะ
—> พบว่าทำให้ระดับกรดยูริคในเลือดสูงขึ้น
—> ปวดข้อ ปวดศีรษะ แพ้แสงแดด ลมพิษ ผื่นขึ้น ตับโต
Ethambutol
ใช้ร่วมกับยาอื่น เพื่อป้องกันการดื้อยาของเชื้อ
♦️ อาการไม่พึงประสงค์ 💬
🔸Retinal damage (เกิดความเสียหายของจอประสาทตา)
🔸Optic neuritis ทาให้ตามัว มองเห็นไม่ชัด ตาบอดสี
🔸ปวดศีรษะ มึนงง สับสน ประสาทหลอน ชาตามปลาย นิ้ว
🔸เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ผื่นคัน ปวดข้อ มีไข้
ขนาดและวิธีใช้
👩🏻🤝👨🏼 ทั่วไป ขนาด 15-20 ก./กก.
การให้ยาในขนาดที่สูง
—> ใหไ้ด้ผลการรักษาที่มีขึ้น
—>ข้อเสียคือ หากลืมลดขนาดของยาจะทำให้โอกาสเกิดประสาทตา อักเสบเพิ่มมากขึ้น
Streptomycin
ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อวัณโรคในภาวะที่เป็นด่าง ซึ่งมักเป็นเชื้อที่อยู่
นอกเซลล์
bactericidal (ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย)
ขนาดและวิธีใช้
ใช้ขนาด15มก./กก. หรือ โดยทั่วไปให้ขนาด 1กรัม/วัน ฉีดครั้งเดียว
หรับผู้หญ่ที่น้ำหนักตัวตำ่กว่า 50 กก. ให้ขนาด 0.75 กรัมก็เพียงพอ ใน เด็กใช้ขนาด 20 – 30 มก./กก.
♦️ อาการไม่พึงประสงค์ 💬
👂🏻 พิษต่อหู (Ototoxicity)
ระบบควบคุมการทรงตัว (Vestibular system) มีอาการ หน้ามืด คลื่นไส้ อาเจียน
🔸 พิษต่อไต (nephrotoxicity)
🔸 พิษต่อระบบประสาท (neurotoxicity)
ชาตาม ปลายมือปลายเท้า หน้า ปวดศรีษะ อ่อนแรง ตาพร่า
Thiacetazone
-ใช้ร่วมกับไอโซไนอะซิดในการรักษาวัณโรคครั้งแรก
-.bacteriostatic
อาการไม่พึงประสงค์
🔺 conjunctivitis , vertigo
ถ้ารุนแรง erythema multiform , haemolytic anaemia ,
agranulocytosis , cerebral oedema , hepatitis
ขนาดและวิธีใช้
🔺 150 มก./วัน + INH 300 มก./วัน
Para-aminosalicylic acid,PAS
🔸ฤทธิ์ค่อนข้างอ่อน
🔸 แต่เมื่อใช้ร่วมกับไอโซไนอะซิดพบว่าให้ผลการรักษาดี 🔸bacteriostatic
♦️ อาการไม่พึ่งประสงค์ 💬
👉🏻 nausea , vomiting , เสียดแน่นท้อง ท้องดิน
ขนาดและวิธีใช้
👉🏻 ขนาดไม่น้อยกว่า 8 – 9 กรัม/วัน แบ่งให้วันละ 2 – 3 ครั้ง
.Ethionamide
-มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อวัณโรคค่อนข้างสูง
-bactericidal
♦️ อาการไม่พึงประสงค์ 💬
nausea , vomiting , vertigo
ขนาดและวิธีใช้
ขนาด 750 – 1000 มก./วัน
ขนาดยาตำ่กว่า 750 มก. ผลการรักษาจะไม่ดี
2.ยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชือวัณโรค
(Bacteriostatic activity)
▪️ Thiacetazone
▪️ Ethambutol
▪️ PAS
▪️ Cycloserine
▪️ เมื่อใช้ร่วมกับยากล่มุแรกเป็นเวลานานพอ
