Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน้าที่ในการชำระหนี้ - Coggle Diagram
หน้าที่ในการชำระหนี้
-
การกำหนดเวลาชำระหนี้
-
หนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระ
หนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระหนี้ อาจเป็นหนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระไว้โดยชัดแจ้งแล้ว เช่นกำหนดตามวันปฏิทินหรือกำหนดตามข้อเท็จจริง เช่นยืมเสื้อครุยเพื่อไปรับปริญญาจะส่งคืนเมื่อรับปริญญาเสร็จถือเป็นการกำหนดโดยชัดแจ้งคือมีการตกลงกันระหว่างคู่กรณีที่ก่อให้หนี้ขึ้นก็ได้
กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้แต่เป็นที่สงสัย มาตรา 203 วรรคสอง บัญญัติว่า “ถ้าได้กำหนดเวลาให้แต่หากกรณีเป็นที่สงสัยท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเจ้าหนี้จะเรียกให้ชำระหนี้ก่อนถึงเวลานั้นหาได้ไม่ แต่ฝ่ายลูกหนี้จะชำระหนี้ก่อนกำหนดนั้นก็ได้” ตัวอย่าง นายดำยืมชุดรดน้ำสังข์ของนายแดงเพื่อไปใช้ในงานแต่งของลูกสาวตน แต่บังเอิญงานแต่งต้องเลื่อนไป ฉะนั้นนายแดงจึงไม่อาจเรียกร้องชุดรดน้ำสังข์คืนก่อนงานแต่งได้ แต่ถึงอย่างไรก็ดีนายดำอาจคืนชุดรดน้ำสังข์ก่อนแต่งงานก็ได้
กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ไม่เป็นที่สงสัย
1.กำหนดเวลาชำระหนี้ตามวันแห่งปฏิทิน
ตัวอย่าง กำหนดชำระหนี้ในวันที่ 10 สิงหาคมกำหนดชำระหนี้ในวันสงกรานต์ เป็นต้น หรือกรณีที่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนชำระหนี้ตัวอย่าง ตกลงซื้อโคกันจำนวน 30 ตัวกำหนดการส่งมอบโคโดยกำหนดว่าถ้าผู้ขายพร้อมจะส่งมอบต้องแจ้งให้ผู้ซื้อทราบล่วงหน้า 30 วัน ดังนั้นกำหนดชำระหนี้จะถึงกำหนดก็ต้องมีการแจ้งคือบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนและเริ่มนับเวลา 30 วันนับแต่วันบอกกล่าวเป็นต้น
2.กำหนดเวลาชำระหนี้มิใช่ตามวันแห่งปฏิทิน
ตัวอย่าง ยืมเงินไปและกำหนดว่าจะใช้คืนเมื่อขายข้าวได้แล้ว หรือยืมเรือไปใช้กำหนดจะส่งคืนเมื่อสิ้นฤดูน้ำเป็นต้น กำหนดเวลาชำระหนี้นี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ เช่นเดิมกำหนดชำระหนี้ไว้ตามวันแห่งปฏิทินเมื่อถึงกำหนดนั้นไม่มีการชำระหนี้ขึ้น ด้วยเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งที่ไม่ใช่ความผิดของลูกหนี้ก็อาจจะทำให้หนี้นั้นกลายเป็นหนี้ที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระไปได้
