Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรับผิดกระทำละเมิดในการกระทำของผู้อื่น - Coggle Diagram
ความรับผิดกระทำละเมิดในการกระทำของผู้อื่น
ความรับผิดของนายจ้างในผลแห่งการละเมิดของลูกจ้างในทางการที่จ้าง
ความรับผิดของนายจ้าง
มาตรา 425 บัญญัติว่า นายจ้างต้องร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิด ซึ่งลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้างนั้น
อุทาหรณ์ . ฎ.1425 / 2539
ตัวบทจะใช้ความหมายว่า บุคคลคนหนึ่งเรียกว่าลูกจ้าง บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า นายจ้าง แต่ก็เป็นการเรียกกันตามกฏหมายเป็นถ้อยคำในบทบัญญัติของกฎหมายมิได้หมายความว่าในการทำสัญญาจ้างแรงงานนั้น ในทางปฏิบัติจะใช้ถ้อยคำเรียกชื่อสัญญากันว่าอย่างไรไม่สำคัญเช่น สัญญาจ้างเก็บของ สัญญาจ้างวาดรูป เป็นต้น
ในสัญญาจ้างแรงงาน ความเกี่ยวพันของนายจ้างและลูกจ้างมีอยู่ระหว่างบุคคลซึ่งบุคคลหนึ่งมีคำสั่งและควบคุมงานซึ่งทำโดยบุคคลอีกคนนึง นายจ้างมีอำนาจสั่งให้ลูกจ้างทำงานตามหน้าที่ที่ตนต้องการอีกด้วย
ข้อข้อสังเกตข้าราชการใน กระทรวง ทบวง กรม มิได้เป็นนายจ้างลูกจ้างซึ่งกันและกัน
ลูกจ้างทำละเมิดในทางการที่จ้าง
การพิจารณาว่าการกระทำละเมิดของลูกจ้าง ต้องพิเคราะห์ดูว่าได้จ้างกันให้ทำงานชนิดใด ประเภทใด ลักษณะงานที่จ้างเป็นอย่างไรเสียก่อนแล้วจึงพิจารณาการต่อว่าละเมิดนั้นได้เกิดขึ้นในทางการที่จ้างหรือไม่
อุทาหรณ์ .แดงเป็น แดงเป็นลูกจ้างของดำที่มีหน้าที่ซ่อมเครื่องซักผ้าที่มีคนว่าจ้างดำซ่อม โดยประมาทเลินเล่อ ขณะที่การซ่อมตามหน้าที่ของแดงทำเครื่องซักผ้าของลูกค้าดำเสียหายดำต้องรับผิดต่อลูกค้าด้วย
ลูกจ้างได้กระทำการอันเป็นความเสียหายระหว่างที่ตนกำลังปฏิบัติตามหน้าที่ การที่ลูกจ้างได้กระทำไปนั้นต้องเป็นการปฏิบัติให้ลุล่วงไป
และเหตุที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากปฏิบัติงานนั้นมิใช่เป็นแต่เพียงเหตุที่เกิดขึ้นในระหว่างเวลาที่รู้จักกระทำกำลังปฎิบัติงานที่จ้างอยู่นั้น
ลูกจ้างต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของนายจ้าง
วิธีการปฏิบัติ ในการกระทำกิจการงานในการแกทำกิจการงานใดนั้นย่อมมีวิธีการที่จะปฏิบัติงานให้รู้เรื่องวางเพื่อประโยชน์ของนายจ้าง
หากนายจ้างไม่ได้แสดงวิธีการกระทำให้ละเอียดเพื่อให้ดูตามปฏิบัติตามลูกจ้างอาจใช้วิธีตามที่เห็นสมควรเพื่อให้กิจการนั้นลุล่วงไปและส่งประโยชน์ของนายจ้าง
นายจ้างยังต้องรับผิดในวิธีการที่จะทำการบางอย่างที่ตนได้สร้างหรือมอบอำนาจให้ทำอีกด้วย แม้จะเป็นการกระทำที่ตนไม่ได้ให้อำนาจกับการกระทำที่ตนให้อำนาจซึ่งอาจเป็นวิธีการใดก็ได้แม้จะเป็นวิธีที่ไม่สมควร
อุทาหรณ์. ฎ.1241 /2512
ถ้าไม่อยู่ในเวลาที่จ้างไม่เข้า มาตรา 425
สิทธิไล่เบี้ย
มาตรา 426 บัญญัติว่า นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอันลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้างนั้น
การละเมิดนั้นเป็นการกระทำของลูกจ้างต่อบุคคลภายนอกโดยลำพัง ที่นายจ้างต้องรับผิดร่วมด้วยกับลูกจ้างก็เป็นความรับผิดต่อผู้เสียหาย
เมื่อนายจ้างใช้ต่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียหายไปแล้ว ผู้เสียหายไล่เบี้ยเรียกให้ลูกจ้างชดใช้ให้แก่ตนได้