▪️ สามารถทำให้โรคหายขาดได้เช่นกัน
ยาอันดับแรก (Drugs of first choice)
🔸Streptomycin
🔸 Soniazid
🔸 Ethambutol
🔸 Aminosalicylicacid
🔸 Rifampicin
Anitiprotozoals
ยานี้ใช้ในโรคติดเชื้อโปรโตชัว
-โรคบิด (amediasis)
-Giardiasis
-trichomoniasis โรคพยาธิในช่องคลอด
-Toxoplasmosis
-pneumocystosisเป็นเชื้อราพบในสัตว์
Metronidazole
ฤทธิ์ไม่พึงประสงค์
▪ คลื่นไส้อาเจียน ปากแห้ง รู้สึกมีรสโลหะในปาก เบื่ออาหาร ปวด ท้อง ตับอ่อนอักเสบ
▪ ปวดหัว วิงเวียน อารมณ์แปรปรวน เดินเซ ปลายประสาทอักเสบ ชัก
▪ เกิด disulfiram-like effects เมื่อดื่มสุรา มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
ประโยชน์ทางการแพทย์
🔸Trichomoniasis
รับประทาน 250 มิลลิกรัม วันละ3ครั้ง 7วัน
ควรรักษาพร้อมกันท้งัตวัผ้ปู่วยและผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยแมจ้ะไม่มี อาการ
🔸Amebiasis
รับประทาน 250 มิลลิกรัมวันละ3ครั้งเป็น เวลา7-10วัน
🔸 Giardiasis
รับประทาน 250 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง 5-7 วัน หรือวันละ 2 กรัม เป็นเวลา 3 วัน
Antihelmintics
หนอนพยาธิ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
พยาธิตัวกลม( Nemathelminthes)
พยาธิตัวแบบ (Platyhelminthes)
หนอนพยาธิ
🪱พยาธิไส้เดือนกลม (Ascaris lumbricoides)
—> อาจทาให้เกิดลมพิษ ปวดท้องบ่อย ๆ โดยเฉพาะในเด็ก
🪱พยาธิเส้นด้ายหรือเข็มหมุด (Enterobius vermicularis)
—>ทาให้อาการคันทวารหนักเวลากลางคืน
🪱พยาธิแส้ม้า (Trichuris trichiura)
—> อาจทาให้ปวดท้อง ท้องเดิน และอุจจาระเป็นมูกเลือด
🪱พยาธิปากขอ (Necator americanus และ Ancylostoma duodenale)
—>ให้เกิดภาวะเลือดจางจากการขาดธาตุเหล็ก
🪱พยาธิแคปิลลาเรีย (Capillaria philippinensis)
—> ทำให้เกิดอาการท้องเดินเร้อื รังอาจถึงเสียชีวิต
🪱พยาธิสตรองจิย์ลอยด์ (Strongyloides stercoralis)
—>อาจทาให้เกิดอาการลมพิษ ปวดท้อง ท้องเดิน
🪱พยาธิฟิลาเรีย (Brugia malayi และ Wuchereria bancrofti)
—> ต่อมน้ำเหลือง หลอดน้ำเหลืองอักเสบ เกิดภาวะเท้าช้าง
🪱พยาธิตัวจี๊ด (Gnathostoma spinirgerum)
—>เกิดอาการบวมเคลื่อนที่และปวดจี๊ด ๆ หรือ คัน
🪱พยาธิทริคิเนลลา(Trichinellaspiralis)
—>ระยะแรกทำให้ท้องเดิน ต่อมาปวดตามกล้ามเนื้อมาก
🪱พยาธิหอยโข่ง (Angiostrongylus cantonensis)
—>ให้เกิดอาการปวดศีรษะ อาจชาและเกิดอัมพาตได้
🪱พยาธิใบไม้ (flukes)
🪱พยาธิใบไม้ลำไส้ (Fasciolopsis buski และ Echinostoma sp.)
