Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สรุปการเรียนรู้ครั้งที่ 4, นางสาวภควดี ลาวทอง เลขที่ 52 รหัสนักศึกษา…
สรุปการเรียนรู้ครั้งที่ 4
Head injury
กลไกการบาดเจ็บที่ศีรษะ
การบากเจ็บโดยตรง
ขณะที่ศีรษะอยู่นิ่ง
-การถูกยิง ถูกตี
-พยาธิสภาพที่เกิดขึ้นเฉพาะที่ หรือสมองอาจเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ขณะที่ศีรษะเคลื่อนที่
-มีความเร็วไปกระทบกับวัตถุที่อยู่นิ่งหรือกำลังเคลื่อนที่
-เกิดการบาดเจ็บ แก่สมองส่วนนั้น มักเกิดการแตกร้าวของกะโหลกศรีษะร่วมด้วย
เช่นการเกิดอุบัติเหตุ
การบาดเจ็บโดยอ้อม
การตกจากที่สูง ก้นกระแทกกับพื้นศีรษะกระแทกลงมาบนส่วนของกระดูกคอ
การเคลื่อนไหวของลำตัวอย่างรวดเร็ว ศรีษะขาดการรองรับ (ศีรษะคว่ำไปข้างหน้าหรือหงายไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว)
พยธิสรีรวิทยา
บาดเจ็บที่ศีรษะระยะแรก เป็นการบาดเจ็บที่เกิดทันทีที่มีแรงกระทบต่ออวัยวะชั้นต่าง ๆ
ทำให้เกิดอันตรายต่อหนังศีรษะ กะโหลก สมอง
บาดเจ็บที่ศีรษะระยะสอง เป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดหลังจากการบาดเจ็บที่ศีรษะระยะแรก โดยใช้ระยะเวลาเป็นนาที ชั่วโมง หรือเป็นวัน
1.Hypoxia/ischemia
2.Brain edema
3.Increase Intracranial pressure
4.Rebleeding
Significant Mass effect
-Midline shift of 5 mm or more
-Marked effacement of ventricle and / or basilar cistern
-Intracranial mass of 3 cm
in diameter or more
ในการ monitoring กลุ่ม intracraniel injury ให้ติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิดอย่างน้อย 7 วัน
1 day เลือดออกเพิ่มเติมจากการบาดเจ็บ
3 day จากภาวะสมองบวม
7 day rebleed จากภาวะ thrombolysis
ความรุนแรงของการบาดเจ็บที่ศีรษะ
บาดเจ็บศีรษะเล็กน้อย GCS 13-15 คะแนน
อาการผิดปกติที่ต้องกับมาพบแพทย์
1.ง่วงซึมมากขึ้นกว่าเดิม หรือไม่รู้สึกตัว หมดสติ
2.กระสับกระส่ายมาก พูดลำบาก หรือมีอาการชักกระตุ
3.กำลังของแขนและขาลดน้อยลงกว่าเดิม
4.ชีพจรเต้นช้ามาก หรือมีไข้สูง
5.คลื่นไส้มาก อาเจียนติดต่อกันหลายครั้ง
6.ปวดศีรษะรุนแรง โดยไม่ทุเลา
7.มีเลือดใสๆ หรือน้ำใสออกจากหู หรือลงคอ หรือออกจากหู
8.คอแข็ง
9.วิงเวียนมาก หรือมองเห็นภาพพร่า ปวดตุบๆ ในลูกตา
บาดเจ็บศีรษะปานกลาง GCS 9-12 คะแนน
บาดเจ็บศีรษะมาก GCS 3-8 คะแนน
การตรวจสอบ
แนวทางการปฏิบัติ
การดูแลพยาบาลผู้ป่วยบาดเจ็บศีรษะ และผ่าตัดสมอง
1.ติดตามดูสัญญาณชีพ
2.ติดตามดูการหายใจ และระดับ oxygen
3.เฝ้าระวังอย่าให้มี ไข้
4.ดูแล drain ทำความสะอาด record ปริมาณ fluid และประเมินสี
5.ติดตามดูอาการสัญญาณทางระบบประสาท เช่น GCS และม่านตา
6.ประเมิน motor power / sensory
7.เฝ้าระวังภาวะ aspiration เมื่อเริ่ม step diet
8.จัดหัวสูง 30 องศา
9.ให้ยาแก้ปวด ยาแก้อาเจียน ยากันชัก ยาลดสมองบวม
10.ติดตามผล lab ต่างๆ
11.ติดตามดูแลทั่วไป
12.เฝ้าระวังแผลกดทับ คอยพลิกตัวผู้ป่วย
