Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Common Skin Diseases - Coggle Diagram
Common Skin Diseases
-
-
-
-
ผิวหนังอักเสบ (Dermatitis, Eczema)
- ระยะเฉียบพลัน (acute stage)
- ผื่นแดง บวม มีตุ่มแดง ตุ่มน้ำ และน้ำเหลืองไหล
- ระยะปานกลาง (subacute stage)
- ผื่นแดงน้อยกว่าระยะเฉียบพลัน ประกอบตุ่มแดง อาจมีตุ่มน้ำเล็กน้อย มีสะเก็ดและขุย อาจมีรอยแตกเป็นร่อง
- ระยะเรื้อรัง (chronic stage)
- ผื่นมีลักษณะหนานูน มี lichenification สีแดงคล้ำหรือค่อนข้างดำ มีขุยและรอยเกา
Urticaria
ลักษณะทางคลินิก
-
-
- มักเกิดขึ้นพร้อมกันหรือทยอยเกิดขึ้นหลายแห่ง
- ผื่นมีขนาด รูปร่างแตกต่างกันได้มาก
- เกิดขึ้นกับส่วนใดของร่างกายก็ได้ เมื่อเกิดเต็มที่แล้ว จะค่อยๆยุบหายไปกลายเป็นผิวหนังปกติภายในเวลา 24 ชั่วโมง
การวินิจฉัย
- ลักษณะทางคลินิกค่อนข้างชัดเจน
- ปัญหาอยู่ที่การหาสาเหตุและการรักษามากกว่า แพทย์ควรซักประวัติเกี่ยวกับยา อาหารและสารต่างๆที่ผู้ป่วยได้รับก่อนที่จะเป็นลมพิษ
- ลมพิษที่เป็นติดต่อกันนานเกิน 6 สัปดาห์ จัดเป็นลมพิษเรื้อรัง มักหาสาเหตุไม่พบ
การรักษา
ระยะเฉียบพลัน
ยาทาภายนอก
- Calamine lotion หรือประคบความเย็นเพื่อลดอาการคัน
ยารับประทาน
- Chlorpheniramine (CPM) 4 mg 1 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง ในรายที่กินแล้วง่วงมากอาจให้ Loratadine 10 mg 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง
- ให้ยาแก้แพ้ไป 1-2 วัน แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น อาจพิจารณาให้ Prednisolone 15-30 mg ต่อวัน โดยให้ไม่ควรเกิน 1 สัปดาห์
- ในรายที่มี angioedema (มีอาการบวมบริเวณหนังตา ใบหน้า ปาก) ควรระวังปฏิกิริยา anaphylaxis และควรพิจารณาให้ Epinephrine 1:1,000 ขนาด 0.3-0.5 ml ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง และติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิด
ลมพิษเรื้อรัง
- พยายามหาสาเหตุและกำจัดสาเหตุ รายที่ไม่ทราบสาเหตุให้ควบคุมอาการโดยให้รับประทานยาในขนาดที่เหมาะสม ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยลมพิษเรื้อรังที่ไม่ทราบสาเหตุ โรคจะหายได้เองในเวลา 1 ปี
ยาเกลื้อน
ยาทาภายนอก
- Selenium sulfide ใช้ฟอกตัว ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที แล้วล้างออกโดยให้ใช้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ระวังอาจเกิดอาการแสบหรือผิวหนังลอกหากทิ้งไว้นานเกินไป
- ส่วนการป้องกันการเกิดโรคซ้ำให้ใช้ยาเดือนละ 1 ครั้งหรือใช้ zinc pyrithione Ketolytic agent เช่น Whitfield’s ointment, prooylene glycol in water 40-50% โดยการทำให้ผิวหนังชั้นนอกที่มีเชื้อราหลุดไป
- Mild fungicide เช่น sodium thiosulfate 20-30%,
precipitation sulfur ointment 3-6%
- ยาทาที่มี imidazole derivatives ผสมในรูปแบบต่างๆ เช่น bifonazole, clotrimazole, econazole, miconazole,
terbinafine, sertaconazole ใช้ทาบริเวณใบหน้าหรือข้อพับต่างๆ
-
การวินิจฉัย
- Irritant contact dermatitis
- ผื่นชนิดเฉียบพลันจะวินิจฉัยได้ง่าย เพราะผื่นเกิดขึ้นเร็ว และผู้ป่วยมักมีอาการคัน หรือแสบร้อนในทันทีที่สัมผัสกับสารต้นเหตุ
- ผื่นเรื้อรัง ต้องอาศัยประวัติที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสสารต่างๆในชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจถามลึกลงไปถึงอาชีพ งานอดิเรก และวิธีการทำงานโดยละเอียด
- Allergic contact dermatitis
- อาศัยลักษณะทางคลินิกร่วมกับประวัติการสัมผัสสารต่างๆ
- แพทย์หรือผู้รักษาต้องมีความรู้เกี่ยวกับ allergen ที่พบบ่อย
- ให้ผู้ป่วยสังเกตอาการต่อไป ถ้าหยุดสัมผัสกับสารที่ต้องสงสัยแล้วผื่นหายไป เมื่อไปสัมผัสอีกก็เกิดผื่นขึ้นใหม่ เช่นนี้ก็สรุปได้ว่าคงแพ้สารนั้นค่อนข้างแน่นอน
การรักษา
ระยะเฉียบพลัน
ยาทาภายนอก
- Burow solution 1:40 หรือ น้ำด่างทับทิม 1:4,000 หรือ น้ำเกลือ
ยารับประทาน
- ถ้าเป็นรุนแรงและบริเวณกว้างให้ Prednisolone 5 mg 2 เม็ด หลังอาหาร วันละ 3 เวลา จนกว่าผื่นจะแห้ง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วลดขนาดยาลงจนหยุด ภายใน 3 สัปดาห์
- ถ้ามีอาาการแสดงของการอักเสบติดเชื้อ เช่น มีหนอง ให้รับประทานยาปฏิชีวนะ Cloxacillin 500 mg 1 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหาร นาน 7 วัน
- ถ้ามีอาการคันให้ antihistamine เช่น Hydroxyzine 10 mg 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง Chlorpheniramine (CPM) 4 mg 1 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง ในรายที่กินแล้วง่วงมากอาจให้ Loratadine 10 mg 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง
ระยะปานกลาง เรื้อรัง
ยาทาภายนอก
ผื่นกว้างและไม่หนามาก
- Low potency steroid (เช่น Clobetasone, Fluocortolone) หรือชนิดเจือจาง (เช่น Hydrocortisone, Methylprednisolone) ทาที่เป็น วันละ 2 ครั้ง
ผื่นหนา
- Moderate (เช่น Triamcinolone) หรือ High potency steroid (Betamethasone, Beclomethasone, Flucinolone, Clobetasol) ทาที่เป็น วันละ 2 ครั้ง
-
-
ลักษณะทางคลินิก
- Irritant contact dermatitis
-
-