—>ทำให้ปวดท้อง อุจจาระบ่อย
🪱 พยาธิใบไม้ตับ (Opisthorchis viverrini)
—> ให้ปวดบริเวณใต้ชายโครงขวา ตับโตและเกิดดีซ่าน
🪱 พยาธิใบไม้ปอด (Paragonimus westermani)
—> มีอาการไอเรื่อรัง มีสมหะปนเลือด
🪱 พยาธิใบไม้เลือด (Schistosomamekongi)
—> ทำให้ตับโต ม้ามโต ในที่สุดเกิดอาการตับแข็ง
🪱พยาธิตืดวัว (Taenia saginata)
—> หิวบ่อย ปวดท้อง ท้องอืด
🪱พยาธิตืดหมู (Taenia solium)
มีอาการคลายโรคพนาธิตืดวัว แตาตัวอ่อน มีตุ่มตามผิวหนัง
🪱พยาธิตืดแคระ (Hymenolepis nana)
มีจำนวนมากอาจทำ ให้ปวดท้อง ท้องเดินได้
ยาจำกัดพยาธิ(Antihelmintics)
แบ่งได้3แบบ
1.ยาออกฤทธิ์ทำลายกระบวนการป้องกันตัวของพยาธิ
-Niclosamide -Diethylcarbamazine
.ยาออกฤทธิ์ยับย้งัไม่ให้พยาธิใช้กลูโคสจาก host ให้พยาธิตาย หรือไม่สามารถอยู่ใน host ต่อไปได้
-Mebendazole -albendazole
ยาออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเน้ือพยาธิเป็นอัมพาต
-Piperazine citrate -Pyrantel pamoate
ยาขับพยาธิตัวกลมในลำไส้
1.Mebendazole
ประโยชน์ที่ใช้
🪱ยานี้มีฤทธิ์ขับพยาธิไส้เดือน พยาธิเส้นด้าย พยาธิแส้ม้าพยาธิปากขอและ พยาธิแคปิลลาเรีย ได้ผลดี
กลไกการออกฤทธิ์
ถูกกำจัดออกจากทางเดินอาหาร จนหมด หลังการรับยาประมาณ 3 วัน
ขนาดและวิธีใช้
🪱พยาธิเส้นด้าย รับประทานครั้งเดียว 100 มก.
🪱พยาธิไส้เดือน พยาธิปากขอ และ พยาธิแส้ม้า รับประทานครั้งละ 100 มก.เช้าและเย็น ติดต่อกัน 3วัน
🪱พยาธิแคปิลลาเรีย รับประทานครั้งละ 200 มก. เช้าและเย็น ติดต่อกะน 3-4 สัปดาห์
อาการไม่พึงประสงค์
👉🏻ปวดท้อง ท้องเดิน ไม่ควรใช้ในหญิงตั่งครรภ์
2.Albendazole
ประโยชน์ที่ใช้
ได้ผลดีในการรักษาโรค
พยาธสตรองจิย์ลแยด์ ด้วย
กลไกลการออฤทธิ์
👉🏻พยาธิหยุดการเคลื่อนไหว และ ตาย
👉🏻ปริมาณ glycogen ที่สะสมไว้ ลดลง
ขนาดและวิธีใช้
👉🏻ผู้ใหญ่ และ เด็กอายุเกิน2ปี
ใช้ขนาดเท่ากัน
👉🏻 พยาธิไส้เดือนกลม พยาธิ เส้นด้าย พยาธิแส้ม้า และ พยาธิปากขอ รับประทานครั้งเดียว 400 มก.
👉🏻พยาธิสตรอวจิย์ลอบด์
รับประทาน 400 มก. เช้าและเย็น ติดต่อกัน 3-7วัน และ ถ้าให้ให้ยาอีกหนึ่งชุดในเวลา 7 วัน ต่อมา
อาการไม่พึงประสงค์
-ปวดศีรษะคลื่นไส้ปวดทอ้งและท้องเดิน
-ไม่ควรใช้ในหญิงมีครรภ์
ควรระมัดระวังเป็นพอเศษในเด็กเล็ก
3.Pyrantel pamoate
ฤทธิต่อพยาธิ
ยามีฤทธิต่อ
พยาธิปากขอ ไส้เดือน
เส้นด้าย
กลไกลการออกฤทธิ์
ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Cholinesterase
ทำให้กล้ามเน้ือ พยาธิเป็นอัมพาตแบบหดเกร็ง
อาการไม่พึงประสงค์
เกิดชั่วคราว อาจมีอาการ ปวดศรีษะ วิงเวียน ไข้
ข้อควรระวัง
ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์และเด็กอายุต่ำ
กว่า 2 ขวบ
-ไม่ควรใช้ยาพร้อมกับ Piperazine เพราะมีฤทธิ์ตรงข้ามกัน
ขนาดยาและวิธีใช้
👉🏻ในการรักษาพยาธิไสเ้ดือนเส้นด้าย
รับประทาน 10 mg/kg ครั้งเดียว
👉🏻พยาธิปากขอ 20 mg/kg 2 วัน
4.Piperazine citrate
ประโยชน์ที่ใช้
ขับพยาธิไส้เดือนกลม
และ พยาธิเส้นด้าย
กลไกลการออกฤทธิ์
ทำให้พยาธิเป็นอัมพาตแบบอ่อนเปลี้ย
อาการไม่พึงประสงค์
ความรู้สึกทางประสาทสัมผัสผิดปกติ
ขนาดและวิธีใช้
🪱พยาธิไส้เดือนกลม ให้ 75มก./กก. ไม่เกิน3.5กรัม
🪱พนาธิเส้นด้าย ให้ครั้งเดียว 65 มก./กก.
