Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น, 23.นางสาว ชนาพร ศัตรูพ่าย 64012310034 -…
ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น
ตอนที่ 12.1 ความรับผิดของนายจ้างในผลเเห่งละเมิดของลูกจ้างในทางการที่จ้าง
12.1.1 ความรับผิดของนายจ้าง
มาตรา425 บัญญัติว่า นายจ้างต้องร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างในผลเเห่งละเมิด ซึ่งลูกจ้างกระทำไปในทางที่จ้างนั้น
นายจ้าง ลูกจ้าง หมายถึงบุคคล2ฝ่ายมีความสัมพันธ์กันตามสัญญาจ้างเเรงงานตามมาตรา 575
นายจ้างต้องรับผิดเนื่องมาจากการกระทำละเมิดโดยจงใจของลูกจ้างต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าลูกจ้างได้กระทำไป มีความตั้งใจปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของนายจ้าง ถ้าหากลูกจ้างกระทำไปเพื่อประโยชน์ของตนเองเเละมิใช่เป็นการกระทำเเทนนายจ้าง นายจ้างไม่ต้องรับผิด ถ้าลูกจ้างมีเจตนาจูงใจเป็นส่วนตัวโดยเเท้ซึ่งไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของนายจ้าง ก็ย่อมถือว่าลูกจ้างนั้นออกจากงานที่จ้างเเละนายจ้างไม่ต้องรับผิด
12.1.2 ลูกจ้างทำละเมิดในทางการที่จ้าง
การกระทำละเมิดนั้นได้เกิดในทางการที่นายจ้าง
นายจ้างจึงต้องรับผิดร่วมด้วย ถ้าหากมิไช่เป็นการกระทำในทางการที่จ้างเเล้วก็ไม่ต้องร่วมรับผิด เเละเหตุที่เกิดขึ้น เป็นผลมาจากการปฏิบัติงาน มิไช่เป็นเพียงเหตุที่เกิดขึ้นในระหว่างเวลาที่ลูกจ้างกำลังปฏิบัติงานที่จ้างอยู่เท่านั้น
ลูกจ้างกระทำกิจส่วนตัวในณะเดียวกัน
ลูกจ้างปฏิบัติการงานของนายจ้างอย่างเเท้จริง เเม้ลูกจ้างได้กระทำกิจส่วนตัวในขณะเดียวกันนั้นจนเกิดการละเมิดขึ้นก็ยังถือว่าเป็นเหตุที่เกิดขึ้นในทางการที่จ้าง
กรณีที่นายจ้างมีคำสั่งห้าม
การที่นายจ้างมีคำสั่งห้ามการกระทำอันเป็นการละเมิดไว้โดยชัดเจนย่อมไม่เป็นขัดต่อสู้ของนายจ้าง
วิธีการปฏิบัติ
ลูกจ้างอาจใช้วิธีตามที่เห็นสมควรเพื่อกิจการนั้นลุล่วงไปเเละสมประโยชน์ของนายจ้าง เเละนายจ้างยังต้องรับผิดในวิธีการที่จะทำการบางอย่างที่ตนได้สั่งหรือมอบอำนาจให้ทำอีกด้วย
การละเมิดโดยจงใจ
ตามาตรา 420 การกระทำโดยประมาทเลินเล่อเป็นการเเสดงความไม่รอบคอบขาดความระมัดระวังเเต่การกระทำโดยจงใจเรื่องที่ผู้กระทำเล็งเห็นได้ว่า การกระทำของตนถ้าทำลงไปเเล้วจะทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย
12.1.4 ตัวการรับผิดในการกระทำละเมิดของตัวเเทน
ตัวเเทนต้องทำการตามคำสั่งของตัวการ จึงมีเหตุผลเดียวกันที่ตัวการจะต้องรับผิดในผลเเห่งละเมิดที่ตัวเเทนได้ทำไปในการกระทำกิจการของตัวการ มาตรา427 ให้นำมาตรา425เเละมาตรา426มาใช้บังคับเเก่ตัวการเเละตัวเเทนด้วยโดยอนุโลม
มาตรา
797บัญญัติว่า อันว่าสัญญาตัวเเทนนั้นคือสัญญาซึ่งให้บุคคลหนึ่งเรียกว่าตัวเเทนมีอำนาจทำการเเทนบุคคลหนึ่งเรียกว่าตัวการเเละตกลงจะทำการดังนั้น
ความรับผิดของตัวการ
เหตุละเมิดที่จะให้ตัวการรับผิดต้องเป็นเหตุที่ได้เกิดขึ้นในขอบเขตเเห่งการปฏิบัติตามหน้าที่เพื่อตัวการหรือในฐานที่ตัวเเทนได้ทำการเป็นตัวเเทน
12.1.3 สิทธิไล่เบี้ย
