จะเห็นได้ว่าหนี้ที่ถือว่าไม่ได้กำหนดเวลาชำระต้องหมายถึงหนี้นั้นไม่ได้กำหนดเวลาชำระโดยชัดแจ้ง และอนุมานจากพฤติการณ์ก็ไม่ได้ด้วย แต่ถ้าแม้จะมิได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ แต่สามารถอนุมานจากพฤติการณ์ได้ ก็ต้องถือว่าเป็นหนี้มีกำหนดเวลาชำระเช่นกันและจะบังคับตามนี้ไม่ได้ เช่น ยืมที่รดน้ำสังข์เพื่อไปใช้ในวันแต่งงานโดยไม่ได้ตกลงกันว่าจะคืนเมื่อไหร่ แต่ก็อนุมานจากพฤติการณ์ได้ว่าเมื่อทำการยืมไปใช้ในวันแต่งงาน ก็ต้องชำระเมื่อหลังจากงานแต่งงานเสร็จแล้ว จึงถือว่าเป็นหนี้มีกำหนดชำระ
นี่ที่จะถือว่าไม่มีกำหนดเวลาชำระและอนุมานจากพฤติการณ์ไม่ได้นั้น เช่นกู้ยืมเงินไปใช้โดยไม่ได้กำหนดวันชำระคืนไว้ (ฎีกาที่ 917 ทับ 1,539) ดังนี้ถ้าไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ และอนุมานจากพฤติการณ์ไม่ได้ ก็ถือว่าเป็นหนี้ที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้ และจะต้องบังคับตามมาตรา 203