อุทาหรณ์ ฎ.648/2522
ตัวการรับผิดในการกระทำละเมิดของตัวแทน
ลักษณะตัวการตัวแทน
ตัวแทนคืออะไรนั้น ตาม ปพพ. มาตรา 797 บัญญัติว่า อันว่าสัญญาตัวแทนนั้น คือสัญญาซึ่งให้บุคคลคนหนึ่งเรียกว่าตัวแทนมีอานาจทาการแทน บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าตัวการ และตกลงจะทาการดั่งนั้น
ตัวแทนรับมอบอำนาจทั่วไป
ตัวแทนรับมอบอำนาจเฉพาะการ
ตัวแทนเป็นสัญญาอย่างหนึ่งและเป็นเอกเทศเช่นเดียวกับจ้างแรงงาน
จึงต้องพิเคราะห์ดูก่อนว่ากรณีใดที่บุคคลเป็นตัวการตัวแทนระหว่างกันเพิ่งสังเกตว่าถ้ามิใช่เป็นการตั้งตัวแทน
เช่นเป็นการใช้หรือวานคนรู้จักดังนี้มิใช่ตัวแทนเพราะมิใช่เป็นกิจการที่ผู้รับใช้หรือรับวานทำแทนตัวการต่อบุคคลที่สาม
อุทาหรณ์ ฎ. 1049/2505
ความรับผิดของตัวการ
ตัวอย่าง.นกตกลงซื้อบ้านจากเจี๊ยบ แดงเป็นตัวแทนเจี๊ยบและกรรมสิทธิ์ในบ้านได้โอนมายังนกทันที แดงในฐานะตัวแทนของเจี๊ยบได้ ได้นำโฉนดบ้านส่งมอบแก่นกและเพื่อรับเงินราคาค่าบ้านจากนกและแดง ทำบ้านพังโดยประมาทเลินเล่อ บ้านจึงเสียหายดังนี้ เป็นการที่แดงกระทำละเมิดต่อนกในฐานที่แดงเป็นตัวแทนของเจี๊ยบในการส่งมอบบ้านแก่นกและเจี๊ยบต้องรับผิดต่อนกร่วมด้วย
สิทธิไล่เบี้ยของตัวการ
ฎ.648/2522
มาตรา 427 บัญญัติให้นำมาตรา 426 มาใช้บังคับแกตัวการด้วยอนุโลม
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของไม่เป็นความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของเป็นความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด
เหตุที่เข้าใจกันดังนี้ก็เป็นเพราะการบัญญัติกฎหมายโดยเรียงมาตรา425-427 ซึ่งเป็นบทบัญญัติว่าด้วยความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่นไว้ก่อนมาตรา 429-431 เมื่อมาตรา 428 บัญญัติอยู่กลางๆประกอบกับบทมาตรา 428 กล่าวถึงผู้ว่าจ้างทำของและความเสียหายที่ผู้รับจ้างได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอก
ซึ่งถ้าอ่านโดยไม่พิเคราะห์ดูให้ถี่ถ้วนทำให้เข้าใจไปว่าความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของตามมาตรา428 เป็นความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่นซึ่งเข้าใจดังนี้หาถูกต้องไม่
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของนั้นจะเป็นความรับผิดในฐานะที่ผู้ว่าจ้างเองเป็นผู้กระทำละเมิด มิใช่รับผิดร่วมกับผู้รับจ้างและแม้บางกรณีจะถือว่าผู้ว่าจ้างเองกระทำละเมิดโดยลำพังอีกด้วยก็ตาม
มีเหตผลที่แสดงให้เห็นว่าความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของไม่เป็นความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่นดังบทบัญญัติมาตรา 428 คือ
กฎหมายได้บัญญัติถึงผู้ว่าจ้างเป็นผู้ผิด ได้กล่าวมาแล้วว่าบุคคลที่รับผิดในการกระทำของบุคคลอื่นนั้นมิได้กระทำละเมิดด้วยตนเอง ก็เมื่อตัวแปลได้ความว่าผู้ว่าจ้างจะต้องรับผิดถ้าหากเป็นผู้ผิดแล้วฉะนั้นความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของตามมาตรา 428 จึงไม่ใช่เรื่องความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น