มาตรา426 นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหมทดเเทนให้เเก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอันลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ใช้จากลูกจ้างนั้น
เป็นการกระทำของลูกจ้างต่อบุคคลภายนอกเองโดยลำพังที่นายจ้างต้องรับผิดร่วมด้วยกับลูกจ้างก็เป็นความรับผิดต่อผู้เสียหาย เเต่ในระหว่างนายจ้างลูกจ้างเเล้ว นายจ้างไม่ต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างในผลที่ลูกจ้างทำละเมิดนั้นด้วย
นายจ้างใช้ค่าสินไหมทดเเทนให้ผู้เสียหายไปเเล้วจึงชอบที่จะช่วงสิทธิของผู้เสียหายไล่เบี้ยเรียกให้ลูกจ้างชดใช้ให้เเก่ตนได้ (มาตรา229(3)เเละมาตรา(426) นายจ้างยังคงต้องรับผิดต่อผู้เสียหายในฐานะลูกหนี้ร่วมกันจนกว่าหนี้นั้นจะได้ชำระสิ้นเชิง(มาตรา291)
ตอนที่12.2 ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
12.2.1 ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของไม่เป็นความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น
มาตรา428 ผู้รับจ้างเป็นผู้ก่อความเสียหายเเก่บุคคลภายนอกจึงเป็นผู็กระทำด้วย เเม้ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของนั้นจะเป็นความรับผิดในฐานะที่ผู้ว่าจ้างเองเป็นผู้กระทำละเมิด มิไช่รับผิดร่วมกับผู้รับจ้าง เเละเเม้บางกรณีจะถือว่าผู้ว่าจ้างเองกระทำละเมิดโดยลำพังอีกด้วยก็ตาม
1.กฎหมายได้บัญญัติถึงผู้ว่าจ้างเป็นผู้ผิด
บุคคลที่รับผิดในการกระทำของบุคคลอื่นมิได้กระทำละเมิดด้วยตนเอง ถ้าได้กระทำละเมิดด้วยเเล้ว ก็มิไช่เรื่อความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น เเต่เป็นความรับผิดของบุคคลในการกระทำของตนเอง
2.ตัวบทมาตรา 428 ใช้คำว่า ความเสียหาย หาได้ใช้คำว่า กระทำละเมิด หรือละเมิด โดยที่ความเสียหายมิได้เกิดจากการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อของผู้รับจ้างก็ได้ ผู้รับจ้างจึงไม่ต้องรับผิดทางละเมิด เเต่ผู้ว่าจ้างก็ยังต้องรับผิดเพราะได้มีส่วนผิด ความผิดของผู้ว่าจ้างทำของมิใช่ความผิดในการกระทำของบุคคลอื่น
3.โดยเหตุที่ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของมิใช่ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น ในเมื่อผู้ว่าจ้างได้ชดใช้ค่าสินไหมทดเเทนให้เเก่บุคคลภายนอกผู็ได้รับความเสียหายไปเเล้ว จึงไม่มีบทบัญญัติให้ผู้ว่าจ้างไล่เบี้ยเรียกให้ชดใช้เอาจากผู้รับจ้าง
12.2.2 หลักความผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
มาตรา428 ผู้ว่าจ้างทำของไม่ต้องรับผิดเพื่อความเสียหายอันผู้รับจ้างได้ก่อให้เกิดขึ้นเเก่บุคคลภายนอกในระหว่างทำการงานที่ว่าจ้าง เว้นเเต่ผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำหรือในคำสั่งที่ตนให้ไว้หรือในการเลือกหาผู้รับจ้าง
ผู้ว่าจ้างทำของไม่ต้องรับผิดในความเสียหายที่ผู้รับจ้างก่อขึ้นเเก่บุคคลภายนอกในระหว่างทำการงานที่ว่าจ้าง เพราะเป็นผลมาจากการกระทำของผู้รับจ้าง ถ้าเป็นกรณีที่ผู้รับจ้างกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อต่อบุคคลภายนอกเเล้วก็เป็นเรื่องที่ผู้รับจ้างเองทำผิดหน้าที่ต่อบุคคลภายนอกนั้น ไม่ใช่การกระทำของผู้ว่าจ้าง
