Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Case กรณีศึกษา เตียง ICU 1 Bacterial Meningitis…

- - - - 1 ประเมินอาการเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาท ได้แก่ ระตับความรู้สึกตัว ขนาดรูม่านตา การตอบสนองต่อแสง ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
      - 4 สังเกตอาการแสดงของการมีความดันในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้น เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ซึมลง หายใจช้าลง หัวใจเต้นช้าลง ความดันโลหิตสูงขึ้น pulse pressure กว้าง รูม่านตาขยาย
      - 5 จัดท่านอนศีรษะสูงประมาณ 30 องศา เพื่อรักษาแนวศีรษะและลำตัวให้อยู่ในแนวปกติของร่างกายให้ลำคอตั้งตรงไม่หักพับกดเส้นเลือด carotid artery หลีกเลี่ยงการงอข้อสะโพกเนื่องจากขัดขวางการไหลเวียนกลับของเลือดดำ
      - 13 แนะนำผู้ป่วยไม่ให้ไอหรือจามแรง ๆ หรือกลั้นหายใจหรือเบ่ง เนื่องจากทำให้ความดันในกะโหลกศีรษะสูงขึ้น
      - 14 ดูแลจัดสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ผู้ป่วยพักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่รบกวนผู้ป่วยเกินความจำเป็น ให้การพยาบาลด้วยความนุ่มนวล
      - 6 ดูแลการได้รับยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะ หรือยาต้านเชื้อวัณโรค และเชื้อราและลดอาการสมองบวม
      - 8 ดูแลหากมีไข้ควรเช็ดตัวลดไข้ และให้ยาลดไข้ เช่น paracetamol
      - 11 ดูแลบรรเทาอาการปวดโดยใช้การประคบเย็น และให้ยาบรรเทาอาการปวดตามแผนการรักษาของแพทย์
      - 15 ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยเฉพาะการกรวดน้ำไขสันหลัง
      - 2 ประเมินภาวะปวดโดยใช้ pain score ทุก 4 ชั่วโมงเพื่อวางแผนการพยาบาล
      - 3 บักทึกสัญญาณชีพทุก4 ชั่วโมง โดยเฉพาะ BP,P,RR เพื่อประเมินอาการและอาการแสดงของอาการปวดและประเมินการเพิ่มของความดันโลหิตซิสโตลิกพร้อมกับการลดความดันโลหิตไดแอสโตลิกซึ่งเป็นสัญญาณของภาวะความดันในกระโหลกศีรษะสูง
      - 7 ดูแลให้ได้รับยา valium เพื่อควบคุมอาการชักที่เกิดจากความดันในกระโหลกศีรษะที่เพิ่มขึ้น
      - 9 ตรวจสอบก๊าซในเลือดแดงและความอิ่มตัวของออกซิเจนเพื่อประเมินภาวะขาดออกซิเจน
      - 10 ดูแลให้ได้รับออกซิเจนเพื่อลดภาวะขาดออกซิเจนซึ่งเพิ่มสามารถเพิ่มปริมาณเลือดส่งเสริมการขยายตัวของหลอดเลือดในสมอง
      - 12 สอนเทคนิคการเบายงเบนความสนใจต่างๆ เช่น การสูดหายใจเข้า-ออกลึกๆ การทำสมาธิ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและบรรเทาอาการปวดษะสูง
    - - ผู้ป่วยปวดศีรษะ pain score=10คะแนน อาเจียนพุ้ง ผลตรวจ SP พบ CSF ขุ่น
  - - - 2 ประเมินและบันทึกสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินความผิดปกติและรายงานแพทย์
      - 4 ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง เช่น ดูดเสมหะตรามความจำเป็น เพื่อให้ผู้ป่วยหายใจได้สะดวก
      - 5 ดูแลให้ออกซิเจนตามแผนการรักษา
      - 3 จัดท่านอนให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง 15-30 องศา เพื่อเพิ่มการไหลกลับของเลือดจากสมองสู่หัวใจ
      - 1 ประเมินการหายใจและภาวะขาดออกซิเจน เช่น ปลายมือปลายเท้าและริมฝีปากเขียว ปีกจมูกบาน
      - ประเมิน low cadiac output ได้แก่ neuro's signs, record urine output ประเมินการทำงานของไต capilary refill time และชีพจรส่วนปลาย
    - - ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว GCS=E1M1VT pupil 4 min Fix, on ventilator, ฟังเสียงปอดได้ยินเสียง crepitasion, BP drop
