Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การกำหนดปัญหาการวิจัยและการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง - Coggle Diagram
การกำหนดปัญหาการวิจัยและการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง
ปัญหาการวิจัย
2. ลักษณะของปัญหาการวิจัยที่ดี
2.2 ปัญหาการวิจัยนั้นต้องสามารถหาคำตอบได้
2.3 ปัญหาการวิจัยควรสอดคล้องกับประสบการณ์ความสนใจและความถนัดของผู้วิจัย
2.4 เป็นปัญหาที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป
2.1 เป็นปัญหาที่มีความสำคัญและเป็นประโยชน์
2.5 เป็นปัญหาที่ไม่ซ้ำกับผู้อื่น
2.6 สามารถกำหนดระยะเวลา แรงงาน และทุนทรัพย์ในการดำเนินการล่วงหน้าได้
1. ความหมายของปัญหาการวิจัย
ปัญหาการวิจัย หมายถึงข้อขัดข้องหรือความแตกต่างระหว่างสภาพที่คาดหวังกับสภาพที่เป็นจริง
ปัญหาการวิจัย (Research problem) หมายถึงประเด็นข้อสงสัยหรือคำถามที่ผู้วิจัยต้องการดำเนินการหาคำตอบด้วยกระบวนการวิจัย
ปัญหาการวิจัยมีสาเหตุมาจากหลายประการ ดังนี้
1.1 ตัวแปรที่ใช้ทำวิจัยมีอยู่มากมาย และเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และสถานที่
1.2 ไม่มีปัญหา หรือข้อสงสัยใดที่หาคำตอบได้ครบสมบูรณ์
1.3 ความรู้ ข้อค้นพบ ทฤษฎีต่างๆ ที่สะสมไว้นั้นมีจำนวนมาก ที่ต้องการยืนยันและต้องการพิสูจน์อยู่เสมอ
3. แหล่งที่มาของปัญหาการวิจัย
3.1 จากประสบการณ์ของผู้วิจัยเป็นปัญหาที่พบจากการประกอบอาชีพ
3.2 จากทฤษฎี หรือแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ตนเองสนใจ
3.3 จากการอ่านหนังสือหรือวารสารที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย และจากบทคัดย่องานวิจัยหรือวิทยานิพนธ์
3.4 จากข้อเสนอแนะของผลงานวิจัยที่ทำมาแล้ว
4. เกณฑ์การเลือกปัญหาการวิจัย
4.2 เกณฑ์เกี่ยวกับความสามารถของผู้วิจัย
4.3 ความสนใจของตนเองเป็นหลัก
4.4 เกณฑ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจ การประหยัด และเกณฑ์เกี่ยวกับความเป็นเอกลักษณ์
4.1 เกณฑ์ที่เกี่ยวกับคุณค่าของปัญหา และเกณฑ์เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการวิจัย
5. กระบวนการวิเคราะห์ปัญหาการวิจัย
5.1 บริบทบริบทของการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน
5.2 ปัจจัยป้อนข้าวปัจจัยป้อนข้าวของการเรียนการสอน
5.3 กระบวนการกระบวนการจัดการเรียนการสอน
5.4 ผลผลิตของการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนคือคุณภาพของนักเรียน ซึ่งมีตัวชี้วัด 3 ด้านคือ พุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย
วิธีการวิเคราะห์ปัญหาเชิงระบบมีขั้นตอน ดังนี้
วิเคราะห์กระบวนการเรียนการสอน
วิเคราะห์ผลผลิตการเรียนการสอน
3 การวิเคราะห์ปัจจัยป้อนเข้า
6. การเขียนปัญหาการวิจัยมีหลักเกณฑ์ 3 ประการ ดังนี้
6.1 ปัญหาการวิจัยเขียนในลักษณะของความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร 2 ตัว หรือมากกว่า
6.2 ปัญหาการวิจัยควรเขียนในรูปประโยคคำถาม
6.3 ปัญหาการวิจัยนั้นจะต้องเขียนในรูปที่สามารถทดสอบเชิงประจักษ์
การตั้งชื่อเรื่องวิจัย
ลักษณะการศึกษาชื่อเรื่องวิจัยของระบบว่าใช้วิธีการศึกษาแบบใด
ตัวแปรที่ศึกษาชื่อเรื่องวิจัยควรระบุตัวแปรที่ทำการศึกษา
