Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การบริหารจิตและเจริญปัญญา - Coggle Diagram
การบริหารจิตและเจริญปัญญา
การบริหารจิต
กสิณ 10 1.ปฐวีกสิณ 2.เตโชกสิณ 3.วาโยกสิณ 4.อากาสกสิณ 5.อาโลกสิณ 6.อาโปกสิณ 7.โลหิตกสิณ 8.นีลกสิณ 9.ปีตกสิณ 10.โอทากสิณ
อนุสสติ 10
พุทธานุสสติ
ธัมมานุสสติ
สังฆานุสสติ
สีลานุสสติ
จาคานุสสติ
เทวตานุสสติ
อุปสมานุสติ
มรณสติ
อานาปานสติ
กายคตาสติ
อัปปมัญญา พรหมวิหาร5 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
จารุปปะ
อาหารปฏิกูลสัญญา
จตุธาตุววัตถาน
มีความหมาย การฝึกพัฒนาจิตโดยมีสามธิเป็นเป้าหมาย
คุณค่าและประโยชน์ 1.เพื่อจุดมุ่งหมายหรืออุดมคติทางพระพุทธศาสนา2.เพื่อสุขภาพจิตและการพัฒนาบุคคลิกภาพ 3.เพื่อการดำรงชีวิตประจำวัน
หลักการบริหารจิตตามหลักสติปัฏฐาน 1.กายานุปัสสนา 2.เวทนานุปัสสนา 3.จิตตานุปัสสนา 4.ธัมมานุปัสนา
วิธีบริหารจิตตามหลักสติปัฏฐาน
เจริญปัญญา
โยนิโสมนสิการ หมายถึง การทำในใจโดยแยบคาย การคิดพิจารณาอย่างละเอียด ถี่ถ้วนและลึกซึ้ง หรือการคิดที่ถูกวิธี มีระเบียบ มีเหตุผล และสร้างสรรค์ มี 10 วิธี ดังนี้
วิธีคิดแบบสืบสาวเหตุปัจจัย
วิธีคิดแบบแยกแยะ ส่วนประกอบ
วิธีแบบสามัญลักษณะ
วิธีคิดแบบอริยสัจ
วิธีคิดแบบอรรถธรรมสัมพันธ์
วิธีคิดแบบเห็นคุณ – โทษและทางออก
คิดแบบคุณค่าแท้- คุณค่าเทียม รู้จักแยกแยะสิ่งดีชั่วได้อย่างมีเหตุผล
วิธีคิดแบบปลุกเร้าคุณธรรม คิดแบบปลุกเร้าคุณธรรมหรือชุดความดี
วีคิดแบบเป็นอยู่ในขณะปัจจุบัน
วิธีคิดแบบวิภัชชวาท
วิธีคิดแบบสามัญลักษณะ
วิธีคิดแบบสามัญลักษณ์ หรือ วิธีคิดแบบรู้เท่าทันธรรมดา คือมองอย่างรู้เท่าทันความเป็นอยู่เป็นไปของสิ่งทั้งหลาย ซึ่งจะต้องเป็นอย่างนั้นๆตามธรรมดาของมันเอง โดยเฉพาะก็มุ่งที่ประดาสัตว์ และสิ่งที่คนทั่วไปจะรู้เข้าใจถึงได้ ในฐานะที่มันเป็นสิ่งซึ่งเกิดจากเหตุปัจจัยต่างๆปรุงแต่งขึ้นจะต้องเป็นไป ตามเหตุปัจจัย
วิธีคิดแบบเป็นอยู่ในปัจจุบัน
วิธีคิดแบบเป็นอยู่ในขณะปัจจุบัน หรือวิธีคิดแบบมีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ ความจริงวิธีคิดแบบที่ 9 นี้ เป็นเพียงการมองอีกด้านหนึ่งของการคิดแบบอื่น ๆ จะว่าแทรกหรือคลุมวิธีคิดแบบก่อน ๆ ที่กล่าวมาแล้ว ก็ได้ แต่ที่แยกออกมาแสดงเป็นอีกข้อหนึ่งต่างหาก ก็เพราะมีแง่ที่ควรทำความเข้าใจพิเศษ และมีความสำคัญโดยลำพังตัวของมันเอง
วิธีการคิดแบบวิภัชชวาท คิดด้วยการรู้จักแยะแยะประเด็น ออกตามความเป็งจริงไม่เหมารวม
น.ส.อาจปภาดา อามาตมนตรี ม.4/12 เลขที่25