ตัวบทมาตรา 428 ใช้คำว่า ความเสียหาย หาได้ใช้คำว่า การทำละเมิด หรือ ละเมิดอย่างที่บัญญัติไว้ในมาตรา 425 429 และ 430 ไม่ โดยที่ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้เกิดจากการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อของผู้รับจ้างก็ได้ผู้รับจ้างจึงไม่ต้องรับผิดทางละเมิด แต่ผู้ว่าจ้างยังจะต้องรับผิดเพราะมีส่วนผิด
3.ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของมิใช่ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น ในเมื่อผู้ว่าจ้างได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกได้รับความเสียหายไปแล้ว จึงไม่มีบทบัญญัติให้ผู้ว่าจ้างไล่เบี้ยเรียกให้ชดใช้เอาจากผู้รับจ้าง
หลักความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
มีหลักทั่วไปว่าความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของมิใช่ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น ก็เพราะว่าผู้ว่าจ้างไม่มีสิทธิควบคุมวิธีการทำงานจึงถือเป็นงานของผู้รับจ้างเอง
ผู้ว่าจ้างไม่มีสิทธิที่จะออกคำสั่งบังคับบัญชาผู้รับจ้างดังนายจ้างกับลูกจ้างในสัญญาจ้างแรงงาน
มาตรา 428 บัญญัติว่า ผู้ว่าจ้างทำของไม่ต้องรับผิดเพื่อความเสียหายอันผู้รับจ้างได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอกในระหว่างทำการงานที่ว่าจ้าง เว้นแต่ผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำ หรือในคำสั่งที่ตนให้ไว้ หรือในการเลือกหาผู้รับจ้าง
ซึ่งถ้าเป็นกรณีที่ผู้รับจ้างกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อต่อบุคคลภายนอกแล้วก็เป็นเรื่องที่ผู้รับจ้างเองทำผิดหน้าที่ต่อบุคคลภายนอกนั้นไม่ใช่การกระทำของผู้ว่าจ้าง
อุทาหรณ์ ฎ .1176/2510
ฎ. 1982/2522
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างตามที่กฎหมายกำหนดไว้มี 3 กรณี
ความผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำ
ความผิดในส่วนที่สั่งให้ทำเป็นเรื่องสั่งให้ทำตามสัญญาจ้างที่มีต่อกัน เช่น จ้างให้ทำความสะอาดกำแพงบ้านแต่น้ำกระเด็นเข้าไปในบ้านผู้อื่นอันเป็นละเมิด
อุทาหรณ์ . ฎ.940/2501
2.ความผิดในคำสั่งที่ตนให้ไว้
ความผิดในคำสั่งที่ตนให้ไว้ คำสั่งที่ว่านี้ไม่เหมือนกับคำสั่งเมื่อกล่าวถึงในส่วนการงานที่สั่งให้ทำตอนก่อนเป็นเพียงคำแนะนำเท่านั้น
เช่น แนะนำให้ทำทางบ้านเข้าผ่านที่ดินของผู้อื่น
3.ความผิดในการเลือกหาผู้รับจ้าง
ความผิดในทางเลือกหาผู้รับจ้าง ที่ว่าเลือกหาผู้รับจ้าง คือ การจ้างนั่นเอง คือ จ้างคนที่ตนรู้ว่าไม่ใช่ผู้ที่มีความสามารถหรือระมัดระวังอันควรแก่สภาพของการทำงานที่จ้างให้ทำ
เช่น จ้างทำถนน ไปจ้างผู้ที่ถมถนนไม่แน่นหนาพอจึงเป็นผลให้ถนนพังทรุดพังลงทำให้รถของผู้อื่นเสียหาย
อุทาหรณ์ ฎ.1289/2522
การกระทำละเมิดร่วมกันย่อมบังคับกันตามบทบัญญัติว่าด้วยเรื่องลูกหนี้ร่วมกัน คือต้องร่วมกันรับผิดต่อผู้เสียหายจนกว่าจะได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนเสร็จสิ้นแล้ว
ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการกระทำละเมิดของผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตและความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้างหรือบุคคลอื่นในการกระทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการกระทำละเมิดของคนไร้ความสามารถ
