Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน้าที่ในการชำระหนี - Coggle Diagram
หน้าที่ในการชำระหนี
วัตถุเเห่งหนี้
-
วัตถุเเห่งหนี้ ก็คือสิ่งที่ลูกหนี้ต้องปฎิบัติการชำระหนี้ตามมาตรา 208 เเละหากมองฝ่ายจ้าหนี้ก้คือสิ่งที่เรียกร้องเอาจากลูกหนี้ได้
หนี้จะทำการ เป็นหนี้ที่ลูกหนี้ต้องทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างแก่เจ้าหนี้เช่นไปสร้างบ้านให้ไปวาดรูป นี้ที่เกิดจากมูลละเมิดก็อาจมีวัตถุเห็นนี้เป็นการกระทำใดมิใช่ว่าจะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินเพียงอย่างเดียวเช่นกระทำการละเมิดทำให้ทรัพย์สินเขาเสียหายก็ต้องซ่อมแซมทรัพย์สินนั้นให้กลับเป็นสภาพเดิม
หนี้งดเว้นกระทำการ วัตถุแห่งหนี้นั้นอาจกำหนดให้ลูกหนี้ต้องไม่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ตกลงกันไว้ก็ได้ในมาตรา213วรรคสาม เช่นการทำสัญญาเช่าที่ดิน เขาสร้าง อาคารพาณิชย์เพื่อทำการค้าขาย เจ้าของที่ดินไม่ต้องการให้อาคารพานิชย์ที่จะสร้างบ้างวิวทิวทัศน์ของบ้านตนเองจึงตกลงห้ามสร้างอาคารสูงเกินสองชั้นหากสร้างอาคารเกินกว่าที่ตกลงไว้ผู้เช่าซึ่งเป็นลูกหนี้ฝ่าฝืนในการชำระหนี้อาจต้องถูกบังคับให้รื้อถอน
หนี้ส่งมอบทรัพย์สินวัตถุแห่งหนี้เป็นการส่งมอบทรัพย์สินนั้นหมายถึงหนี้ที่ลูกหนี้มีหน้าที่ต้องส่งมอบทรัพย์สินแก่เจ้าหนี้เช่นสัญญาซื้อขายก๋วยเตี๋ยวฝ่ายผู้ซื้อก็มีหน้าที่ต้องส่งมอบทรัพย์สินคือราคาก๋วยเตี๋ยวให้แก่คนขาย ในขณะที่คนขาย ก็มีหน้าที่ต้องส่งมอบทรัพย์สินคือก๋วยเตี๋ยวให้แก่ผู้ซื้อ
ทรัพย์อันเป็นวัตถุแห่งนี้ คืนนี้ในกรณีวัตถุแห่งนี้คือการส่งมอบทรัพย์สินทรัพย์สินนั้นจึงเป็นวัตถุแห่งการชำระหนี้ไม่ใช่เป็นวัตถุแห่งนี้ศัพท์ที่ลูกหนี้จะต้องส่งมอบนี้เมื่อคำนึงถึงสถานะของทรัพย์นั้นอาจแยกออกเป็นสองอย่างคือเงินตรา อย่างหนึ่งและทรัพย์สินอื่นที่ไม่ใช่ เงินตราอีกอย่างนึง
(1)ทรัพย์ที่จะส่งมอบเป็นทรัพย์สินทั่วไป ทรัพย์สินทั่วไปนี่อาจเป็นได้ทั้ง สังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์และจะเป็นทรัพย์เฉพาะสิ่งหรือไม่ ชัยทรัพย์เฉพาะสิ่งก็ได้ แม้จะเป็นศัพท์ในอนาคต เลยเนี่ยลูกหนี้จะต้องส่งมอบทรัพย์ได้ซึ่งกฎหมายก็กำหนด หลักเกณฑ์ไว้2กรณี
1.การที่ทรัพย์นั้นจะเป็นวัตถุแห่งนี้ เช่นนี้ส่งมอบข้าวสารหนึ่งกระสอบเช่นนี้ทรัพย์นั้นก็จะมีใช้วัตถุแห่งหนี้เพราะลูกหนี้เอาข้าวสารกระสอบได้มาส่งมอบก็ได้
