Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่1 หน้าที่ในการชำระหนี้ - Coggle Diagram
บทที่1 หน้าที่ในการชำระหนี้
1.หน้าที่ชำระหนี้ ให้ถูกต้อง
1.1 วัถุแห่งหนี้
หนี้กระทำการ
เป็นหนี้ที่ลูกหนี้ต้องไปทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างแก่เจ้าหนี้
เช่น ไปสร้างบ้าน
เป็นหนี้ที่ลูกหนี้ต้องไปกระทำการนั้นๆ ด้วยตัวลูกหนี้เองจะด้วยสภาพสัญญา ด้วยสภาพของหนี้
เช่นสัญญจ้างแรงงาน
หนี้งดเว้น
กระทำการส
เป็นหนี้ที่ลูกหนี้ไม่ต้องกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง
เช่นทำสัญญาเช่า ทำสัญญาเช่าที่ดินสร้างอาคารพานิชย์เพื่อทำการค้าขายเจ้าของที่ดินไม่อนุญาตให้สร้างอาคารสูงเกินสองชั้นหากผู้เช่าสร้างอาคารสูงเกินกว่าที่ตกลงไว้ผู้เช่าซึ่งเป็นลูกหนี้ก็ฝ่าฝืนการชำระหนี้อาจถูกหรือถอน ตามมาตรา 213 วรรคสาม
หนี้ส่งมอบทรัพย์สิน
หนี้ที่ลูกหนี้มีหน้าที่ต้องส่งมอบทรัพย์สินแก่เจ้าหนี้
แต่ถ้าเป็นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ซึ่งต้องมีการทำสัญญาเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อ หน่วยงานเจ้าหน้าที่ด้วยกรรมสิทธิ์จึงจะโอนไปยังผู้ซื้อ ผู้ขายมีหน้าที่ทั้งโอนกรรมสิทธิ์และส่งมอบทรัพย์สินนั้นด้วย
แต่ถ้าเป็นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ซึ่งต้องมีการทำสัญญาเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อ หน่วยงานเจ้าหน้าที่ด้วยกรรมสิทธิ์จึงจะโอนไปยังผู้ซื้อ ผู้ขายมีหน้าที่ทั้งโอนกรรมสิทธิ์และส่งมอบทรัพย์สินนั้นด้วย
เช่น รถยนต์ สุนัข
1.2 วัตถุแห่งหนี้กับวัตถุประสงค์แห่งนิติกรรม
เช่น ทำสัญญาซื้อขายม้าหนึ่งตัว วัตถุประสงค์ของนิติกรรมคือการโอนกรรมสิทธิ์ในม้าจากผู้ขายไปยังผู้ซื้อในขณะที่เมื่อ นิติกรรมของการซื้อขายเกิดแล้ววัตถุแห่งหนี้ในเรื่องนี้คือการส่งมอบม้าให้แก่ผู้ซื้อและผู้ซื้อก็มีนี่ที่มีวัตถุประสงค์แห่งหนี้เป็นการส่งมอบ เงิน
1.3 ทรัพย์อันเป็นวัตถุแห่งหนี้
เพราะวัตถุแห่งหนี้ คือการส่งมอบทรัพย์ ทรัพย์จึงเป็นส่วนประกอบอย่างหนึ่งในการชำระหนี้
1.4 กรณีวัตถุแห่งหนี้ซึ่งเลือกที่
จะชำระได้
สิทธิในการเลือก การเลือกชำระหนี้ตามกำหนดไว้ในมาตรา 201 ถ้าบุคคลภายนอกจะพึงเป็นผู้เลือกท่านให้กระทำด้วย แสดงเจตนาแก่ลูกหนี้และลูกหนี้จะต้องแจ้งความนั้นแก่เจ้าหนี้ถ้าบุคคลภายนอกนั้นไม่อาจจะเลือกได้ก็ดีหรือไม่เต็มใจจะเลือกก็ดีท่านว่าสิทธิที่จะเลือกตกไปอยู่แก่ฝ่ายลูกหนี้
กำหนดเวลาชำระหนี้
2.1 หนี้ที่มิได้กำหนดเวลาชำระหนี้
เวลาอันจะพึงชำระหนี้นั้นมิได้กำหนดกันไว้ตามวันแห่งปฏิทิน แต่พออนุมานจาก พฤติการณ์ทั้งปวงได้ว่าจะเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้เมื่อใด
ตัวอย่าง ก. ยืมกล้องถ่ายภาพของ ข. ไปใช้ในการถ่ายภาพทางจังหวัดภาคเหนือ โดยไม่ได้กำหนดว่า จะต้องคืนกล้องถ่ายภาพเมื่อใด แต่ตามพฤติการณ์แห่งหนี้รายน้ี ก็พอจะอนุมานได้ว่าเมื่อ ก.กลับจากภาคเหนือ แล้ว ก. จะต้องส่งคืนกล้องถ่ายภาพนั้นให้ ข.
