Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
End stage renal disease with volume overload ไตวายระยะสุดท้าย ร่วมกับ…
End stage renal disease with volume overload ไตวายระยะสุดท้าย ร่วมกับ มีภาวะน้ำเกิน
พยาธิสรีระวิทยา ( Pathophysiology )
โรคไตวายเกิดจากการเสื่อมของไต และ
การถูกทำลายของหน่วยไต มีผลให้อัตราการกรอง
ทั้งหมดลดลง และการขับถ่ายของเสียลดลง ปริมาณ
ครีตินิน และ ยูเรียไนโตรเจน ในเลือดสูงขึ้น หน่วยไตที่เหลืออยู่ จะเจริญมากผิดปกติเพื่อกรองของเสียที่มีมากขึ้น
ผลที่เกิดทำให้ไตเสียความสามารถในการปรับ ความเข้มข้นปัสสาวะ ปัสสาวะถูกขับออกไปอย่างต่อเนื่อง หน่วยไตไม่สามารถดูดกลับเกลือแร่ต่างๆ ได้ ทำให้สูญเสียเกลือแร่ออกจากร่างกาย
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง (etiology and risk
factors)
โรคไตเรื้อรังเกิดได้จากความผิดปกติ ที่มีการทำลายเนื้อไต ทำให้มีการสูญเสียหน้าที่ของไตอย่างถาวร ซึ่งมักค่อยเป็นค่อยไป สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ โรคเบาหวาน รองลงมาคือโรคความดันโลหิต
สูง ส่วนสาเหตุอื่นได้แก่ โรคหลอดเลือดฝอยในไต อักเสบเรื้อรัง (glomerrulonephritis) ความผิดปกติ ของไตและระบบทางเดินปัสสาวะตั้งแต่กำเนิด
อาการและอาการแสดงตามทฤษฎี
1.ปัสสาวะออกน้อย (oliguric phase) หรือไม่มีน้ำ
ปัสสาวะออกจากร่างกาย
2.คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนแรง ผิวแห้ง คัน
3.ตัวบวม น้ำท่วมปอด หายใจไม่สะดวก ดันโลหิตสูง
5.มีภาวะซีด .GFR น้อยกว่า 15 มล./นาที/พี้นที่ผิวกาย 1.73 เมตร
อาการแสดงของผู้ป่วย
ผิวแห้ง คัน ขาบวม เยื่อบุตาซีดGFR 4.4 mL/min
การทำHemodialysis การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมเป็นการขจัดของเสียและ
น้ำออกจากเลือดโดยเลือดจะออกจากตัวผู้ป่วยทางเส้นเลือดดำ
แล้วผ่านตัวกรองซึ่งในตัวกรองจะมีเนื้อเยื่อที่จะช่วยกรองของเสียและน้ำด้วยการแพร่ออกจากเลือดเมื่อเลือดผ่านตัวกรองแล้วจะกลายเป็นเลือดดี
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
ปัญหาที่ 1
มีภาวะน้ำเกินเนื่องจากอัตราการกรองของไตลดลง
ข้อมูลสนับสนุนSD: ผู้ป่วยบอกว่ามีเหนื่อย แน่นหน้าอก OD: BUN 75 Mg/dl HGB 7.5 g/dL Creatinine 12.35 Mg/dl GFR 4.4 mL/min Pitting edema 1+
วัตถุประสงค์
การคั่งของน้ำในร่างกายลดลง
เกณฑ์การประเมิน1.ไม่มีอาการเหนื่อย 2. ไม่มีอาการ Pitting edema
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินสัญญาณชีพ ทุก 4 ชั่วโมงตามมาตรฐานการพยาบาล โดยเฉพาะ ชีพจร และความดันโลหิต เพื่อเฝ้าระวัง
บันทึกสารน้ำเข้า - ออก ของร่างกาย โดยเฉพาะ Urine output ทุก 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินการปริมาณสารน้ำเข้า - ออกในร่างกาย
ดูแลให้ยาตามแผนการรักษาของแพทย์
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ คือค่า BUN, Cr เพื่อประเมินประสิทธิภาพการ ทำางานของไตที่ขับของเสียและน้ำออกจากร่างกาย
1 more item...