การผิดนัดไม่ชำระหนี้
การผิดนัด
ลูกหนี้ผิดนัดโดยต้องเตือนก่อนมี 2 กรณีคือ
-หนี้ที่กำหนดเวลาชำระหนี้มิใช่ตามวันแห่งปฏิทิน เจ้าหนี้ต้องให้คำเตือนลูกหนี้ก่อนเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระตามที่เจ้าหนี้เตือนลูกหนี้จึงจะผิดนัด แหม้หนี้จะถึงกำหนดชำระแล้วลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้แต่หากเจ้าหนี้ยังไม่เตือนลูกหนี้ก็ยังถือว่าไม่ผิดนัด และการเตือนให้ลูกหนี้ชำระหนี้นั้นต้องเป็นการเตือนเมื่อหนี้ถึงกำหนดชำระแล้ว ตัวอย่าง ยืมค้อนตีตะปูไปสร้างบ้านแต่ผู้ให้ยืมมาทวงของคืนทั้งที่สร้างบ้านยังไม่เสร็จแม้ผู้ยืมจะไม่ยอมส่งคืนก็ไม่ถือว่าผิดนัด
-หนี้ที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระ หากไม่มีการเตือนจากเจ้าหนี้ ลูกหนี้ก็ยังไม่มีหน้าที่ชำระหนี้และยังไม่ผิดนัด
ลูกหนี้ผิดนัดโดยเจ้าหนี้ไม่ต้องเตือนมี 2ประเภทคือ
-หนี้ที่กำหนดชำระตามวันแห่งปฏิทิน หากลูกหนี้ไม่ชำระตามวันเวลาแห่งปฏิทินถือว่าผิดนัดทันทีโดยไม่ต้องเตือน แม้จะกำหนดชำระหนี้ไว้ตามเวลาแห่งปฏิทินแต่ถ้าไม่ถือเอาเวลาที่กำหนดเป็นข้อสำคัญอีกแล้วเจ้าหนี้ต้องเตือนถึงจะผิดนัด หนี้ที่มีกฎหมายกำหนดเวลาชำระไว้ชัดเจนแล้วถ้าไม่ชำระก็ผิดนัดทันทีไม่ต้องเตือน แม้หนี้จะกำหนดชำระเป็นงวดๆ แต่หากผิดนัดงวดใดถือว่าผิดนัดทั้งหมด ตัวอย่าง แดงทำสัญญากู้ยืมเงินจากดำจำนวน 1000 บาทและในสัญญาระบุว่าจะชำระในวันที่1 สิงหาคม เมื่อถึงเวลาแล้วแดงไม่ชำระในวันที่ 1 สิงหาคมก็ถือว่าแดงผิดนัด โดยที่ดำไม่ต้องเตือน
-หนี้ละเมิด หนี้ละเมิดนั้นลูกหนี้ผิดนัดมาแต่เวลาที่ทำละเมิด ผู้ที่ต้องร่วมรับผิดตามกฏหมายในมูลละเมิดก็ต้องร่วมรับผิดในดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันผิดนัด คือนับตั้งแต่กระทำละเมิดด้วย ตัวอย่าง นายจ้างตัวการบิดามารดาผู้เยาครูบาอาจารย์ผู้รับดูแลคนไร้ความสามารถบุคคลเหล่านี้ก็ต้องรับผิดในหนี้ละเมิดก็ต้องรับผิดในดอกเบี้ยนับแต่วันกระทำละเมิดด้วย
กำหนดชำระหนี้กับการผิดนัด
-กำหนดเวลาชำระหนี้นั้นเป็นกำหนดที่ลูกหนี้จะต้องชำระหนี้ แต่การผิดนัดเป็นผลของการไม่ชำระหนี้ตามกำหนดประกอบกับเงื่อนไขบางประการของกฎหมาย
-กำหนดเวลาชำระหนี้เป็นกำหนดที่เจ้าหนี้สามารถเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้และ เป็นองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งของการผิดนัด