บุคคลต้องรับผิด
มาตรา 430 บัญญัติ ครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือ บุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถอยู่เป็นนิตย์ก็ดี ชั่วครั้งคราวก็ดี จำต้องรับผิดร่วมกับ ผู้ไร้ความสามารถในการละเมิดซึ่งเขาได้กระทำลงในระหว่างที่อยู่ในความดูแล ของตน ถ้าหาก พิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้นๆ มิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร
ผู้ที่ต้องรับผิดร่วมกับบุคคลผู้ไร้ความสามารถตามมาตรานี้ คือครูบาอาจารย์นายจ้างหรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลดังกล่าวหากไม่ได้รับดูแลเป็นกรณีที่ไม่ต้องด้วยมาตรานี้จะดูแลอยู่เป็นนิจหรือชั่วคราวก็ต้องรับผิดเช่นเดียวกัน
เช่นเด็กอายุ12 ปี มาพักอยู่กับลุงและป้า เป็นผู้ดูแล
มาตรานี้กำหนดความรับผิดของผู้มีหน้าที่ดูแลผู้ไร้ความสามารถในผลแห่งการละเมิดที่ผู้ไร้ความสามารถได้ทำขึ้นเช่นเดียวกับมาตรา429
ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแล
อุทาหรณ์ ฎ.356/2511
สิทธิไล่เบี้ยของครูบาอาจารย์หรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถ
มาตรา 431 และ มาตรา 426
อาจารย์หรือบุคคลซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บุคคลภายนอกไปแล้ว ก็ชอบที่จะชดใช้จากบุคคลผู้ไร้ความสามารถและไล่เบี้ยเอาได้จนครบจำนวนที่ชดใช้เช่นเดียวกับกรณีตามมาตรา 429
อุทาหรณ์ ฎ. 1315/2520
ความรับผิดของครูบาอาจารย์นายจ้างหรือบุคคลอื่นในการทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
มาตรา 429 บัญญัติว่า บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถเพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิดในผลที่ตนทำละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาลของบุคคลเช่นว่านี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น
ที่ว่ามานี้หมายความว่าผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตจะมีความรับผิดฐานละเมิดได้ย่อมเป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 420
กล่าวคือจะต้องมีการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อที่จะถือว่าเป็นการกระทำจะต้องมีความเคลื่อนไหวในอิริยาบถโดยรู้สำนึกในความเคลื่อนไหวนั้นแหล่ะที่จะถือว่าเป็นการจงใจ
ถ้าเป็นเด็กไร้เดียงสาหรือบุคคลหรือกลจริตไม่รู้สำนึกในการกระทำของตนหรือบุคคลวิกลจริตที่ไม่รู้สภาพการกระทำของตนย่อมจะถือว่าจงใจหรือประมาทเลินเล่อไม่ได้ แต่ถ้ารู้ได้ว่าได้ทำอะไรลงไป เพียงแต่ไม่รู้สึกผิดชอบหรืออยากยังไม่ได้อาจเป็นการจงใจหรือประมาทเลินเล่อได้
เช่น เด็ก12 ขวบ ชกต่อรุ่นพี่ ย่อมถือว่าเด็กคนนั้นกระทำละเมิดได้แล้ว
อุทาหรณ์ ฎ.815/2498
ฎ.847/2498
สิทธิไล่เบี้ยของบิดามารดาหรือผู้อนุบาล
มาตรา 421 และ มาตรา 426
เมื่อบิดามารดาหรือผู้อนุบาลได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้ว ก็ชอบที่จะชดใช้จากผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตและไล่เบี้ยเอาได้จนครบจำนวนที่ได้ชดใช้