2.ความผิดในคำสั่งที่่ตนให้ไว้
เป็นเพียงคำเเนะนำเท่านั้น
3.ความผิดในการเลือกหาผู้รับจ้าง
คือการจ้าง จ้างคนที่ตนรู้ว่าไม่ใช่ผู้ที่มีความสามารถหรือระมัดระวังอันเเก่สภาพของการงานที่จ้างให้ทำจึงเป็นผลให้เกิดความเสียหายเเก่บุคคลอื่นโดยละเมิด
1.ความผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำ
เป็นเรื่องสั่งให้ทำตามสัญญาจ้างที่มีต่อกัน เช่น จ้างให้ทำถนนเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นเพื่อผ่านไปถึงที่ของตน อันเป็นละเมิด
ตอนที่ 12.3 ความรับของมารดาบิดาหรือผู้อนุบาลในการกระทำละเมิดของผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริต เเละความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้างหรือบุคลอื่นในการกระทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
12.3.2 ความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
บุคคลต้องรับผิด มาตรา 430
บัญญัติว่า ครูบาอาจารย์ นายจ้างหรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูเเลบุคคลผู้ไร้ความสามารถอยู่เป็นนิจก็ดี ชั่วครั้งชั่วคราวก็ดี จำต้องรับผิดร่วมกับผู้ไร้ความสามารถในการละเมิดซึ่งเขาได้กระทำลงในระหว่างที่อยู่ในความดูเเลของตน ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้นๆมิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร
กำหนดความผิดของผู้ที่มีหน้าที่ดูเเลผู้ไร้ความสามารถในผลเเห่งละเมิดที่ผู้ไร้ความสามารถได้ทำขึ้นตามมาตร429ความผิดอยู่ที่การบกพร่องในหน้าที่ดูเเลผู้ไร้ความสามารถ เเต่ต่างกันที่ตัวผู้ที่มีหน้าดูเเลเพราะบุคคลที่เข้ารับหน้าที่ดูเเลตามมาตรานี้ได้เกิดขึ้นโดยข้อเท็จจริง
ผู้ที่ต้องรับผิดร่วมกับบุคคลผู้ไร้ความสามารถตามมาตรานี้คือ ครูบาอาจารย์ นายจ้างหรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูเเลบุคคลดังกล่าว หากไม่รับดูเเลก็เป็นกรณีที่ไม่ต้องด้วยมาตรานี้ จะดูเเลเป็นนิจหรือชั่วคราวก็ต้องรับผิดเช่นเดียวกัน เเต่ไม่หมายถึงผู้ดูเเลเเทนหรือผู้ช่วยเหลือในการดูเเล
ความระมัดระวังตามสมควรเเก่หน้าที่ดูเเล
ความรับผิดตามมาตรา 430ต่างกับความผิดตามมาตรา429 ที่ว่าตามมาตรา429บัญญัติให้บิดามารดาหรือผู้อนุบาลมีหน้าที่นำสืบว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรจึงพ้นจากความรับผิด ถ้าไม่สืบหรือนำสืบยังไม่ได้ก็ไม่พ้นจากความรับผิด เเต่มาตรา430เป็นหน้าที่ของผู้เสียหายนำสืบให้ได้ความว่าผู้มีหน้าที่ดูเเลมิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรเเก่หน้าที่ที่ต้องดูเเล ถ้าไม่นำสืบหรือนำสืบให้ฟังไม่ได้ บุคคลที่รับดูเเลบุคคลผู้ไร้ความสามารถก็ไม่ต้องรับผิด
สิทธิไล่เบี้ยของครูบาอาจารย์หรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูเเลบุคคลผู้ไร้ความสามารถ
เมื่อครูบาอาจารย์หรือบุคคลซึ่งรับดูเเลบุคคลผู้ไร้ความสามารถได้ใช้ค่าสินไหมทดเเทนให้เเก่บุคคลภายนอกไปเเล้ว ก็ชอบที่จะได้ชดใช้จากบุคคลผู้ไร้ความสามารถเเละไล่เบี้ยเอาได้จนครบจำนวนที่ได้ชดใช้(มาตรา431เเละมาตรา426)เช่นเดียวกับกรณีตามมาตรา429