-การผิดนัดนั้นแม้จะถึงกำหนดเวลาชำระหนี้และมีเงื่อนไขอื่นที่อาจทำให้ลูกหนี้ผิดนัด เช่นการเตือนของเจ้าหนี้แล้วก็ตาม หากการที่ไม่ชำระหนี้นั้นมีเหตุที่ลูกหนี้จะอ้างได้ว่าไม่ใช่ความผิดของตนแต่เกิดจากพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบแล้ว ก็ถือว่าลูกหนี้ผิดไม่ผิดนัดคือตราบใดที่ลูกหนี้ยังไม่มีข้ออ้างที่เป็นที่ยอมรับของกฎหมายแล้วรูปนี้ก็ยังไม่ผิดนัดแม้จะถึงกำหนดชำระหนี้แล้วแหละเจ้าหนี้เตือนลูกหนี้แล้วก็ตาม
กรณีที่ไม่ถือว่าลูกหนี้ผิดนัด
-เป็นเหตุที่เกิดจากเจ้าหนี้เอง ได้แก่กรณีเจ้าหนี้ผิดนัด และกรณีที่เจ้าหนี้ต้องรับผิดด้วยเหตุอื่นอีกการที่เจ้าหนี้ผิดนั้นเพราะไม่รับชำระหนี้ตามมาตรา 207 หรือเพราะไม่เสนอชำระหนี้ตอบแทนเมื่อตนมีหน้าที่ต้องชำระหนี้ตอบแทนตามมาตรา 210 จากนี้ก็ยังมีพฤติการณ์ที่เจ้าหนี้ต้องรับผิดชอบโดยอาจเกิดจากเจ้าหนี้เอง หรือมีส่วนด้วยก็ได้ ตัวอย่างผู้ให้เช่าไม่ไปเก็บค่าเช่าจากผู้เช่าตลอดมาเป็นเวลา 10 ปี ผู้ให้เช่าจะหาว่าผู้เช่าผิดนัดไม่ได้
-เหตุเกิดจากบุคคลภายนอก เป็นพฤติการณ์ที่โทษลูกหนี้ไม่ได้เพราะเป็นเหตุเกิดจากบุคคลภายนอกซึ่งเป็นเรื่องนอกอำนาจของลูกหนี้ที่จะป้องกันได้ ตัวอย่างลูกหนี้ส่งน้ำตาลแก่ผู้ซื้อตามกำหนด เวลาต่อมารัฐบาลได้ห้ามส่งน้ำตาลออกไปต่างประเทศซึ่งเป็นเวลาก่อนถึงวันที่ลูกหนี้กำหนดส่ง จึงเป็นเหตุสุดวิสัยที่จะมาอ้างทำให้ลูกหนี้ไม่ผิดนัด
-เกิดจากภัยธรรมชาติก็ถือว่าเป็นพฤติการณ์ที่ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบเช่นกัน ตัวอย่างลูกหนี้ตกลงกับเจ้าหนี้ว่าจัดส่งข้าวให้ในวันพรุ่งนี้ แต่บังเอิญตอนเย็นเกิดฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมข้าว ทำให้ลูกหนี้ไม่สามารถส่งข้าวให้เจ้าหนี้ได้เช่นนี้จึงถือว่าเกิดจากภัยธรรมชาติลูกหนี้ไม่ผิดนัด
ผลของการผิดนัดของลูกหนี้
ลูกหนี้ต้องรับผิดในความเสียหายอันเกิดแต่การผิดนัด [เกิดความเสียหายแก่เจ้าหนี้]
-มาตรา 215 เจ้าหนี้อาจเรียกค่าสินไหมทดแทน รวมการชำระหนี้ล่าช้าจนทำให้เจ้าหนี้เสียหาย ตัวอย่างทำสัญญาสร้างบ้านตกลงว่าจะสร้างเสร็จในหกเดือนแต่สร้างไม่เสร็จล่าช้าไป ทำให้ผู้ว่าจ้างต้องเสียค่าชาวบ้านในระหว่างนั้น
-ค่าสินไหมทดแทน เกิดขึ้นจากการผิดนัดโดยตรงและความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นจากการชำระหนี้ปกติ
เจ้าหนี้ไม่อาจรับชำระหนี้ [เจ้าหนี้มีสิทธิ์ปฏิเสธไม่ชำระหนี้] โดยที่กำหนดเวลาเป็นสาระสำคัญ