2.กรณีทรัพย์ที่จะต้องส่งมอบได้ระบุ ว้เพียงประเภท เมื่อทรัพย์ที่จะต้องชำระหนี้ได้ระบุไว้เพียงประเภทเป็นต้นว่าต้องส่งมอบข้าวสารจำนวน10กิโลกรัมเช่นนี้ปัญหาว่าลูกหนี้จะต้องส่งมอบข้าวสาร ที่มีคุณภาพอย่างไร กฎหมายจึงกำหนดหน้าที่ของลูกหนี้ไว้ตามมาตรา195วรรคแรกว่าเมื่อ ซึ่งเป็นวัตถุแห่งหนี้นั้นได้ระบุไว้เพียงประเภทถ้าตามสภาพแห่งนิติกรรมหรือตามเจตนาของคู่กรณีไม่อาจจะกำหนดได้ว่าทรัพย์นั้นจะพึงเป็นชนิดอย่างไรไซร้ ท่านว่าลูกหนี้จะต้องส่งมอบทรัพย์ชนิดปานกลาง
(2) ทรัพย์ที่จะส่งมอบไปเงินตราซับที่ลูกหนี้จะต้องส่งมอบหรือสับเป็นวัตถุแห่งการชำระหนี้นอกจากทรัพย์ทั่วทั่วไปอย่างอื่นแล้วเงินตราก็เป็นศัพท์ที่ลูกหนี้จะต้องส่งมอบอีกอย่างนึง
1.กรณีหนี้เงินได้แสดงว่าเป็นเงินต่างประเทศมาตรา196 ธานีเงิน ได้แสดงไว้เป็นเงินต่างประเทศท่านมึงว่าจะส่งใช้เป็นเงินไทยก็ได้การเปลี่ยนเงินให้คิดตามอัตราแลกเงินณสถานที่ และในเวลาใช้เงิน เห็นรูปนี้คือสินค้าแสดงราคาเป็นเงินเหรียญสหรัฐลูกหนี้จะต้องชำระเป็นเงินเหรียญสหรัฐหรือจะชำระเป็นเงินไทยก็ได้เมื่อจะชำระเป็นเงินไทยก็ต้องมีการคำนวนอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนเงินนี่แต่ละสถานที่แต่ละเวลาก็อาจจะไม่เท่ากัน
- กรณีเงินตราที่จะพึงทรงชัยเป็นอันยกเลิกไม่ใช้แล้ว เงินตราชนิดต่างๆนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางชนิดอาจจะยกเลิกเช่นประเทศไทยอดีตใช้เงินพดด้วง ใช้เงินอาจเป็นเงินตรา ทางกฎหมายจึงกำหนดทางแก้ไว้ในมาตรา197 ว่าถ้าหนี้เงินจะพึงทรงชัยด้วยเงินตราชนิดใดชนิดหนึ่งโดยเฉพาะอันเป็นชนิดที่ยกเลิกไม่ใช้กันแล้ว ในเวลาที่จะต้องส่งเงินใช้หนี้นั้นใส่การ ทรงชัย เงินทันให้ถือเสมือนหนึ่งว่ามิได้ระบุไว้ ให้ใช้เงินตราชนิดนั้น
-
-
1.2 กำหนดเวลาชำระหนี้
หากลูกหนี้ไม่รู้กำหนดเวลาชำระหนี้ของตนแล้วก็ไม่อาจชำระหนี้ได้ตาม ความประสงค์อันแท้จริงของมูลหนี้ได้เวลาก็เป็นสาระสำคัญในความประสงค์ของนี้นั้นหากลูกหนี้ชำระผิดไปจะกำหนดเวลาชำระหนี้แม้จะเป็นการชำระก่อนกำหนดเจ้าหนี้ก็อาจปฏิเสธไม่รับชำระหนี้ได้และหากเกินกำหนด ที่จะต้องชำระแล้ว ก็อาจทำให้ลูกหนี้กลายเป็นผู้ผิดนัด
1.หนี้ที่มิได้กำหนดเวลาชำระหนี้ มาตรา203วรรคแรก ว่า ถ้าเวลาอันพึงชำระหนี้นั้นมิได้กำหนดลงไว้ จะอนุมานจากพฤติการณ์นั้นทั้งปวง ก็ไม่ได้ไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้ยอมจะเรียกให้ชำระหนี้ได้โดยพลันและ และฝ่ายลูกหนี้ก็ย่อมจะชำระหนี้ ของตนได้ผลันดุจกัน
เมื่อ กรณีการชำระหนี้ที่ไม่มีกำหนดเวลาไว้ชัดแจ้งจะอนุมานจากพฤติการณ์ทั้งปวงก็ไม่อาจทราบความประสงค์ของคู่กรณีเช่นนี้กรณีจึงจะบังคับตามมาตรา203 วรรคแรก คือดาวนิงมีสิทธิ์จะเรียกให้ชำระหนี้ได้โดยพลันและลูกหนี้ก็ย่อมจะชำระหนี้ของตนได้โดยดุจพลันกัน บทบัญญัตินี้ให้สิทธิแก่ฝ่ายเจ้าหนี้และลูกหนี้เสมอกันคือเจ้าหนี้นี้ สิทธิจะเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้และถ้าลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ลูกหนี้ก็จะผิดนัดทันที