13.ให้คำแนะนำญาติและผู้ป่วย
Urinary retension
กลุ่มที่มีอาการปวดมากอย่างรุนแรง จากการที่มีการคั่งของปัสสาวะ และสามารถบรรเทาอาการปวดด้วยการสวนปัสสาวะ
สาเหตุเกิดจาก
1.Bladder outflow obstruction
-mechanical obstruction
BPH,Tumor,stricture,stone
-dynamic obstruction
ยา,อาการปวด จนกล้ามเนื้อตึง
‘‘BPH’’
พบในผู้ชาย โยเฉพาะ 50ปีขึ้นไป
มาด้วยอาการ
nocturia,weak urinary stream,straining to void
Medication
Alpha adrenergic blockers
prasozin Doxazosin
Tamsulosin
ใส่ Foley catheter ในกลุ่ม urinary tract Retention ประมาณ 1-2 สัปดาห์ แล้วจึงพิจารณา off foley พิจารณา ส่งตรวจ PSA ในรายที่สงสัย CA Prostate
ผ่าตัดในรายที่ ‘’TURP’’
1.failure medication treatment
2.แพ้ยา ทนผลข้างเคียงของยาไม่ไหว
3.ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ บ่อยครั้งโดยเฉพาะ Upper tract
4เกิดปัสสาวะครั่งบ่อยครั้ง
การพยาบาลหลังผ่าตัด
1.ดูแลสายสวนปัสสาวะ
2.ติดตามดู hematuria
-เฝ้าระวัง ภาวะ active bleed
-เฝ้าระวังปัสสาวะคั่งจาก blood clot ไปอุด
3.ติดตามดู abdominal sign ระวัง peritonitis
4.Pain control
5.Hydration
6.Antibiotic prophylaxis
7.ให้คำแนะนำผู้ป่วยและญาติ
TURP syndrome
เกิดภาวะ hyponatremia อย่างรวดเร็วหลังการผ่าตัด เกิดได้ 15 นาที – 24 ชม.
อาการ ความดันสูง ชีพจรเต้นช้า หน้ามืด เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน
Keyword
มีการผ่าตัดใช้น้ำมากกว่า 15 ลิตร หรือผ่าตัดมากกว่า 1 ชม.
2.Neurogenic cause
เช่นกลุ่มโรคทางอายุรกรรม และระบบไขสันหลัง
โรคที่พบบ่อยๆ คือกลุ่ม neurogenic bladder
1.stroke
2.Spinal disease
3.DM
4.Multiple sclerosis
5.Parkinson disease
สาเหตุอื่นๆ
1.Post op complication จากการทำ spinal block
2.Severe pain โดยเฉพาะรอยโรค หรือการทำหัตถการต่างๆ3.Pregnancy-Associated Urinary Retention
Most = GA 16
Post-partum
Urethra injury
ประวัติ
-มีการบาดเจ็บที่อวัยวะบริเวณรอบๆ perineum area
-Fx. pelvic
-ปัสสาวะเป็นเลือด
-ปัสสาวะไม่ออกหลังเกิดการบาดเจ็บ
Sign
-Bleeding permeatus
-Hematoma or echymosis
at scrotum and perineum area
-Swelling
ตรวจร่างกาย PR จะพบ high riding prostate
รายงานแพทย์ ไม่ควรใส่ Foley เอง
Spinal injury
กลไกการบาดเจ็บ
เกิดจากการบาดเจ็บทั้งทางตรงและทางอ้อม
-ตกจากที่สูง
-อุบัติเหตุจราจร
-อุบัติเหตุในงานจากการะแทก หรือกีฬา
Neurogenic shcok
complete cord lesion
สูญเสียการทำงานทั้งหมด ทั้งระบบ motor และ sensory ถาวร
incomplete cord lesion สูญเสียอย่างใดอย่างหนึ่ง
1.Anterior cord lesion
สูญเสีย motor เป็นหลัก
2.Posterior cord lesion
สูญเสีย sensory เป็นหลัก
3.Hemi cord lesion
สูญเสีย motor ด้านตรงข้ามและสูญเสีย
sensory ด้านเดียวกับรอยโรค
Central cord lesion
อ่อนแรงแขนมากกว่าขา เป็น most common lesion