ปัญหาที่ 2
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากความดันโลหิตสูง
ข้อมูลสนับสนุนSD: ผู้ป่วยบอกว่า เป็นความดันโลหิตสูง2 ปี รับยามารับประทานตลอด
OD: (วันที่ประเมิน 20/08/65)
150/94 mmHg เวลา 09.00น.
-137/83 mmHg เวลา 11.00 น. -143/83 mmHg เวลา13.00 น.
ไม่มีอาการตามัว ปวดศีรษะ
วัตถุประสงค์
เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน
เกณฑ์การประเมินผลไม่มีอาการภาวะแทรกซ้อน เช่น ปวด
ศีรษะ
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินอาการที่แสดงถึงการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูง เช่น อาการปวดศีรษะ ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน
2.แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีกากใยมากขึ้นและดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันการเบ่งถ่ายอุจจาระจากอาการท้องผูก ซึ่งจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
3.แนะนำผู้ป่วยให้ระมัดระวังการเปลี่ยนท่าอาจทำให้ความดันโลหิตเปลี่ยนแปลงและเกิดอุบัติเหตุได้
4.ให้ความรู้เรื่องการออกกำลังกาย
1 more item...
ปัญหาที่ 3
ไม่สุขสบายเนื่องจากผิวหนังแห้งและมีอาการคัน
ข้อมูลสนับสนุนSD: ผู้ป่วยบอกว่า คัน ตามตัว
OD: มีผิวแห้งและตุ่มตามตัว เกาตลอด
วัตถุประสงค์
ผู้ป่วยสุขสบาย บรรเทาอาการคัน
เกณฑ์การประเมินผล ผู้ป่วยมีอาการคันลดลง ตุ่มลดลง ผิวหนังชุ่มชื่นขึ้น
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินสภาพผิวของผู้ป่วย
ดูแลทำความสะอาดผิวหนังโดยการอาบน้ำหรือเช็คตัว โดยใช้สบู่เหลวที่ใช้สำาหรับเด็ก
เช็คทำความสะอาดผิวหนังของผู้ป่วยให้แห่ง ไม่อับ ชื่น
ดูแลความสะอาดเสื้อผ้า ผ้าปูเตียง ผ้าห่ม ของผู้ป่วยไม่ให้ เปียกหรืออับชิ้น เพื่อป้องการอาการคันตามผิวหนังผู้ป่วย
1 more item...
ปัญหาที่ 4เสี่ยงต่อการทำกิจวัตรประจำวันลดลงเนื่องจากเหนื่อยอ่อนเพลียจากภาวะซีด
ข้อมูลสนับสนุนSD: ผู้ป่วยบอกว่ามีเหนื่อย แน่นหน้าอกOD: เยื่อบุตาซีด ตาเหลืองRBC 3 m/uL 4.6-6.2 HGB 7.5 g/dL 13-18 HCT 24.1% 40-54 Capillary refill 3วินาที
วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตร
ประจำวันได้ปกติ
เกณฑ์การประเมิน-ไม่มีอาการแสดงของภาวะซีด เช่น
เหนื่อยอ่อนเพลีย
RBC 4.6-6.2M/uL
HGB=13-18g/dL
-HCT=40-54%
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินอาการ อ่อนเพลีย ภาวะชีด
เพื่อทำาให้ทราบถึงภาวะซีf
2.ประเมินความสามารถในการทำ
กิจกรรมที่ต้องทำเพื่อวางแผนการ
3.วางแผนหากิจกรรมโดยมีระยะพัก
ระหว่างกิจกรรมอย่างเหมาะสม
4.ดูแลให้การช่วยเหลือในการทำกิจกรรมกิจวัตรประจำวัน การลุกนั่งบนเตียง การขับถ่าย ปัสสาวะ
การประเมินการพยาบาล
21/08/65
ผู้ป่วยไม่มีอาการเหนื่อยสามารถเดินไปทำธุรส่วนตัวในห้องน้ำได้เอง และมีการลุกนั่ง บริเวณรอบเตียง
ปัญหาที่ 5ผู้ป่วยมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการรักษาตัว
ข้อมูลสนับสนุนSD: ผู้ป่วยบอกว่า ภรรยาทำงานคนเดียว ผู้ป่วยทำงานได้แต่ต้องไม่หนักเกินไป และยังต้องมาฟอกไตที่โรงพยาบาลตลอด OD: สีหน้าไม่ค่อยดีเวลาพูดถึงเรื่องนี้
