Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
วัคซีนในเด็ก แรกเกิด ถึง 1 ปี : - Coggle Diagram
วัคซีนในเด็ก
แรกเกิด ถึง 1 ปี
:
วัคซีนหัด หัดเยอรมัน คางทูม
MMR (Measles, Mumps, Rubella)
:
ขนาดบรรจุ
ขนาดบรรจุขวดละ 1 โด้ส พร้อมด้วยน้ำยาละลาย 1 ขวด ปริมาณ 0.5 มล.
ขนาดและวิธีใช้
ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ขนาด 0.5 มล. บริเวณกึ่งกลางต้นขาด้านหน้าค่อนไปด้านนอกหรือต้นแขน
ปฎิกิริยาของวัคซีน
ปฏิกิริยาแพ้ (allergic reaction) เป็นลมพิษ หรือผื่นบวมแดงบริเวณที่ได้รับวัคซีน ซึ่งพบได้น้อย
ต่อมน้ำเหลืองโต สัมพันธ์กับการให้วัคซีนหัดเยอรมัน
ต่อมน้ำลายอักเสบ (parotitis) พบได้น้อยมาก
ผื่นคล้ายโรคหัด แต่ผื่นขึ้นน้อยกว่าพบได้ร้อยละ 5 มักปรากฏใน 7-10 วันหลังฉีดวัคซีน และปรากฎ
เพียง 1-2 วัน แล้วหายไปเอง
ไข้ พบได้ประมาณร้อยละ 5 มักเกิด 5-12 วันหลังฉีดวัคซีน และมีไข้นาน 1-2 วัน เด็กที่มีใช้สูง
อาจเกิดอาการชักได้
ข้อควรระวัง/ข้อห้าม
ห้ามฉีดในหญิงตั้งครรภ์
ห้ามฉีดในคนที่กำลังเจ็บป่วยรุนแรง หรือกำลังมีไข้
ห้ามฉีดในผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว
ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น
การฉีดวัคซีน MMR ครั้งที่สองเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันในผู้ที่ได้รับวัคซีนครั้งแรกแล้วไม่ได้ผล (ptimar failure) และยังช่วยกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันเพิ่มในกรณีที่ระดับภูมิคุ้มกันจากการฉีดครั้งแรกลดลงจนไม่สามารถป้องกันโรคได้ (secondary failure) ซึ่งกรณีหลังนี้เกิดขึ้นน้อย การให้วัคซีน 2 ครั้ง จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคหัดจนถึงในเด็กวัยเรียนและผู้ใหญ่
การศึกษาในเด็กไทยพบว่าการฉีดวัคซีนรวมหัด-คางทูม-หัตเยอรมัน เมื่ออายุ เตือนจะมีภูมิคุ้มกันต่อโรคหัดร้อยละ 85-95 ภูมิคุ้มกันต่อโรคหัดเยอรมันร้อยละ 96-99 และภูมิคุ้มกันต่อโรคคางทูมร้อยละ 63-95
การเก็บรักษาวัคซีน
วัคซีน MMR ชนิดผงแห้ง ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิ +2 ถึง +8 องศา ไม่ให้ถูกแสงสว่างตลอดเวลา ส่วนน้ำยาละลายที่ใช้ผสมก็ควรเก็บไว้ด้วยกัน ผงวัคซีนอาจแช่แข็งได้แต่น้ำยาละลายห้ามแช่แข็งเพราะน้ำยาจะขยายตัว ทำให้ขวดวัคซีนแตกได้
วัคซีนที่ผสมน้ำยาละลายแล้ว ต้องใช้ภายใน 6 ชั่วโมง และควรเก็บไว้ในตู้เย็น ให้ดูวันหมดอายุบนฉลาก
ของขวดวัคซีนนั้น
วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี JEV (Japanese encephalitis virus)
ขนาดบรรจุ
1 กล่อง บรรจุ 10 ขวด ขวดละ 0.5 มล. วัคซีน 1 กล่อง บรรจุ 10 ขวด ขวดละ 5.0 มล. (multiple dose)
ขนาดและวิธีใช้
วัคซีนเชื้อตาย
ฉีดเข้าใต้หนัง 0.5 มล. ฉีด 2 เข็มแรก ห่างกัน 1-4 สัปดาห์ และฉีดเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มที่ 2 ประมาณ 1 ปี
วัคซีนเชื้อมีชีวิตอ่อนฤทธิ์
วัคซีน CD-JE VAX 0.5 มล. ฉีดเข้าใต้หนัง 2 เข็ม ห่างกัน 3-12 เดือน ใช้ได้ตั้งแต่อายุ 9 เดือน
วัคซีน IMOJEV 0.5 มล. ฉีดเข้าใต้หนัง 1 เข็ม ในเด็กอายุตั้งแต่ 1 ปีและผู้ใหญ่แนะนำให้ฉีดกระตุ้น1-2 ปีต่อมาอีก 1 เข็ม
ข้อบ่งชี้ของการใช้
เด็กในประเทศไทยควรได้รับวัคซีนนี้ตั้งแต่อายุ 12-18 เดือน
ปฎิกิริยาของวัคซีน
วัคซีนเชื้อตาย
หลังจากฉีดอาจมีอาการปวดบริเวณที่ฉีด
มีไข้ส่วนใหญ่เกิดในเข็มแรกภายใน 1-2 วัน
วัคซีนเชื้อมีชีวิตอ่อนฤทธิ์
วัคซีน CD-JE VAXหลังจากฉีดอาจมีอาการแดง บวม หรือเจ็บบริเวณที่ฉีดอาจมีอาการไข้ อาเจียน ปวดกล้ามเนื้อ ผื่นตามตัว