Cauda equina syndrome
มีการเสียการทำงานของขาข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งมักพบในรอยโรคที่ต่ำกว่าระดับ lumbar lesion
การประเมินความรุนแรงจากการบาดเจ็บของกระดูกสันหลัง
หลักการรักษา
1.Imobilization At scence or ER
2.Resuscitation
3.Re-evaulation ประเมิน ATLS เมื่อเข้า 2 servey
4.DDx and confirm diagnosis
5.Consult or refer to speciallist for definit Rx
การดูแลรักษาภาวะประสาทไขสันหลังบาดเจ็บเบื้องต้น
1.อย่าลืมประเมินการหายใจ ดูแลระบบทางเดินหายใจ
2.resusitationเพื่อให้ vital sign stable
Secondary survey (“Head-to-Toe” evaluation)
ประวัติที่ต้องถาม
1.ลักษณะอุบัติเหตุ
2.ระยะเวลาการเกิดเหตุ
3.ตำแหน่งที่ปวดที่คอและกระดูกสันหลัง
4.การอ่อนแรงแขนขา อาการชา ตำแหน่ง
5.โรคประจำตัวร่วม
การซักประวัติ
1.ปวดตึงต้นคอ
2.ความรู้สึกที่แขนขาลดลง
3.ปวดหลังตามแนวกึ่งกลางกระดูกสันหลัง
4.ปวดมากขึ้นเมื่อมีการขยับเคลื่อนไหวร่างกาย
5.รู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งตามลำตัวแขนขา
6.ความดันโลหิตต่ำร่วมกับชีพจรช้า
7.มีบาดเจ็บที่ใบหน้าอย่างรุนแรง
8.มีการบาดเจ็บเหนือกระดูกไหปลาร้า
9.ตกจากที่สูงมากกว่า 3 เท่าของความสูงของผู้ป่วย หรือสูงมากกว่า 6 เมตร
10.ตกจากที่สูงในแนวดิ่ง เช่น มีกระดูกส้นเท้าหักหรือก้นกระแทกพื้นหรืออุบัติเหตุขณะดำน้ำหรือว่ายน้ำ
11.กระเด็นออกนอกยานพาหนะ เช่นรถยนต์ หรือนั่งในรถยนต์โดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
12.ได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ทรวงอกและภายในช่องท้อง
13.ให้ประวัติควบคุมปัสสาวะไม่ได้ภายหลังการบาดเจ็บ
14.ได้รับบาดเจ็บจาการแขวนคอ
การตรวจร่างกาย
1.Vital sign
2.Head and Face
ดู -บาดแผลชนิดบาดแผล และรอยบวม
คลำ- บริเวณที่มีอาการปวด
การขยับ -มีอาการปวดร่วมด้วยหรือไม่ ขยับได้เองหรือไม่
3.กระดูกสันหลังส่วนคอ (cervical spine)
ดู -บาดแผลชนิดบาดแผล และรอยบวม รอยช้ำทั้งหน้าและหลังคอ
การคลำ – ในท่านอนหงาย เอามือสอดต้ำลำคอ หาตำแหน่งเจ็บ
การขยับ - ให้ผู้ป่วยทำ active motion ซ้าย-ขวา และยกคอ ห้ามหมุนคอ
หน้าอก (chest) และท้อง (abdomen)
ดู - ถ้ามีรอยช้ำที่หน้าอกและท้อง ประเมิน ร่วมกับการขยับได้ของแขนขา
กระดูกสันหลังส่วนอกและส่วนเอว
ดู –บาดแผลชนิดบาดแผล และรอยบวม รอยช้ำในท่า log roll
การคลำ -โดยกดลงบน spinous process
ตั้งแต่ thoracic ถึง sacrum
tenderness
-swelling
-Increase gap spinous process
-การยุบตัวของ column
Investigation
C-spine
ท่ามาตราฐาน
C-spine AP view
C-spine Lateral view (cross table)
Open mouth view ใช้ดู C1-2
ถ้าด่วนมาก Lateral view จะช่วยในการวินิจฉัยเป็นหลัก
Chest injury
pathophysiology
การบาดเจ็บที่ทรวงอกทำเกิดภาวะ impaired ventilation,impaired gas exchange at alveoli
and impaired circulation เป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต
1.Immediate Life-threatening chest injuries
-tension pneumothorax
-Open pneumothorax
-Flail chest
-Massive Hemothorax
-Cardiac Tamponade
2.Potential Life-threatening chest injuries
แบบที่ 1. ประเมินเบื้องต้นตาม หลัก ATLS
tension pneumothorax
อาการและอาการแสดง
-เจ็บหน้าอก
-หายใจ Air hunger
-มีภาวะ respiratory distress
-ชีพจรเต้นเร็ว
-ความดัโลหิตต่ำ
-Neck vein distention
-หน้าอกเป็น tension pneumothorax ยกสูง
การรักษา
Flail chest
Definition หัก 2 ตำแหน่งติดกัน 3 rib หรือหักน้อยกว่า แต่เกิด มีภาวะ paradoxical movement ร่วมด้วย
อาการที่พบ
หายใจเข้าออก มีอาการเจ็บ หอบเหนื่อย มีอาการตัวเขียว
Paradoxical movement of chest wall
มี เกิดความผิดปกติร่วมได้แก่
-hemothorax
-pneumothorax
-lung contusion
-subcutaneous empyema
การรักษา
-ให้ Adequate ventilation
-ให้ Oxygen
-ให้สารน้ำ resuscitation
-ให้ยาแก้ปวด
เฝ้ารวัง Respiratory Failure#
Massive Hemothorax
-ได้เลือดทันที 1,500 cc
-continuing blood loss (200cc/hr.ตลอด 2-4 hr.)
การรักษา
-ให้เลือดแทน
-ใส่ ICD เพื่อ DEcompression
-อาจจะต้องทำ Emergency Thoracotomy
Open pneumothorax
ช่องเปิดผนังหน้าอกมีขนาดประมาณ 2ใน 3 หรือมากกว่าของเส้นผ่านสูนย์กลางของหลอดลม
การรักษา
-ปิดบริเวณแผลด้วย sterile occlusive dressing : Three side technique
-ใส่ ICD
Cardiac Tamponade
Cardiogenic shock
Beck's triad
Muffle heart sound
engorged neck vein
Hypotension
Kussmaul 's sign
increase venous pressure during spontaneous inspiration
ผู้ป่วยกลุ่มนี้ ถ้าจะมี ภาวะ hypotension แต่ CVP สูง
Potential Life-threatening chest injuries
Rib fracture
ตรวจคลำพบจุดกดเจ็บ มีรอยช้ำหรือ บวมบริเวณทรวงอก
Dx. CXR Conservative Rx
-Pain control
-F/u Cxr 12-24 ชม.
-เฝ้าระวัง Hemothorax ,pneumothorax and lung contusion
ติดตามดูการหายใจและระดับ oxygen sat %
Sternal fracture
มักพบในผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุ รถยนต์
เกิดจากอกกระแทกพวกมาลัย
ตรวจโยการคลำพบ stepping หรือรอยช้ำบริเวณ Dx CXR กรณีสงสัย มีอาการบาดเจ็บอื่นร่วม พิจารณา CTกลุ่มนี้แสดงถึง severeให้เฝ้าระวัง Cardiac injury ร่วมด้วย EKG
ให้ยา pain control และเฝ้าระวัง futher injury
Simple Pneumothorax
ตรวจร่างกายพบ
-decrease breath sound
-hyperresonance on percussion
-Subcutaneous empyema
ไม่มีhypotension และ tracheal deviation
-Hypoxia ขึ้นอยู่กับปริมาณ pneumothorax
Rx ด้วย ICD และตาม F/u CXR
Simple Hemothorax
Dx CXR
Rx ICD F/u CXR
และพิจารณาให้เลือด pain control
พิจารณาผ่าตัดเมื่อเป็น
-massive hemothorax
-clotted hemothorax ( ประมาณ 1 สัปดาห์)
-empyema thoracis
นางสาวภควดี ลาวทอง เลขที่ 52
รหัสนักศึกษา 62126301054