Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรับผิดกระทำละเมิดในการกระทำของผู้อื่น - Coggle Diagram
ความรับผิดกระทำละเมิดในการกระทำของผู้อื่น
1.ความรับผิดของนายจ้างในผลแห่งการละเมิดของลูกจ้างในทางการที่จ้าง
1.1 ความรับผิดของนายจ้าง
มาตรา 425 นายจ้างต้องร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิดซึ่งลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้างนั้น
อธิบาย ความรับผิดของนายจ้างตามมาตรา 425 นี้จำกัดเฉพาะในสัญญาจ้างแรงงานเท่านั้น
1.2 ลูกจ้างทำละเมิดในทางการที่จ้าง
ลูกจ้างได้ปฎิบัติงานตามที่นายจ้างสั่งหรืองานนายจ้างมอบหมาย
ตัวอย่าง นายแหวนเป็นลูกจ้างของนางกำไล วันเกิดเหตุนางกำไลได้ให้นายแหวนขับรถไปส่งของที่ต่างจังหวัด นายแหวนได้ขับรถไปส่งของตามที่นายจ้างสั่ง หลังจากส่งของเสร็จระหว่างที่นายแหวน ขับรถด้สยความประมาทเลินเล่อไปชนนางสร้อยได้รับบาดเจ็บ ดังนี้ถือว่าเป็นการละเมิดในทางการที่จ้าง
1.3 สิทธิไล่เบี้ย
มาตรา 426. “นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอันลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้างนั้น”
อธิบาย การที่นายจ้างจะไล่เบี้ยเอาจากลูกจ้างนั้น คงไล่เบี้ยได้แค่ค่าสินไหมทดแทน นายจ้างต้องรับผิดใช้ให้แก่ผู้เสียหายจากผลที่ลูกจ้างกระทำละเมิดในทางการที่จ้าง แต่ถ้าเป็นค่าเสียหายอย่างซึ่งมิใช่ผลโดยตรงจากการกระทำละเมิด นายจ้างจะไล่เบี่ยไม่ได้
ตัวอย่าง ในคดีที่โจทก์ถูกบิดาของผู้ตายฟ้องให้รับผิดร่วมกับจำเลยในผลแห่งละเมิดซึ่งจำเลยกระทำไปในทางการที่จ้างและโจทก์ผู้ซึ่งเป็นนายจ้างต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนพร้อมด้วยดอกเบี้ยและใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนให้บิดาของผู้ตายไปแล้วค่าฤชาธรรมเนียมซึ่งศาลสั่งให้ใช้แทนเนื่องจากโจทก์ต่อสู้คดีและเป็นฝ่ายแพ้คดีนั้น ไม่ใช่ค่าสินไหมทดแทนอันเป็นผลโดยตรงจากการกระทำละเมิด จึงไล่เบี้ยให้จำเลยชดใช้ให้แก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 426 ไม่ได้
1.4 ตัวการรับผิดในการกระทำละเมิดของตัวแทน
มาตรา 427 บทบัญญัติในมาตราทั้งสองก่อนนั้น ท่านให้ใช้บังคับแก่ตัวการและตัวแทนด้วยโดยอนุโลม
อธิบาย มาตรา 427 นี้ กำหนดให้นำเอามาตรา 425 และ 426 ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับนายจ้างและลูกจ้าง และการไล่เบี่ยมาใช้กับเรื่องตัวการตัวแทนโดยอนุโลม กล่าวคือ ตัวการจะต้องรับผิดกับตัวแทนในการที่ตัวแทนได้กระทำละเมิดต่อบุคคลอื่น ที่ตัวแทนได้กระทำไปในกิจกรรมของตัวการ
ในเรื่องตัวการที่ต้องรับผิดในการกระทำละเมิดร่วมกันนี้มีหลักเกณฑ์เช่นเดียวกับหลักเกณฑ์ความรับผิดชอบของนายจ้าง ลูจ้าง
1.ตัวแทนกระทำละเมิดต่อบุคคลอื่น
2.มี่ความสัมพันธ์เป็นตัวการและตัวแทนกันในขณะกระทำละเมิด
3.ตัวแทนกระทำละเมิดในทางกิจกรรมของตัวการ
2.ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
2.1 ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของไม่เป็นความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น