กลุ่มเป้าหมายที่ศึกษา ชื่อนักวิจัยควรระบุว่าประชากรและกลุ่มตัวอย่างหรือกลุ่มเป้าหมายว่าเป็นใคร
การเขียนวัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. หลักการเขียนวัตถุประสงค์ของการวิจัย
1.1 ต้องดูให้ชัดเจนว่าต้องการศึกษาในเรื่องใด
1.3 ใช้ภาษาที่กะทัดรัดแต่ได้ใจความชัดเจน
1.4 กรณีที่วัตถุประสงค์ของการวิจัยมีหลายข้อต้องเขียนเป็นข้อๆโดยเรียงลำดับจากวัตถุประสงค์หลักไปหาวัตถุประสงค์ย่อย
1.2 ต้องเขียนให้สอดคล้องกับปัญหาการวิจัย
2. ส่วนประกอบของวัตถุประสงค์ของการวิจัย
2.1 ลักษณะของการศึกษาเป็นการบ่งบอกว่าศึกษาในลักษณะใด
2.2 ตัวแปรผู้วิจัยจะต้องกำหนดว่าจะศึกษาเกี่ยวกับตัวแปรอะไร
2.3 กลุ่มตัวอย่างหรือกลุ่มเป้าหมายควรระบุว่ากลุ่มตัวอย่าง หรือกลุ่มเป้าหมายที่ทำการศึกษาว่าเป็นใคร
เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย
1. ความหมายของเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย
การศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย (Related literature) หมายถึง การค้นคว้าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับประเด็นหรือเรื่องที่กำลังจะทำวิจัย
เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย หมายถึง เอกสารที่เป็นแหล่งข้อมูลซึ่งได้แก่ ตำรา บทความ หรือรายงานการวิจัย
2. ประเภทของเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย
2.2 เอกสารปฐมภูมิ (primary literature) เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นๆ เช่น บทความทางวิชาการ บทความวิจัย
2.3 เอกสารทุติยภูมิ (secondary literature) เป็นสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่อชนิดอื่นๆที่ผู้แต่งได้ศึกษาผลงานวิชาการมาจำนวนหนึ่ง
2.1 เอกสารอ้างอิงทั่วไป (general references) เป็นสื่อที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเอกสารที่นักวิจัยจะใช้
3. ประโยชน์ของการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย
3.2 ช่วยกำหนดปัญหาการวิจัยให้เหมาะสมและมีคุณค่า
3.3 หลีกเลี่ยงการทำวิจัยซ้ำกับผู้อื่น
3.1 ทำให้ทราบข้อเท็จจริงทฤษฎีหลักการความรู้และข้อคิดเห็นต่างๆ
4. วัตถุประสงค์ของการค้นคว้าเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย
4.2 เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ของตัวแปรที่ศึกษา
4.1 เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดในปัญหา
4.4 เพื่อศึกษาแนวคิดทฤษฎีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวแปรที่ศึกษามาสร้างเป็นสมมติฐานการวิจัย
5. การเลือกเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย
5.1 ความรู้ในเนื้อหาในเอกสารนั้นมีความถูกต้องและมีความทันสมัยเป็นความรู้ใหม่
5.2 เอกสารนั้นได้เสนอแนวคิดอันเป็นประโยชน์ต่อผู้วิจัย
5.3 เอกสารนั้นมีหนังสืออ้างอิงพอที่จะแนะแนวทางในการศึกษาข้อมูลปัญหาของผู้วิจัย
6. การเขียนรายงานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย
6.1 การจัดรูปแบบรายงาน
ส่วนแรก
ประกอบด้วย 1)นิยาม 2)แนวคิดทฤษฎี
ส่วนที่สอง
เป็นงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 1)งานวิจัยที่ทำในประเทศ 2) งานวิจัยที่ทำในต่างประเทศ
6.2 การเขียนรายงานการเขียนจะต้องผสมผสานกลมกลืนเป็นเรื่องเดียวกัน