2.หนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระหนี้ เป็นหนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระไว้โดยชัดแจ้งเช่นกำหนดตามวันแห่งปฏิทินหรือกำหนดตามข้อเท็จจริงเช่นยืมชุดคุยเพื่อนเพื่อไปรับปริญญาจะส่งคืนเมื่อรับปริญญาเสร็จ กถือเป็นการกำหนดโดยชัดแจ้งคือมีการตกลงกันระหว่างคู่กรณีที่ก่อหนี้ขึ้นได้
(1) กำหนดเวลาชำระแต่เป็นที่สงสัย กรณีนี้มาตรา203วรรคสอง ว่า ถ้าได้กำหนดเวลาไว้ แต่หากกรณีเป็นที่สงสัย ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเจ้าหนี้จะเรียกให้ชำระหนี้ก่อนถึงเวลานั้นหาได้ไม่ แต่ฝ่ายลูกหนี้จะชำระหนี้ก่อนกำหนดนั้นก็ได้
ก ให้ ข ยืมขันใบหนึ่งไปใช้ในงานมงคลสมรสของบุตรสาว ข เผอิญการสมรสต้องเลื่อนไป1เดือน ก ไม่อาจเรียกร้องขันคืนก่อนเสร็จงานสมรส เว้นแต่ ก จะพิสูจน์ได้ ข มิได้มีเจตนาเอาขันใบนั้นไว้เกินกว่า15วันแต่อย่างไรก็ดีขออาจคืนขันก่อน ทำการมงคลสมรสได้ ซึ่งจากอุทาหรณ์ที่ยกไว้ในการร่างกฎหมายก็เห็นได้ว่าเป็นกรณีที่มีข้อสงสัยในกำหนดเวลาชำระหนี้ว่าจะต้องชำระหนี้ตามกำหนดเดิมหรือตามกำหนดใหม่เพราะเหตุอันทำให้การจัดงานดังกล่าวเลื่อนออกไป
(1) กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ไม่เป็นที่สงสัย กำหนดเวลาชำระหนี้ที่ลูกนิ่งและเจ้าหนี้ตกลง กำหนดวันไว้นั้นเมื่อไม่เป็นที่สงสัยก็อาจ แบ่งหน้าออกเป็นสองอย่างซึ่งมีฝนบังคับในทางกฎหมายแตกต่างกันคือ
1.1.1กำหนดเวลาชำระหนี้ตามวันแห่งปฏิทิน กรณีนี้เป็นการกำหนดเวลาชำระหนี้โดยแจ้งชัดตามวันแห่งปฏิทิน ตามที่บทบัญญัติไว้ในมาตรา 204วรรคสอง ถ้าได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ตามวันแห่งปฏิทิน และลูกหนี้มิได้ชำระหนี้ตามกำหนดไซร้ ท่านว่าลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดโดยมิพักต้องเตือนเลย วิธีเดียวกันนี้ท่านให้ใช้บังคับแก่กรณีที่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนการชำระหนี้ ซึ่งได้กำหนดเวลาลงไว้อาจคำนวณนับได้โดยปฏิทินนับแต่วันที่ได้บอกกล่าว
1.1.2กำหนดเวลาชำระปีมิใช่ตามวันแห่งปฏิทิน การกำหนดเวลาชำระหนี้แบบนี้นั้นกฎหมายได้กล่าวไว้ในมาตรามาตรา 204 วรรคแรก ถ้าหนี้ถึงกำหนดชำระแล้ว และภายหลังแต่นั้นเจ้าหนี้ได้ให้คำเตือนลูกหนี้แล้ว ลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้ไซร้ ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดเพราะเขาเตือนแล้ว เช่นยืมเงินไปและกำหนดว่าจะใช้คืนเมื่อขายข้าวสารได้แล้ว
1.3การผิดนัดไม่ชำระหนี้