  - - - 2.เก็บสิ่งส่งตรวจค้นหาสาเหตุและชนิดเชื้อ เช่น CBC H/C LP เป็นต้น
      - 3.ลดการแพร่ระบาดเชื้อ เช่น ล้างมือก่อนและหลังทําหัตถการการส่งตรวจเพาะเชื้อ
      - 1 ประเมินอาการและอาการแสดงภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดเช่น มีไข้ ซึมลง หรือสับสน หายใจเร็ว ร่วมกับความดันต่ำกว่า 60/90 mmHg
      - 4 ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะเพื่ออลดการติดเชื้อ Ceftriaxone 2 g in 0.9% NSS100 ml ตามแผนการรักษาพร้อมสังเกตอาการแพ้ยา
      - 5 ดูแลให้ได้รับยาเพิ่ม ความดันโลหติ Dopamine IV drip ,Keep BP >90/60mmHg
      - 11 ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการต่าง ๆ เช่น CBC Neutrophil และการตรวจน้ำไขสันหลัง เพื่อประเมินภาวะติดเชื้อ
      - 7 ดูแลผู้ป่วยให้มีความสมดุลของน้ำและอิเล็กโตรไลท์คือ KCL
      - 6 ดูแลให้ได้รับออกซิเจน Ventilator A/C modeตามแผนการรักษาเพื่อป้องกันเนื้อเยื่อและสมองขาดออกซิเจน
      - 8 ดูแลให้ได้รับสารน้ำ 0.9%NSS1000ml IV เพื่อทดแทนสารน้ำที่สูญเสียไป
      - 10 บันทึกปริมาณจํานวนน้ำเข้า-ออก ทุก 4 ชั่วโมงเพื่อประเมินการทํางานของไต
      - 9 วัดและบันทึกสัญญาณชีพอาการและอาการแสดง ทุก 15นาที 4 ครั้ง 30 นาที 2 ครั้ง และ1 ชั่วโมงจนกว่าจะคงที
    - - มีไข้ T=38-39.5 องศา, BP drop 70/43mmHg, WBC=28500 cell Neu=84%, ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบ LP พบ CHF ขุ่น Protein=261.2 mg/dl sugar=0mg%, Gram stain=positive
  - - - ผู้ป่วยมีอาการซึมลง มีอาการอ่อนเพลีย ระดับความรู้สึกตัวลดลง GCS E1VTM1 pupil 4 min Fix EKG show Bradycardiac 40-50bpm c]tEKG show Asystole หายใจตามเครื่อง BP 73/43 mmHg CVP=6-8 cmH2O
    - - 1 ติดตามวัดสัญญาณชีพและสังเกตอาการของภาวะช็อกทุก15 นาที พร้อมติดตามผล EKG เพื่ออติดตามความเปลี่ยนแปลงของร่างกายและวางแผนการพยาบาลที่เหมาะสม
      - 2 ดูแลให้ได้รับยากระตุ้นความดันโลหิต และสารน้ำตามแผนการรักษา คือ ยา Dopamine [2:1] vein drip40 mcg/kg/min และสารน้ำ 0.9% NSS 1000ml IV 1000 ml in 20min เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยายากระตุ้นระดับความดันโลหิต และสาน้ำตามแผนการรักษา
      - 3 ติดตามประเมินระดับความรู้สึกตัวของผู้ป่วยทุก 30 นาที 1 ชั่วโมง ตามความเหมาะสมโดยใช้หลัก Glasgow coma scale เพื่อประเมินอาการที่บ่งบอกถึงความรุนแรงของอาการผู้ป่วยและวางแผนการพยาบาลที่เหมาะสม
      - 4 ติดตามประเมินความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขนขาที่บ่งบอกถึงความรุนแรงจากภาวะช็อกโดยใช้หลัก motor power เพื่อประเมินระดับความรุนแรงของอาการและวางแผนการพยาบาลอย่างทันท่วงที
      - ติดตามประเมิน CVP เพื่ออประเมินปริมาณของสารน้ำในร่างกายและการทำงานของหัวใจ
      - 6 ติดตามแจ้งอาการผู้ป่วยแก่ ญาติ เพื่อรายงานอาการของผู้ป่วยวยและร่วมตัดสินใจในการวางแผนการดูแลรักษาผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉิน
- - - - เวลา 13.30 น ผู้ป่วย BP drop 70/43 mmHg CVP 6-8 cmH2O EKG shoe หัวใจเต้นช้ากว่าปกติ 40-50 bpm, E1VTM1 pupil 4 min Fix แพทย์สั่งให้ load 0.9 NSS 1000 ml IV 1000 cc in 20 min, Dopamine [2:1] vein drip 40 mcg/kg/min, keep SBP≥90/60 เวลา 14.30 น.ผู้ป่วย BP drop วัดไม่ได้ EKG shoe ไม่พบคลื่นหัวใจ, E1VTM1 pupil 5 min Fix แพทย์เริ่ม CPR และให้ Adrenaline 3 mg vein q 3-5 min เมื่อCPR ครบ 30 นาที แพทย์ได้แจ้งอาการกับญาติ ญาติยอมรับการเสียชีวิตของผู้ป่วยและเวลา 15.10 น ผู้ป่วยได้เสียชีวิต