2.2 หนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระหนี้
กำหนดเวลาชำระแต่เป็นที่สงสัย
กรณีนี้ตามมาตรา 203 วรรคสอง
เจ้าหนี้จะเรียกให้ชำระหนี้
ก่อนกำหนดไม่ได้
กให้ข ยืมขันเงินใบหนึ่งไปใช้ในงานมงคลสมรสบุตรสาวของ ข เผอิญการสมรสต้องเลื่อนไปหนึ่งเดือน ก ไม่อาจเรียกร้องขันเงินคืนก่อนเสร็จการสมรสเว้นแต่ ก จะพิสูจน์ได้ว่า ข มิได้มีเจตนาเอาขันนั้นไว้เกินกว่า 15 วันแต่ถึงอย่างไรก็ดี ข อาจคืนขันก่อนทำการมงคลสมรสได้
กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้
ไม่เป็นที่สงสัย
ตามวันแห่งปฏิทิน
เป็นการกำหนดเวลาชำระหนี้โดยแจ้งชัดตามวันเวลาแห่งปฏิทิน ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 204 วรรคสอง
ไม่ตามวันแห่งปฏิทิน
เป็น กำหนดเวลาชำระหนี้ที่มิใช่ตามวันเวลาแห่งปฏิทิน
เช่นยืมเรือไปใช้กำหนดจะส่งคืนเมื่อสิ้นฤดูน้ำ
3.การผิดนัด
ไม่ชำระหนี้
3.1 การผิดนัด (ลูกหนี้)
1.ลูกหนี้ผิดนัด โดยต้องตักเตือนก่อน
ถ้าหนี้ถึงกำหนดชำระแล้ว และภายหลังแต่นั้นเจ้าหนี้ได้ให้คำ เตือนลูกหนี้แล้ว ลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้ ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดเพราะเขาเตือนแล้ว
(มาตรา 204 วรรค 1) จะเห็นได้ ว่าลูกหนี้ผิดนัดเพราะคำเตือนเมื่อ
(1) หนี้ถึงกกหนดชำระแล้ว (2) เจ้าหนี้เตือนลูกหนี้ให้ชำระหนี้แล้ว
(3) ลูกหนี้ ก็ยังไม่ชำระหนี้ การที่เจ้าหนี้เตือนให้ลูกหนี้ชำระหนี้นั้นไม่มีแบบ การแจ้งให้ลูกหนี้รู้ว่าหนี้ถึงกกหนดชำระแล้ว อาจแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร แจ้งด้วยวาจา หรือกิริยาท่าทางก็ได้
ตัวอย่าง ก. กู้เงิน ข. 100,000 บาท โดยไม่ได้กกหนดเวลาชำระหนี้กันไว้และไม่สามารถจะอนุมานจาก พฤติการณ์ทั้งปวงได้ เช่นนี้ ข. เรียกให้ ก. ชำระหนี้เมื่อใดก็ได้ แต่ถ้า ข. ยังมิได้เตือนให้ ก. ชำระหนี้ ก. ก็ยังไม่ได้ ชื่อว่าเป็นผู้ผิดนัด เมื่อ ข. เตือนให้ ก. ชำระหนี้แล้ว ก. ก็ยังไม่ชำระหนี้ ก. ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ผิดนัด ซึ่ง ข. ย่ อม ฟ้องร้องต่อศาลให้ ก. ชำระหนี้พร้อมทั้งค่าเสียหาย
ลูกหนี้ผิดนัดโดยเจ้าหนี้ไม่ตักเตือน
ผิดนัดโดยที่เจ้าหนี้ไม่เตือน แยกพิจารณาได้ดังนี้ (มาตรา 204 วรรค 2) ถ้าได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ตามวันแห่ง ปฏิทิน และลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนดแล้ว
ลูกหนี้ย่อมเป็นผู้ผิดนัดโดยเจ้าหนี้ไม่ต้องเตือนเลย
ตัวอย่าง ก. กู้เงิน ข. 100,000 บาท โดยสัญญาว่าจะชำระหนี้ในวันที่ 1 สิงหาคม 2547
เมื่อถึงกพหนดเวลาแล้ว ก.ไม่ชำระหนี้ ก. ย่อมเป็นผู้ผิดนัดโดย ข. ไม่ต้องเตือนเลย ข. ย่อมฟ้องร้องต่อศาลให้ ก. ชำระหนี้พร้อมทั้งค่าเสียหายได้ตั้งแต่วันที่ ก. ผิดนัด
3.กำหนดชำระหนี้กับการผิดนัด