กฎหมายได้กำหนดเงื่อนไขเอาไว้ชัดเจนว่ากรณีได้เช่นจึงจะผิดนัดตามกฎหมายซึ่งอาจจะต่างจากความเข้าใจของคนโดยทั่วไปมากเช่นยืมกระบือของเขาไปไถนาโดยตกลงว่าจะส่งคืนเมื่อสิ้นฤดูทำนาปรากฏว่า แม้จะสิ้นฤดูทำนานแล้วลูกหนี้ก็ยังไม่นำกระบือมาคืน เช่นนี้ความเข้าใจของคนโดยทั่วไปก็เห็นว่าลูกหนี้น่าจะผิดนักแล้วซึ่งต่างจากฝนทางกฎหมายซึ่งถือว่าลูกหนี้ยังไม่ผิดนัดเพราะเจ้านี้ยังไม่มีการตักเตือนให้ลูกหนี้ชำระหนี้
1) การผิดนัด(ลูกหนี้) การผิดนัดนั้นเป็นผลในทางกฎหมายที่มีความสำคัญต่อลูกหนี้และเจ้าหนี้ทำให้ลูกหนี้มีความรับผิดบางอย่างเพิ่มขึ้นในขณะเดียวกันก่อให้เกิดสิทธิบางอย่างแก่เจ้าหนี้เช่นกันการผิดนัดมีกฎหมายกำหนดไว้ในลักษณะต่างๆ ทั้งที่มีความสัมพันธ์กับการกำหนดเวลาชำระหนี้และในกรณีละเมิดก็มีกำหนดไว้ในกฎหมายด้วยอาจแยกพิจารณาได้2กรณีคือ
1.1 ลูกหนี้ผิดนัดโดยเตือนก่อน เมื่อกำหนดเวลาชำระหนี้แล้วลูกหนี้ก็ต้องชำระหนี้ตามกำหนดนั้นแต่การที่ลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้มั้งในบางกรณีกฎหมายใหม่ถือว่าลูกหนี้ จุดนัด คือการผิดนัดเกิดจากการกระทำของเจ้าหนี้เพื่อให้พบเมืองไทยตามกฎหมายนี้ประเภทที่เจ้าหนี้ต้องเตือนก่อนลูกพี่จึงจะผิดนัดได้แก่2 กรณีคือ
1.1.1หนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระมิใช้วันตามปฏิทิน นี้ประเภทนี้เป็นหนี้ที่มีกำหนดชำระหนี้นี้ใช้ตาวันปิดบิลเช่นกำหนดชำระนิ่งเมื่อเกี่ยวข้าวเสร็จเมื่อสิ้นฤดูน้ำหลาก
1.1.2 หนี้ที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระตามมาตรา 203 หนี้ที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ และจะอนุมานจากพฤติการณ์ทั้งปวงก็ไม่ได้นั้นมาตรา203 กำหนดให้เจ้าหนี้มีสิทธิ์เรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้โดยพันและลูกหนี้ก็มีสิทธิ์จะชำระหนี้ของตนได้โดยพลันดุจกัน นั้นแม้จะมอง ว่ากฎหมายให้ถือเอาว่าหนี้ประเภทนี้กำหนดทันทีเมื่อนับแต่ก่อหนี้
-
-
(2) ลูกหนี้ผิดนัดโดยเจ้าหนี้ไม่ตักเตือน มีทั้งสองประเภทดังกล่าวนั้นลูกหนี้จะผิดนัดได้ก็ต่อเมื่อเจ้าหนี้ได้ตักเตือนให้ลูกหนี้ชำระหนี้แล้วแต่นี่บางประเทศลูกหนี้ผิดนัดโดยเจ้าหนี้ไม้เตือนเลย
(3) กำหนดชำระหนี้กับการผิดนัด กำหนดเวลาชำระหนี้ก็ดีการไม่ชำระหนี้ก็ดีความผิด การไม่ชำระหนี้เป็นข้อเท็จจริงส่วนการผิดมากเป็นข้อกฎหมายถือเป็นเรื่องของการไม่ชำระหนี้ซึ่งเกิดผลบางประการทางกฎหมายที่ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ อาจยังไม่ผิดนัดก็ได้ดังนั้นแต่เห็นได้ว่ากำหนดเวลาชำระหนี้และการผิดนั้นไม่เหมือนกันแต่ก็มีความ เกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิดอาจสรุปความต่างและความเหมือนของกำหนดเวลาชำระหนี้กับตามผิดนัด