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ผู้ป่วยคลายความวิตกกังวล
เกณฑ์การประเมิน-ผู้ป่วยมสีหน้าสดชื่นขึ้น-ผู้ป่วยมีความกังวลลดลง-ผู้ป่วยให้ความร่วมมือและยินดีรับคำแนะนำ
กิจกรรมทางการพยาบาล
1.สร้างสัมพันธ์ภาพให้ผู้ป่วยเกิดความใว้วางใจ
2.ประเมินภาวะเครียดของผู้ป่วย
3.อธิบายและแนะนำสิทธิการรักษาที่ผู้ป่วยควรได้รับให้ผู้ป่วยและญาติได้เข้าใจ
4.ให้กำลังใจและดูแลอย่างต่อเนื่องช่วยเหลือประสานการดูแลให้ครอบคลุม
ประเมินผลการพยาบาล
21/08/65
ผู้ป่วยรับฟังและยินดีรับคำแนะนำในครั้งนี้
ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสุขภาพของผู้รับบริการ
อาการสำคัญที่มาโรงพยาบาล (Chief complaint) แน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม หลังทำ Hemodialysis 1 วัน
ประวัติการเจ็บป่วยในปัจจุบัน (Present illness)
1 วัน หลังทำ Hemodialysis มีอาการ แน่นหน้าอก หายใจอิ่ม หายใจไม่หอบเหนื่อย ใจไม่สั่น นอนราบได้ ขาบวมมากขึ้น
ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต (Past history)
ปัจจุบันมมีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูงมาเป็นระยะเวลา 2 ปี เป็น End stage renal disease On Hemodialysis และเป็น cirrhosis เป็นมา 2 เดือน ปฏิเสธการเคยได้รับอุบัติเหตุ ปฏิเสธการเคยเข้ารับการผ่าตัด
การวินิจฉัยโรคแรกรับ
End stage renal disease with volume overload ไตวายระยะสุดท้าย ร่วมกับ มีภาวะน้ำเกิน
ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
RBC 3M/uL
HGB=7.5g/dL
-HCT=24.14%
BUN 53
Cr 7.92
GFR 4.4
การวางแผนจำหน่าย
Disease = ให้ความรู้เรื่องของโรคไตวาย การปฏิบัติตนที่ถูกต้องเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
Medication = แนะนำวิธีการใช้ยาด้วยตนเองอย่างถูกวิธี สรรพคุณของยา ขนาดของยา วิธีการใช้ วิธีการเก็บรักษายาให้ถูกต้อง
Environment = แนะนำให้จัดการสิ่งแวดล้อมที่บ้านให้เหมาะสม การดูแลทำความสะอาด แนะนำเรื่องการใช้สิทธิการ
Treatment = แนะนำวิธีการเฝ้าสังเกตอาการของตนเอง เช่น อาการบวม เหนื่อยอ่อนเพลียมากขึ้น อาการภาวะแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูง
ควรมาพบแพทย์
Health = ส่งเสริมและแนะนำวิธีการดูแลตนเองที่บ้านเช่นการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเค็ม อาหารรสจัด เพื่อลดโอกาสเกิดความรุนแรงของโรคมาก
ขึ้นและไม่ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อน
Out patient referral = แนะนำให้มาตรวจตามนัดทุกครั้งตามใบนัด ให้สังเกตอาการผิดปกติ เช่น บวม นอนราบไม่ได้ ให้รีบมาพบแพทย์
Diet : แนะนำให้รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสเค็ม รสจัด อาหารผัด ทอด อาหารที่มีโปรตีนมากเกินไป ผัก ผลไม้สด
สรุปปัญหาที่พบ
1.เยื่อบุตาซีด ตาเหลือง
2.กังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย
BUN 75 Mg/dl
HGB 7.5 g/dL
Creatinine 12.35 Mg/dl
GFR 4.4 mL/min
4.RBC 3 m/uL 4.6-6.2
HGB 7.5 g/dL 13-18
HCT 24.1% 40-54
ผู้ป่วยบอกว่ามีเหนื่อย แน่นหน้าอก Capillary refill 3วินาที