กำหนดเวลาชำระหนี้เป็นกำหนดที่เจ้าหนี้สามารถเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้
กำหนดเวลาชำระหนี้นั้นเป็นกำหนดที่ลูกหนี้จะต้องชำระหนี้ แต่การผิดนัดเป็นผลของการไม่ชำระหนี้ตามกำหนด หากการผิดนัดนั้นอ้างได้ว่าไม่ใช่ความผิดของตน ตามมาตรา 205 ก็ถือว่าลูกหนี้ยังไม่ผิดนัด
กรณีที่ไม่ถือว่าลูกหนี้ผิดนัด
ถ้าการชำระหนี้ยังมิได้กระทำลงเพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่ง ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบ ลูกหนี้ก็ยังไม่ได้ชื่อว่าผิดนัด (มาตรา 205)
ตัวอย่าง ก. ทำสัญญาซื้อของจาก ข. ซึ่งต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ ของสูญหายระหว่างขนส่ง มาประเทศไทย จึงเป็นเรื่องพ้นวิสัยที่ ข. จะป้องกันได้ ข. ยังไม่ได้ชื่อว่าผิดนัด ก. ต้องให้เวลาแก่ ข. ในการปฏิบัติ ตามสัญญาอีก
(ฎีกาที่ 2189/2523)
3.2 ผลของการผิดนัดของลูกหนี้
ลูกหนี้ต้องรับผิดในความเสียหายอันเกิดแต่การผิดนัด
การที่ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนดและตกเป็นผู้ผิดนัด เจ้าหนี้ก็อาจจะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนได้ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 215
2.เจ้าหนี้อาจไม่รับชำระหนี้
ถ้าโดยเหตุผิดนัด การชำหนี้กลายเป็นอันไร้ประโยชน์แก่เจ้าหนี้ เจ้าหนี้จะบอกปัดไม่รับ ชำระหนี้ และจะเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อการไม่ชำระหนี้ก็ได้ (มาตรา 216)
ตัวอย่าง ก. และ ข.จัดงานสมรสขึ้น โดยให้มีการเลี้ยงอาหารแก่ผู้ที่มาร่วมงาน ก. และ ข. จึงไป จ้าง ค.ให้ทาอาหารและนำมาบริการแก่ผู้ที่มาร่วมงานในเวลา 18.00 แต่ ค. ทานอาหารเสร็จเมื่อเวลา 21.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้มาร่วมงานส่วนใหญ่กลับไปแล้ว เช่นนี้จะเห็นได้ว่า ค.ผิดนัดและการชำระหนี้กลายเป็นอันไร้ ประโยชน์แก่ ก.และ ข. ก. และ ข. ย่อมบอกปัดไม่รับชำระหนี้และเรียกเอาค่าเสียหายได้
ลูกหนี้ต้องรับผิดในความเสียหายอันเกิดระหว่างผิดนัดเพิ่มขึ้น
ลูกหนี้จะต้องรับผิดชอบในความเสียหายบรรดาที่เกิดแต่ความประมาทเลินเล่อในระหว่าง เวลาที่ตนผิดนัด ทั้งจะต้องรับผิดชอบในการที่การชกระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัยเพราะอุบัติเหตุอันเกิดขึ้นในระหว่าง
เวลาที่ตนผิดนัดนั้นด้วย เว้นแต่ความเสียหายนั้นถึงแม้ว่าตนจะได้ชำระหนี้ทันเวลากำหนดก็คงจะต้องเกิดมีอยู่ (มาตรา 217)
ตัวอย่าง ก. ยืมรถยนต์ของ ข.ไปใช้ กกหนดส่งรถยนต์คืนในวันที่ 1 สิงหาคม 2547 เมื่อถึง กำหนดแล้ว ก. ก็ไม่ส่งรถยนต์คืน กลับเอารถยนต์ไปจอดทิ้งไว้นอกบ้าน คนร้ายจึงลักรถยนต์ไป ดังนี้ ก. ย่อมต้อง รับผิดใช้ค่ารถยนต์นั้นให้แก่ ข. เพราะความเสียหายอันเกิดจากความประมาทเลินเล่อในระหว่างเวลาที่ตนผิดนัด