มาตรา 428 บัญญัติว่า “ผู้ว่าจ้างทำของไม่ต้องรับผิดเพื่อความ เสียหายอันผู้รับจ้างได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอกในระหว่างการทำการงานที่ว่าจ้าง เว้นแต่ผู้ว่า จ้างจะเป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำ หรือในคำสั่งที่ตนให้ไว้ หรือในการเลือกหาผู้รับจ้าง
ตัวอย่าง คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 162/2544 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 428 บัญญัติว่า"ผู้ว่าจ้างทำของไม่ต้องรับผิดเพื่อความเสียหายอันผู้รับจ้างได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอกในระหว่างทำการงานที่ว่าจ้าง เว้นแต่ผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำหรือในคำสั่งที่ตนให้ไว้หรือในการเลือกหาผู้รับจ้าง" โจทก์จึงมีหน้าที่จะต้องนำสืบให้ได้ความว่าจำเลยเป็นผู้ผิดตามมาตรา 428 ดังกล่าว แต่ข้อเท็จจริงตามทางนำสืบของโจทก์ไม่ปรากฏว่าจำเลยเป็นผู้ผิดในส่วนสั่งให้ทำหรือในคำสั่งที่ตนให้ไว้แก่ผู้รับจ้างอย่างไรและในการเลือกผู้รับจ้างคือบริษัท ฟ. ซึ่งเป็นผู้ตอกเสาเข็มและก่อสร้างฐานรากก็ปรากฏว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถเป็นพิเศษในการก่อสร้างอาคารสูง การที่จำเลยว่าจ้างบริษัท ป. เป็นผู้ควบคุมการก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบ ย่อมหมายความว่าจำเลยไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องหรือสั่งการในการทำงานแต่อย่างใด เพราะเป็นหน้าที่ของบริษัททั้งสอง เมื่อความเสียหายเกิดขึ้น โจทก์จะต้องไปเรียกร้องค่าเสียหายเอาจากผู้ก่อสร้างคือบริษัท ฟ. ซึ่งเป็นผู้ทำละเมิด จำเลยไม่ได้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดอันทำให้จำเลยต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 428
2.2 หลักความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
ผู้ว่าจ้่งเป็นผู้ผิดในส่วนของการทำงานทราสั่งให้ทำ
ฎีกา 940/2501 ฟ้องว่า รั้วสังกะสีเสียหายไปประมาณ 50 แผ่นรวมทั้งทรัพย์สินอื่นอีกด้วย คิดค่าเสียหายจำนวนหนึ่ง โดยมิได้ตีราคาเฉพาะสังกะสีว่าเสียหายเท่าใดก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
การที่ผู้ว่าจ้างสั่งคนไปควบคุมผู้รับจ้างเหมาทำงานให้เป็นไปตามสัญญา หากเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นขึ้นผู้ว่าจ้างก็ต้องรับผิดเพื่อความเสียหายนั้น
ผู้ว่าจ้างเป็นผู้ผิดในคำสั้งที่ผู้ว่าจ้างได้ให้ไว้
ฎีกา 1975/2528 กรมทางหลวงจำเลยที่ 2 มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในการซ่อมแซมก่อสร้าง บำรุงรักษา ถนนที่เกิดเหตุ ย่อมมีหน้าที่ควบคุมจัดให้ มีเครื่องหมายและสัญญาณจราจรในบริเวณก่อสร้างซ่อมแซมถนน แม้จะจัดให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างดำเนินการก่อสร้างซ่อมแซม ก็ต้อง ควบคุมให้บริษัทรับเหมาติดตั้งเครื่องหมายและสัญญาณจราจรขึ้น ให้ถูกต้องถ้ามิได้ติดตั้งให้ถูกต้องแล้วเกิดความเสียหาย จำเลยที่ 2 ย่อม จะต้องรับผิดต่อผู้เสียหายด้วย
3.ผู้ว่าจ้างเป็นผู้ผิดในการเลือกหาผู้รับจ้าง
ตัวอย่าง จำเลยจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างตึกความเสียหายแก่ตึกของโจทก์เกิดจากการตอกเสาเข็มในการก่อสร้างตึกของจำเลย จำเลยเป็นผู้เลือกหาผู้รับจ้างและการก่อสร้างต้องเป็นไปตามการงานที่จำเลยสั่งให้ทำตามข้อบังคับในสัญญาจ้าง จำเลยต้องรับผิดในความเสียหายของโจทก์ที่เกิดขึ้นจากการตอกเสาเข็ม
