Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีศึกษาที่ 5 - Coggle Diagram
กรณีศึกษาที่ 5
การตั้งครรภ์ในสตรีสูงวัย (Elderly gravida)
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
มีวิธีการคุมกำเนิดที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ
มีการศึกษาสูงขึ้น มีความเจริญเติบโตในตำแหน่งหน้าที่การงาน และมีการทำงานเทียบเคียงได้กับผู้ชายทำให้แต่งงานช้า
คู่สมรสต้องการมีความมั่นคงทางการเงินก่อน จึงชะลอการมีบุตรออกไป
ความเจริญและความสำเร็จของการใช้เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทำให้สตรีที่แต่งงานเมื่ออายุมาก สามารถมีบุตรตามความต้องการได้
ผลกระทบต่อภาวะสุขภาพ
ผลต่อสตรีตั้งครรภ์
อัตราการตายของมารดาสูงขึ้น
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกช้อนต่างๆ ในขณะตั้งครรภ์ระยะคลอด และหลังคลอด
สตรีที่อายุมากมักมีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เป็นต้น ทำให้โรคดังกล่าวมีอาการมากขึ้น หรือควบคุมได้ยากขึ้น
ภาวะแทรกซ้อนเช่นเดียวกับการตั้งครรภ์แฝด
ด้านจิตใจ บางคนรู้สึกสับสนในบทบาท ปรับตัวต่อการตั้งครรภ์ได้ช้า และมี pregnancy support น้อย
ผลต่อทารก
ความพิการแต่กำเนิดของทารกโดยเฉพาะ Down's syndrome ซึ่งอัตราเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติทางโครโมโชมจะเพิ่มตามอายุของสตรีมีครรภ์
ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์
การคลอดก่อนกำหนดหรือเกินกำหนด
ทารกตัวโตและคลอดไหล่ยาก
อัตราทุพพลภาพและอัตราตายปริกำเนิดสูงขึ้น
การพยาบาล
อธิบายให้ทราบและเข้าใจถึงความเสี่ยงและภาวะแทรกช้อนของการตั้งครรภ์ รวมทั้งอธิบาย ความจำเป็นในการตรวจคัดกรอง แนวทางการดูแลรักษา ประเมินภาวะเสี่ยงหรือความผิดปกติที่อาจ พบร่วมกับการตั้งครรภ์ในสตรีที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ได้แก่
ความพิการแต่กำเนิดของทารก โดยการตรวจวินิจฉัยทารกก่อนคลอด (prenatal diagnosis) จากการทำ chorionic villus sampling, amniocentesis, cordocentesis, triple screen (alphafetoprotein, human chorionic gonadotropin, and unconjugated estriol leveis หรือ ultrasonography)
ภาวะเบาหวานร่วมกับการตั้งครรภ์ คัดกรองโดยการทำ glucose challenge test (GCT) 2.3 แนะนำการปฏิบัติตนขณะตั้งครรภ์ทั้งด้านโภชนาการ การปฏิบัติตนกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกายขณะตั้งครรภ์ และการสังเกตอาการผิดปกติที่ควรรีบมาโรงพยาบาลขณะตั้งครรภ์ เน้นให้ตระหนักถึงความสำคัญของการสังเกตการดิ้นของทารกในครรภ์
การตั้งครรภ์แฝด (Multifetal Pregnancy)
การพยาบาล
ระยะก่อนตั้งครรภ์ ค้นหาภาวะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์แฝด
ระยะตั้งครรภ์ แนะนำเรื่องการรับประทานอาหาร ดูแลให้ได้รับยาเสริมธาตุเหล็กและกรด โฟลิค ตรวจครรภ์
ระยะคลอด จัดสิ่งแวดล้อม ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง
ระยะหลังคลอด ประเมินุการทดรัดตัวของ มดลูก และปริมาณเลือดที่ออกทางช่องคลอด ตรวจร่างกายทารกอย่างละเอียด
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
สตรีตั้งครรภ์ที่มีรปูร่างใหญ่และมีภาวะ โภชนาการดีมี โอกาสเกิดการตั้งครรภ์แฝดเพิ่มขึ้น
แนวทางการวินิจฉัย
การซักประวัติ
อายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป การตั้งครรภ์หลง อาการไม่สุขสบายมากกว่าปกติ
การตรวจร่างกาย
หายใจลำบาก นอนราบไม่ได้
ตรวจครรภ์พบขนาดของมดลูก โดกว่าอายุครรภ์ตั้งแต่ใดรมาสที่สอง
รกเกาะต่ำ (Placenta previa) แบบ Low lying
placenta
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
อายุ พบว่าสตรีมีครรภ์ที่อายุเกิน 35 ปี พบภาวะรกเกาะต่ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 และสตรีมีครรภ์ที่อายุ 40 ปี พบภาวะรกเกาะต่ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 2
จำนวนครั้งของการคลอด พบว่าโอกาสเกิดรกเกาะต่ำเพิ่มขึ้นตามจำนวนครั้งของการคลอด
ความผิดปกติของหลอดเลือดที่ไปเสี้ยง deciduas ซึ่งอาจเป็นผลจากการอักเสบติดเชื้อ การขูดมดลูก การผ่าตัดเนื้องอกที่มดลูกหรือผ่าตัดทำคลอด รวมทั้งการสูบบุหรี่ของสตรีมีครรภ์
รกผิดปกติ เช่น รกใหญ่กว่าปกติซึ่งมักพบในรายที่ตั้งครรภ์แฝด รกของทารกที่มีภาวะเลือดของมารดา
การพยาบาล
ประเมินสัญญาณชีพ ความสมดุลของสารน้ำเข้า-ออกร่างกาย และอาการผิดปกติ เช่น อาการ และอาการแสดงของภาวะช็อก เป็นต้น
จัดให้นอนพักบุนเตียง
ดูแลให้ใส่ผ้าอนามัยรองชับเลือด
ดูแลให้ใส่ผ้าอนามัยรองชับเลือด
เจาะเลือดส่งตรวจหาระดับความเข้มขันของเลือด การนับเม็ดเลือด เกล็ดเลือด การหากรุ๊ปเลือด และอื่น ๆ ตามแผนการรักษา และเตรียมเลือดไว้ใช้ทดแทนกรณีมีเลือดออกมมาก
ประเมินเสียงหัวใจทารกทุก 1 ชั่วโมง และประเมินถี่ขึ้น
เตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมสำหรับการคลอดทางช่องคลอดหรือการผ่าตัดคลอด
ดูแลประดับประคองด้านจิตใจของสตรีตั้งครรภ์และครอบครัว ปลอบโยน ให้กำลังใจ รับฟังอย่างตั้งใจ ตอบคำถามด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อลดความกลัวและความวิตกกังวล
แนวทางการวินิจฉัย
การซักประวัติ
การมีเลือดออกทางช่องคลอดโดยไม่มีอาการเจ็บท้อง และไม่มีอาการนำ ลักษณะและปริมาณเลือดที่ออก และการมีเลือดออกซ้ำ
การตรวจร่างกาย
ตรวจพบเลือดสีแดงสดออกทางช่องคลอด หรือมีภาวะซีดที่ สัมพันธ์กับ ปริมาณเลือดที่ออก ตรวจครรภ์จะพบมดลูกนุ่ม กดไม่เจ็บ และอาจพบว่าส่วนนำของทารก ยังไม่เข้าสู่ช่องเชิงกราน ทารกอยู่ในท่ผิดปกติ เช่น ท่ากันหรือท่าขวาง เป็นต้น
การตรวจพิเศษ
ตรวจอัลตรัาซาวน์ ซึ่งเป็นวิธีที่ทำง่ย ปลอดภัย และถูกต้อง แม่นยำ ในการดูตำแหน่งการเกาะของรก หรือการตรวจ magnetic resonance imaging (MRI) ซึ่งบอก ตำแหน่งของรกได้ดี และจะมีประโยชน์ในการวินิจฉัย placenja accreta แต่ราคาแพงกว่าอัลตราชาวน์ มาก หรือการตรวจ double set up ซึ่งปัจจุบันไม่นิยมทำ