ในเด็กมีอาการเจ็บ แดง บวมบริเวณที่ฉีด อาจมีไข้ งอแง เบื่ออาหาร อาเจียน ง่วงซึม
ข้อควรระวัง/ข้อห้าม
ผู้ป่วยที่มีไข้สูงหรือภาวะเจ็บป่วยเฉียบพลัน
หญิงตั้งครรภ์
กรณีผู้ป่วยเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ ตับ ไต ซึ่งอยู่ในระยะรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อนภายใน 1 ปี
ห้ามฉีดวัคซีนเชื้อมีชีวิตอ่อนฤทธิ์ในผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกับกพร่อง
ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น
วัคซีนเชื้อตาย
วัคชีน JEVAC ทำให้ภูมิคุ้มกันเกิดขึ้ร้อยละ 90 หลังฉีดเข็มที่ 2 ได้ 1 เดือน
วัคซีนเชื้อมีชีวิตอ่อนฤทธิ์
วัคชีน CD-JE VAX หลังฉีดเข็มแรกมีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นร้อยละ 89.3 และร้อยละ 95 ที่ 30 วันและที่ 90 วันตามลำดับ หลังฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นร้อยละ 100 (ในคนที่ยังไม่เกิดภูมิคุ้มกันในเข็มแรก)
ในเด็ก 1 ปีหลังฉีดวัคชีนยังคงมีภูมิคุ้มกันร้อยละ 84 จะเห็นได้ว่าภูมิคุ้มกันในเด็กลดลงเร็ว จึงแนะนำให้ฉีดกระตุ้นในเด็กอีก 1 เข็ม หลังฉีดวัคชีนเข็มแรก 1-2 ปี เพื่อให้ภูมิคุ้มกันขึ้นสูงและสามารถป้องกันโรคได้ เป็นเวลานาน
การเก็บรักษาวัคซีน
วัคชีนไข้สมองอักเสบเจอีทุกชนิดต้องเก็บที่อุณหภูมิ +2 ถึง +8 องศาเซลเซียส โดยมีอายุประมาณ 1-3 ปี หลังจากผลิตขึ้นอยู่กับชนิดของวัคชีน การหมดอายุให้ดูฉลากบนภาชนะบรรจุวัคชีนนั้น
วัคซีนโรต้า (Rota virus vaccine)
การเก็บรักษาวัคซีน
เก็บวัคซีนโรต้าในตู้เย็นที่อุณหภูมิ +2 ถึง +8 องศาเซลเซียส ห้ามเก็บในช่องแช่แข็ง ควรเก็บวัคซีนไว้ในกล่องเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกแสง
ข้อควรระวัง/ข้อห้าม
ห้ามให้ในเด็กที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องชนิด severe combined immunodeficiency (SCID) syndrome
ห้ามให้วัคซีนโรต้าในเด็กที่มีอายุเกินกว่าที่กำหนด (โด๊สแรกห้ามอายุเกิน 15 สัปดาห์ โด๊สสุดท้ายห้ามอายุเกิน 32 สัปดาห์)
ควรเลื่อนการให้วัคซีนโรต้าออกไปหากมีไข้สูงรุนแรงเฉียบพลัน แต่หากมีการติดเชื้อ เล็กน้อย เช่น เป็นหวัด ไม่จำเป็นต้องเลื่อนการให้วัคซีนออกไป
หากเด็กมีอาการท้องเสียหรืออาเจียนควรเลื่อนการให้วัคซีนออกไป
หลังจากได้รับวัคซีนแล้ว อาจมีเชื้อไวรัสในวัคซีนขับถ่ายออกมาจากอุจจาระได้หลายวัน
ข้อบ่งชี้ของการใช้
ใช้หยอดทางปาก
ขนาดบรรจุ
วัคซีนบรรจุอยู่ในหลอดบีบพลาสติกและมีฝาชนิดบิดที่สามารถให้หยอดปากได้โดยตรง โดยหลอดยาจะอยู่ในซอง ขนาดบรรจุหลอดละ 1 โด๊ส (single dose)
ขนาดและวิธีใช้
Rotarix
ครั้งที่ 1 อายุ 2 เดือน
ครั้งที่ 2 อายุ 4 เดือน
Rotateq
ครั้งที่ 1 อายุ 2 เดือน
ครั้งที่ 2 อายุ 4 เดือน
ครั้งที่ 3 อายุ 6 เดือน
ให้โดยการรับประทาน ขนาดที่ใช้ single dose ครั้งละ 1 หลอด (1.5 มล.)
ปฎิกิริยาของวัคซีน
ส่วนใหญ่ไม่มีปฏิกิริยาต่อวัคซีน อาการข้างเคียงจากวัคซีนพบได้บ้างโดยส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง ได้แก่ ไข้เบื่ออาหาร อุจจาระร่วง อาเจียน งอแง
ในการศึกษาทางคลินิกพบว่า การเกิดลําไส้กลืนกัน (intussusception) ในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนไม่ได้เพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน
ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น
วัคซีนทั้ง 2 ชนิดไม่แตกต่างกัน เพราะมีประสิทธิภาพป้องกันการเกิดโรคอย่างรุนแรงได้ร้อยละ 85-98 และสามารถป้องกันการเกิดโรคทุกขนาดความรุนแรงได้