5.Thiabendazole
ประโยชน์ที่ใช้
น้ีมีฤทธิขับพยาธิไส้เดือนกลม พยาธิเส้นด้าย พยาธิแส้ม้า
กลไกลการออกฤทธิ์
-มีผลต่อพยาธิตัวอ่อนและป้องกันการเจริญของไข่
-มีฤทธิ์ยับยั้ง enzyme fumarate reductase ใน mitochondria ของพยาธิ
ขนาดและวิธีใช้
🪱พยาธิสตรองจิลอยด์ รับประทานครั้งละ 2.5 mg/kg วันละ2ครั้ง 5วัน
ฤทธิ์และอาการไม่พึงประสงค์
-มึนงง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เบื่ออาหาร ท้องเดิน
-เกิดผื่นแบบ Erythema multiforme
-ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยโรคตับและโรคไต
ยาขับพยาธิตัวกลมในเนื้อเยื้อ
Diethylcarbamazine
ยาน้ีมีฤทธ์ิฆ่าไมโครฟิลาเรียของพยาธิฟิลาเรียและอาจฆ่าพยาธิตัวแก่
กลไกลการออกฤทธิ์
มีฤทธิฆ่า microfilaria ในกระแสเลือดโดยลดการทางานของกล้ามเน้ือและ
ทำให้ผิวของ microfilaria เปลี่ยนไป
ฤทธิ์ละอาารไม่พึงประสงค์
คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ
ขนาดและวิธีใช้
รับประทานวันละ 6 มก./กก. อาจให้ครั้งเดียว หรือแบ่งให้ 3 ครั้ง ทุกวัน 6-12 วัน
ยาขับพยาธิตัวตืด
1.Niclosamide
ประโยชน์ที่ใช้
มีฤทธิ์ขับพยาธิตืดวัว
พยาธิตืดหมู และ พยาธิตืดแคระ
กลไกลการออกฤทธิ์
พยาธิถูกขับออกโดยการบีบตัวของลำไส้
ข้อห้ามในการใช้
ควรงดดื่ม แอลกอฮอล์
ฤทธิ์และอาการไม่พึงประสงค์
คลื่นไส้ ปวดท้อง มึนงง
ขนาดและวิธีใช้
-รับประทานตอนเช้า และตอนท้องว่าง ครั้งเดียว
-ต้องเคี้ยวหรือบดให้ระเอียด
-ถ้า เป็นพยาธิตืดหมูควรให้ยาถ่ายตามไปด้วยในเวลา2ชม.ต่อมา
ยาขับพยาธิขับใบไม้
Praziquantel (Biltricide)
กลไกลการออกฤทธิ์
เพิ่มการซึมเข้าของ Ca2+ ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ของพยาธิ ทำให้กล้ามเนื้อ เป็น อัมพาตแบบหดเกร็ง
วิธีใช้
ไม่ควรเคี้ยว ควรกลืนทั้งเม็ดพร้อมอาหาร
อาการไม่พึงประสงค์
-เบื่ออาหาร คลื่นไส้ ปวดท้อง ท้องเดิน
-ไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ากว่า 4 ปีในหญิงมีครรภ์ในหญิงระยะให้นมบุตร
มะเกลือ (Diospyros mollis)
ประโยชน์ที่ใช้
พยาธิปากขอได้ดีมาก พยาธิไส้เดือนกลม
พยาธิแส้ม้า พยาธิเส้นด้าย พยาธิใบไม้ลำไส้ และพยาธิตัวตืด
ฤทธิและอาการไม่พึงประสงค์
-คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน
-มีพิษต่อตา ตามัว และบอดได้
ขนาดและวิธีใช้
ให้คั้นผลมะเกลือสด
นับประทานเวลาท้องว่าง
ปากหวด (Artocarpus lakoocha)
มีฤทธิ์ขับพยาธิ์ตืดวัวและตืดหมู
อาารไม่พึงประสงค์
คลื่นไส้ อาเจียน
ถ้าเป็นสารสกัดผลข้างเคียงจะน้อย
ขนาดและวิธีใช้
งดอาการเช้าและให้ผลปากหาด 3 กรัม
-สารสกัดผง 2 กรัม รับประทานกับน้ำเย็น 2 ชม ต่อมาให้รับประทานยาถ่าย