12.3.1 ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการทำละเมิดของคนไร้ความสามารถ
มาตรา429 บทบัญญัติ บุคลคลใดเเม้ไร้ความสามารถเพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิดในผลที่ตนทำละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาลของบุคคลเช่นว่านี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วยเว้นเเต่จะพิสูจน์ไดว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรเเก่หน้าที่ดูเเลซึ่งทำอยู่นั้น
เมื่อบุคคลดังกล่าวไม่ต้องรับผิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาลก็ไม่ต้องรับผิด ผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตจะมีความรับผิดฐานละเมิดได้ก็ย่อมเป็นไปตามมาตรา420 ต้องมีการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ จะต้องมีความเคลื่อนไหวในอิริยาบถโดยรู้สำนึกจะต้องรู้สำนึกถึงผลเสียที่เกิดจากการกระทำของตน หากไม่รู้สภาพการกระทำของตน ย่อมจะถือว่าจงใจหรือประมาทเลินเล่อไม่ได้
ผู้ที่จะต้องรับผิดในการกระทำละเมิดของบุคลผู้ไร้ความสามารถ ได้เเก่ บิดามารดาหรือผู้อนุบาล สำหรับบิดามารดานั้นหมายถึง เฉพาะผู้มีหน้าที่ดูเเลผู้เยาว์ตามความในตอนท้ายของมาตรา 429
-บิดามารดาหรือคนสองคนเป็นผู้ดูเเลผู็เยาว์อำนาจการปกครองตามมาตรา1566เเละมาตรา1567ซึ่งเป็นหน้าที่ควบคุมดูเเลผู้เยาว์
-ผู้รับบุตรบุญธรรมโดยชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา1598/28ส่วนผู้ปกครองตามมาตรา1585อาจต้องรับผิดตามมาตรา430 ผู้อนุบาลตามมาตรา429หมายถึงผู้อนุบาลของบุคคลวิกลจริตที่ศาลยังไม่ได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถด้วย
ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลตามมาตรา429 ความบกพร่องในหน้าที่ดูเเลผู้ไร้ความสามารถเเละเหตุที่เกิดขึ้นในขณะที่ผู้ไร้ความสามารถอยู่ในระหว่างการดูเเลของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลต้องรับผิด ถ้าหากมิใช่เหตุละเมิดที่เกิดขึ้นในระหว่างที่อยู่ในความดูเเลก็ไม่ต้องรับผิด
ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลตามมาตรา429เป็นความรับผิดผู้ไร้ความสามารถไปทำความเสียหายอันเป็นละเมิดต่อบุคคลภายนอกตามมาตรา420ถ้าหากไม่เป็นการละเมิดผู้ไร้ความสามารถก็ไม่ต้องรับผิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาลก็ไม่ต้องร่วมรับผิดตามมาตรา429 เเต่บิดามารดาหรืออนุบาลที่มีหน้าที่ดูเเลนั้นอาจต้องรับผิดฐานละเมิดเป็นส่วนตัวโดยการกระทำผิดตามมาตรา420เพราะการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อในการควบคุมดูเเลเป็นเหตุให้ผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตนั้นไปทำความเสียหายเเก่บุคคลอื่นอีกด้วยก็ได้
สิทธิไล่เบี้ยของบิดามารดาหรือผู้อนุบาล เมื่อบิดามารดาหรือผู้อนุบาลได้ใช้ค่าสินไหมทดเเทนให้เเก่บุคคลภายนอกไปเเล้วก็ชอบที่จะได้ใช้จากผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตเเละไล่เบี้ยเอาได้จนครบจำนวนที่ได้ชดใช้(ตามมาตรา431เเละมาตรา426)ไม่ใช่เรียกได้ตามส่วนเท่าๆกันอย่างในระหว่างลูกหนี้ร่วมกันตามมาตรา296
23.นางสาว ชนาพร ศัตรูพ่าย 64012310034