Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน้าที่ในการชำระหนี้้, หนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระ หนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระหนี้นี…
หน้าที่ในการชำระหนี้้
-
ผลการผิดนัดของลูกหนี้
เมื่อหนี้ถึงกำหนดชำระแม้ลูกหนี้มีหน้าที่ชำระหนี้ตามมาตราสองร้อยสาม และมาตรา 204 แล้วหากลูกหนี้ไม่อาจอ้างเหตุยกเว้นความรับผิดตามมาตรา 205ใดหรือเป็นกรณีละเมิดลูกหนี้ก็ต้องผิดนัดตามมาตรา 206 เมื่อลูกหนี้ผิดนัดแล้วก็มีผลตามมาจากการผิดนัดชำระหนี้ นอกจากหน้าที่ที่ต้องชำระหนี้ที่มีอยู่เดิม โดยผลของการผิดนัดที่สำคัญ
-
-
-
กำหนดเวลาชำระหนี้
ซึ่งมาตรา 206 ให้ผิดนัดมาแต่เวลาที่ทำละเมิดก็แสดงกฎหมายกำหนดต้องชดใช้สินไหมทดแทนทันทีที่ทำละเมิดก็ถือว่าเป็นหนี้ที่กำหนดชัดแจ้งหรืออาจเป็นกำหนดเวลาชำระหนี้โดยปริยาย
กำหนดเวลาชำระหนี้กำหนุดเวลาชำระหนี้เป็นสิ่งสำคัญในการชำระหนี้ของลูกหนี้ เพราะหากถูกหนี้ไม่รู้กำหนดเวลาชำระหนี้ของตนแล้ว ก็ไม่อาจชำระหนี้ให้ต้องตามความประสงค์อันแท้จริง
ของมูลหนี้ได้
หนี้ที่มิได้กำหนดเวลาชำระหนี้ บางกรณีหนี้หลายอย่างก็อาจไม่ได้กำหนดเวลาไว้ แต่หนี้ที่มิได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้นี้ มิได้หมายความว่าลูกหนี้จะไม่ต้องชำระ กฎหมายได้กำหนดหลักเกณฑ์ไว้ในมาตรา 203 วรรรแรก ว่า"ถ้าเวลาอันจะพึ่งชำระหนี้นั้นมิได้กำหนดลงไว้ หรือจะอนุมานจากพฤติการณ์ทั้งปวงก็ไม่ได้ไซร้ ท่านว่าเข้าหนี้ย่อมจะเรียกให้ชำระหนี้ใด้โดยพลัน และฝ่ายลูกหนี้ก็ย่อมจะชำระหนี้ขอตนได้โดยพลันดุจกัน
หนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระ หนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระหนี้นี้ อาจเป็นหนี้ที่กำหนดเวลาชำระไว้โดยชัดแจ้ง เช่น กำหนดตามวันแห่งปฏิทิน หรือกำหนคตามข้อเท็จจริงเช่น ยืมเสื้อรุยเพื่อไปรับปริญญาจะส่งคืนเมื่อรับปริญญาเสร็จ ก็ถือเป็นการกำหนดโดยชัดแจ้งคือมีการตกลงกันระหว่างคู่กรณีที่ก่อหนี้ขึ้นก็ได้ หรืออาจจะกำหนดชัดแจ้งโดยบหบัญญัติของกฎหมาย เช่น หนี้จะเมิด
กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ไม่เป็นที่สงสัย กำหนดเวลาชำระหนี้ที่ลูกหนี้และเจ้าหนี้ตกลงกำหนดกันไว้นั้นเมื่อไม่เป็นที่สงสัยก็ยังอาจแบ่งออกได้เป็น ๒ อย่าง ซึ่งมีผลบังคับในทางกฎหมายแดกต่างกันคือ
กำหนดเวลาชำระหนี้มิใช่ตามวันแห่งปฏิทิน การกำหนดเวลาชำระหนี้แบนี้นั้น กฎหมายได้กล่าวถึงไว้ในมาตรา 204วรรดแรก ว่า "ถ้าหนี้ถึงกำหนดชำระแล้วและภายหลังแต่นั้นเจ้าหนี้ได้ให้คำเตือนลูกหนี้แล้ว ลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้ไซรั ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดเพราะเขาเดือนแล้ว" เมื่อเทียบกับมาตรา 204วรรคสอง ที่ให้คำว่าถ้าได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ตามวันแห่งปฏิทิน" จึงต้องแปลความ "กำหนดเวลาชำระหนี้
มาตรา 204 วรรคแรกว่าเป็นกำหนดเวลาที่มิใช่ตามวรรคสอง นั่นก็คือต้องแปลว่าเป็นกำหนดเวลาชำระหนี้ที่มิใช่ตามวันแห่งปฏิทินนั่นเอง เช่น ยืมเงินไปและกำหนดว่าจะใช้คืนเมื่อขายข้าวได้แล้ว หรือยืมเรือไปใช้กำหนดจะส่งคืนเมื่อสิ้นฤดูน้ำ
กำหนดเวลาชำระหนี้ตามวันแห่งปฏิทิน กรณีนี้เป็นการกำหนดเวลาชำระหนี้โดยแจ้งชัดตามวันแห่งปฏิทิน ดามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 204 วรรคสอง ว่า"ถ้าได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ตามวันแห่งปฏิทิน
-
2.การผิดนัดไม่ชำระหนี้
-
[2.2 ลูกหนี้ผิดนัดโดยเจ้าหนี้ไม่ต้องเตือน] ลูกหนี้จะผิดนัดก็ต่อเมื่อเจ้าหนี้ได้ตักเตือนชำระหนี้แล้ว ลูกหนี้ผิดนัดโดยเจ้าหนี้ไม่ต้องตักเตือน มี 2 ประเภท
2.2.1 หนี้ที่มีกำผหนดชำระวันเวลาปฏิทิน มาตรา 204 วรรคสองถ้าได้กาหนดเวลาชำระหนี้ไว้ตามวันแห่งปฏิทิน และ ลูกหนี้มิได้ชำระหนี้ตามกำหนดไซร้ ท่านว่าลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดโดยมิพักต้องเตือนเลย วิธีเดียวกันนี้ท่าน ให้ใช้บังคับแก่กรณีที่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนการชำระหนี้ ซึ่งได้กำหนดเวลาลงไว้อาจคำนวณนับได้ โดยปฏิทินนับแต่วันที่ได้บอกกล่าว”
2.2.2 หนี้ละเมิด หนี้ละเมิดนั้นเกิดขึ้นจากการล่วงสิทธิของผู้อื่น มาตรา 206 ในกรณีหนี้อันเกิดแต่มูลละเมิด ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดมาแต่เวลาที่ทำละเมิด
-
หนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระ หนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระหนี้นี้ อาจเป็นหนี้ที่กำหนดเวลาชำระไว้โดยชัดแจ้ง เช่น กำหนดตามวันแห่งปฏิทิน หรือกำหนคตามข้อเท็จจริงเช่น ยืมเสื้อรุยเพื่อไปรับปริญญาจะส่งคืนเมื่อรับปริญญาเสร็จ ก็ถือเป็นการกำหนดโดยชัดแจ้งคือมีการตกลงกันระหว่างคู่กรณีที่ก่อหนี้ขึ้นก็ได้ หรืออาจจะกำหนดชัดแจ้งโดยบหบัญญัติของกฎหมาย เช่น หนี้จะเมิด