3.ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการกระทำละเมิดของผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตและความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการกระทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
3.1 ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการทำละเมิดของคนไร้ความสามารถ
มาตรา 429 บัญญัติว่า “บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถเพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิด ในผลที่ตนท าละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาลของบุคคลเช่นว่านี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่จะ พิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทาอยู่นั้น”
2.บิดาและมารดามีหน้าที่ดูแลผู้เยาว์ในขณะที่ผู้เยาว์ทำละเมิด
3.บิดามารดาซึ่งมีหน้าที่ดูแลนั้นไม่ได้ใช้ความระวัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแล
ฎีกา 847/2496 บิดาเก็บปืนลูกซองไว้บนหลังตู้เซฟ บุตรอายุ 9 ขวบหยิบไม่ถึง ต่อมาปรากฏว่าบุตรเอาปืนนั้นไป บิดาจึงสั่งให้ผู้มีชื่อเอาปืนจากบุตรไปเก็บไว้ พอตอนเย็นบุตรก็มาพูดหลอกว่าบิดาให้มาเอาปืนไปอีก ได้ปืนแล้วไปยิงนก จนทำปืนลั่นถูกเด็กอื่นตาย ดังนี้ วินิจฉัยว่าการที่บิดาสั่งเพียงให้เก็บปืนไว้เฉยๆ มิได้กำชับว่าอย่ามอบให้บุตรเอาไปนั้น ยังเรียกไม่ได้ว่า บิดาได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลดังที่กฎหมายบังคับไว้ บิดาจึงต้องร่วมรับผิดในผลของการละเมิดนั้นด้วย
1.บิดาและมารดาต้องร่วมรับผิดกับผู้เยาว์ในผลแห่งละเมิดซึ้งผู้เยาว์ได้กระทำไว้
3.2 ความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
มาตรา 430 บัญญัติไว้ว่า“ครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือ บุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถอยู่เป็นนิตย์ก็ดี ชั่วครั้งคราวก็ดี จำต้องรับผิดร่วมกับ ผู้ไร้ความสามารถในการละเมิดซึ่งเขาได้กระทำลงในระหว่างที่อยู่ในความดูแล ของตน ถ้าหาก พิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้นๆ มิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร”
ฎีกาที่ 356/2511 เช้าวันเกิดเหตุ ครูได้เก็บเอาไม้กระบอกพลุที่เด็กนักเรียนเล่นมาทำลายและห้ามไม่ให้เล่นต่อไปตอนหยุดพักกลางวันนักเรียนคนหนึ่งได้เล่นกระบอกพลุที่นอกห้องเรียนไปโดนนัยน์ตานักเรียนอีกคนหนึ่งบอดพฤติการณ์เช่นนี้ครูได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้วเหตุที่เกิดละเมิดเป็นการนอกเหนืออำนาจและวิสัยที่ครูจะดูแลให้ปลอดภัยได้ครูจึงไม่ต้องรับผิด
ฎีกาที่ 1488/2515 จำเลยที่ 3 ครูใหญ่ ได้ให้ อ. ครูรองคอยควบคุมดูแลนักเรียนซึ่งรวมทั้งโจทก์และจำเลยที่ 1 ด้วย เมื่อจำเลยที่ 1 ได้เล่นบันไดโหนอย่างผาดโผน อ.เห็นก็ห้ามปรามจำเลยที่ 1 พอขาดคำบันไดก็ล้มทับโจทก์ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยที่ 3 ได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้ว จึงไม่ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดที่จำเลยที่ 1 ก่อให้เกิดขึ้น