Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Bipolar mania with Psychosis - Coggle Diagram
Bipolar mania with Psychosis
ข้อมูลผู้ป่วย
ผู้ป่วยเพศหญิง อายุ 47 ปี
สถานภาพสมรส สมรส ระดับการศึกษา ป.6 อาชีพ กรีดยางทำนา
ภูมิลำเนา บ้านเลขที่ 72 หมู่ 7 ตำบล เซิม อำเภอ โพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
ผู้ดูแลหลัก พี่สาวและสามี
วัน Admit 14 สิงหาคม 2565 admit ครั้งที่ 1
หอผู้ป่วยภูมิจิต โรงพยาบาลหนองคาย
อาการสำคัญ (Chief Complaint)
เอะอะโวยวาย ทำลายข้าวของตนเองและข้างบ้าน โยนก้อนหินใส่คนอื่นและรถ นอนกลางถนน 7 ชั่วโมงก่อนมา
ประวัติการเจ็บป่วยปัจจุบัน (Present Illness)
14 ปีก่อนมา ผู้ป่วยทำงานที่พัทยาแล้วสามีเสียชีวิตจึงกลับมาจัดงานศพให้ที่จังหวัดหนองคาย หลังจากนั้นมีปัญหาการแย่งสมบัติกับแม่สามี ลูกชายติดสารเสพติด อาศัยอยู่กับย่าแต่มาขอเงินผู้ป่วยแล้วผู้ป่วยก็ให้เงินไปซื้อสารเสพติด ลูกสาวทำงานต่างจังหวัด ผู้ป่วยอยู่บ้านคนเดียว เริ่มมีอาการพูดคนเดียว ไม่นอน เดินวุ่นวายภายในบ้าน
10 ปีก่อนมา ผู้ป่วยพูดคนเดียว ไม่นอน ร้องไห้ไม่สมเหตุสมผล ญาติพาไปรักษาที่ โรงพยาบาลจิตเวชเลย
5 ปีก่อนมา ผู้ป่วยมารับยาต่อที่โรงพยาบาลโพนพิสัย ไปตามนัด แต่ไม่กินยา นำยาไปทิ้ง บอกตนเองหายแล้วไปตามนัดถึงปี 62
2 สัปดาห์ก่อนมา ผู้ป่วยกักตัวอยู่ในบ้านคนเดียว เดินรอบบ้าน ไม่นอน ญาตินำอาหารไปส่ง
5 วันก่อนมา ผู้ป่วยเอะอะโวยวาย โยนหินใส่คนอื่น ทำลายข้าวของ บ่นอยากผูกคอตาย ญาติจึงไม่ยุ่ง
7 ชั่วโมงก่อนมา เอะอะโวยวาย ทำลายข้าวของตนเองและข้างบ้าน โยนก้อนหินใส่คนอื่นและรถ นอนกลางถนน ญาติจึงนำส่งโรงพยาบาลโพนพิสัย แล้ว refer มาโรงพยาบาลหนองคาย
มีโรคประจำตัว Schizophrenic รักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชเลย ขาดยาล่าสุดปี 2562 ขาดยาล่าสุดปี 2562
ปฏิเสธการใช้สารเสพติด
Bipolar mania
พยาธิสภาพโรค bipolar mania
โรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว (Bipolar Disorder) เป็นโรคที่มีความผิดปกติของอารมณ์เป็นหลัก มีอาการแสดงออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มอาการแมเนีย (Mania) คือ อารมณ์ดี หรือคึกคัก สนุกสนาน และกลุ่มอาการซึมเศร้า (Depress) จึงเรียกโรคนี้ว่า โรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว (ขั้วบวก = แมเนีย และ ขั้วลบ = ซึมเศร้า)
อาการและอาการแสดง
•Mania กลุ่มอาการแมเนีย เป็นช่วงเวลาที่อารมณดี ครึกครื้น แสดงออกอย่างเต็มที่ พูดมาก พูดเร็ว พูดไม่ยอมหยุด ความคิด พรั่งพรู มีโครงการมากมายเป็นร้อยเป็นพันล้าน รู้สึกว่าตนเองเก่ง มีความสามารถมาก มีความสำคัญมาก ความมั่นใจในตนเองสูง เรี่ยวแรงเพิ่ม นอนน้อยกว่าปกติ บางรายนอนเพียงวันละ 1 – 2 ชั่วโมงเท่านั้น โดยไม่มีอาการอ่อนเพลีย สมาธิไม่ดี วอกแวก สนใจไปทุกสิ่งทุกอย่าง หุนหันพลันแล่น การตัดสินใจไม่เหมาะสม เช่น ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย ซื้อของแพง มากมายเกินจำเป็น ซื้อทีละเยอะๆ แจกคน เล่นการพนัน ก่อหนี้สินมากมาย ทำเรื่องเสี่ยงอันตราย ผิดกฎหมาย ชอบเที่ยวกลางคืน ความต้องการทางเพศสูง มีพฤติกรรมทางเพศไม่เหมาะสม บางคนหงุดหงิดก้าวร้าวได้ง่ายเมื่อถูกขัดใจ คนที่มีอาการแมเนียจะไม่รู้สึกว่าตัวเองผิดปกติ คิดว่าช่วงนี้ตนเองอารมณ์ดี สบายใจ รู้สึกขยัน อยากทำงาน มักปฏิเสธการรักษา ซึ่งอาการเกิดขึ้นตลอดเวลาเกือบทั้งวัน ติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
Depress กลุ่มอาการซึมเศร้า ในโรคไบโพลาร์เกิดขึ้นบ่อยกว่ากลุ่มอาการแมเนียเกือบ 3 เท่า โดยมีลักษณะเดียวกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า คือ อาการเบื่อหน่าย ท้อแท้ มองทุกอย่างในแง่ลบ ความสนใจหรือเพลิดเพลินใจในสิ่งต่างๆ ลดลงอย่างมาก เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง ไม่มีกำลังใจ ความจำไม่ดี สมาธิลดลง นอนไม่หลับหรือนอนมากกว่าปกติ รู้สึกผิด รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่ดี เป็นภาระ รู้สึกไร้ค่า บางรายคิดอยากตาย ซึ่งมีไม่น้อยที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย
สาเหตุการเกิดโรคพยาธิสภาพ
ปัจจัยทางชีวภาพ ได้แก่ ความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง ความผิดปกติของระบบฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกาย
ปัจจัยทางจิตสังคม เช่น การไม่สามารถปรับตัวเข้ากับความเครียด หรือปัญหาต่าง ๆ ภายในชีวิตได้ ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดความผิดปกติทางอารมณ์ขึ้นมาได้
ปัจจัยทางพันธุศาสตร์ ขณะนี้ เรายังไม่ทราบรูปแบบของการถ่ายทอดผ่านยีนที่ชัดเจนของโรคไบโพลาร์
การรักษา
รักษาโดยการใช้ยา เพื่อปรับสมดุลของสารสื่อประสาท ดังนั้นยาจึงเป็นปัจจัยหลักของการรักษา แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ยาที่ใช้รักษา ได้แก่ ยาในกลุ่มควบคุมอารมณ์ ยาต้านโรคจิตและยาต้านเศร้า ซึ่งการใช้เหล่านี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์
การวินิจฉัย
ไม่มีการตรวจพิเศษเพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรคนี้ ข้อมูลหลักในการวินิจฉัยคือ การซักประวัติ อาการ ความเป็นไปของโรค ความเจ็บป่วยทางจิตในญาติ การใช้สารเสพติดต่างๆหรือโรคประจำตัว เพราะยาบางตัวอาจมีโรคทางกาย บางโรคอาจมีอาการทางจิตเหมือนกับโรคอารมณ์สองขั้วได้ แพทย์จะนำข้อมูลร่วมไปกับการตรวจร่างกายและการตรวจสภาพจิต
Psychosis
ภาวะอาการทางจิตที่ผู้ป่วยมักมีอาการหลงผิดไปจากความเป็นจริง ประสาทหลอน หูแว่ว เห็นภาพหรือรับรู้ในสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง อาการโรคจิตหรือวิกลจริตนี้เป็นปัญหาสุขภาพจิตที่อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยภายในอย่างความผิดปกติทางจิตต่าง ๆ อาการเจ็บป่วยทางร่างกาย และปัจจัยภายนอกอย่างการใช้ยาหรือสารเสพติด
อาการและอาการแสดง
ประสาทหลอน
คือประสาทสัมผัสทั้ง 5 เปลี่ยนแปลงและผิดไปจากความเป็นจริง เช่น เห็นภาพหลอน มองเห็นสีและรูปร่างผิดแผกไป
หลงผิด คือ มีความคิดหรือความเชื่ออย่างแน่วแน่ในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง เช่น หลงผิดคิดว่าตนเองกำลังถูกปองร้ายหรือคิดว่าตนเองเป็นบุคคลวิเศษ
มีความคิดสับสนวุ่นวาย มีรูปแบบกระบวนการคิดที่ไม่เป็นลำดับ ซึ่งส่งผลให้มีอาการต่างๆ เช่น พูดไม่คิด พูดออกมาทันที พูดเร็ว
ขาดการตระหนักรู้ ผู้ป่วยโรคจิตมักไม่รับรู้ว่าอาการหลงผิดและประสาทหลอนที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความจริง
สาเหตุของโรคจิต
ปัจจัยภายใน
ความผิดปกติทางสมอง และระดับสารเคมีในสมอง
ความผิดปกติทางจิต
ความเจ็บป่วยทางร่างกาย
กรรมพันธ์
ปัจจัยภายนอก
การใช้ยาหรือการได้รับสารเคมีใด ๆ เข้าสู่ร่างกายในทางที่ผิด หรือในปริมาณที่เกินพอดี อาจส่งผลกระทบทำให้เกิดอาการโรคจิตได้ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การเสพยาเสพติดอย่างโคเคน ยาบ้า (Amphetamine) ยาไอซ์ (Methamphetamine) ยาอี (MDMA: Ecstasy) ยาเค (Ketamine) หรือกัญชา
การวินิจฉัย
การใช้ยาหรือการได้รับสารเคมีใด ๆ เข้าสู่ร่างกายในทางที่ผิด หรือในปริมาณที่เกินพอดี อาจส่งผลกระทบทำให้เกิดอาการโรคจิตได้ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การเสพยาเสพติดอย่างโคเคน ยาบ้า (Amphetamine) ยาไอซ์ (Methamphetamine) ยาอี (MDMA: Ecstasy) ยาเค (Ketamine) หรือกัญชา
การรักษา
การรักษาด้วยยา อาการโรคจิตมักรักษาควบคุมอาการได้ด้วยการใช้ยาต้านอาการทางจิต (Antipsychotics) ซึ่งเป็นยาตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น แพทย์อาจให้ยาแบบรับประทานหรือให้ผู้ป่วยมาพบเพื่อรับการฉีดยาเป็นระยะ