-มาตรา 216 เวลาผ่านไปลูกหนี้ไม่ชำระหนี้เจ้าหนี้ตอบปฏิเสธไม่รับชำระ หรือเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนได้เพราะหนี้ถือเป็นอันไร้ประโยชน์แล้ว ตัวอย่าง การตัดชุดเจ้าสาวเพื่อนใส่ในวันสมรสแต่ส่งมอบชุดหลังจากงานสมรสผ่านไปแล้ว = ไม่เกิดประโยชน์เเก่เจ้าหนี้ เจ้าหนี้จะปฏิเสธไม่รับชำระและเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนได้
-มาตรา 388 เป็นสิทธิ์ในการบอกเลิกสัญญา โดยที่เวลาเป็นสาระสำคัญให้สิทธิแก่เจ้าหนี้เลิกสัญญาได้
-มาตรา 387 กรณีเวลาไม่ใช่สาระสำคัญ เช่นถ้าเจ้าหนี้บอกกล่าวลูกหนี้ว่าขยายระยะเวลาส่งมอบให้ แต่ถ้าลูกหนี้ไม่ส่งมอบ=บอกเลิกสัญญาได้
ลูกหนี้ต้องรับผิดในความเสียหายอันเกิดขึ้นระหว่างผิดนัดเพิ่มขึ้น
-มาตรา 217 เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างผิดนัดเท่านั้น มิใช่เป็นเหตุโดยตรงมาจากการผิดนัด
-โดยที่ลูกหนี้ต้องผิดนัดก่อน เพราะหากลูกหนี้ชำระตามกำหนดความเสียหายก็คงไม่เกิดและเกิดความเสียหายด้วยความประมาทเลินเล่อและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างผิดนัด ตัวอย่าง ดำยืมรถแดงจะส่งคืนในวันที่ 31 สิงหาคมปรากฏว่า ดำไม่คืนรถกรณีแรกถ้าความเสียหายเกิดขึ้นทำให้แดงต้องไปเช่ารถมาใช้= มาตร 215 กรณีสอง หลังจหลังจากที่ผิดนัดดำขับรถทำให้เกิดความเสียหายความเสียหายเพิ่มขึ้น=มาตรา 217
-กรณีลูกหนี้ประมาทเลินเล่อก่อนที่จะผิดนัด การประมาท=การระมัดระวังตามหน้าที่ของตนที่ต้องใช้ความระมัดระวังแต่หน้าที่ที่ต้องระมัดระวังมีหลายระดับ ตัวอย่าง การรักการรับฝากทรัพย์ มาตรา 659 วรรคหนึ่ง การฝากทรัพย์โดยไม่มีบำเหน็จ=การรักษาทรัพย์เหมือนทรัพย์ของตัวเองมาตรา 659 วรรคสอง [มีบำเหน็จ] ต้องรักษาทรัพย์เช่นวิญญูชน มาตรา 659 วรรคสาม [มีบำเหน็จ] ต้องรักษาทรัพย์มากกว่าวิญญูชน เช่นร้านฝากรถเป็นต้น
-อุบัติเหตุใน มาตรา 217 รวมถึงเหตุสุดวิสัยแต่ไม่รวมถึงเหตุสุดวิสัยที่เกิดตามธรรมชาติและต้องเป็นเรื่องเฉพาะที่เกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากการกระทำของคนนั้น
-ข้อแก้ตัวในตอนท้าย แก้ตัวได้ความเสียหายต้องเกิดจากอุบัติเหตุเท่านั้นและต้องไม่เกิดจากการกระทำจากตัวลูกหนี้
-ถ้าพิสูจน์ได้ว่ากรณีนี้จะเกิดขึ้น แม้ตนได้ชำระหนี้ให้ไปอยู่ในครอบครองของเจ้าหนี้=ไม่ต้องรับผิดในความเสียหาย [ยังไม่ผิดนัด] และต้องเป็นการพ้นวิสัยเพราะอุบัติเหตุเท่านั้น ประมาทอ้างไม่ได้